We don't know future. What we don't know exactly always contains risk. When we take risk, we bet. Therefore, investment is a calculated bet. Just bet wisely.
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
11 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
เทคนิคการลงทุนหุ้นเติบโตสูง

วันนี้ขอพักหัวข้อเดิมไว้ชั่วคราว เราจะมาพูดถึงหัวข้อใหม่กัน เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว

วันนี้เราจะมาศึกษาวิธีการลงทุนของนักลงทุนชื่อดังท่านหนึ่งคือ นายปีเตอร์ ลินช์ ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนที่มีผลการลงทุนที่ีดีที่สุด แม้กระทั่งในปัจจุบันเองยังไม่สามารถหาผู้จัดการกองทุนอื่นมาเปรียบเทียบได้ ที่ว่าเยี่ยมที่สุดนั้นก็เพราะว่าในระยะเวลาการลงทุนสิบกว่าปีนั้นมีผลตอบแทนโดยเฉลี่ยสูงถึง 30% หนำซ้ำกองทุนยังมีขนาดใหญ่มาก (ใหญ่สุดในสมั้ยนั้น) โดยขนาดของกองทุนมีมูลค่ามากกว่า GDP ของประเทศในอเมริกาใต้บางประเทศด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ากองทุนยิ่งมีขนาดใหญ่มากก็จะยิ่งยากในการทำผลตอบแทนสูงกว่าตลาด

สำหรับหลักการลงทุนของปีเตอร์ ลินซ์ นั้นมีหลายวิธีแต่มีอยู่วิธีหนึ่งที่เราจะประยุกต์มาใช้นั่นคือ การลงทุนในหุ้นเติบโตสูง(Growth stock) หุ้นเติบโตสูงคือหุ้นที่กำไรมีแนวโน้มโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งก็แน่นอนว่าจะทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นหลายเท่าได้เช่นเดียวกัน ถ้าหากผลกำไรเติบโตอย่างที่คาดไว้ แต่ในทางกลับกันถ้ากำไรไม่เป็นไปตามคาด ราคาก็จะปรับตัวลงอย่างรุนแรง เพราะโดยมากราคามักจะซื้อขายกันค่อนข้างสูงตามความคาดหวัง อย่างไรก็ตามหุ้นเติบโตสูงมีคุณสมบัติที่พิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือมีคุณสมบัติคล้ายกับ Call option หรือ Warrant นั่นคือถ้ากำไรไม่ดี เลวร้ายสุดคือราคาลงไปเหลือศูนย์(ล้มละลาย) ในทางกลับกันถ้ากำไรดีมาก ราคาอาจขึ้นหลายเท่า หลายสิบเท่า หรืออาจเป็นร้อยเท่าก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นหุ้นพลังงานหรือปิโตรเคมีในช่วงหลายปีก่อนที่ปรับขึ้นโดยเฉลี่ยห้าเท่าเป็นต้น รวมถึงหุ้นชั้นนำในต่างประเทศอย่าง Microsoft, Ebay, Google เป็นต้น ผู้ที่ลงทุนในช่วงแรกๆจะมีผลกำไรเป็นร้อยๆเท่าเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามการลงทุนประเภทนี้มีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังด้วย อย่างแรกก็คือราคาหุ้นมักซื้อขายกันแพงกว่าหุ้นปกติมากเช่น ถ้าหุ้นปกติทั่วไปเทรดกันที่ PE 8 เท่า หุ้นเติบโตสูงมักจะซื้อขายกันที่ PE 20-30 เท่า ทำให้ต้นทุนในการเข้าซื้อของเราค่อนข้างสูง และมันจะลดทอนกำไรที่ควรจะได้นั่นเอง นอกจากนั้นหุ้นเติบโตสูงที่กำไรสูงอย่างต่อเนื่องตามที่เราคาดไว้ มีสัดส่วนค่อนข้างน้อย เช่นถ้าเราเลือกหุ้นที่คาดว่าจะเป็นหุ้นเติบโตสูงมา 10 ตัว อาจจะมีแค่ 1-2 ตัวที่กำไรเติบโตอย่างที่เราคิด นอกจากนั้นอาจเป็นหุ้นที่กำไรไม่ได้โตมาก หรืออาจล้มละลายได้ด้วย ดังนั้นโอกาสที่เราจะเลือกหุ้นดังกล่าวได้ถูกต้องจึงมีค่อนข้างต่ำ ดังนั้นเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงข้อเสียดังกล่าว ปีเตอร์ลินซ์จึงได้กระจายการซื้อหุ้นในลักษณะดังกล่าวออกไปมากๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเลือกหุ้นผิดตัว และในการลงทุนแต่ละครั้งทำการบ้านในหุ้นแต่ละตัวค่อนข้างละเอียดมากๆเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จนั่นเอง การที่เราเลือกหุ้นมาสัก 10 ตัว และประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นจาก 2 ตัวเป็น 4 ตัว จะมีผลทำให้อัตราผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว

ยกตัวอย่างเช่น ซื้อหุ้น 10 ตัว 2 ตัวปรับขึ้น 5 เท่า อีกแปดตัวขาดทุน 80%

ผลตอบแทน = 0.2 x 500% - 0.8 x 80% = 36%

แต่ถ้าหุ้น 10 ตัวนี้ 4 ตัวปรับขึ้น 5 เท่า อีกหกตัวล้มละลาย

ผลตอบแทน = 0.4 x 500% - 0.6 x 100% = 140% !!!

จะเห็นได้ว่าอัตราผลตอบแทนขึ้นอยู่กับความแม่นยำในการเลือกเฟ้นหุ้น แม้ว่าหุ้นที่เราเลือกมานั้นส่วนใหญ่อาจผิดพลาดและขาดทุนถึงขั้นเหลือศูนย์ แต่พอร์ตโดยรวมยังคงกำไรได้มาก ถ้าหากหุ้นส่วนน้อยนั้นกำไรดีตามที่คาดหวัง นี่คือรูปแบบการลงทุนหนึ่งดีมากรูปแบบหนึ่ง ถ้าหากคุณเป็นผู้ที่ทำการบ้านดีและรับความเสี่ยงได้สูง






Create Date : 11 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2552 17:47:14 น. 0 comments
Counter : 760 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Rhythm of Love
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Flag Counter

New Comments
Friends' blogs
[Add Rhythm of Love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.