Group Blog
All Blog
|
ทงคัตสึเซ็ต  วันนี้ชวนมาทำหมูทอดญี่ปุ่นกันค่ะ ไปกินที่ร้านก็แพงจังเลย ทำเองดีกว่าเนอะ ทำกินเองก็ง่าย ราคาก็ไม่แพง วันนี้มาพร้อมกับวิธีทอดหมูชิ้นหนาๆ ให้สุกถึงเนื้อใน โดยที่ไม่ทำให้ภายนอกไหม้ด้วยค่า  อันดับแรก เราก็ต้องมีเนื้อหมูก่อน ชิมิ เราชอบหมูของ Top จัง ไม่มีกลิ่นสาปหมูเลย ไม่รู้ว่าแต่ละสาขาจะเหมือนกันหรือเปล่านะ  ต่อไปก็ เกล็ดขนมปัง ไข่ และ ผงโกกิ (เล่นง่ายเนอะ ผงโกกิเลย อิอิ)  ต่อไปก็เครื่องเคียงชิ้นสำคัญ น้องกะหล่ำปลี นั่นเองงงง  นำคุณเธอไปหั่นซะ ชั๊บ ชั๊บ ชั๊บ แนะนำให้หั่นได้ 1 มิลลิเมตรได้ยิ่งดี (อ้างอิงจากการ์ตูนทำอาหารโลดดด) แต่ข้าน้อยมิสามารถเจ้าค่ะ ฝีมือไม่ถึง -*-  หลังจากนั้นก็นำเธอไปล้างกายล้างใจให้สะอาดด แล้วก็นำไปแช่น้ำเย็นเจี๊ยบๆ ให้เธอกรอบกรุบ สดชื่น  จากนั้นก็นำน้องหมูทั้งสองชิ้น ไม่ต้องไปแล่เค้านะ ชิ้นหนาๆงี้อ่ะดีแล้ว นำเธอทั้งสองมาทำความสะอาด แล้วก็ใส่ซอสปรุงรสลงไปจึ๋งนึง  โรยพริกไทย เพิ่มความหอมอีกน้อยนึง  คลุกเคล้าเธอทั้งสองให้เข้ากัน และปล่อยเธอนอนรอสัก 5 นาที (มีเศษกะหล่ำปลีติดมาด้วยแฮะ มองๆข้ามไปซะนะ อิอิ)  นำน้องหมูไปประแป้งซะหน่อย  ชุบไข่อีกนิด  ตามด้วย ชุบเกล็ดขนมปัง ถ้าชอบแป้งหนาๆ ก็นำกลับไปเริ่มจากชุบแป้งอีกรอบนะคะ  พร้อมจะทอดกันแล้วววว  จากนั้นก็เตรียมน้ำมันไว้ให้เดือดๆนะคะ คือว่ามีเศษไข่ลอยอยู่ด้วยอ่ะ คุณน้องที่เคารพเธอเกิดอยากหิวอยากกินข้าวไข่ข้นขึ้นมา เลยทำให้กินก่อนมาทอดหมู เราก็แบบว่านะ หิวจัดแล้ว หน้ามืด ไม่ล้งไม่ล้างแล้วล่ะ ทอดเลยละกัน -*-  พอเดือดจัดได้ที่ ก็หย่อนน้องหมูลงไปเล้ย  ต่อจากนี้จะเป็นเคล็ดลับทอดหมูชิ้นหนาๆให้ด้านในสุกได้ที่ แต่ด้านนอกไม่ไหม้นะคะ ทอดไฟแรงด้านละ 10 วินาทีพอนะคะ ให้แป้งด้านนอกสุก ไม่อมน้ำมัน แล้วก็เอาขึ้นมาพักไว้ก่อน จากนั้นก็หรี่ไฟอ่อนๆเลย หรือจะใช้สองกระทะก็ได้ จากนั้นก็ทอดไฟอ่อน ด้านละ 5 นาที เพื่อให้หมูด้านในสุกค่ะ และเมื่อจะนำขึ้น(ไม่มีรูปนะ แบบว่าถ้าจับหมูไปถ่ายไป มันจะหล่นเอา น้ำมันจะกระเด็น) ให้คีบหมูเป็นแนวตั้ง เอาตรงปลายจุ่มลงไปในน้ำมัน เพื่อให้น้ำมันส่วนเกินวิ่งลงไปค่ะ จะได้ไม่อมน้ำมันไงล่ะคะ (เคล็ดลับนี้ได้มาจากการ์ตูนทำอาหาร จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไรล่ะ แต่ทำแล้วได้ผลจริง)  ได้น้องหมูมาสองชิ้น เหลืองอร่ามเลยค่า  ด้านในสุกแน่ สุกแท้จริง  ต่อไปก็ทำน้ำราดกะหล่ำปลีกัน วิธีทำจากบล๊อกนะคะ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=rita-bunny&month=28-02-2009&group=13&gblog=3 และเมื่อจะนำมาราดกะหล่ำปลี เราก็ใส่น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลลงไปหน่อย ได้รสชาติคล้ายกับที่ไปกินที่ร้านเลย  ทำชาเขียวเย็นไว้รอท่าเลยยยย  ได้ชาผงยี่ห้อนี้มาจากร้านขายของในเน็ตที่รู้จักกันน่ะ เลยได้ลดราคามาอีกนิด 200 กว่าบาทเอง ทำชาเขียวเย็นก็ง่าย แค่ใส่ผงชาลงในน้ำเย็น คนๆๆให้เข้ากัน แล้วก็ใส่น้ำแข็ง เสร็จล่ะ รสชาติเหมือนชาเขียวของ โอโตยะ เลยล่ะ  เสร็จล่ะ เตรียมพร้อมหม่ำได้ *** กะหล่ำปลี เราเอาจิ้มในน้ำซุปสีดำๆเอาน่ะค่ะ ไม่ได้ราดลงไปเลย น้ำซุปได้ติดผักกะหล่ำมาเยอะๆดี ชอบๆ หวานๆเปรี้ยวๆ เย็นๆ ชื่นจาย แถมผักกรอบกรุบด้วย  แต่เดี๋ยวก่อนเราจะหม่ำได้ยังไง ถ้าน้ำจิ้มยังไม่พร้อม ดังนั้นเรามาตำงากันเถอะ ตำยังไงก็ไม่ละเอียดเท่าที่ร้าน เพราะเราไม่มีครกบดแบบของเค้า T^T เลยได้มาเป็นเม็ดๆ ดูละม้ายคล้ายน้ำจิ้มแจ่วยังไงชอบกล  พร้อมจะหม่ำกันจริงๆล่ะค่ะ ข้าวเราใช้ข้าวกล้องหอมมะลิ+ข้าวหอมมะลินะคะ ใช้เป็นข้าวใหม่อร่อยดี คุณน้องที่มาช่วยเฝ้าร้านเธอเอามาฝากจากร้อยเอ็ดเลยทีเดียว ข้าวกล้องหอมมะลิเนี่ย อีกมุมๆ ลากันด้วยภาพนี้ละกันค่า หม่ำกันให้อร่อยนะค้าาา จุฟๆ ขอตัวไปขายยาต่อล่ะ งิงิ
ขอหม่ำด้วยคนคร้า ทานให้อร่อยนะคร้า เย้
 โดย: ปาร์ (prettypar
 ) วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:56:19 น.ขอเก็บเคล็ดลับไว้ไปทำบ้างนะคะ
เพราะปกติชอบทานของทอดค่ะ อิอิ โดย: ซามอ
วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:44:10 น.ง่ะ หิวเลยอ่ะค่ะ เหอๆๆ
ต้องรีบกลับบ้านหาไรทานบ้างแระ อิอิ โดย: ta (tookta_tt
) วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:08:04 น. |
Rita_Bunny
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?] ในโลกที่สับสนวุ่นวาย ใครกันที่ถูกพิษรัก ในห้วงทะเลที่กว้างใหญ่ ใครกันดื่มยาแห่งความรักจนหมด ฟ้าไร้ขอบเขตและผืนดินไม่สิ้นสุดกลายเป็นความว่างเปล่า 
โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ |
||||||||||||
