No. 396 วันฝนพรำ @ ป่าทึบ จันทบุรี
บล๊อกประจำวัน จันทร์ / ศุกร์ แรกเริ่มเดิมที ผมถูกย้ายไปอยู่ ระยองฮิ... ทำได้เกือบสองปี นายใหญ่เขา เลยให้ดูสาขาจันทบุรีเพิ่ม อีกสาขา เฮ้อ สงสัยจะให้ผมตายไปเลย ระยะนั้นบริษัทมีสาขา 60 กว่าสาขาเยอะ คงจะหาคนทำงานยาก เลยโยนงานให้ทำเพิ่ม นายเขามองการณ์ไกล.. คงจะมองเห็นว่าน่าจะ ซื้อที่ดินไว้.เลย
จับจองที่ดินไว้เยอะ 1200 กว่าไร่ คือส่งคนไปกว้านซื้อที่ดินว่าง เปล่า มีแต่ สค.1 บภท มั่ง สทก. ใบเหยียบย่ำ คือเป็นป่าเสื่อมโทรม ชาวบ้านคงจะไม่มีกำลังแรง กำลังเงินปลูกไม้ผล เลยขายให้ราคาย่อมเยาหน่อย...ระยะนั้นรอบ ๆ ที่ดินเป็นป่าใหญ่ ติดต่อ กับเขาสุกิม เขาสอยดาว เขาคิชกูฏ มีถนนดินลูกรัง หรือไม่ก็ทางเกวียน คนเป็นใข้ป่า เยอะ ส่วนสัตว์ป่า มีนะครับ เจอเก้ง หมูป่า กระต่าย
พอถึงเวลาผมก็นำเงินไป ยื่นเสียภาษีที่ดิน ที่อ.ท่าใหม่ เขาเรียกว่า ค่าเหยียบย่ำ หญ้ามันตาย ได้ ใบเสร็จมาต้องเก็บไว้ให้ดี. จะได้เป็นหลักฐาน ขอออก นส.3 หรือโฉนดภายหลัง
ส่วนงานประจำผมก็ ประกันภัย ก็หาคนมาร่วมทำงาน มองว่าคนไหนน่า จะขายเก่ง พูดเก่งแต่พูดน้อย มีคนนับถือเยอะ ๆ มาทำงานด้วย.ให้เขาขายแทน ตัวตูนเอง คนต่างถิ่น ไม่มีคนเชื่อถือหรอก อีกหน้าที่ก็ส่งข้าว ปลากระป๋อง ปลาเค็ม ปลาร้าแบบอิสาณ อาหารอื่น ยา เงิน เข้าไร่ ให้คนงานในไร่ ใส่รถจิ๊ปไป พวกข้าวสารเหนียวไปครั้งละ 2 กระสอบ หนักมาก
ก่อนวันเงินเดือนออก นายจะโอนเงินมาให้ ผมต้องแลกเงินสดใบเล็ก ๆ จากธนาคาร ไปจ่ายให้คนงาน 60 กว่าคน ไร่อยู่ในป่าลึก ทางเข้าแถวหนองคล้าโต้โล้ง หน้าฝน ฝนตกหนักสดวกต้องขี่มอไซค์ พยายามไปให้ใกล้ที่สุด เจอน้ำ ป่ามาก็ หมกรถไว้ในพงหญ้า เดินลุยลำห้วยชูถุงเงินกับของใช้ส่วนตัวไว้ บนหัว เดิน แล้วก็ เดิน ไปนานมาก รองเท้านี้เฉอะแฉะ เดินดังโฉก เฉก น้ำมันเข้า ถอดรองเท้ามาดูนิ้วเหี่ยวซีดขาว.
ถ้าคันตรงไหน แก้ผ้ามาดู ทากตัวดำเขียวยาว กัดเจาะกินเลือด หยะ แหยงที่สุด ต้องใช้นิ้วจิกตรงกลางตัวทาก ดึงสลัดไปไกล ๆ เลือดไหล เป็นทางเล็ก ๆ เผลอ ๆ บนหนังหัวที่ใส่หมวก ยังมีทากอยู่เลย ทำไมทาก มันหัวสูงจังเนาะ กินข้างล่างไม่พอ.
ฝนตกแฉ่ ๆ ไม่หยุดย่ำป่าไปนาน พอพ้นเนินดิน มองลงไปข้างล่าง เห็น ที่ดินถูกถางเป็นหย่อม ๆ ควันไฟลอยอ้อยอิ่งหลายจุด มีเพิงพักปลูก หลายหลัง เป็นกระท่อมคนงาน ปลูก ห่าง ๆ กันไป ส่วนบ้านหลังใหญ่อยู่บนเนินข้างลำห้วยที่มีน้ำสีแดงเหลือง ไหลตลอดเวลา ก็เป็นบ้านพักของ ผจก.ไร่ ที่ทำการ โก้ซะ... ตัวบ้านพักโย้เย้ ปลูกหยาบมาก จริง ๆ ฝาเป็นไผ่สับฟาก พื้นไม้จริง เลื่อยหยาบ ๆ เวลานั่งเจ็บก้นที่สุด หลังคาหญ้าคาเย็นสบาย
บ้านที่ว่าเป็น ของ อีตา ผจก.วิโรจน์ที่โสดสนิท ยังหาเมียไม่ได้ คงเฝ้าหมองคนงาน สาว ๆ ดูมั่งแหละ ข้างล่างนี่เพื่อน ๆ กันนะครับ ลักษณะคล้ายกับ อีตา.ผจก.ไร่ แต่ข้างล่างนี้ เป็น ผจก.ไร่ 1000 กว่าไร่ที่ เมืองกาญจน์เหมือนกัน ตัวอีตา ผจก.วิโรจน์ คนนี้ผอมดำกว่าคนข้างบน ผมหยิก ขาโกง พุงป่อง เหมือนป่วยเป็นมาลาเรีย ชอบใส่กางเกงผ้าเวสป้อย สวมหมวกปีกกว้าง
เวลาอยู่ใกล้ต้องสูดอากาศใกล้ตัวเข้าไปเยอะ ๆ ก็สูดกลิ่นตัวแกนะ แหละ จะได้ชินกลิ่น เหมือนอยู่กับคนกรีดยางพารา ที่ใช้เสื้อผ้า ติดยางซ้ำ ๆ เป็น แหะ ๆ ครึ่งเดือนไม่เคยซัก ยังงั้นเลย. เคยถามว่าเหม็นอะไรหรือเปล่า อี่ตานี่บอกว่า ไม่เห็นเหม็นอะไร คุณตูนลองดมดูซิ ว่าแล้วยก จักกะแร้ให้ดม ดูมันทุเรศมาก อยากจะอ๊วก. แต่ยามใดอยู่ว่าง ก็ว่างทั้งวันแหละ ฝนตกพรำ ๆ หนาว นั่งกินเหล้าให้ม้นอบอุ่น กลิ่นต่าง ๆ ก็หายเหม็นไปเอง เมาหรือเปล่า ไม่เมาหรอก คอแข็งทั้งคู่ กับแกล้มก็มี จิ้งหรีดตัวเป้งแมงอินูน ตั๊กแตน แมงกระชอนคั่วเกลือเค็มนิด ๆ เนื้อวัวย่างแห้งฉีกเป็นเส้น ๆ ไม่รู้เนื้อม้าหรือเปล่า เค็ม ๆ เหม็น ตึ๊ ๆ บางวันเก็บไว้ไม่มีแดดตาก เนื้อเขียวนิดหน่อยโอเค พอทอดแล้ว อร่อยเคี้ยวเนื้อวันหวาน หอมตุ ๆ 555 ไม่มีอะไรกินกับแกล้ม เก็บลูกตะลิงปิงข้างบ้านพัก ก็ กระต๊อบโย้เย้นั่นแหละ กัดกิน หลังกรึบ เปรี้ยวสุดยอด อุ้ย .. น้ำลายไหล
เหล้าที่ดื่ม อีตาผจก. หมักต้มเอง เวลากรึ๊บเข้าไปคุณเอ้ย ใส้ กี่ขด ๆ รู้หมด มันไหล คดเคี้ยวไปมา แต่ก็แปลกอย่าง ท้องไม่เสียสงสัย เหล้าจะไปฆ่าเชื้อหมด เนื้อที่พันกว่าไร่ จำเป็นต้องมีคนงาน ขุด ถาง เผา ป่ามาก เถาวัลย์ ที่พันไปมา ต้นไม้ขนาดโคนขาเยอะแต่ใช้ไม่ค่อยได้...เป็นไม้เนื้ออ่อน อิ อิ แต่แทะไม่เข้านะ ต้นไม้ที่ว่่าตัดไม่ค่อยยาก แต่ถ้าเจอ โคนต้นไม้เก่าที่ถูก ตัดส่วนบนออกไป เป็นไม้ใหญ่ ๆ อยู่เยอะ ขุดยาก ลึก กินแรง มีทางเดียวคือ เผาตอไม้ เลยต้องจัดหา คนงานให้พอ ไม่เช่นนั้น รถแทรกเตอร์ไถไม่ได้ ผานจะแตก
ผมมีหน้าที่ ต้องขับรถไปดักหาคนงาน ที่สถานีขนส่งระยอง ฮิ รถที่ใช้เป็นจิ๊บวิลลี่ สีขาวคันเดิม แต่สกปรกที่สุด เพื่อความโก้ คนงานจะได้ เชือถือ จัดการเอาหมวกสักกะหลาดปีกใหญ่ ใส่กับแว่นตากันแดด เรย์แบน
นั่งเต๊ะจุ้ย ข้างรถคอยมองคน เห็นคนหิ้วของพะลุงพะลัง เฮ้ย.... น้องไปทำงานไร่เปล่า คนถูกถามหน้าเหี่ยว ผมฟูอายุ 40 ขึ้นไป ส่วนตัวตูนเอง 555 ยังไม่ถึง 30 ปี ตอนนั้น ผอม..มาก ๆ ภาพตอนปีนั้นนะครับ ค่าจ้างจั๊กบาทนาย มีข้าว มีปลาแดกกินบ๋อ บอกค่าจ้าง ... บาทจ่ายเดือนละครั้ง เบิกข้าว อาหารไปก่อน แล้วค่อยหักจากเงินเดือนเอาปะ ส่วนใหญ่เอาทั้งนั้นแหละครับ จัดการต้อน รุนขึ้นรถ ที่เตรียมไว้ เที่ยว ๆ หนึ่ง 15 คน มีที่ยืนเกาะเหล็กกั้นแบบ แหะ ๆ แบบขนหมูไป
รถคนงาน ขับผ่าน เชิงเนิน ชากกะพง ตลาดทางเกวียนก็ เดี๋ยวนี้เรียกว่า อ.แกลงนะแหละ ไม่นานผ่าน นายายอาม เขตอ.ท่าใหม่ เลี้ยว เข้า หนองคล้าโต้โล้งซ้ายมือ. ส่วนผมเองขับล่วงหน้าไปรอที่ลำห้วย น้ำ ไหลเชี่ยว รถไปไม่ได้ เอาไว้รอดูของดี เอ้ย ดูคนงานข้ามน้ำ
รถจอดให้คนงานขนสัมภาระ ขึ้นบ่า ชี้ให้ลุยน้ำไป เพราะทางขาด ผู้ชายกลัวกางเกงเปียก ถอดเหลือแต่ กางเกงใน ผู้หญิงเหรอ ลุยน้ำไม่กลัว ผ้าถุงเปียก ส่วนคนแก่หน่อย กลัวผ้าถุงเปียก ลงน้ำแล้วค่อย ๆ ดึงผ้าถุงให้ลอยเหนือน้ำ เรี่ย ๆ หน่อย พอถึงเอว จัดการดึงผ้าถุงพันหัว ส่วนเสื้อถอดเลย กลัวเปียก ปล่อยให้ฟักแฟงแตงร้านโตงเตงไปตามเรื่อง อายุมันมากแล้วไม่ค่อยอายกันหรอก ถึงเห็นก็ไม่สึกไม่หรอ 555
ส่วนสาว ๆ หน่อยยอมผ้าเปียก มีหรือจะไม่มีคนมองดู ไม่ใช่ผมหรอก ผัวมันนะเอง คอยดูเมียมัน คอยสั่งให้เมียเอากระบุงปิดกลัวคนเห็นของเมีย
พาคนงานเดินไปในป่า ฝนตกพรำ ๆ กระป๋อง หม้อดังป๋องแป๋งไม่ขาด เสียง ล้มลื่น เสียงด่าทอ ยามถูกทาก กัดย้อยไปที่ รูทวารหน้ก ต้องถลกผ้าขึ้นดู กำจัดตัวทากทิ้ง ทางเดินทางรถก็อันเดียวกัน ชื้้นแฉะ มีหยาดฝนตกพรำ ๆ บางครั้ง เจอถนนดีหน่อย แบบข้างล่างนี้ เดินนานมาก ถึงเขตไร่ ต้อนให้คนงานใหม่เข้าพักในเต็นท์ใหญ่ชั่วคราวไปก่อน พื้นเป็นดิน มีไม่ไผ่สับฟากปู คนงานจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้า ตากผ้าเอาหม้อ ข้าวกระบุงแขวน พอตะวันคล้อยต่ำเริ่มมืด จัดการเอาฟืนหุงข้าว กินกับปลาแดกที่ดำ ๆ โรยพริกป่น กินกันง่าย ๆ ไม่ยักบ่นที่ไม่ได้กินข้าวเหนียว.
หลังจากนั้นก็ เอนตัวนอน ตบยุงดังโพละเพละเป็นระยะ ส่วนผมตูน ขึ้นไปนอน ข้างบนออฟฟิศ ที่ดูทุเรศมาก นั่งกินข้าวกับ แหะ ๆ เหล้าแก้ หนาว จนได้ที่ รีบกางมุ้งที่กระดำกระด่าง เหม็นอับ เข้านอนเอาแรงก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน. ไม่นานต้องตกใจตื่น สดุ้งเสียงกรนตนเอง ต้องข่มหลับ ตาใหม่ ความเมื่อยผสมความเมา หลับไปอย่างไม่รู้ตัว... จน.. ตื่นขึ้นมา ออกไปนอกชายคา รอบกายเป็นที่โล่ง มีพุ่มไม้ใบ เปียกฉ่ำด้วยสายฝน ที่ตก พรำมาทั้งคืน ดินสีแดงปนดำชุ่มน้ำ ยอดหญ้าแทงชี้สู่เบื้องบน สวย เสียดาย เมื่อก่อนไม่ค่อยได้ถ่ายภาพไว้ ถึงมีก็ไม่สวย เป็นกล้องฟิล์ม ขนาด 12 ภาพ เลยต้องใช้ภาพ ใหม่แทน แต่รับรองได้ว่า ภาพจากสายตา ยังติดตรึงอยู่ในใจ มิลืมเลือน แบบภาพข้างบนนี้ อีกอย่าง พวกเราชาวกล้อง กลัวกล้องเปียกฝน.. ถ่ายภาพฝนตก ยาก มาก ๆ ด้วย การเดินทางไปทำงาน ไม่ค่อยตื่นเต้น ค่อนข้างลำบาก เสื้อผ้าเปียก มีบางวันเดินทางไป เย็นหน่อย ข้ามลำห้วยไม่ได้ น้ำไหลแรง ลึก มืดสนิท ก็ต้องหาที่นอน ตัดไม้ไผ่ป่า ทำเพิง สุนัขแหงน ใบตองกล้วยป่ามุง กับปูพื้นที่เปียก นอน หิวก็หิว ใช้มีดเปิดปลากระป๋องกิน ยุงกัด ซะแทบตัวลาย ต้องเอาน้ำมันก๊าดที่ติดรถมา ทาตัว ยุงมันเหม็น มั้ง ค่อยดีหน่อย อย่าถาม กย.15 นะครับไม่มีหรอก ที่น่ากลัว คือ ความมืดอยู่ในป่าคนเดียว ไม่สนุกเลย
เพื่อนคงเมื่อยตา แล้วค่อยอ่านต่อก็แล้วกัน อิ อิ คนหนุ่มสาวก็เป็นอย่างนี้ แหละ ส่วนคนอายุไม่มาก แต่ก็ไม่น้อย ขอไปนอนต่อ
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ end visit บล๊อก 532,004 st = งานเขียนประเภท Diarist
Create Date : 29 มิถุนายน 2558 |
|
39 comments |
Last Update : 19 ตุลาคม 2559 21:29:29 น. |
Counter : 3746 Pageviews. |
|
|
|
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
ออกแนว ลุยๆ เลยนะคะ วันนี้