No. 477 บล๊อกประจำวัน จันทร์ / ศุกร์ |
กิจกรรม บล๊อกแก๊ง สวัสดีปีใหม่ไทย
|
เชียงใหม่ใช่จะมีเพียงฤดูหนาว ที่เย็นยะเยือกนาน จนพวกเราต้องทน |
แหะ ๆ ดมกลิ่นตัวเองที่เหม็นอับเพราะไม่อยากอาบน้ำ
|
ฤดูร้อนก็มีเหมือนจังหวัดอื่น
|
ยามอากาศร้อนเรานั่งมอง ดอกงิ้วสีส้ม ค่อยลอยหมุนติ้ว ลงสู่พื้นดิน |
ใช่แล้วเราต้องเตรียมตัว สอบไล่... ค่อนข้างเครียด ต้องรีบอ่านหนังสือให้เยอะเท่า |
ที่จะอ่านได้ ครูแต่ละวิชา มักจะบอกใบ้ให้อ่านตอนนั้น ตอนนี้
|
|
น้ำในบ่อน้ำทรงกลม บริเวณส่วนหน้าของบ้าน เริ่มลดระดับ แห้งไปมาก จนเราต้อง |
ใช้น้ำให้น้อยลง ส่วนแปลงปลูกเผือก กับต้นหอม แห้งลง |
เราไม่ต้องรดน้ำอีกแล้ว รอให้ใบกับหัวเผือก หัวหอม แห้ง จะได้ขุด เก็บไว้ |
ขายและเก็บไว้ทำอาหาร |
|
น้ำในคูเมืองลดระดับ เทศบาลส่งคนงาน ลงเก็บเศษหญ้าริมคูเมืองขึ้นตาก เตรียม |
ขนไปกำจัด....
ปัญหาตามมาสำหรับคนเชียงใหม่ คือ น้ำแห้งมาก
|
การขาดน้ำเป็นธรรมดา ที่บ้าน ปรับสภาพได้ แม้เราจะใช้น้ำในบ่อ |
การซักผ้าจะต้องใช้เยอะ แม่เลยบอกให้เตรียมเสื้อผ้ามัดโต แล้วปั่น |
จักรยาน ไปซักที่ น้ำตกห้วยแก้ว ห่างไกลจากบ้านหลายกิโลเมตร
|
เราไม่ท้อ กลับสนุก ช่วยกันแช่ผ้าในลำห้วย ใสสะอาด ยกขึ้นมาบนก้อนหิน ใช้สบู่ |
กรดสีน้ำเงินขาว ถู ๆ ขยี้จนเกิดฟอง ผ้าเริ่มขาว นำผ้าที่มีฟองแช่ในน้ำใส ที่ |
ไหล ซักจนสะอาดหมดสบู่ บิดแล้วนำไปตาก บนก้อนหินใหญ่
|
|
แล้วพวกเราก็เล่นน้ำ กินข้าวเหนียว กับเนื้อเค็ม น้ำพริก หนุ่ม ใต้ต้นชมพู่ป่าที่ร่มครึ้ม |
นอนเล่น หลับไปบ้าง รอจนกระทั่งผ้าแห้ง ไม่นานเลย ก้อนหินที่ตากแดด |
อมความร้อนจัดผ้า ครึ่ง ชั่วโมง ก็แห้ง
|
เราจะเก็บผ้าสลัด เศษหิน หญ้าชิ้นเล็ก ให้หลุด แล้วห่อผ้ามัดรวมใส่ท้ายจักรยาน |
กลับบ้านที่ ถนนมูลเมือง อย่างมีความสุข |
แต่ให้บังเอิญ น้า ๆ นักข่าวหนังสือพิมพ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของบ้าน มาเที่ยวที่บ้าน |
พี่ ๆ เขาคุ้นเคยกัน หนึ่งในนั้น นักแต่งเพลง สนิท ศ. ผู้แต่งเพลง วังบัวบาน อยู่ด้วย พวกเขาเห็นว่าพวกเรา |
ช่วยตัวเองยามฤดูแล้ง วันเสาร์ต่อมา เลยตามไปเก็บภาพ การซักผ้า
|
นำภาพลงหนังสือพิมพ์ เป็นตัวอย่าง ว่า ชาวเชียงใหม่ ช่วยตัวเอง มิได้งอมืองอ
|
เท้าให้ราชการช่วยเหลือ
ไวน์เอง เดินยืดได้หลายวันที่ได้ ลงรูปในหนังสือพิมพ์ 555
|
|
ก่อนสงกรานต์ที่แห้ง ร้อน.. เทศบาลในขณะนั้น บังคับ |
ปล่อยน้ำจาก ห้วยแก้วเข้าสู่คูเมือง ผ่านแจ่งหัวริน ไปแจ่งกระต้ำ กับแจ่งอื่น ๆ |
ทั้งสี่แจ่ง (แจ่ง = มุม) ปิดกั้นน้ำมิให้ไหลลงสู่ น้ำแม่ปิง
ครั้งที่เป็นเด็กวัยรุ่น ยังเห็น ร่องน้ำไหลจาก ห้วยแก้วผ่าน หน้า ม.ช. ผ่าน
ตูบคำ ผ่าน กาดสวนแก้วในปัจจุบัน น้ำใสไหลช้า ๆ มีปลาตัวเล็กว่ายไปมา
ลำรางหรือร่องน้ำ กว้างประมาณ เมตร แต่ขุดแต่งลึกหน่อย
|
ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น สูงขึ้น จนปริ่มคูเมือง รอบคูเมืองเริ่มเขียวจากต้นหญ้า |
น้ำแม้จะไม่ใส แต่ก็สะอาด ระดับหนึ่ง แหะ ๆ ใช้คำสมัยใหม่หน่อยนะครับ |
|
เทศบาลเชียงใหม่ เขามองไกล ว่าทั้งเมืองย่อมจะขาดน้ำ แต่มีประเพณีสงกรานต์งดงาม
จึงคงประเพณีไว้ คงมิได้หวังจากนักท่องเที่ยวเท่าใด
ตอนนั้นเขาคงยังไม่ได้คิดจะเก็บภาษีได้เพิ่ม เพราะงบประมาณมาจาก
ส่วนกลาง คือ กรุงเทพ
|
จากการ เล่นน้ำสงกรานต์ เลยกักน้ำไว้ให้ เด็กๆ เล่นรวมทั้งหนุ่ม สาว |
เลยเป็นแหล่งหนึ่งที่ พวกเราเล่นน้ำก่อน จะถึงสงกรานต์ |
เล่นไม่ยาก ใส่แค่กางเกงขาสั้น โดดน้ำเล่น ใช้มือสาด ดันน้ำสู่ตัวเพื่อน แค่นี้ก็ |
สุขเหลือล้ำ |
พอถึงสงกรานต์ พวกเราเด็ก ๆ เช่นน้ำกันตั้งแต่วันที่ 12 ถึงวันที่ 17 ใช้น้ำคลอง |
ตักขึ้นมาสาดกันเล่น
|
ส่วนหนุ่ม ๆ อยากใกล้ชิดสาว ที่ เนื้อคงจะหอม 555 ผิวเนียนก็เตรียม สลุง(ขันใบ |
โตหน่อย แหะ ๆ ใส่น้ำ เหยาะน้ำหอม น้ำอบไทย ลอยดอกมะลิ |
หรือไม่ดอก กุหลาบสีแดง) เดินเที่ยว เจอสาวก็ เดินเข้าใกล้ ส่งยิ้ม |
แล้วใช้ขันเล็ก ตักน้ำพร้อมกลีบกุหลาบ ตักเทใส่บ่าสาว แน่นอนสาวก็รดตอบ |
|
ส่วนไวน์เอง เดินตามพี่ ๆ หนุ่มไป เจอสาวสวย อยากจะรดน้ำใส่บ่าเขาด้วย |
ก็พี่เขาสวยจริง ๆ นี่นา
|
สาว ๆ เขาเห็นไวน์ตัวติ๊ด ผอมกระหร่อง ตักน้ำเตรียมรดน้ำ สาวสวยรีบ แบมือให้ |
สาวเขาถือว่า เด็กขอรดน้ำ เลยแบมือ รับน้ำ จากขันเล็กของไวน์ |
ขอบใจ๋เน่อ บ่าหน่อย(ไอ้น้อง) |
แหม เสียความรู้สึก แป่ว...เลย 555
ช่างไม่รู้ใจเลยนะว่า ปี่สาวครับ ต๋อนนี้ผ๋มเป็นหนุ่มแล้ว ครับ... |
|
พวกเรา จะเล่นน้ำสงกรานต์ในคูเมือง บางวันก็เดินไป ที่สะพานนวรัฐ เดินลง |
ตลิ่งลงไป สู่สายน้ำ มีหาดทรายเป็นตอน ๆ เห็นน้ำก็โผ ลงว่าย แต่ |
ว่ายไม่ได้หรอกครับ น้ำมันตื่นแค่เข่า บางแห่งก็ลึกแค่เอว
|
|
พวกเราจะเล่น สาดน้ำ ใช้ขันตัก ใช้มือดันสาดเข้าใส่เพื่อน ๆ รวมทั้งสาว ๆ |
ที่อายุใล่ ๆ กัน แหะ ๆ ก็ต้องมีบ้างแหละ อายุ 13 กว่าก็รู้ว่า สาวสวยแล้วนี่นา ที |
เด็กสมัยนี้ เขายังมีเมียกันแล้ว |
|
ชาวเชียงใหม่ไม่ค่อยกลัว เรื่องน้ำหมด จากการสาดน้ำ เพราะส่วนใหญ่เล่นน้ำ |
คูเมือง หรือไม่ ก็น้ำแม่ปิง สาดเท่าใด ก็ไม่พ่อง 555 |
ก็น้ำมันก็ตก ลงที่เดิมอยู่แล้ว |
อย่าเพิ่งแหวะนะครับ ก็เรามิได้อมน้ำนี่นา ทีน้ำในสระว่ายน้ำ อยู่ในนั้นเป็นปี มิได้ |
ถ่ายเท ยังไม่แหวะ จริงเปล่าครับ
|
|
ทุกปีแม่จะเตรียมการ นัดหมายกัน รวมตัวไปรดน้ำดำหัว |
คุณตา คุณยาย |
เป็นประจำทุกปี คุณตาคุณยาย จะสั่งให้ลูก ๆ ก็น้า ๆ รวม 11 คนของไวน์ทำความ |
สอาดบ้าน กวาดหยักใย่ จัดบ้านใหม่ ตักน้ำใสตุ่มจนเต็ม |
ส่วนไวน์ มีหน้าที่ กับน้าคนเล็ก กวาดใบลำใย ทั้งหมด บริเวณบ้าน ที่กว้างมากมี |
หลายสิบต้น เหนื่อย ไปเทใส่หลุมหลบภัย เก่า..
|
เรากวาดล่วงหน้าหลายวัน ก่อนวันงาน จะกวาดซ้ำอีกครั้ง เพราะฤดูแล้งใบลำใย |
ร่วงมาก... คุณยายจะสั่งให้ ไวน์ไป เอาเสื่อแหย่งที่ คุณยายสาน ม้วนเก็บไว้ |
มาราดน้ำ ให้ฝุ่นออก แล้วม้วนกลับ อีกทาง ให้เสื่อแผ่ราบ
|
|
เสื่อที่ราดน้ำไม่ต้องนำไปตากแดด คุณยายบอกกว่า ราดน้ำแล้ว จะทำให้กกหรือ |
แหย่งเหนียวขึ้น เวลาวันงานปูแล้วนั่งจะเย็นสบาย เสื้อผ้าไม่เปียก |
|
ที่บ้านคุณตา อยู่ หลังวิทยาลัย เทคนิค เป็นพื้นที่กว้างหลายไร่ คุณตากับน้าๆ |
ปลูกพืชไว้หลายอย่าง พอฤดูแล้ง น้าผู้ชาย จะขุดหัวมันสัมปะหลัง
|
เป็นมันสัมปะหลังที่ใช้ทำขนม ยอดจะแดงนิด ๆ |
หัวมันที่ขุดขึ้นมา คุณยายจะตัดเป็นท่อนขนาด 2 นิ้ว |
แล้วปอกเปลือก เนื้อขาว คุณยายจะแช่น้ำปูนทิ้งไว้
|
|
น้าผู้หญิง หลายคนช่วยกัน ขูดมะพร้าวแก่ คั้นกะทิ แยกเป็น หัวกะทิเข้มข้นใส่ชาม
|
ส่วนหางกะทิ เทใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อน เติมน้ำอ้อย ก้อนสีแดงลงไป |
รอให้น้ำอ้อย ก้อนละลาย เริ่มเดือด
|
คุณยายจะใช้มือสรง มันสำปะหลังที่ซอยเป็นชิ้นพอคำ ลงต้มจนสุกดี |
|
(เมื่อก่อนไม่รู้ว่ามันสำปะหลังมี กรดไซยานิก เป็นพิษแก่คนกิน คนกินก็ปวดเมื่อยกาย |
คนโบราณแก้ โดยใช้ต้มด้วยความร้อนให้ กรดสลาย ใครกินใบสดระวังนะครับ |
มีกรดไซยานิกเป็นพิษอยู่ด้วย)
|
|
ไม่นาน ก็เปิดฝา หยิบเกลือป่น โปรยลงไปนิดหน่อย คนแล้วชิม |
แกงบวดจะได้มัน เข้มข้นขึ้น แล้วก็ ดึงดุ้นฟืนออก ราไฟ |
|
เวลาพวกเราจะกิน น้า ๆ จะตักใส่ชาม แล้วราดหัวกะทิ ตักกิน เนื้อมันจะเหนียว |
หนึบหวานจากน้ำอ้อย ที่หอม มันจากกะทิ อร่อยสุด ๆ
|
|
พอได้เวลา พวกเราจะไปนั่งบนเสื่อรวมกับ น้า ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ เกือบ หกสิบคน |
แขกผู้ใหญ่ที่สนิทกับคุณตาคุณยาย
ทะยอยกันไปรดน้ำใส่มือคุณตา คุณยาย เสร็จ
|
แล้วแม่ของไวน์ กับน้า ๆ อีก 11 คลานเข้าไปตามลำดับอายุ |
คุณตา คุณยายจะนำมือ รอรับน้ำจากมือของลูก ๆ ด้วยใบหน้ายิ้ม และอวยพรให้ |
ทีละคน แต่ไวน์ไม่ได้ยินเสียงว่าคุณตาอวยพรว่าอย่างไรนะครับ |
|
กว่าจะถึงไวน์ รอจนเมื่อย นั่งพิงเสาไว้ก่อน แหะ ๆ แม่เขาชอบว่า |
คนหลังยาว... ให้นั่งตัวตรง ไว้จะหล่อ ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าเป็นคน ขี้เกียจ 555
|
พี่ชายไวน์ คลานเข้าไปรดน้ำใส่มือคุณยาย กับคุณตา
พอถึงไวน์ หยิบขันเงินใส่น้ำ |
คลานเข้าไปสะดุด หัวทิ่มน้ำหกหมด |
คุณตา หัวเราะ ไม่เป็นไร เอ้าตักใหม่
|
พอเทน้ำที่หอม กับดอกมะลิใส่มือคณตา ๆ ยิ้ม |
วักน้ำในขันใหญ่ รดหัวไวน์ |
ขยันเรียนนะ |
ครับคุณตา |
|
หลังจาก รดน้ำดำหัวให้คุณตา คุณยาย เออ.. พวกเราชาวเหนือมิได้นำน้ำ |
ไปรดหัวคุณตานะครับ รดที่มือ คุณตาจะนำมือคุณตาที่เปียกน้ำลูบหัว คุณตาเอง |
บางที่ถ้าคุณตา ยังไม่เมื่อยหรือมีเมตตา จะลูบหัว หรือตบหัวเราเบา ๆ |
เพียงแค่นั้นน้ำตาจะไหลแล้วครับ |
|
หลังจากที่คุณตา รับของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ พวกผ้า ของกินจากพวกเราแล้ว |
ทีนี้ พวกเราเด็ก ๆ ก็เริ่มกินอาหาร ที่ พ่อแม่ ตนเองนำมาจากบ้าน |
วางไว้บนโต๊ะ เต็มไปหมด ใครอยากจะกินอะไรก็ตัดใส่จาน ไปนั่งกินด้วยกัน |
อาหารเยอะครับ คุณตามีลูก 12 คนอาหารก็ 12 อย่าง
|
คุณยายจะมี แกงบวดมันสำปะหลัง ให้พวกเรากิน และถ้าจำไม่ผิด จะมี |
หมูแกงใส่ใบอะไรไม่รู้ เปรี้ยวนิด ๆ
|
ตอนหลัง จึงรู้ว่า เป็นแกงหมูใบชะมวง
บางครั้งคุณยาย ก็แกล้งบอกว่าใส่หญ้า ตดหมา(แหะ หยาบเนาะ)แล้วยิ้ม ๆ
หญ้าตดหมา เหม็นมาก
คุณตาคงจะนึกถึงความหลัง
|
ครั้งที่เป็นหนุ่มคนจันทบุรี ก่อนย้ายมาทำงานที่เชียงใหม่ |
ตราบเท่าอายุขัยของคุณตา แต่ก็แปลกคุณตาอยู่เชียงใหม่นานกว่าพวกเรา
แต่พูด กำเมือง ไม่ชัด..พูดภาคกลางผสม |
|
นั่งนึกถึง ตัวเราเองอยู่ ในฤดูสงกรานต์ เชียงใหม่ มีความสุข แม้อากาศจะร้อน |
ผู้ใหญ่สมัยก่อน รู้ว่าควรเตรียมการอะไรไว้ รักษาประเพณีนิยม |
ซึ่งไม่ใช้น้ำมากมาย ใช้เท่าที่มี.....
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ ทุกภาพ
end 650,436
visit บล๊อก 649,155 st
=1,281 งานเขียนประเภท Diarist
|
น่ารักจังเลยพี่ อ่านเพลินเลย เพราะนึกภาพตามไปด้วย
สมัยก่อนอยู่กับธรรมชาติ ใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่ละเมียดละไม แตกต่างจากสมัยนี้ที่ทุกอย่างเร่งรีบ สุกเอาเผากินไปหมด
โหวตให้ค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ผีเสื้อยิปซี Book Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
comicclubs Literature Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist