ขนมจีน @ พัทลุง
กลับบ้านที่ไรต้องแวะไปกินขนมจีนทุกเช้า ... อยู่ กทม. หากินเหมือนที่บ้านยาก วันนั้น 26/07/2010 ที่ผ่านมากลับบ้านเลยได้กินขนมจีนแต่เช้า ... แถมด้วยก่อนกลับ กทม. ก็แวะไปกินก่อนออกเดินทาง คราวนี้เลยถ่ายรูปเอาไว้ เผื่ออยากกินมาก ๆ นั่งดูรูปแล้วอาจจะหายอยาก 555+ เริ่มต้นด้วยสาระพัดผักเหนาะ ผักดองเป็นของโปรดที่สุดในถาดนี้ อย่างอื่นก็กินได้บ้าง ถาดต่อมาเป็นผักใบ อันนี้ผักกาดต้นเล็ก ๆ อร่อย และสดมากกกกก ผักอื่น ๆ มีทั้งรู้จัก และไม่รู้จัก และกินและไม่กิน ที่กินอีกอย่างนึงก็คือ ใบหัวครก หรือว่าภาษากลางคือ ใบมะม่วงหินมพานต์ ส่วนของยอดอ่อน ๆ มัน กินแล้วฝาด ๆ อร่อยไปอีกแบบผักอันนี้เอามาให้ดูเล่น ๆ แปลกดี กินได้ทั้งใบ และดอก(ตูม) ในรูป และดอกบาน แต่เค้าคงไม่ทันรอให้บาน อาจจะตูม ๆ อร่อยกว่า เหมือนคุ้น ๆ ว่าจะชื่อต้นโดน รึเปล่า หรือว่าใครหลอกบอกให้จำชื่อนี้ก็ไม่รู้ต่อมาเป็นกฐิน หรือว่าสะตอเบา (ภาษาบ้านอิช้าน) มีบริการแกะให้เรียบร้อย สะดวกคนกินมาถึงส่วนของน้ำแกง หรือ น้ำยา หัวใจหลักของขนมจีน ถ้าไม่มีน้ำยาก็นะ ไม่อร่อยนั่นเอง หน้าร้านจะมีหม้อน้ำแกงหลายอย่างวางเรียงรายเอาไว้ ให้ลูกค้าตักเอง คุณยายคนขายก็ใจดี นี่อาจจะเป็นจุดขายอย่างนึงของร้านนี้ นอกจากผักไม่อั้นแล้ว น้ำแกงยังไม่อั้นด้วย อันนี้เป็นแกงเขียวหวาน และแกงไตปลา มีไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่กินน้ำแกงดั้งเดิมไม่ได้ จะบอกว่ามากินทีไรไม่เคยกินสองน้ำแกงนี้เลย ต่อมาเป็นน้ำแกงกะทิ ส่วนใหญ่ที่ตรังจะทำกัน มีร้านนึงที่ตรังอร่อยมากกินมันตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่รู้ตอนนี้มีขายอีกรึเปล่า ถ้ามีขาย และมีโอกาสไปกินจะเก็บภาพมาฝาก แต่ร้านนี้ไม่เคยกินเลยบอกไม่ได้ว่าอร่อยรึเปล่า ไว้กลับบ้านอีกทีละลองชิมดูส่วน 2 อันนี้เป็นน้ำแกงที่กินคู่กัน อันนึงแผ็ด อีกอันนึงจะหวานน้ำพริก หรือ ภาษาใต้บ้านเราเรียกว่าน้ำแกงยำ รสชาติจะออกหวาน ๆ สำหรับเด็ก ๆ ที่ยังกินเผ็ดไม่ได้ก็จะกินแต่น้ำแกงอันนี้เป็นน้ำแกง .... โปรดดดดด ต้องตัดใส ๆ ข้างบนด้วย เพราะว่าจะเผ็ดน้อยกว่า และสำหรับเราอร่อยกว่า ถึงใครจะว่ามีแค่รถเผ็ดอย่างเดียวก็เถอะ กทม. จะเรียกว่า แกงป่า แต่บ้านเราเรียก น้ำแกงเผ็ด ...กินขนมจีนมาตั้งแต่เล็ก ๆ จำได้ว่าตอนนั้นชามละ 3 บาท แถมยังสามารถกินครึ่งนึงได้ บาทเดียว แต่ตอนนี้ปาเข้าไปจานละ 15 บาทแล้วววว แต่ก็ยังกิน แล้วกินแต่ละครั้งไม่ใช่จานเดียวนะค่ะ สองจานขึ้นไปครับ
โอ...........น้ำลายหยด