เปอโยต์เปิดแนวรุกตลาดซับคอม
แพกต์ หรือ B-Segment ครั้งใหม่ ส่งรหัส 208 เข้ามาขายแทนรุ่น 207
ด้วยมิติตัวถังที่ขยายใหญ่ขึ้น แต่น้ำหนักตัวลดลง
โดยรุ่นเบาสุดมีน้ำหนักไม่ถึง 1 ตัน
แม้จะมีการเปิดเผยภาพออกมาแล้ว
แต่ข่าวยืนยันว่าการเปิดตัวของ 208 ซึ่งเป็นตัวแทนของ 207
ที่วางขายมาตั้งแต่ปี 2006 จะมีขึ้นที่งานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2012
โดยตัวรถได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังแบบใหม่ที่เรียกว่า Platform 1
และจะมีการนำไปต่อยอดพัฒนารถยนต์ในเครือ PSA อย่างซีตรอง C2 ด้วย
|
ไฮไลต์เด่นของตัวรถคือ
การลดโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าและด้านหลังของตัวรถจากรุ่น 207 อีก 6 และ 1
เซ็นติเมตร ตามลำดับ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมือง
พร้อมกับมีการลดน้ำหนักเพื่อตอบสนองในด้านสมรรถนะการขับเคลื่อน
และความประหยัดน้ำมัน
โดยมีการเปลี่ยนวัสดุบางจุดของตัวรถ เช่น
การใช้ปีกช่วงล่างหน้าที่ผลิตจากอะลูมิเนียม
การใช้ระบบเลเซอร์เชื่อมกับตัวถัง ซึ่งช่วยในแง่ของการลดการใช้ชิ้นส่วน
และการใช้เหล็กกล้าที่มีความเหนียวและความทนทานสูง แต่มีน้ำหนักเบาอย่าง
VHSS and UHSS (Very High Strength Steel and Ultra High Strength Steel)
ผลคือ 208 มีน้ำหนักเบากว่า 207 อยู่ 110 กิโลเมตร
โดยในรุ่นที่มีน้ำหนักน้อยสุดมีตัวเลขอยู่ที่ 975 กิโลกรัม เท่านั้นเอง
|
|
สำหรับงานออกแบบถูกลอกแบบมาจากรถยนต์แบบรุ่น S1
ที่เปอโยต์นำจัดแสดงเมื่อ 2 ปีที่แล้วในวาระของการเฉลิมฉลองครบรอบ 200
ปีของการก่อตั้งบริษัท พร้อมตัวถังทรงแฮทช์แบ็ก 3 และ 5
ประตูที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ Cd 0.29
และตัวรถมีความยาวในระดับ 3,960 มิลลิเมตร
ทางเลือกของเครื่องยนต์มีหลากหลายทั้งเบนซินและเทอร์โบดีเซล โดย
แบบแรกมีให้เลือกถึง 5 รุ่น ประกอบด้วยเครื่องยนต์ 1000 ซีซี 95 แรงม้า,
1200 ซีซี 82 แรงม้า, 1400 ซีซี 95 แรงม้า และ 1600 ซีซี มีให้เลือก 2
แบบคือธรรมดา 120 แรงม้า และเทอร์โบ 156 แรงม้า ซึ่งใช้เกียร์ธรรมดา 6
จังหวะ ส่วนที่เหลือเป็นแบบธรรมดา 5 จังหวะ
|
ส่วนรุ่นเทอร์โบดีเซลมีทั้ง 1400 ซีซี 68 แรงม้า, 1600 ซีซี
92 แรงม้า ทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 หรือ 6 จังหวะ และรุ่น 1600 ซีซี 115
แรงม้า โดยรุ่น 1400 ซีซี นอกจากจะมีเครื่องยนต์ธรรมดาแล้ว ยังมีเวอร์ชัน
e-HDi
แบบติดตั้งระบบดับและสตาร์ทเครื่องยนต์อัตโนมัติเวลาจอดติดอยู่กับที่ทำตลาด
ด้วย ส่วนรุ่น 1600 ซีซี
ไม่ว่าจะมีกำลังเท่าไรจะติดตั้งระบบนี้มาให้ด้วยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
การทำตลาดจะมีขึ้นในยุโรปช่วงกลางปีนี้ ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผย สำหรับบ้านเราต้องรอลุ้นต่อไปว่าจะมีขายหรือไม่
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [
