นักดาราศาสตร์ชวนคนไทย เฝ้าชมปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งแรกในรอบ 4 ปี คืนวันที่ 15 มิ.ย.นี้ พร้อมทั้งปรากฎการณ์ดวงจันทร์บังดาวฤกษ์เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันด้วย

ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันนี้ (6มิ.ย.) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) หรือสดร. ร่วมกับเครือข่ายดาราศาสตร์ฉะเชิงเทราและสงขลา แถลงข่าวชวนคนไทยรอชม 2 ปรากฎการณ์บนท้องฟ้า “จันทรุปราคาเต็มดวงและจันทรุปราคาบังดาวฤกษ์” ครั้งแรกในรอบ 4 ปี ทั้งนี้ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสดร. เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 15 มิ.ย.54 ถึงเช้ามืดวันที่ 16 มิ.ย.54 จะเกิดปรากฎการณ์ดาราศาสตร์ครั้งสำคัญ คือ ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากเกิดขึ้นครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 3 มี.ค.50

โดยปรากฎการณ์ดังกล่าว ตั้งแต่เริ่มต้นจะพบว่าการเกิดจันทรุปราคาครั้งนี้กินเวลานานถึง 3 ชั่วโมง 39 นาที

ซึ่งถือว่านานที่สุดตั้งแต่เคยเกิดปรากฎการณ์จันทรุปราคา โดยจะเห็นดวงจันทร์สีแดงอิฐอยู่บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ สูงจากเส้นขอบฟ้าประมาณ 30 องศา สามารถชมได้ด้วยตาเปล่าทั่วทุกภาคของประเทศ หากท้องฟ้าโปร่ง ไม่มีเมฆและไม่มีแสงไฟรบกวน จะมีโอกาสเห็นทางช้างเผือกในคืนวันเพ็ญขณะที่ดวงจันทร์ถูกเงาโลกบดบังทั้งดวงอีกด้วย

ดร.ศรัณย์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ นอกจากคนไทยจะได้ชมปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงแล้ว ยังมีอีกปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน คือ ข

ณะที่ดวงจันทร์เคลื่อนที่เข้าไปในเงาของโลกเกือบเต็มดวงนั้น ดวงจันทร์ยังเคลื่อนที่ไปบังดาวฤกษ์ที่ชื่อว่า 51 Ophiuchi(โอฟีอุชชี) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์สีขาวที่อยู่นอกระบบสุริยะ และมีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์มาก แต่อยู่ไกลจากโลกมากถึง 446.35 ปีแสง อีกด้วย ทั้งนี้เราจะมองเห็นดาวฤกษ์ 51 โอฟีอุชชี เริ่มหายเข้าไปหลังดวงจันทร์สีแดงอิฐในเวลาประมาณ 02.08 น. (เวลาที่จังหวัดเชียงใหม่) และจะโผล่พ้นดวงจันทร์ออกมาในเวลาประมาณ 02.12 น.

สำหรับผู้ที่พลาดชมสำหรับจันทรุปราคาในคืนวันที่ 15 มิ.ย.นี้ สามารถรอชมได้อีกครั้งในวันที่ 10 ธ.ค.54 ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ดาราศาสตร์ส่งท้ายปี

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 มิ.ย.54 สดร.ร่วมกับเครือข่ายทางดาราศาสตร์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา และสงขลา ตั้งจุดสังเกตปรากฎการณ์ดังกล่าวที่จ. เชียงใหม่ จ.ฉะเชิงเทราและจ.สงขลา โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีความยาวโฟกัสกว่า 800 มม. และจะถ่ายทอดสดภาพปรากฏการณ์ฯ จากทั้งสามแห่ง ผ่านเว็บไซต์ของสถาบัน ที่ //www.narit.or.th