No. 544 บล๊อกประจำวัน จันทร์ - พฤหัสบดี
|
|
ตื่นมาดึงผ้าม่านบังตาดู วิวข้างนอกโรงแรม Park Inn ที่เราพักยังมืด รีบแต่งตัว |
ออกไป ถ่ายภาพยามเช้า ของเมือง St.Petersburg ก่อนคนอื่นหน่อย ไม่ได้อยากเห็น |
แสงแรกเท่าใด เพราะเมืองนี้แสงน้อย อยากเห็น หมอกที่ปกคลุมมากว่า |
ตามประสา คนอยู่ในเมือง
รีบแต่งตัวใส่เสื้อกันหนาว แต่งตัวจะลงไปข้างนอกโรงแรม
|
แต่ กว่าจะเดิน ไปถึง ประตูลิฟท์ นานมาก คือ หลงทิศ ความที่เป็นโรงแรมใหญ่ |
มีคนพักเยอะ ทางเดินมีเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา มีประตูปิดกั้น หลายประตู |
แต่ไม่มีป้ายบอกเลย ได้แต่เดา
|
พอลงไปข้างล่างได้ ออกไปข้างนอกโรงแรม มืดสลัว หนาวมากเกินไป ที่จะยืนถ่ายภาพ |
ต้องหลบเข้าไปข้างใน รอแสง.. รอจนได้เวลาทานอาหารเช้า
|
ยื่นบัตร ที่ประตูเข้าห้องอาหาร ผ่านสะดวก เพราะเข้าถูกที่ แต่แขกหลายกลุ่ม เข้า |
ไม่ได้ เพราะเขาแบ่งแขกไว้ ของผมบัตรสีฟ้า ของอีกกลุ่มเป็นสี เขียว พนง.ผาย |
มือให้ไปอีกปีก ของโรงแรม แขกคนจีนดูหงุดหงิด คำว่า แขกคนจีนอาจจะ งง..ไปหน่อย 555
|
โรงแรมนี้มีแขกพักมากจริง ๆ ห้องที่ผมเข้าไปทานอาหารเช้าน่าจะจุคนได้ |
200 คนได้มั้ง.... อาหารเป็นแบบทั่วไป ค่อนข้างดีกว่าที่ มอสโคว
ภาพนี้ผมใช้ภาพของโฮเต็ลนะครับ ขณะทานอาหารเช้า คนเยอะมากไม่กล้าถ่ายภาพ เกรงใจคนอื่น สวยแบบนี้แหละ..
|
|
ก่อนล้อรถหมุน ไปถ่ายภาพแถวนั้นได้บ้าง แต่ไม่อาจจะถ่ายด้านหลังโรงแรม |
ได้ เพราะมีเวลาน้อย ก่อนไปพัก ได้ดูภาพถ่ายดาวเทียม เป็นทะเลกว้าง
ทะเลที่เมืองนี้อยู่ คือทะเล บอลติค ..เท่าที่ทราบว่า ถ้าใช้ทางเรือ ครึ่ง ชม.ก็ไปถึงแผ่นดินของ ประเทศฟินแลนด์
|
ข้างล่าง เป็นภาพถ่าย ถนนหน้า โรงแรมที่พวกเราพัก ไม่เจอหมอก..เลย
รถของบริษัท ทัวร์พาพวกเรา 18 คนไปตามถนนในเมือง มีทั้งถนนเล็ก บางถนนก็ใหญ่
สังเกต คนเดินจะเอามือซุก ใส่กระเป๋า หนาว..... ครับ
เมืองนี้ มีรถไฟใต้ดิน บนถนนจึงมีรถยนต์ไม่มากนัก ดีมากเลย ชาวบ้านกำลังเดินทางไปทำงาน
อาคารข้างบน น่าจะเป็นบ้านอยู่อาศัย นานมากแล้ว ดูโทรม.. ครั้งเมื่อ พระจักรพรรค์ปีเตอร์ มหาราช ย้ายเมืองหลวงจาก มอสโคว มาอยู่ที่ เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก
กำหนดให้สร้าง อาคารเป็นตึก คอนกรีต ปูน.. แต่วัสดุไม่พอ ให้คนที่อยู่ มอสโคว งดสร้างบ้านเป็นตึก ปูน
และให้ส่งวัสดุปูน ไปใช้ที่ St.Petersburg แทน
ถนนไม่กว้างเท่าใด นึกถึง คนค่อนขอดว่า ถนนช้างม่อยเชียงใหม่ เป็นถนนให้ ช้างเดิน รถวิ่งทางเดียว
แหะ ๆ มีคนอื่นเขาก็สร้าง ตามความคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ รัสเซียสมัยก่อน ใช้ม้า
ผมถ่ายภาพรถเบนซ์ มีสีลอกด้วย ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ.... เหมือนรถกระป๋องในไทย สมัยก่อนเหมือนกัน สีล่อน
แต่ยังไม่เห็น แผ่นทะเบียน ลายตกงา ของไทย เนาะ ไม่มีใครเลียนแบบได้
ผมถ่ายราคาน้ำมันมาให้ดูด้วย ถ้าเทียบเป็นเงินบาท ใช้ 2 หารจะได้ผลใกล้เคียงกัน
สภาพถนน เป็นแบบที่ผมถ่ายมา ไม่เรียบกริ๊บแบบ มอสโคว
ระยะที่ไป เจออากาศหนาวประมาณ 10 องศาเซลเซียส มีฝนประปราย แต่ไม่ตก แฉ่ ๆ แบบไทยนะครับ..
รัสเซียโดยทั่วไป จะมีป่าไม้ มากมาย มีสินค้าส่งออกอันดับหนึ่ง ถ่านหิน แก๊ส น้ำมัน ไม้
จากภาพ อาคารที่อยู่อาศัย ในเมือง เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก กลับเป็น ตึก คอนกรีต ปูน ส่วนใหญ่จะสร้างนานมากแล้ว
หลังจากสหภาพโซเวียต ล่มสลาย กลายเป็น รัสเซีย ที่มีพื้นที่มาก และยังมากที่สุดในโลก
บริษัท ผลิตเครื่องจักร โรงงานต่าง ๆ ต่างก็ปิดกิจการ คนงานตกงาน ไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่ในพื้นที่เดิมไปก่อน ค่อนข้าง
ลำบาก ท่ามกลางความริบหรี่ เกิด
มีกิจการที่ ทำเงินให้แก่รัสเซียไม่ใช่น้อย คือ กิจการป่าไม้ ตัดไม้ส่งขายนอกประเทศ
จึงมีการจ้างแรงงานที่ ปกติแรงงานที่นั่นจะได้ค่าจ้างประมาณ 800 U$ ประมาณ
25,000 บาทต่อเดือน ประชาชนค่อนข้างลำบาก ในการครองชีพที่นั่นสูง
ความที่รัสเซียมีป่าไม้ มากมาย กิจการนี้เลย บูม รุ่งเรืองขึ้นมา จึงมีการจ้าง คนงานตัดไม้
พวกเขา ต้องตัดไม้ในฤดูที่มี หิมะ หนาว เหน็บ สูงเกือบเอว ไปตัด ไม่ใช้ขวานแล้วนะครับ เป็นเลื่อยยนต์ชนิดพิเศษ
มีด้ามจับ ห้อยลง ไม่เหมือนเลื่อยยนต์ตัดไม้ของไทยนะครับ 555
คนได้รับอนุญาตรัสเซีย กับ ไทย เหมือนกัน คือ เวลาโค่นต้นไม้ ย่อมจะต้องมีหิมะ รองรับ มิให้ต้นไม้หัก ฉีกมาก
เหมือนคนไทย ต้องโค่นต้นไม้ ในฤดูฝนที่ดินอ่อนนุ่ม และบางพื้นที่ใช้ เครื่องจักร ตัด เลาะกิ่ง
ผมเคยเข้าไปคลุกคลี การทำไม้ในป่า อ.นครไทย พิษณุโลก ทางลำบาก ไปกินนอนกับเพื่อน ๆ
เห็นคนงานกินอยู่แล้ว สงสาร ได้รับค่าจ้าง ไม่แพงเลย แต่ละคนพุงป่อง จากโรคภัย ใข้ป่า ใข้ป้าง
แต่ที่รัสเซีย ตอนนี้คนงานตัดไม้ได้ค่าแรง 2,000 U$ ต่อเดือน ลองเอา 34 บาทคูนดู เยอะครับ
ทีแรกผมฟังเขาเล่าให้ฟัง ไม่ค่อยเชื่อ แต่เมื่อวานก่อนเขียน ได้ดูสารคดี ตัวเลขตรงกัน
คนรัสเซีย เขาชอบอยู่บ้านไม้ มากกว่า ตึก ปูน เขาบอกว่า อบอุ่น อากาศระบายได้ดีกว่า งั้นผมพาไปดู
อาคารสร้างด้วยไม้ ดีกว่า
อาคารนี้สร้างมานาน ด้วยไม้ อยู่ไม่ไกลจาก แม่นำ NEVA เท่าใด นี่ครับ
ข้างล่างนี่ก็ใช่
แหะ ๆ อย่าเพิ่งคลิ๊กหนีนะครับ เขาทำจำลอง มหาวิหาร เซนต์ไอแซค แรก ๆ สร้างเป็นไม้
เพราะไม้เยอะมาก ดูภาพพื้นที่ ในปัจจุบันก่อน
เรานั่งรถอยู่ฝั่งนี้ มองข้ามแม่น้ำ NEVA เห็นมหาวิหารอยู่ไกลออกไป
นั่งรถข้ามสะพานไป เจออาคารสวย มากมาย
รถเลี้ยวซ้าย ไปใกล้ถนนที่กว้าง เห็นมหาวิหาร เซ็นต์ ไอแซค อยู่ข้างหน้า
ดูไม่ใหญ่.... ฟังเขาเล่าให้ฟังว่า ใช้เวลาสร้าง 40 ปี.. นานมาก เขามีความเชื่อคล้าย คนในประเทศหนึ่ง แหะ ๆ ไม่บอกหรอกว่าที่ไหน
ผู้ริเริ่มสร้าง คือ พระเจ้า อเล็กซานเดอร์ที่ 1
มีคนทำนายว่า ถ้าสร้างเสร็จ ผู้สร้างจะชีวาวาย แต่ถ้าสร้างแล้วจะสวยงาม
และเป็นที่ใคร ๆ ก็อยากจะไปเยือน มิน่าเลยสร้างนาน
แรกทีสร้างด้วยไม้ แบบภาพข้างบน
ภายหลัง ทรงโปรดให้สร้างด้วย หิน ปูน แต่สร้างไม่เสร็จ ก็ทรุด จมดิน
จึงต้องหยุดการก่อสร้าง และ
ให้มีการแข่งขันการออกแบบ ผู้ชนะออกแบบ คือ
ออกุสเต เดอ มอนแฟร์แรนด์ เราเข้าไปข้างในกันก่อน
สังเกต ผนังติดด้วย หินอ่อน มีกระเทาะบ้าง
น้าผู้ชาย คนเดินเก่ง กำลังแหงนดู.. ทำนอง ข้างในมันจะสวย เร้อ..
เข้าไปข้างใน สูงใหญ่ เริ่มสวยแล้ว ข้างใน ห้ามใช้แฟลช แต่เขาให้แสงสว่างสวย
...
...
...
...
...
.../
....
...
.....
...
ต่างคน ต่างแหงนมอง ภาพ สวยเบื้องบน... เขาว่า ภาพเป็นโมเสค ต่อกัน ทนกว่าภาพปูนเปียกหรือสี เรื่องนี้ยัง
ไม่แน่นะครับ ต้องค้นหาความจริงต่อ แต่ยอมรับว่า สวยมาก ๆ
ระหว่างถ่ายภาพ ต้องคอยระวัง คนเดินชน เขามิได้ตั้งใจ คงทำนอง คนบ้านนอก เห็นอะไรงาม ก็ตื่นตลึง
แหงนคอมองแล้ว เดิน 555
ผมใช้กล้องมองมากว่า คือถือกล้องนิ่ง ปรับจอ ก้ม มองดูจอ ไม่ต้องแหงนคอ แต่มุมกล้อง มักจะถูกแย่งที่โดย
คนยืนรอ ใช้พื้นที่..ก็ต้องรีบถ่าย
ออกจากที่นั่น อย่างอิ่มเอม แหะ ๆ แต่หิว.. ไปต่อที่อื่น ท่ามกลางความหนาวเย็น
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
ภายในมหาวิหารอลังการมากๆเลยครับ
ภาพวาดวิจิตรตระการตาจริงๆ
โหวต Diarist ครับ