“นาธาน” เผยสมเด็จพระสังฆราชประทานชื่อใหม่ให้ว่า “สุธัญ” พร้อมจวกนักข่าวที่ลงข่าวตนเจอกระสือนั่นแหละเป็นกระสือ



“นาธาน” เผยสมเด็จพระสังฆราชประทานชื่อใหม่ให้ว่า “สุธัญ” แปลว่าความเจริญรุ่งเรือง เจ้าตัวขอบคุณ “ตุ๊กกี้” ที่ช่วยให้ได้กลับเข้าวงการอีกครั้ง ส่วนคำถามที่ว่ามีรายได้แล้วกลัวคู่กรณีฟ้องให้ใช้หนี้หรือไม่? นาธานบอกไม่กลัวเพราะฟ้องไม่ได้ พูดหน้าตาเฉยถือว่าได้ชดใช้ “น้ามด” เพราะการที่ตนไม่วิ่งให้รถชนตาย แถมยังยอมทิ้งวงการไปเข้าคุกก็ถือว่าหายกันแล้ว แขวะน้ามดคงทำกรรมไว้เยอะ พร้อมจวกนักข่าวที่ลงข่าวตนเจอกระสือนั่นแหละเป็นกระสือ

ตั้งแต่พ้นโทษคดีฉ้อโกง “นางสิทธิพร โคตรอุดมพร” ออกจากคุกมา อดีตนักร้องผู้อื้อฉาว “นาธาน โอร์มาน” ก็ทำตัวให้มีกระแสอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งไปโชว์ลิปซิงค์เพลงของ เลดี้ กาก้า นักร้องผู้เป็นไอดอลของตัวเองในงานวันเกิดของ “ชิ อนุชา ลังประเสริฐ” ผู้จัดการคู่บุญ ล่าสุดนาธานก็ได้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ “ตุ๊กกี้ ตุ๊กกี้โชว์” ออกอากาศทางช่อง9 ซึ่งงานนี้เจ้าตัวก็จัดเต็มโชว์สเต็ปเซิ้งร้องเพลงหมอลำ พร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอีกครั้งถึงคดีความที่ผ่านมา รวมถึงอนาคตในวงการบันเทิงต่อจากนี้

“ถามว่าธานได้มีโอกาสไปขอโทษคู่กรณีบ้างหรือยัง คนที่เป็นคดีกันมันก็จบไปแล้ว อย่างน้ามดธานก็เฉยๆ เพราะธานรู้สึกว่าธานชดใช้ให้ไปแล้วกับการติดคุก ธานไม่ได้วิ่งให้รถชนรถคว่ำ ธานยอมทิ้งทุกอย่างที่ธานสร้างมาทั้งหมด 14 ปีในวงการบันเทิงเพื่อจะเข้าคุก ที่เหลือก็ให้เป็นไปตามกฏหมายเพราะระยะเวลาในการใช้เงินมัน 10 ปี ซึ่งเรื่องเงินธานก็จะคืนตามกฏหมาย”

“ธานรู้กฏหมายเยอะมาก ธานไม่ได้เรียน แต่รู้จากนักโทษที่เล่าให้ฟัง เราก็คิดว่าใครทำยังไงก็ได้อย่างนั้น เราก็ได้ชดใช้ในสิ่งที่เราทำแล้ว ธานก็ไม่ได้โทษใคร เราขาดสติหลงระเริงไป ตอนนี้ธานรู้สึกว่าวงการบันเทิงเริ่มเปิดประตูให้ธานแล้วขอบคุณสื่อทุกคนที่ตามข่าวธานมาตลอด ต่อจากนี้ไปธานจะไม่โกหกแล้วครับ จะพูดแต่ความจริง ก็อยากจะสอนน้องๆ ที่ริจะโกหกให้ดูนาธานก่อน”

“รายได้หลักๆ ของนาธานตอนนี้มีแม่มีพ่อ ตอนนี้ธานขอตังค์จากเขา แม่ก็จะให้ญาติๆ ของนาธานด้วย ก็ยังได้อยู่ ตอนนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก หรือมาออกรายการก็ได้บ้างเล็กๆ น้อยๆ หรือเป็นวิทยากรให้เรือนจำบ้างพันสองพัน แต่เราก็คืนกลับตรงนั้นไป จริงๆ เราเคยผ่านจุดที่ไม่มีเงินมาแล้ว เลยคิดว่าไม่มีเงินก็อยู่ได้อย่าคิดว่าอยู่ไม่ได้ แต่เพียงว่าคุณตั้งความสูงมากแค่ไหน”

“ถามว่ากลัวทางคู่กรณีฟ้องร้องไหมในเมื่อเรามีรายได้แล้ว ไม่กลัวเลยครับ ฟ้องไม่ได้แน่นอน ตามกฏหมายเขาต้องยินยอมตามสัญญาที่เขาเซ็นไว้เรียบร้อยตามระยะเวลา ถ้าเกิดใครมีคดีฉ้อโกงจะรู้ว่ามันยอมความได้ ทนายที่ไหนก็แล้วแต่ต้องรู้ว่ามีระยะเวลาการชดใช้ 10 ปี ถ้า 10 ปีไม่มีเงินใช้อีกก็ยึดทรัพย์ ถ้าไม่มีอีกก็ถือว่าล้มละลาย แต่ธานก็ไม่ได้ล้มละลายเพราะจะล้มละลายได้ต้องเกินล้าน แต่ธานแค่ 6 แสนกว่าบาท”

“ด้วยจิตสามัญสำนึกเองธานก็ต้องช่วยเขา เขาก็คงทำกรรมเยอะเหมือนกันไม่ได้ว่านะ กรรมใครกรรมมัน ตอนนี้ธานชดใช้แล้ว ธานก็ไม่อยากพูดถึงแล้ว ตอนนี้ธานยังมีของอยู่ที่บ้านของเขาอยู่นะ เยอะมาก ศาลก็กำลังออกหมายบังคับเอาออกมาด้วย มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับคดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดเขามีน้ำใจเขาก็ต้องเอามาให้ อยากจะเอามาให้ก็เอามา ถ้าไม่ให้ก็ไม่เป็นไร เอาไปเลยอยู่ได้ มีกางเกง 2 ตัวก็อยู่ได้”

“ตอนนี้ธานรู้สึกปลงมาก ธานติดคุกแล้วตกนรกแล้ว มีสิ่งเดียวที่ยังไม่ได้ทำคือเราจะตาย ต่ำที่สุดคือตายแล้ว วันนี้ธานเหมือนเกิดใหม่ ธานได้รับประทานชื่อจากสมเด็จพระสังฆราช ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นสุธัญ โอมานันท์ หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองความโชคดีและเราก็จะตั้งหน้าตั้งตาทำงาน”

“ถามว่าต่อจากนี้วางแผนตัวเองยังไง ธานจะบอกว่าธานวางแผนไว้ทั้งปีเลย เมื่อก่อนวางแผนทั้งปี ซึ่งมันได้ผลดีจากเมื่อก่อนไม่เคยคิด ได้แต่วางแผนรายวันแก้ไขเฉพาะหน้าหรือหวังน้ำบ่อหน้าตลอด แต่ละก้าวของธานจะมีสติมากขึ้น เราต้องช่วยเหลือสังคมให้มากขึ้น”

เผยตั้งใจกลับเข้าสู่งวงการบันเทิง โดยเอาดีด้านร้องเพลงหมอลำ ปัด “เอกชัย ศรีวิชัย” นักร้องลูกทุ่งขวัญใจชาวใต้ เป็นนายทุนให้ และขอสลัดคราบลูกครึ่งเนปาลบ้าๆ บอๆ ทิ้งเพราะที่จริงตนชอบแนวหมอลำ

“กลับมาครั้งนี้เป็นการประกาศเข้าวงการเต็มตัวหรือเปล่า ก็ใช่ครับ ขอบคุณพี่ตุ๊กกี้ที่แอบช่วยขอบคุณมากๆ เราเป็นแขกรับเชิญคนที่สอง คราวก่อนก็เป็นพิ้งกี้ ธานก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ธานรู้สึกผูกพันกับคนอีสานมาก พี่เขาก็เป็นคนอีสาน ธานเองก็จะพยายามทำอะไรก็ได้ให้คนอีสานได้รับรู้ คนอีสานเยอะมากมีทั้งโลก เราก็อยากจะชดเชย”

“พอได้มาออกรายการพี่เขา ก็คิดว่าตัวเองน่าจะได้เข้าวงการอีกแน่เลย ได้โชว์เพลงหมอลำอีก ความจริงเพลงหมอลำเราก็เคยซ้อมมา แต่ไม่รู้ว่าสำเนียงจะได้ไหม เลยเอาเพลงของพี่มนต์แคน แก่นคูน มาร้อง ชื่อเพลงขอเพียงเห็นหน้า ธานก็หวังว่าจะเข้าวงการอีกครั้ง แต่ไม่ได้หวังว่าจะให้สังคมต้อนรับหรือจะกรี๊ดๆ เราชดเชยในสิ่งที่หายไป ธานทำเพื่อให้กลุ่มคน แทนที่จะไปยุ่งยาเสพติด ธานอยากตั้งกลุ่มทำเพลง ใครชอบก็โหวตและทำอัลบั้ม”

“อย่างตอนนี้ธานเองก็ซุ่มทำเพลง ส่วนเพลงที่จะทำคิดว่าอยากทำเพลงหมอลำ อาจจะฟีเจอริ่งกับใครสักคนตอนนี้กำลังวางแผนแล้วกำลังทำอยู่ มีคนทำให้ครับ ถามว่าพี่เอกชัย ศรีวิชัยหรือเปล่า อุ๊ย ยังไม่ใช่ (หัวเราะ) ไม่ใช่พี่เอกแน่นอน เดี๋ยวค่อยบอกคิดว่าต้องชอบ หลุดๆ แนวลูกครึ่งเนปาล บ้าบอเถอะ เราอยากเป็นอย่างเราจริงๆ ส่วนเรื่องค่ายก็ยังบอกไม่ได้ครับ รอวันที่ธานทำพ็อกเก็ตบุ๊คเสร็จ”

“ส่วนหนังของพี่ชิ ที่เขาทำเรื่องเกี่ยวกับเรา เราก็เฮ้ย เขาทำหนังเกี่ยวกับเรา มันจะต้องอยู่กับเราเป็นล้านซีดี ตอนนี้พี่ชิก็ใกล้จะเริ่มทำ ธานก็ช่วยคัดนักแสดงว่าใครน่าจะเหมาะกับเรามากที่สุดที่จะมาเล่นหนังได้ ตอนนี้รายละเอียดต่างๆ แล้วตอนนี้ธานก็จะทำหนังสือเล่มแรก เป็นหนังสือคู่มือจับโกหก จาก นาธาน โอร์มาน ธานก็รวบรวมวิธีการโกหกจากเพื่อนๆ ในเรือนจำเอามาแชร์ไอเดีย คือเหมือนเตือนให้ระวังคนประเภทนี้ไว้ ว่ามีคนกำลังโกหกเราไหมถ้าเกิน 5 ข้อแสดงว่าเขาโกหกแล้วหนังสือเล่มนี้ก็จะเตือนทุกคนได้ ธานรู้สึกว่าเหนื่อยกับการโกหกแล้ว เราเป็นตัวจริงเป็นเรื่องจริงแล้ว แต่ชื่อนาธานยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความโกหกอยู่ มันก็ดีสำหรับการสอนวัยรุ่น ธานขอบคุณคนไทยและทุกคนที่ยังสนใจมากกว่า”

เมื่อผู้สื่อข่าวให้พูดถึงบุคคลที่เคยเป็นคดีความ เจ้าตัวกลับสวดส่งให้เป็นสุขๆ

“ก็อยากบอกคนไทยทุกคนๆ ว่าขอบคุณมากที่แอบเป็นกำลังใจเลิกหรือแอบด่า และต้องขอบคุณคำด่า ไม่ใช่ว่าธานชอบให้เขาด่านะ เขาอาจจะชอบเรามากเลยด่ามาก ก็เลยเกลียดมาก ตอนนี้ธานพยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้น เจ้ากรรมนายเวรที่เกี่ยวข้องกับคดีของนาธานก็ขอให้อยู่เป็นสุขๆ เพราะรู้สึกว่าโลกใครโลกมันแล้ว ไม่ได้แค้นนะ แต่ว่าจำ ขอให้ทุกคน ชีวิตใครชีวิตมัน ธานเองก็จะอยู่ของธานแล้ว”

ทั้งนี้ในระหว่างอัดรายการ “ตุ๊กกี้” ได้เปิดประเด็นถามนาธานว่ายังมีเรื่องอะไรที่นาธานโกหกอีกหรือเปล่า เจ้าตัวก็บอกว่าที่ผ่านมามีคนจะมีเรื่องกับตนตลอด อย่างเวลาพูดอะไรออกไปก็จะถูกหยิบขึ้นมาเป็นประเด็น อย่างกรณีที่ข่าวเอาไปลงว่านาธานเจอกระสือที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ทำให้คนคิดว่าตนโกหกอีกแล้ว ทั้งที่ตนไม่ได้บอกว่าเจอกระสือ เพียงแต่บอกว่าเจอแสงไฟ พร้อมซัดว่านักข่าวที่เอาข่าวไปลงนั่นแหละเป็นกระสือ ก่อนจะท้าให้เอาสวนดุสิตโพลไปสำรวจได้เลยว่าชาวบ้านแถวนั้นเคยเจอบ้างหรือเปล่า ซึ่งในรายการเจ้าตัวได้พยายามอธิบายเรื่องราวอยากพรั่งพรูด้วยท่าทางจริงจัง ราวกับอัดอั้นมานาน