ความประทับใจของน้องโรส เด็กตาบอดคนหนึ่ง
ชีวิตที่น่าประทับใจ และ วิธีจัดการกับความเครียด ของหนู
ชีวิตของคนเราทุกคนมีทั้งสุขและทุกข์ ถ้าหากเรามองว่ามันสุข ก็สุข แต่ถ้าเรามองว่ามันทุกข์ ก็ทุกข์ มันอยู่ที่ใจของเราว่าจะมองแบบไหนเท่านั้นเอง
นี่คือคำที่พ่อและแม่ของหนูสอนหนูให้คิด หนูจึงมีชีวิตที่มีความสุข
ชีวิตที่หนูประทับใจ คือ ตั้งแต่เกิดมานั้น หนูได้รู้ว่าหนูตาพิการ ครั้งแรกหนูก็รู้สึก รับไม่ได้ บางครั้งหนูก็รู้สึกท้อถอย คิดว่า อยากตาดีบ้างจังเลย จะได้ไม่ต้องเป็นภาระของเพื่อน จะได้ทำอะไรได้เหมือนคนปกติทั่วไป
แต่เมื่อหนูมานึกอีกครั้ง หนูก็นึกได้ว่า หนูยังโชคดีที่ตาบอดแค่ข้างเดียวเท่านั้น แต่อีกข้างยังพอมองเห็นรำไรอยู่บ้าง ซึ่งก็ดี เพราะหนูได้เห็นโลกที่เปี่ยมไปด้วยความสวยงามและน่าประทับใจ เช่น
ยามเมื่อพ่อขับรถพาหนูไปส่งที่หอพัก หนูได้เห็นธรรมชาติสองข้างทาง คือ ได้เห็นต้นไม้ปลูกเรียงรายบนถนนลพบุรีราเมศ ซึ่งเป็นถนนที่หนูชอบมาก ซึ่งหนูก็อธิบายไม่ถูกว่า เพราะเหตุใดหนูถึงชอบทัศนียภาพบนถนนสายนั้น
และเมื่อพ่อขับรถผ่านถนนเลียบทะเล ณ หาดชลาทัศน์ หนูก็ประทับใจถนนสายนั้นเช่นกัน เพราะ หนูได้มองเห็นเลาๆ ว่าเป็นทะเลที่สวยงาม และได้เห็นต้นสนที่เรียงรายอยู่ริมฝั่ง และได้เห็นก้อนเมฆที่ลอยฟ่องสีขาวนวลอยู่บนท้องฟ้าสีคราม( คิดเอานะคระ) แหม ยอดไปเลยค่ะ
สิ่งที่หนูประทับใจในชีวิตยังไม่หมดเท่านี้นะคะ ยังมีอีกเยอะเลยค่ะ เช่น
หนูได้อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นและเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน มีแต่คำว่า ให้อภัย ไม่เคยมีคำว่า เสียใจ ที่มีลูกตาพิการ แต่มีคำว่า ถึงแม้ลูกจะตาพิการแต่ก็ยังมีความสามารถ ครอบครัวของหนูจะมีการแบ่งปันความอบอุ่นซึ่งกันและกัน
ยามหลับ แม่จะเปิดเพลงคลาสสิคบ้าง เพลงช้าๆบ้าง ชวนให้เคลิ้ม และจะนอนกอดกันสี่คน พ่อ แม่ พี่ น้อง
อีกอย่าง คือ ตอนที่ปิดภาคเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 หนูมีความสุขที่ได้ไปเที่ยวที่จังหวัดตรังและกรุงเทพมหานคร เพราะ ครอบครัวของหนูได้นัดครอบครัวของเพื่อนพ่อไว้หลายครอบครัว
และหนูก็ได้พบกับเพื่อนชาวอเมริกัน 2 คนพี่น้อง ซึ่งพักโรงแรมเดียวกันตอนที่แม่ประชุม ณ โรงแรม พรินซ์พา เลส ที่ตลาดโบ๊เบ๊ริมคลองมหานาค
อีกอย่าง หนูได้นั่งเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำที่หนูประทับใจมาก เพราะมีทัศนียภาพที่สวยงาม
ตอนที่ไปเที่ยวที่จังหวัดตรัง หนูได้ไปล่องเรือลอดถ้ำที่อำเภอห้วยยอด และได้นั่งเรือทั้งวันกลางทะเลที่อำเภอกันตัง เพื่อชมเกาะต่าง ๆ และในตอนเย็น เราก็ขึ้นไปนั่งบนดาดฟ้าเรือ เพื่อชมพระอาทิตย์ตกทะเล และร้องเพลงอย่างสนุกสนานขณะเรือแล่น
อีกอย่าง ตอนที่หนูกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หนูประทับใจที่ได้นั่งรถไฟไปกับพ่อ เพื่อไปแข่งอ่านอักษรเบรลล์ที่ โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ หนูได้รับรางวัลชนะเลิศถึง 3 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง
ไปแข่งครั้งแรก ตอนป. 3 ไปกับพ่อทางรถไฟ นอนบนพื้นรถใต้ที่นั่ง ชั้น 3 พอรถวิ่งหนวกหูมาก ไปแข่งครั้งที่ 2 ตอนป. 5 ไปกันเองทั้งครอบครัว โดยพ่อเป็นคนขับรถ ไปแข่งครั้งที่ 3 ตอนป. 6 ไปเครื่องบินกับพ่อ ไปแข่งครั้งที่ 4 ตอนม. 1 ไปเครื่องบินกับพ่อ
นี่คือสิ่งที่หนูประทับใจมาก ๆ ๆ ๆ มากที่สุดในชีวิตของหนูตั้งแต่เกิดมา
ส่วน วิธีขจัดความเครียดของหนู ยามหนูเครียด เช่น เครียดเรื่องการเรียน เครียดเรื่องการอยู่หอพัก เป็นต้น หนูรู้สึกหดหู่ เศร้าหมอง อยากกลับบ้านเต็มที แต่ตอนนี้ หนูมองอีกแง่มุมหนึ่ง คือ หนูคิดว่า หอพักคือ บ้านที่สร้างระเบียบวินัย และความเป็นผู้ใหญ่ให้แก่เรา
โรงเรียน คือ บ้านที่ให้ความรู้ต่าง ๆ แก่เรา
ส่วนที่บ้าน แหลมสมิหลาแห่งนี้ คือ บ้านแห่งความรัก ความอบอุ่น และความอบอุ่น อ่อนโยน ผ่อนคลาย เป็นต้น
ก็อย่างที่หนูบอกล่ะค่ะ ว่า จะสุข หรือจะทุกข์ มันอยู่ที่ใจของเรา ถ้าเราคิดว่ามันสุข มันก็สุข แต่เราคิดว่ามันทุกข์ เราก็ทุกข์
หนูขอเล่าสิ่งที่หนูประทับใจและวิธีขจัดความเครียดไว้เพียงเท่านี้นะคะ หากท่านผู้ใดสนใจก็เข้ามาอ่านในบล็อกที่พ่อของหนูเขียนส่งไป แล้วโปรดตอบมาด้วยนะคะ หนู Rose welcome ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของหนูค่ะGood bye.
Create Date : 06 ธันวาคม 2549 |
|
10 comments |
Last Update : 6 ธันวาคม 2549 13:34:08 น. |
Counter : 1282 Pageviews. |
|
|
|
แต่สำหรับบล๊อกของคุณน้อง มันตื้นตันอ่ะครับ
จะเขียนบอกว่า เห็นใจก็ไม่กล้า จะชมว่าเก่ง ...อืมม น่าจะใช่
ขอชื่นชมความสามารถ ความตั้งใจทั้งหมดของคุณน้องนะครับ
จะยินดีเข้ามาอ่านอีกนะครับ จะเข้ามาเป็นเพื่อนที่ดี แม้จะไม่รู้จักกัน ขอให้คุณน้องมีสุขภาพแข็งแรง รักครอบครัว รักการเรียน มีน้ำใจ และมีความสุข
ขอแอดเฟรนบล๊อกของคุณน้องเอาไว้ครับ เพื่อจะได้หา บล๊อกของคุณน้องได้ง่ายๆ