......Romancini......
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
6 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Super Sunday : SuperBowl VII Dolphins V Redskins 1973







หลังจากการปราชัยต่อทีมดัลลัส คาวบอยส์
ในศึกซุปเปอร์โบลว์ครั้งที่ผ่านมาแล้วนั้น
ทีมไมอามี่ ดอลฟินส์ ของยอดโค๊ชอัฉริยะดอน ชูล่า
ก็ไม่ได้หมดหวัง....
แต่กลับสร้างเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มมากยิ่งขึ้น
สมาชิกทีมดอลฟินส์ที่ล้วนแต่เป็นผู้เล่นดาวรุ่งอายุน้อย
แต่กลับสร้างผลงานในฤดูกาลแข่งขัน 1972 – 73
ได้อย่างสุดเหลือเชื่อ



[ ดอน ชูล่า หัวหน้าโค๊ชอัฉริยะของดอลฟินส์ ]



สุดยอดทีมคนหนุ่มทีมนี้ เล่นได้อย่างดุดันและแข็งแกร่ง
ทำสถิติชนะรวดทั้ง 14 เกมของการแข่งขันในฤดูกาลปกติ
โดยที่ไม่มีบ๊อบ กรีซี่ย์ ควอเตอร์แบ๊คตัวจริงไปถึง 5 เกม
เมื่อควอเตอร์แบ๊คดาวรุ่งผู้นี้โดนรอน อีสต์
ทีมรับของซานดิเอโกหักขาเป็น 2 ท่อน



[ บ๊อบ กรีซี่ย์ ควอเตอร์แบ๊คมือ 1 ของทีมดอลฟินส์ ]



ดอน ชูล่า ต้องหันหน้ามาใช้ควอเตอร์แบ๊คจอมเก๋า
“ ตัวสำรองมืออาชีพ ”เอิร์ล มอร์เรลล์
อดีตผู้เล่นคู่บุญของโค๊ชชูล่าตั้งแต่สมัยอยู่กับบัลติมอร์ โคลท์ส
มอร์เรลล์ผู้นี้ เคยเล่นแทนจอห์นนี่ ยูไนตัสที่บาดเจ็บยาว
และเล่นได้เยี่ยมจนกระทั่งพาทีมตราเกือกม้า
เข้าไปจนถึงเกมซุปเปอร์โบลว์ 3 มาแล้ว
และควอเตอร์แบ๊คจอมเก๋า ก็ไม่ทำให้ใครต้องผิดหวัง
เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม พาดอลฟินส์ชนะ 9 เกมรวด
แถมยังคว้าตำแหน่งผู้เล่นคัมแบ๊คแห่งปีของลีค
มาครอบครองอีกด้วย



[ เอิร์ล มอร์เรลล์ ซุปเปอร์แบ๊คอัพของดอลฟินส์ ]



แต่จุดแข็งจุดขาย ที่เป็นหน้าเป็นตาของทีมโลมามหาภัย
ก็ยังคงอยู่ที่เกมการวิ่งทางภาคพื้นดินที่สุดแสนจะทรงพลัง
ลาร์รี่ ซองก้า รันนิ่งแบ๊คหนวดหินยิ่งเล่นยิ่งแกร่ง
ในฤดูกาลนี้เขาระเบิดฟอร์มวิ่งไปกระจาย
ถึง 1,117 หลา บวกกับอีก 7 สกอร์



[ ลาร์รี่ ซองก้า รันนิ่งแบ๊คจอมลุยของไมอามี่ ]



และคู่หูหมัดหนึ่งสอง จิม คิ๊กส์
ก็ยังคงเล่นอยู่โดยทำผลงานได้อย่างไม่น่าเกลียด
วิ่งทำระยะไปได้ 521 หลากับอีก 5 ทัชดาว์น
แต่โค๊ชดอน ชูล่า ก็ยังมีทีเด็ดเพิ่มขึ้นมาอีก
เมื่อเขาจับ ยูจีน “ เมอร์คิวรี่ ” มอร์ริส
ย้ายจากตำแหน่งตัววิ่งย้อนมาเป็นตัววิ่งหลักเสริมไปอีกคน



[ จิม คิ๊กส์ ตัววิ่งฝีเท้าเยี่ยมของทีมดอลฟินส์ ]



และ “ มิสเตอร์ เอาท์ไซด์ ” มอร์ริส
ที่มีที่มาจากความว่องไวในการวิ่งฉีกด้านนอก
ก็แสดงผลงานตอบแทนโค๊ชชูล่าได้อย่างยอดเยี่ยม
เขาทำระยะวิ่งไปได้ถึง 1,000 หลา
และ 334 หลาจากการวิ่งย้อน
อีกทั้งยังสามารถทำทัชดาว์น
รวมทั้งหมดถึง 12 หนเป็นสถิติของลีค



[ ยูจีน “ เมอร์คิวรี่ ” มอร์ริส ]



สามประสานรถถังมหาประลัย
ระเบิดทีมรับของฝ่ายตรงข้ามกระจุยกระจาย
ทำระยะไปได้มากถึง 2,960 หลา ในฤดูกาลปกติ
โดยเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล
ทีมีผู้เล่นวิ่งได้เกินหนึ่งพันหลาถึงสองคนอยู่ร่วมในทีมเดียวกัน....



[ 3 ประสานไมอามี่.....คิ๊กส์ , มอร์ริส , ซองก้า ]



“ No Name Defense ” คือสมญานามของทีมรับไมอามี่
ที่มีที่มาจากโค๊ช ทอม แลนดรี้ ของดัลลัส คาวบอยส์
ที่ไม่สามารถที่จะจำชื่อผู้เล่นของ
ทีมดอลฟินส์ได้เลย ในซุปเปอร์โบลว์ 6
เขาจึงเรียกชื่อทีมรับทีมนี้เป็น...
” ทีมรับไร้นาม ” มันซะเลย !!!



[ ทีมรับที่ไร้นาม แต่ไม่ได้ไร้.....ฝีมือ ]



ถึงจะไร้นามก็ไม่ได้หมายความว่าจะ..... “ ไร้ฝีมือ ”
ทีมรับของโลมามหาภัยทีมนี้
เสียคะแนนน้อยที่สุดในลีค ( 171 )
นำทัพมาโดย นิค โบนิคอนติ ไลน์แบ๊คเกอร์ฝีมือเยี่ยม



[ นิค โบนิคอนติ ไลน์แบ๊คเกอร์ออลโปรของไมอามี่ ]



บ๊อบ มาเธอร์สัน ไลน์แบ๊คเกอร์จอมแกร่งจากมหาวิทยาลัยดุ๊กส์
และเสริมด้วยแมนนี่ เฟอร์นันเดซ
ที่เล่นตำแหน่งเป็นโนส แท๊กเกิ้ล
ในการวางระบบของทีมรับใหม่จากที่มีไลน์หน้า 4 ตัว
มาเป็นระบบ 3 – 4 โดยเพิ่มไลน์แบ๊คเกอร์เสริมมาหนึ่งคน
ทำให้ทีมรับของดอลฟินส์ มีความเร็วและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น



[ แผนการเล่นในระบบ 3 - 4 ของดอลฟินส์ ]



และจอมทัพในแนวหลังของทีมรับ
นั้นก็คือ เจ๊ค สก๊อตต์
เซฟตี้พรสวรรค์และฝีมือสูง
ที่แย่งบอลมาครองได้ถึง 5 หนตลอดฤดูกาลนี้



[ เจ๊ค สก๊อตต์ สุดยอดเซฟตี้ของไมอามี่ ดอลฟินส์ ]



ลูกทีมของโค๊ชดอน ชูล่า
ยังคงเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเชื่อในรอบเพลย์ออฟ
เดินหน้าเก็บชัยชนะสร้างสถิติสู่เพอร์เฟ็คซีซั่นไปเรื่อยๆ
เมื่อไล่จากตามหลังมาแซงเอาชนะคลีฟแลนด์ บราวน์ไปได้ 20 – 14
ในรอบเพลย์ออฟเกมแรก..



[ ลิตเติ้ล และ เฟอร์นันเดซ สตาร์ต่างตำแหน่งของไมอามี่ ]



และบุกทรีรีฟเวอร์ สเตเดี้ยม
ไปยัดเยียดความปราชัยให้กับทีม
“ คนเหล็ก ” พิตส์เบิร์ก สตีลเลอร์ส ถึงบ้านด้วยสกอร์ 21 – 17
เป็นแชมป์ของสาย AFC พร้อมกับสร้างสถิติคว้าชัย 16 เกมรวด



[ ซองก้าวิ่งทะลวงใส่ทีมรับของสตีลเลอร์ในเกมชิงแชมป์ AFC ]


เดินหน้ายาตราทัพ
เข้าสู่ศึกซุปเปอร์โบลว์ 7 อย่างมุ่งมั่น
ที่จะเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ลีคในการเป็น...
” แชมป์ผู้ไร้พ่าย ” ให้สำเร็จ !!!




[ จอร์จ อัลเลน หัวหน้าโค๊ชเรดสกินส์ ]



“ อนาคต อยู่ ตรงหน้าเรานี้ ”.......
เป็นคติประจำใจของโค๊ช จอร์จ อัลเลน
ที่ก้าวเท้าเข้ามาสร้างทีมวอชิงตัน เรดสกินส์
ครั้งแรกในฤดูกาลแข่งขัน 1970
ด้วยสไตล์การกระตุ้นลูกทีมให้หึกเหิม
จากวาจาปลุกใจอยู่ตลอดทั้งเกม
จอร์จ อัลเลน นำทีมอินเดียนแดง
จากทีมที่มีสถิติชนะ 6 และแพ้ถึง 8 เกม
ในปีแรกที่เขาเข้ามาสู่ทีม.....
ให้กลายมาเป็นทีมแชมป์ของสาย NFC ได้อย่างรวดเร็ว



[ “ THE OVER HILL Gangs ” ]



ด้วยสถิติชนะ 11 แพ้ไปเพียง 3 หนเท่านั้น
ในฤดูกาลปกติของปี 1972 – 73
อัลเลนอดีตหัวหน้าโค๊ชของทีมชิคาโก แบร์และ แอลเอ แรมส์
มีปรัชญาการสร้างทีมด้วยเหล่าบรรดาผู้เล่นที่มีประสบการณ์สูง
ทีมเรดสกินส์ของเขาล้วนอุดมไปด้วยผู้เล่น
ที่มีอายุเข้าสู่หลักสามสิบหลายราย
จนกลายมาเป็นทีมที่มีอายุเฉลี่ยของผู้เล่นสูงที่สุดในลีค
และได้สมญานามตามวัยวุฒิของทีมว่า..........
“ THE OVER HILL Gangs ”



[ ซอนนี่ เจอร์เกนเซ่น ตำนานควอเตอร์แบ๊คของเรดสกินส์ ]



ตำแหน่งจอมทัพของทีมนั้น
หลังจากที่ ซอนนี่ เจอร์เกนเซ่น
ควอเตอร์แบ๊คมือ 1 จอมเก๋าของทีมมีอาการบาดเจ็บในต้นฤดูกาล
ตำแหน่งหัวใจของทีมบุกก็ตกมาสู่มือของ
บิลลี่ คิลเมอร์ มือสองของทีมวัย 33 ปี
อดีตควอเตอร์แบ๊คจอมพเนจร
จากทีมโฟร์ตี้นายเนอร์ และ เซ็นต์ส
หลังจากเข้ามาแทนที่เจอร์เกนเซ่นแล้ว
คิลเมอร์ ก็แสดงฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยม
ขว้างทำระยะไปได้ทั้งสิ้น 1,648 หลา
กับอีก 19 ทัชดาว์นมากที่สุดในลีค
และเสียอินเตอร์เซปป์ไปเพียงแค่ 11 หนเท่านั้น



[ บิลลี่ คิลเมอร์ จอมทัพของทีมวอชิงตัน ]



ม้าใช้ของทีมเรดสกินส์ได้แก่ ลาร์รี่ บราวน์
จอมลุยจากมหาวิทยาลัยแคนซัส สเตรท
ที่ระเบิดฟอร์มการบุกตะลุยทางพื้นดินไปได้ถึง 1,215 หลา
จาการวิ่ง 285 หน
ทำทัชดาว์นไปได้มากมายถึง 12 ครั้ง




[ ลาร์รี่ บราวน์ และ ชาร์ลี ฮาร์ลาเวย์ รันนิ่งแบ๊คเรดสกินส์ ]



ส่งผลให้เขากลายเป็นผู้เล่น
ทรงคุณค่าของฤดูกาลแข่งขัน 1972 - 73
และยังได้ตำแหน่งผู้เล่นทีมบุกยอดเยี่ยมแห่งปีของลีค
ไปครองอีกหนึ่งตำแหน่งด้วย
ตัววิ่งเสริมของบราวน์ ได้แก่ ชาร์ลี ฮาร์ลาเวย์
ที่วิ่งไปได้ 567 หลา




[ คู่ปีกมหากาฬของวอชิงตัน เรดสกินส์ ]



อาวุธทางอากาศของทีมอินเดียนแดงก็คือสองปีกคู่ดูโอ
ชาร์ลี เทเลอร์ จอมพลิ้วอดีตผู้เล่นที่โดนคัดตัวรอบแรก
จากมหาวิทยาลัย อริโซน่า สเตรท
และรอย เจฟเฟอร์สัน จอมเก๋าอดีตผู้เล่นของทีมสตีลเลอร์และโคลท์ส
ทั้งคู่สร้างสรรค์ผลงานรวมกันได้มากถึง 1,222 หลา , 10 สกอร์
จากการรับลูกทั้งสิ้น 84 หน



[ คริส แฮนเบอร์เกอร์ ไลน์แบ๊คเกอร์ใจเพชร ]



ทีมรับของเรดสกินส์นั้นแข็งแกร่งไม่เบา
นำทีมมาโดย คริส แฮนเบอร์เกอร์ ไลน์แบ๊คเกอร์ใจเกินร้อย
ที่เก่งทั้งการป้องกันและไล่ล่ากดดันทีมบุกของคู่แข่งขัน
เสริมด้วยแนวป้องกันเกมการขว้าง
ที่มีจอมเก๋า แพ็ต ฟิชเชอร์ ( 4 อินเตอร์เซปป์ )
และไมค์ บาสส์ ( 3 อินเตอร์เซปป์ ) เป็นตัวชูโรง
รอบแรกของฤดูกาลปกติของปี 1972 -73 นั้น
วอชิงตัน เรดสกินส์ ได้แชมป์สายตะวันออกของ NFC
ด้วยสถิติที่ดีกว่าคู่รักคู่แค้น ดัลลัส คาวบอยส์ ที่เป็นแชมป์เก่าด้วย




[ ไมค์ บาสส์ ]



และในรอบที่สองลูกทีมอินเดียนแดงของจอร์จ อัลเลน
ก็เปิดอาร์ เอฟ เค สเตเดี้ยม ในดีซี
ไล่ทุบอดีตทีมแกร่ง กรีนเบย์ แพ๊คเกอร์ส ไปสบายๆ 16 – 3
ในเกมที่ทีมรับเรดสกินส์ แสดงฝีมือได้อย่างสุดยอดเยี่ยม
และเหล่าแก๊งค์ทีมรับสูงวัยของอินเดียนแดงเมืองหลวง
ก็ยังคงคึกต่อไป....




[ ทีมนี้ประสบการณ์เกินร้อย...เรดสกินส์ 72 ]



ในเกมชิงแชมป์สาย NFC
เมื่อแสดงผลงานปิดประตูลงกลอน
ให้ทีมบุกแชมป์เก่าดัลลัส คาวบอยส์
ทำสกอร์ได้เพียงหนเดียวจากฟิลด์โกล
ก่อนที่จะโดนอินเดียนแดงถล่มไปเล่ะเทะด้วสกอร์ 26 – 3




[ โค่นแชมป์เก่า คาวบอยส์ ในเกมชิงแชมป์ NFC 72 ]



ก้าวเท้าแบบลืมอายุ
ไปยังแคลิฟอร์เนียสู่เมืองแห่งนางฟ้าที่สาบสูญ
ลอสแองเจิลลีส เจ้าภาพซุปเปอร์โบว์ครั้งที่ 7..........
เพื่อขออาสาดับความฝัน “ เพอร์เฟค ซีซั่น ”
ของทีมดาวรุ่งจากสาย AFC
ทีม ” โลมามหากาฬ ” ไมอามี่ ดอลฟินส์ ให้จงได้ !!!


...................................................


[ โปสเตอร์ซุปเปอร์โบลว์ ครั้งที่ 7 ]

SUPER BOWL VII : Washington Redskins V Miami Dolphins
14 มกราคม 1973 สนามลอสแองเจิลลีสเมมโมเรี่ยล โคลีเซี่ยม
เมืองลอสแองเจิลลีส



บ่ายวันอาทิตย์ที่แสนสดใส ด้วยแสงแดดเจิดจ้า
และอุณหภูมิที่กำลังสบายพอดี ของรัฐแคลิฟอร์เนีย
ฝูงชนจำนวนกว่า 90,186 คน
เข้ามายังสนามโคลิเซี่ยมของเมืองลอสแองเจิลลีส
เพื่อรอชมเกมการแข่งขันที่คาดกันว่าจะน่าระทึกใจ
เมื่อสุดยอดทีมวัยหนุ่มจากสาย AFC ไมอามี่ ดอลฟินส์
ต้องโคจรมาพบกับทีมสุดเก๋าที่อัดแน่นไปด้วยผู้เล่นประสบการณ์สูง
ยอดทีมจากสาย NFC วอชิงตัน เรดสกินส์ ในเกมแห่งศักดิ์ศรี......
“ ซุปเปอร์โบลว์ ครั้งที่ 7 ”



[ เมมโมเรี่ยล โคลีเซี่ยม นครลอสแองเจิลลีส ]



เป็นการนำทีมเข้ามาเล่นในสุดยอดเกมนี้เป็นหนที่ 3 แล้ว
ของยอดโค๊ชอัฉริยะดอน ชูล่า
แต่ไม่เคยพบกับความสำเร็จคว้าชัยชนะได้เลย
ครั้งแรกนั้นเขานำทีมบัลติมอร์ โคลท์ส มาแพ้พลิกล๊อกถล่มทลาย
ให้กับโจ เนเม็ท และทีมนิวยอร์ค เจ๊ทส์ ในซุปเปอร์โบลว์ครั้งที่ 3
ครั้งที่ 2 เขาก็นำทีมไมอามี่ ดอลฟินส์ เข้ามาพ่ายแพ้
เพราะความอ่อนด้อยในประสบการณ์ต่อทีมดัลลัส คาวบอยส์
เมื่อซุปเปอร์โบลว์ครั้งที่ 6 เมื่อปีที่ผ่านมา...
ดังนั้นการเข้ามาชิงชัยอีกหนในวันนี้
ดอน ชูล่า ได้กำชับลูกทีมโลมามหาภัยของเขาทุกคน
ให้เล่นอย่างเต็มที่ เพื่อหวังเพียงผลเดียวเท่านั้น
นั้นก็คือ...........” ชัยชนะ ”



[ บลิมลอยตัดกับแสงอาทิตย์เหนือโคลีเซี่ยม ]



ทางด้านของทีมวอชิงตัน เรดสกินส์ นั้น...
จอร์จ อัลเลน หัวหน้าโค๊ชจอมกระตุ้น
ได้กล่าวคำที่เขาได้ย้ากับลูกทีมอินเดียนแดงผยอง
มาตลอดทั้งฤดูกาลว่า.....
“ อนาคต อยู่ตรงหน้าของเรา ”
ดังนั้นเราจะต้องเล่นทุกเพลย์ในวันนี้
ให้เหมือนกับว่ามันเป็นการเล่นครั้งที่สำคัญ
และจะไม่มีคำว่าผิดพลาด
ให้ได้ตลอดทั้งเกมที่ยิ่งใหญ่สุดยอดนี้....



[ขบวนแห่เหล่านักบินอวกาศ จากอพอลโล่ 17 ]



ก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้นนั้น
ได้มีการแสดงเป็นเกียรติต่อโครงการอพอลโล่
ที่ลงไปปัฏิบัติการในภารกิจสุดท้ายบนดวงจันทร์
ของยานอพอลโล่ 17...
และเมื่อเสียงกลองที่กระแทกกระทั้นปลุกจิตใจให้ฮึกเหิม
จากวงโยธวาทิตของมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ที่แสดงก่อนเกมจบลงไป
หัวใจของผู้เล่นทั้งสองทีมก็พร้อมแล้ว
สำหรับเกมสำคัญในวันนี้....




[บรรยากาศก่อนเริ่มเกมในล๊อกเกอร์รูม เรดสกินส์ ]



เกมในช่วงต้นของควอเตอร์ที่ 1 นั้น
ทั้งสองทีมต่างใช้ทีมรับกดดัน
เพื่อสร้างความน่าอึดอัดให้แก่ทีมบุกของทั้งคู่
สองยอดตัววิ่งของทีมไมอามี่ ดอลฟินส์
ทั้งลาร์รี่ ซองก้า และจิม คิ๊กส์
ต้องเจอกับหมัดเด็ดของทีมรับเรดสกินส์
ที่จอร์จ อัลเลน ใช้แผนเดียวกับที่ดัลลัส คาวบอยส์เคยหยุดยั้ง
การบุกทางภาคพื้นดินของดอลฟินส์ดับสนิท
เมื่อซุปเปอร์โบลว์หนก่อน
โดยทีมรับจะอุดแนวตรงกลางให้แน่น
เพื่อบีบให้สองรถถังหลักของดอลฟินส์
ต้องวิ่งอ้อมแนวไปทางด้านข้าง
ซึ่งไม่ใช่เกมที่ถนัดของคู่หูดูโอรันนิ่งแบ๊คนี้เลย
ดังนั้น เกมการบุกของโลมามหาภัยจึงไม่ไหลลื่น เช่นเคยมา...




[ เฮดโค๊ชทั้งสองทีม ทักทายกันก่อนเริ่มเกม ]



แต่ทางด้านทีมบุกของเรดสกินส์ ก็ต้องเหนื่อยใจไม่แพ้กัน
เมื่อมาเจอกับการเล่นในรูปแบบ 3 – 4
ที่ตัดไลน์หน้าที่เชื่องช้าออก 1 ตัว
และแทนที่มาด้วยไลน์แบ๊คเกอร์ที่คล่องแคล่ว
ยืนหลังแนววางลูก
เพื่อไล่ล่ากดดันเกมการบุกของเรดสกินส์ได้อย่างได้ผล
เพราะทีมรับ 11 คนของดอลฟินส์ต่างพุ่งเป้าหมายหลักไปที่
ลาร์รี่ บราวน์ ตัววิ่งสารพัดประโยชน์ของทีมวอชิงตัน
ชนิดที่ยอดตัววิ่งผู้นี้ไปทางไหน จะมีเหล่าทีมรับดอลฟินส์
สามสี่ตัว กรูกันตามไล่ล่าไปตลอดทั้งสองฟากฝั่งของสนาม




[ บิลลี่ คิลเมอร์ ดวลกับทีมรับไร้นามของดอลฟินส์ ]



เมื่อโดนทีมรับสูงอายุของเรดสกินส์อุดช่องทางวิ่งตรงกลางซะสนิท
มีหรือที่ยอดโค๊ชอย่างดอน ชูล่าจะอยู่นิ่งเฉย
บทเรียนจากความพ่ายแพ้ในซุปเปอร์โบว์หนก่อน
ทำให้เขาหาวิธีแก้เผ็ดการเล่นแบบนี้ของทีมรับคู่แข่งเอาไว้แล้ว
ชูล่า จึงใช้ตัววิ่งร่างเล็กความเร็วสูง ยูจีน “ เมอร์คิวรี่ ” มอร์ริส
ที่วิ่งตัดอ้อมแนวออกด้านข้างได้อย่างยอดเยี่ยมลงมาเสริม
ทำให้เกมกลับมาเข้ารูปเข้ารอยได้อีกครั้ง



[ เมอร์คิวรี่ มอร์ริส ทะลวงวงนอกใส่แนวรับเรดสกินส์ ]



แล้วก็เป็นไปโดยอัตโนมัติ
ที่เมื่อทีมบุกเริ่มจะวิ่งทำระยะได้ อย่างเป็นผล
จะเกิดช่องโหว่ ในแนวหลังของทีมคู่แข่ง
ให้สามารถที่จะจู่โจมทางอากาศได้
ดังนั้นเมื่อบ๊อบ กรีซี่ย์ ยอดควอเตอร์แบ๊คประจำทีมไมอามี่
ที่หายเจ็บกลับมาเล่นในเกมชิงแชมป์สายนัดที่แล้ว
มองเห็นว่าตัวคุมปีกของเรดสกินส์ เปิดช่องว่างให้
เขาจึงจัดการขว้างบอลเจาะระยะ 28 หลา
ไปให้กับ พอล วอร์ฟิลด์ ปีกคู่ใจ พาทีมบุกจากกลางสนาม
ให้คืบคลานมายังเส้น 34 ในแดนของวอชิงตันแล้ว




[ บ๊อบ กรีซี่ย์ จอมทัพของไมอามี่ ดอลฟินส์ ]



จากนั้น ทีมบุกของดอลฟินส์ก็ส่งบอลให้กับคู่หูดูโอ ซองก้า & คิ๊กส์
ลองกระทุ้งสั้นๆ ตรงกลางอยู่ 2 เพลย์
ก่อนที่บ๊อบ กรีซี่ย์
จะจัดการสำเร็จโทษแนวตัวคุมปีกของเรดสกินส์
เมื่อเขาขว้างลูกโค้งระยะ 28 หลา
หนีมือของแนวรับวอชิงตัน
ไปเข้าซองของโฮวาร์ด ทไวล์ลี่ ปีกนอกที่รับได้ที่เส้น 5 หลา
ก่อนที่จะสะบัดหลุดจากการป้องกันของ
แพ็ต ฟิชเชอร์ตัวคุมปีกเรดสกินส์
พุ่งเข้าเอนด์โซน ให้ไมอามี่ ดอลฟินส์ ขึ้นนำไปก่อน 7 – 0




[ การบุกตะลุยของลาร์รี่ ซองก้ารันนิ่งแบ๊คไมอามี่ ]



เมื่อโดนนำไปก่อนเรดสกินส์ก็เริ่มเต้น
เกมเข้าสู่ควอเตอร์ที่ 2
ทีมรับไร้นามของดอลฟินส์ ที่วันนี้ เล่นได้อย่างดีเยี่ยม
นำมาโดย แมนนี่ เฟอร์นันเดซ โน๊สแท้กเกิ้ล ที่รับภาระหนัก
ยืนประจันหน้าอัดกับการป้องกันของเรดสกินส์
ที่แนววางลูกอยู่ตลอด
แต่ก็ยังเล่นได้เยี่ยม กดดันทั้ง บิลลี่ คิลเมอร์
และ ลาร์รี่ บราวน์ ได้อย่างอยู่หมัด
อีกทั้งยังมี นิค โบนิคอนติ คอยช่วยเสริม
ทำให้ทีมบุกของเรดสกินส์ ไปแทบไม่เป็นเลยทีเดียว




[ ทีมรับดอลฟินส์ รุมกินโต๊ะใส่ลาร์รี่ บราวน์ ]


เมื่อเกมการวิ่งพึ่งพาไม่ค่อยได้ บิลลี่ คิลเมอร์จึงหันมาขว้างแทน
และก็ไปเข้าทางของทีมรับโลมามหาภัย
ที่ใช้ไลน์แบ๊คเกอร์ ความเร็วสูง ช่วยกันคุมปีก
เสริมการป้องกันเป็นสองชั้น ในด้านลึกของสนาม
ดาว์นที่ 3 ต้องการ 8 หลาเพื่อครองบอลบุกต่อ
คิลเมอร์ มองเห็น ชาร์ลี เทเลอร์
วิ่งตัดเข้าไปตรงกลางสนามจึงขว้างไปให้ทันที




[ บิลลี่ คิลเมอร์ ควอเตอร์แบ๊คเรดสกินส์ ]



แต่กลับโดนไลน์แบ๊คเกอร์ของดอลฟินส์
กระโดดปัดบอลลอยโด่งไปบนอากาศ
ก่อนที่ เจ๊ค สก็อตต์ เซฟตี้ ดาราของทีมรับโลมามหาภัย
จะแย่งบอลมาครอบครองได้ ก่อนที่ลูกจะตกถึงพื้น
โอกาสกลับมาสู่มือของบ๊อบ กรีซี่ย์
และทีมบุกไมอามี่อีกครั้งหนึ่งแล้ว...




[ เจ๊ค สก๊อตต์ ยอดเซฟตี้ของไมอามี่ ดอลฟินส์ ]



ทีมบุกของดอลฟินส์บุกได้อย่างน่ากลัว
เมื่อมียูจีน มอร์ริส
มาช่วยวิ่งถ่างแนวรับของเรดสกินส์ออกไปด้านข้าง
เปิดโอกาสให้กับลาร์รี่ ซองก้า และจิม คิ๊กส์
ได้มีช่องวิ่งทะลวงตรงกลาง
ทำให้บุกคืบหน้าไปได้เรื่อยๆ...




[ ยูจีน มอร์ริส ตัววิ่งสารพัดประโยชน์ของไมอามี่ ]




แต่จากความผิดพลาดของมาร์ลิน บริสโคล
ผู้เล่นปีกสำรองที่ไปทำผิดกติกา
ทำให้ลูกบอม์บไกลสุดสวย 47 หลา
ที่กรีซี่ย์ ขว้างไปให้กับวอร์ฟิลด์รับได้และวิ่งเข้าเอนด์โซน
เป็นทัชดาว์นไปแล้วต้องโดนเรียกกลับ
ชวดโอกาสทำคะแนนหนีไป
อย่างน่าเสียดายเป็นที่สุด.....



[ รถถังดอลฟินส์ ลาร์รี่ ซองก้า ]



วอชิงตันได้ลงมาบุกใหม่อีกหน
คราวนี้ลูกทีมของจอร์จ อัลเลน มีการเล่นหลากหลายขึ้น
ทั้งให้บิลลี่ คิลเมอร์ ขว้างสวิงเร็วออกไปให้ปีกที่ด้านข้างสนาม
หรือให้ปีกตัวเก่งชาร์ลี เทเลอร์ แอบลงมาลักไก่วิ่งตัดรีเวิร์ส
สร้างการบุกได้อย่างน่าดูชม
แต่มื่อทีมรับของดอลฟินส์ตั้งตัวติด
ทีมบุกอินเดียนแดงก็วงแตก...



[ คิลเมอร์โดนกดดันจนขว้างเสียอินเตอร์เซปป์ ]



ในจังหวะที่บิลลี่ คิมลเมอร์ ถอยไปเตรียมที่จะปักหลักขว้างลูก
เหล่าแนวทีมรับของดอลฟินส์
ก็ได้จังหวะวิ่งกรูกันเข้าไปเร่งกดดันทันที
ทำให้คิลเมอร์ไม่มีเวลามองหาปีก ต้องขว้างสวนแนวรับออกไป
ลูกพุ่งเข้าสู่อ้อมอกของนิค โบนิคอนติ ของดอลฟินส์
ที่ยืนกางมุ้งรออยู่ตรงบริเวณกลางสนาม
การบุกเปลี่ยนมือมาเป็นทีของโลมามหาภัยอีกหนหนึ่ง....



[ บ๊อบ กรีซี่ย์ สุดยอดจอมทัพของดอลฟินส์ ]



จากเส้น 27 หน้าบ้านของเรดสกินส์
บ๊อบ กรีซี่ย์ ยัดบอลใส่มือให้สองตัววิ่งทั้งซองก้า
และคิ๊กส์ ทดสอบแนวรับวอชิงตัน
ก่อนที่จะได้จังหวะขว้างลึก19 หลาไปทางด้านขวาของสนาม
ให้กับจิม แมนดริสท์ พุ่งรับบอลได้อย่างงามงด



[ จิม แมนดริสท์ พุ่งรับบอลได้ที่หน้าบ้านของเรดสกินส์ ]



ตั้งระยะที่เส้น 2 หลาหน้าบ้านของเรดสกินส์
ให้จิม คิ๊กส์ ที่วิ่งตามการเปิดทาง
ของลาร์รี่ ซองก้าพุ่งเข้าสู่เอนด์โซน
ทำทัชดาว์นให้ไมอามี่ ดอลฟินส์
หนีห่างเรดสกินส์ออกไปเป็น 14 – 0
เมื่อครึ่งเวลาแรกของเกมจบลงไป.......




[ จิม คิ๊กส์วิ่งทำทัชดาว์นให้กับไมอามี่ ดอลฟินส์ ]



ครึ่งเวลาหลังเริ่มต้นขึ้น วอชิงตัน เรดสกินส์ ก็ลุยแหลก
จากจุดเริ่มบุกที่เส้น 30 ในแดนตัวเอง
ควอเตอร์แบ๊ค บิลลี่ คิลเมอร์ โยนแผนการวิ่งทิ้ง
หันมาเปิดเกมรุกทางอากาศใส่ทีมรับของดอลฟินส์อย่างเต็มตัว
เขาขว้างกระจายบอลไปให้กับสองปีกนอกคู่ใจอย่างทั่วถึง
ทั้งชาร์ลี เทเลอร์ และ รอย เจฟเฟอร์สัน รับบอลได้เยี่ยม




[ การแสดงในช่วงพักครึ่งเวลาการแข่งขัน ]



นำทีมบุกของเรดสกินส์คืบคลาน
มาจนถึงเส้น 25 หลาหน้าบ้านของดอลฟินส์
แต่ตัวเตะของทีม เคิร์ท ไนท์ กลับลนลาน
เตะฟิลด์โกลจ่อๆ ลูกนี้ออกข้างประตูไปอย่างน่าเสียดาย
เรดสกินส์ชวดได้สกอร์ตีไข่แตกอย่างเหลือเชื่อ. !!!




[ แมนนี่ เฟอร์นันเดซหยุดลาร์รี่ บราวน์ สนิท ]



ทั้งสองทีมต่างแลกหมัดกันสนุกแต่สกอร์ดันไม่เกิด
ลาร์รี่ ซองก้า ที่โดนกดดันที่แนววางลูกมาตลอดทั้งเกมก็ได้จังหวะ
เมื่อแนวตรงกลางของเรดสกินส์เกิดมีช่อง
ไอ้รถถังหนวดดก จึงลงโทษทีมรับสูงอายุทันที
เขาวิ่งอัดตรงกลางขึ้นมาตรงๆ ก่อนที่จะซัดยาว 49 หลา
มาหยุดลงตรงเส้น 16 หน้าบ้านของวอชิงตันอีกแล้ว...



[ ลาร์รี่ ซองก้า หัวใจการบุกทางพื้นดินของไมอามี่ ]



แต่เรดสกินส์ก็ไม่ยอมตาย
เมื่อลูกขว้างหวังทัชดาว์นเข้าสู่เอนด์โซนของกรีซี่ย์
ไปให้กับมาร์จ เฟลมมิ่ง ปีกในสูงเกินไป
บริกส์ โอเว่น ตัวคุมปีกเรดสกินส์จึงแย่งลูกมาครอบครองได้
ไมอามี่โยนโอกาสการันตีชัยชนะทิ้งไปอีกครั้งหนึ่ง....




[ ปีกพระกาฬชาร์ลี เทเลอร์ ลงมาช่วยเกมการวิ่ง ]



เวลาของเกมล่วงเข้าสู่ควอเตอร์สุดท้ายแล้ว
เมื่อไม่เสียคะแนนกำลังใจของทีมบุกเรดสกินส์ก็กลับมาอีกครั้ง
จอมทัพบิลลี่ คิลเมอร์ ขับเคลื่อนเกมการบุกได้อย่างไหลลื่น
จากจุดเริ่มบุกที่เส้น 11 ในแดนตัวเอง
คิลเมอร์ พาทีมบุกคืบหน้าเข้ามาในแดนของไมอามี่ได้อย่างน่าดู
จนโอกาสที่จะสร้างสกอร์ตีตื้นของเกมมีมาถึง
เมื่อทีมบุกมาจนถึงที่เส้น 10 หน้าประตูบ้านของดอลฟินส์แล้ว




[ การตอบโต้ของทีมบุกเรดสกินส์ ]




เพลย์ต่อมาคิลเมอร์ ได้จังหวะมองเห็นปีกใน เจอร์รี่ สมิตต์
สลัดหลุดตัวประกบยืนว่างอยู่ในเอนด์โซน
คิลเมอร์ไม่รอรี ขว้างอย่างสวยงามเข้าไปให้
แต่ลูกที่สมควรจะลอยเข้าไปสู่มือของสมิตต์ อย่างที่มันควรจะเป็น
ดันโชคร้าย พุ่งไปกระแทกกับคานของเสาประตู
กระดอนตกลงดินอย่างเหลือเชื่อ
โชคไม่ได้อยู่ข้างทีมวอชิงตัน เรดสกินส์ ซะแล้ว




[ จังหวะอินเตอร์เซปป์ในเอนด์โซน ของเจ๊ค สก๊อตต์ ]



เพลย์ต่อมาในดาว์นที่ 3
เรดสกินส์ก็เล่นแผนเดิมอีกครั้ง
แต่คราวนี้ปีกที่ว่างเป็นชาร์ลี เทเลอร์บ้าง
และลูกที่สมควรเป็นสกอร์อีกหน ก็ต้องเป็นหมันกลางอากาศ
เมื่อก่อนที่จะถึงมือของเทเลอร์ปีกจรวดนั้น
คราวนี้ไม่มีคานประตูมายุ่งเกี่ยว
แต่ฟ้าดันส่ง เจ๊ค สก๊อตต์ มาเล่นให้กับทีมดอลฟินส์ ซะนี่
เซฟตี้สุดแสบ กระโดดตัดหน้าเทเลอร์
และแย่งบอลมาครอบครองได้
เป็นลูกที่สองของเขาในเกมนี้
ก่อนที่จะวิ่งย้อนหน้าตั้ง 55 หลากลับมาที่กลางสนาม
กระชากโอกาสปิดหนทางกลับมาของเรดสกินส์เสียสนิท




[ สุดยอดตัวคุมปีกไมอามี่ เจ๊ค สก๊อตต์ ]



ไมอามี่ เล่นอย่างไม่มีประมาท
ตั้งใจจะบุกฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ
ก่อนที่จะวางตำแหน่งให้กับ
กาโล เยพลีเมี่ยน ตัวเตะเลือดไซปรัส
ลงมาเตะฟิลด์โกลตอกฝาโลงส่งอินเดียนแดงลงสู่ก้นหลุม....
ที่เส้น 34 หลาหน้าบ้านของเรดสกินส์
ลูกที่แสน๊บมาจากเซนเตอร์ไม่ค่อยดี
แต่เอิร์ล มอร์เรลล์ ก็ยังจับมันตั้งได้




[ จังหวะที่ลูกไปติดบล๊อกของผู้เล่นเรดสกินส์ ]



เยพลีเมี่ยน วิ่งเข้ามาหวดลูก แต่มันกลับพุ่งต่ำเกินไป
ติดบล็อกของบิล บรันดริ๊กส์ ผู้เล่นของวอชิงตัน
ลูกกระดอนกลับมาหาเยพลีเมี่ยน เขาจึงรีบเก็บบอลขึ้น
และตั้งใจจะขว้างมันไปให้กับลาร์รี่ ซองก้า
แต่บอลกลับลื่นหลุดมือของตัวเตะไซปรัสผู้นี้
เขาจึงเอามือปัดบอลลอยสูงขึ้นไปบนอากาศ ...
เหมือนผีจับยัด ลูกดันไปเข้ามือของ ไมค์ บาสส์ ตัวคุมปีกเรดสกินส์
ที่เมื่อจับบอลได้ ก็ตีตั๋วรถด่วนซัดยาว 49 หลาวิ่งเข้าเอนด์โซน
ทำทัชดาว์นตีไข่แตก ให้เรดสกินส์ปีนขึ้นมาจากหลุม
ทำคะแนนไล่ไมอามี่มาเป็น 7 – 14
เมื่อเหลือเวลาของเกมอยู่ 2 นาที !!!




[ การเล่นสุดฮาตลอดกาล ของศึกซุปเปอร์โบลว์ ]



แล้วเมื่อทีมรับของเรดสกินส์ ทำงานของตัวเองอย่างได้ผล
ป้องกันไม่ให้ไมอามี่บุกขึ้น
ต้องเตะพั้นท์ทิ้ง มาให้ทีมอินเดียนแดง
ได้มีลุ้นเฮือกสุดท้าย....



[ จอร์จ อัลเลนลุ้นลูกทีมด้วยใจระทึก ]



ที่เส้น 30 ในแดนตัวเอง
เวลาบนสกอร์บอร์ดเหลืออยู่เพียง 1 : 14 นาที
บอลและโอกาสกลับมาอยู่ในมือของบิลลี่ คิลเมอร์เป็นครั้งสุดท้าย
แต่ทีมรับของดอลฟินส์ก็ไม่ยอมที่จะพลาด
ต่างกระจายกำลังกันประกบผู้เล่นทีมบุกของเรดสกินส์เสียสนิท
และไล่ล่าจนสำเร็จโทษ รวบจอมทัพของเรดสกินส์ล้มลงไป
พร้อมกับที่เวลาของเกมหมดลงไป........



[ จุดจบของเรดสกินส์ ]



14 – 7 คะแนน
อาจจะเป็นการทำคะแนนที่น้อยที่สุด
ในประวัติศาสตร์ของซุปเปอร์โบลว์
แต่มันก็เป็นคะแนนที่มากพอจะให้ ทีมไมอามี่ ดอลฟินส์
สร้างประวัติศาสตร์ใหม่
ในหน้าที่จะจารึกตำนานของอเมริกันฟุตบอล
ว่าทีมไมอามี่ ดอลฟินส์ แห่งฤดูกาล 1972 – 73 นั้น
เป็นทีมแรกและทีมเดียว
ที่สามารถสร้าง “ เพอร์เฟคซีซั่น ”
ชนะ 14 เกมรวดในฤดูกาลแข่งขันปกติ
และมาชนะรวดในรอบเพลย์ออฟอีก 2 เกม
ก่อนที่จะมาคว้าชัยชนะในสุดท้ายในเกมซุปเปอร์โบลว์
ทำสถิติชนะทั้งหมด 17 เกมรวดในฤดูกาลเดียว ได้อย่างยิ่งใหญ่



[ ยอดโค๊ชดอน ชูล่า และเหล่าพลพรรคลูกทีมดอลฟินส์ ]



ตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกม ( MVP )
ของซุปเปอร์โบลว์ 7 นั้น
ก็ตกเป็นของยอดตัวคุมปีกไมอามี่ ดอลฟินส์ เจ๊ค สก๊อตต์
ที่แสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
ทั้งป้องกันปีกตัวสำคัญของเรดสกินส์
ชาร์ลี เทเลอร์ จนกระดิกไม่ออก



[เจ๊ค สก๊อตต์ MVP ซุปเปอร์โบลว์ครั้งที่ 7 ]


อีกทั้งยังสามารถที่จะอินเตอร์เซปป์บอล
ช่วยเซฟโอกาสให้กับทีมได้อีกสองครั้งสองครา...
ทำให้เขาเหมาะสมต่อการที่ได้รับเลือกให้เป็นสุดยอดผู้เล่นในเกมนี้
ทุกประการอย่างไม่มีใครจะโต้แย้งได้เลย...



[ ดอน ชูล่า ฉลองชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ ]


ส่วนในฝั่งของผู้พ่ายแพ้ ทีมวอชิงตัน เรดสกินส์ นั้น
ก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว
เหล่าลูกทีม “ Hill Gangs ” ของยอดโค๊ชอัลเลน
ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจ
เพราะในฤดูกาลนี้...
เขาได้พ่ายแพ้ให้กับทีมที่เป็น “ สุดยอดทีมแห่งยุค ” ทีมใหม่
ของวงการอเมริกันฟุตบอลของยุค 70 ......
” ไมอามี่ ดอลฟินส์ ทีมที่ไร้พ่ายแห่งปี 1972 ” นั่นเอง !!!



[ โจ ร๊อบบี้เจ้าของทีมดอลฟินส์ ดอน ชูล่ากับลอมบาร์ดี โทรฟี่ ]


สถิติของทั้งสองทีม :
[ Dolphins ]

กรีซี่ย์ ขว้าง 11 สำเร็จ 8 , 88 หลา 1 ทัชดาว์น , 1 อินเตอร์เซปป์
ซองก้า วิ่ง 15 ครั้ง ระยะ 112 หลา
วอร์ฟิลด์ รับ 3 ครั้ง ระยะ 36 หลา

[ Redskins ]

คิลเมอร์ ขว้าง 28 สำเร็จ 14 , 104 หลา , 3 อินเตอร์เซปป์
บราวน์ วิ่ง 22 ครั้ง ระยะ 72 หลา
เจฟเฟอร์สัน รับ 5 ครั้ง ระยะ 50 หลา



[ ไมอามี่ ดอลฟินส์ แชมป์ซุปเปอร์โบลว์ VII ]




[ แหวนแชมป์ของดอลฟินส์และตั๋วการแข่งขัน ]


................................................................
~ พบกับ SuperBowl VIII ระหว่าง Vikings V Dolphins
ได้ที่นี่อีกไม่นานครับผม..................................^_^






เครดิต : SuperBowl.com , google , hworth , mghelmets


Create Date : 06 มกราคม 2552
Last Update : 6 ตุลาคม 2552 1:31:58 น. 18 comments
Counter : 1724 Pageviews.

 
เพิ่งจะอัพบล็อกเสร๊จ.....

เช้าพอดีเลย...

ขอกล่าวคำทักทายอรุณสวัสดิ์ต่อทุกๆท่าน

ที่พลัดหลงเข้ามายังบล็อกของผม

ในเช้าวันใหม่วันนี้ด้วยนะ ขอรับท่าน.....


~ ขอให้มีความสุขตลอดทั้งวันนะครับ..........


โดย: Romancini วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:6:00:50 น.  

 
ความสุขคุณช่างสั้นจริงนะคะ

ให้เวลาแค่วันเดียว

เห่อะๆๆ


โดย: HastaLaVista วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:6:33:56 น.  

 
ไม่ทราบครับ เพราะมักไม่ยึดติดกับอะไร


โดย: HastaLaVista วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:6:54:32 น.  

 
กำลังรอชมฟุตบอลของมหาลัยใกล้จะถึงรอบตัดเชือก ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้อยู่บ้านนะคะ
พอดีว่าขึ้นไปเที่ยวชายแดนแคนนาดามามันหนาวสุดๆหิมะตกท้วมหัว
ได้มีโอกาสชมเด็กนักเรียนแข่ง Hockey ด้วย วันกลับเกือบๆตกถนน เพราะว่าเป็นน้ำแข็ง มีรถดูแลทางจารจรนำทรายและเกลือมาโรยกันผู้ใช้รถตกถนน
ใจไม่ดีเลยเพราะว่าฝันไม่ดีด้วย มาเจอถนนที่แย่อีก เหมือนอยู่ในเกมนรก
พอดีว่าไม่ได้เขียนเล่าเรื่องไว้ในบล็อกของโอพี เพราะว่าคนส่วนมากมักจะไม่เข้าใจ ชอบมีคำถามแปลกๆ
คุณเข้าบล็อกหลักของโอพี ก็มักจะเจอแต่ภาพ อะไรประมาณนั้น
เมื่อวานก็เชียร์ไวกิ้ง คิดเหมือนกันว่าคงไม่รอด เพราะว่าท่าทาง
ไม่ค่อยจะดีมาหลายอาทิตย์ อืมมม
คงจะจบก่อนนะคะ เขียนมาเยอะไม่รู้ว่าคนอ่านจะเข้าใจรึเปล่า ????


โดย: Opey วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:8:24:50 น.  

 
มาสวัสดีปีใหม่คุณร็อกค่ะ
ปีใหม่นี้ ขอให้มีอะไรใหม่ ๆ และดี ๆ เข้ามาทำให้หัวใจเบิกบานบ่อย ๆ นะคะ


โดย: กองฟอน วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:16:46:57 น.  

 
จันทร์เอย เปรยฝากจันทร์
ผ่านความฝัน พลันห่วงหา
คืนนี้ ยามนิทรา
วอนจันทรา พาฝันดี..


ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ร้อกกี้ - รี่ก๊อก
ปล. ชอบเหมือนกันค่ะ


โดย: พ่อระนาด วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:0:02:35 น.  

 
เค้าเรียกว่า "แบล็ค เมล์" นะเฟ้ย!!!



โดย: HastaLaVista วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:10:13:46 น.  

 
&#3614;&#3619;&#3632;&#3624;&#3619;&#3637;&#3624;&#3634;&#3585;&#3618;&#3617;&#3640;&#3609;&#3637; &#3623;&#3633;&#3604;&#3626;&#3640;&#3607;&#3633;&#3624;&#3609;&#3660;

กุศลใดที่กระทำ….สำเร็จแล้ว
ศีลผ่องแผ้วปริยัติ...ปฏิบัติมา
รีบนำส่งถึงทุกท่าน...ไม่รอช้า
ทุกเวลามีแต่สุข....ทุกข์มลาย

ขอบารมีแห่งองค์..............พระสุคต
ช่วยเปลื้องปลดทุกข์โศก...โรคาหาย
กระทำการสิ่งใด............สมใจหมาย
ทั้งใจกายปราศทุกข์........สุขนิรันดร์

( กลอนเก่า...เอามาใช้ใหม่...อิ อิ )

เอาบุญมาฝาก...นะค๊า
คุณร๊อก..สบายดีหรือเปล่าคะ ??
เปิดงานมา ป้า ยุ่งอยู่กะงาน จนมึนนนน...
นี่ก็แอบอู้งาน มาทักทาย...

ขอให้มีความสุขมาก ๆ... นะคะ

4 rabits dance


โดย: พรหมญาณี วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:13:28:21 น.  

 
อ้าวลุงไมทำตัวแบบนี้อ่ะ

งั้นเข้าไปเม้นท์เค้าทุกวันเลยนะ

เดี๋ยวเค้าจะไม่สุขสันต์


โดย: Kra_tai (stardift ) วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:13:59:38 น.  

 
ว่าไง!! วัยรุ่น!!

(วัยรุ่นเหลือน้อยน่ะ)


โดย: HastaLaVista วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:9:39:05 น.  

 
สวัสดียามค่ำคืนจ๊ะ

สบายดีหรือปล่าว......หอบรอยยิ้มมาฝาก 1 กอง.....


โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:19:23:13 น.  

 
ร้อกกี้ - รี่ก๊อก อยู่่ป่าวคะ
มาชวนเที่ยวป่าค่ะ อิอิ


โดย: พ่อระนาด วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:19:38:30 น.  

 
ปอ ป้า มาชวนไปดูนาฬิกาชีวิต

อยากรู้ว่านาฬิกาชีวิตของคุณร๊อก เป็นอย่างไร
รีบตามมาที่บ้าน ปอ ป้า...นะคะ

มาเร้ว...มาเร็ว...

Black & White rabit


โดย: พรหมญาณี วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:10:15:35 น.  

 
อยากเก็บผ้าผ่อน

ย้ายไปอยู่กลางป่าจัง
^
^
ไม่ทราบว่า ผ้าผ่อน นี่หมายถึง ผ้ายังผ่อนไม่หมดรึป่าวคะ

ถ้าทำได้ก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกันค่ะ ชีวิตคงสุขสงบดีจัง
อยากใช้ชีวิตอยู่บ้านป่า เมืองดอย อิอิ

งั้นส่งเข้านอนเลยนะคะ
หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะคะ ร้อกกี้ - รี่ก๊อก


โดย: พ่อระนาด วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:21:21:20 น.  

 
อืมม...


โดย: HastaLaVista วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:23:09:44 น.  

 
วันนี้ทีมสุดเลิฟเสมอ...พรุ่งนี้จะทำไงดี แมนยูจะชนะมะเนี่ย

เฮ้ออออ....

...
นอนไม่หลับ มาเข้าฝันได้หรือปล่าว.......อิอิ


โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:3:32:01 น.  

 
๐ ขอเพื่อนพ้องน้องพี่........โมทนา
ธรรมะจัดสรรพา...............โอบเอื้อ
กลับจากปฏิบัติธรรมนา.......บุญส่ง
ขอสุขสวัสดิ์เกื้อ................ส่งให้รับบุญ ฯ






นำบุญมาฝากค่ะ ร้อกกี้


โดย: พ่อระนาด วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:19:12:19 น.  

 
อยากอัพใหม่เหมือนกัน

แต่ยังไม่มีคนไปนั่งดูข้างๆ

ไม่รู้จะมีใครแถวนี้อาสาบ้างมั้ย


โดย: Kra_tai (stardift ) วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:19:51:31 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Romancini
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้ชายธรรมดา มีความฝันที่ยังไปไม่ถึง แต่ไม่เคยคิดท้อที่จะทำความฝันนั้น ให้เป็นจริง...

" SHINE ON YOU CRAZY DIAMOND "

Remember when you were young, you shone like the sun.
Shine on you crazy diamond.
Now there's a look in your eyes, like black holes in the sky.
Shine on you crazy diamond.
You were caught on the crossfire of childhood and stardom, blown on the steel breeze.
Come on you target for faraway laughter, come on you stranger, you legend, you martyr,
and shine!

You reached for the secret too soon, you cried for the moon.
Shine on you crazy diamond.
Threatened by shadows at night, and exposed in the light.
Shine on you crazy diamond.
Well you wore out your welcome with random precision, rode on the steel breeze.
Come on you raver, you seer of visions, come on you painter, you piper, you prisoner,
and shine!

Nobody knows where you are, how near or how far.
Shine on you crazy diamond.
Pile on many more layers and I'll be joining you there.
Shine on you crazy diamond.
And we'll bask in the shadow of yesterday's triumph, and sail on the steel breeze.
Come on you boy child, you winner and loser, come on you miner for truth and delusion,
and shine!

Totó and Alfredo - ENNIO MORRICONE
Friends' blogs
[Add Romancini's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.