"เชียงคาน" ... เมืองงามแห่งความทรงจำ
(สายน้ำแห่งชีวิต)
ประมาณสี่โมงเย็นที่เชียงคาน ตอนนั้นไม่เหลือบรรยกาศครึ้ม ๆ อีกต่อไป เราจึงได้เห็นเชียงคาน ชัด ๆ ด้วยตาตนเอง ...เราได้ลองลงไปเดินเล่นที่ ท่าน้ำโขง ซึ่งที่นี่ได้มีการก่อสร้างบันไดคอนกรีตขนาดใหญ่เอาไว้ ทำให้เราสามารถเดินลงไปสัมผัสกับแม่น้ำโขงได้อย่างสะดวกสบาย และนี่ก็เป็นครั้งแรก กับการเดินลงไปสัมผัสกับแม่น้ำโขงแบบใกล้ชิดขนาดนั้น...
จากข้อมูลได้กล่าวว่า แม่น้ำโขง คือหนึ่งในแม่น้ำสำคัญสายใหญ่ ที่มีความยาวประมาณ ๔,๙๐๐ กิโลเมตร ยาวเป็นอันดับ ๑๐ ของโลก มีอายุทางธรณีวิทยาไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปี มีต้นน้ำอยู่บนภูเขาจี้ฟู ส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยบนที่ราบสูงทิเบต ไหลผ่าน ๖ ประเทศ คือ จีน พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ก่อนออกสู่ทะเลจีนใต้
ด้วยความยาวของแม่น้ำโขง ที่ไหลผ่านภูมิประเทศที่แตกต่างกันออกไปทำให้แม่น้ำโขงมีความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติ พันธุ์พืช พันธุ์ปลา และมีความหลากหลายของวิถีชีวิตของผู้คนกว่า ๑๐๐ ชนเผ่า รวมประชากรแล้วไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านคน และยังเป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เช่นเมืองหลวงพระบาง นครวัดนครธม แหล่งอารยธรรมบ้านเชียง แหล่งโบราณคดีเชียงแสน และย่อมหมายรวมไปถึงเมือง เชียงคาน หนึ่งในเมืองโบราณอีกแห่งหนึ่ง ในแถบลุ่มแม่น้ำโขงตอนกลางแห่งนี้เช่นกัน
แม่น้ำโขงสี เหลืองทอง อันกว้างใหญ่ คือภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ในขณะเรากำลังค่อย ๆ เดินลงไปสัมผัสแม่น้ำโขงที่เบื้องล่างเรารู้สึกได้ถึงความหวั่นเกรงในใจของเราที่มีต่อแม่น้ำนั่น อาจเป็นเพราะเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับแม่น้ำโขงที่เรารับรู้มาก่อนหน้านี้ ที่อาจทำให้เราเกิดความรู้สึกอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่แม่น้ำโขงก็ไม่ได้พูดจาอะไรกับเรา จนเมื่อเราได้เดินลงไปถึงเบื้องล่างนั่นเอง ความรู้สึกต่าง ๆ ที่เรามีต่อแม่น้ำโขงจึงได้เปลี่ยนไป
สองฟากฝั่งแม่น้ำโขงช่างดูกว้างใหญ่ทำให้มองเห็นอีกฟากฝั่งอยู่ไกลลิบตา แม่น้ำโขงที่ยิ่งใหญ่แต่จริงๆ แล้วไหลเชี่ยวอย่างเงียบงัน โดยเฉพาะทางฝั่งของเชียงคานที่แม่น้ำจะไหล เชี่ยว และ ลึก เป็นพิเศษอันเนื่องจากเป็นส่วนของ คุ้งน้ำด้านนอก ... นี่จึงเป็นสาเหตุให้ริมแม่น้ำโขงฝั่งเชียงคานไม่เหมาะแก่การลงไปเล่นน้ำเอาเสียเลยโดยเฉพาะช่วงฤดูน้ำหลาก จะมีก็แต่ภาพของเรือประมงพื้นบ้าน ที่สามารถลอยลำหาปลาอยู่กลางลำน้ำได้อย่างเป็นปกตินั่นเอง
ถึงแม้ริมโขงฝั่งเชียงคานจะค่อนข้างเชี่ยวและลึก แต่จริง ๆ แล้วแม่น้ำโขงมีความสำคัญกับชาวเชียงคานมากไปกว่าเรื่องเล่นสนุกแค่นั้น นั่นก็เพราะริมฝั่ง น้ำลึก จะมีความเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการทำการประมงน้ำจืด ไม่ว่าจะเป็นการทำการประมงตามธรรมชาติหรือการสร้าง กระชัง สำหรับการเลี้ยงปลาริมฝั่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งอาหารโปรตีนที่สำคัญในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องชาวไทยและชาวลาว ทั้งสองฟากฝั่ง ... นี่ยังไม่รวมถึงการเป็นพื้นที่ๆ เหมาะแก่การ ปลูกผัก อันเนื่องจากบนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ริมตลิ่งที่ได้ถูกสะสมปุ๋ยในดินไว้เองตามฤดูกาลแห่งธรรมชาติ อาชีพการปลูกผักสวนครัวที่ริมฝั่งโขงนั้น จึงเป็นอาชีพที่ชาวเชียงคาน ทำต่อเนื่องกันมานานตั้งแต่ยุคโบร่ำโบราณเลยทีเดียว
ชาวเชียงคานเองจึงได้มีความผูกพันธ์กับแม่น้ำโขงอยู่ในระดับของ จิตวิญญาน ... สิ่งเหล่านี้สะท้อนออกมาได้จากความเชื่อต่าง ๆ ที่ชาวเชียงคานมีต่อแม่น้ำโขง ไม่ว่าจะเป็นตำนานโบราณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกำเนิดของแม่น้ำโขง อีกทั้งความเชื่ออย่างลึกซึ้งของเรื่อง พญานาค ที่ฝังลึกอยู่กับชาวเชียงคานอย่างไม่มีวันจากไปไหน สิ่งเหล่านี้สะท้อนออกมาจาก ทัศนคติ ของชาวเชียงคานอยู่บ่อย ๆ ในหลาย ๆ โอกาสที่เราได้ทำการสนทนากับพวกเขา...