|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องราวของต้นสาละ
เอ่ยชื่อถึง"ต้นสาละ"บางท่านอาจจะยังไม่รู้จัก
ผมได้มีโอกาสพาลูกๆไปเที่ยวที่วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร จ.สิงห์บุรีเมื่อไม่นานมานี้เอง ได้พบกับต้นสาละทีแรกก็งงๆอยู่เหมือนกัน เพราะเห็นนักท่องเที่ยวหลายคนกำลังเพลิดเพลินกับการยืนตบมือตัวเองอยู่รอบๆต้นสาละขนาดใหญ่ซึ่งมีกิ่งช่อใบปกคลุมหนาแน่น ด้วยสงสัยจึงเข้าไปถามป้าแก่ๆคนหนึ่งซึ่งแกก็กำลังขมักขเม้นอยู่กับการตบมือกันใหญ่กับลูกหลานอีก 2-3 คน ป้าแกบอกว่าหากอยากได้ดอกสาละเอาไปปลูกหรือบูชาที่บ้านก็ให้ตบมือใส่ดอกสาละแรงๆ เมื่อดอกมันร่วงหล่นลงมาก็จะเป็นของเรา เอ้า ... ถ้างั้นผมก็ตบมือได้ด้วยสิ ! ป้ากับลูกหลานยิ้มให้ผมและลูกๆอย่างเป็นมิตรแล้วบอกว่าเอาเลย ถ้างั้นเรามาตบแข่งกัน
ผมกับลูกๆตบกันจนมือแดงเจ้าดอกสาละนั่นหาหล่นจากต้นสักช่อไม่ ป้ากับหลานก็ไม่ท้อนะค่อนข้างมีน้ำอดน้ำทนสูง ผมหันไปยิ้มให้ป้าทีนึ้งแกก็ยิ้มตอบ โอย ไม่เอาแล้วป้า ผมไปก่อนนะไม่อยากได้แล้ว สงสัยบุญคงไม่ถึง ผมบอกกับป้าอย่างนี้ ป้าแกบอกว่าไม่เป็นไรหยุดก็ได้แต่ป้าจะพยายามต่อ
แต่หลังจากนั้นผมเพิ่งได้รู้ว่าการที่หลวงพ่อให้นักท่องเที่ยวตบมือเพื่อเก็บดอกสาละไปบูชาที่บ้านนั้นแท้จริงแล้วคือกลอุบาย ซึ่งหลงพ่อให้เหตุผลว่าดอกสาละไม่ได้งอกเงยได้บ่อยนัก แต่นักท่องเที่ยวมีเป็นพันเป็นหมื่น ขืนให้เก็บไปดอกมันคงหมดต้น ก็เลยต้องใช้อุบายแบบนี้แหละ ดอกสาละมันไม่ร่วงง่ายๆหรอกกิ่งก้านสาขาเหนียวจะตาย(เฮ้อ เวรกรรม)
ตกลงวันนั้นผมกับลูกๆก็เลยเจ็บมือฟรี แต่ก็ได้ข้อคิดหลายอย่างตรงที่ว่า "คนเรานี่มักทำอะไรก็ได้ไม่ยั้งคิด หากสิ่งที่จะได้ตอบแทนนั้นเป็นของฟรี" รักษาสุขภาพเพื่อนๆและลูกหลาน ...
Create Date : 24 ธันวาคม 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 26 ธันวาคม 2553 9:26:07 น. |
Counter : 4923 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: aitai 4 มกราคม 2554 21:45:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
พึ่งกลับจาก ตจว เลยมาทักทายช้าไปหน่อย ไปทัวร์อีสานมา 5วัน4คืน หนาว2คืน ไม่หนาว2คืน กลับมาเดี้ยง เจ็บคอเลย