The White Massai ... ล่ารัก นักรบเผ่ามาไซ (2005)




The White Massai

เป็นเรื่องราวของ Carola ( Nina Hoss ) หญิงสาวชาว Swiss คนหนึ่งที่เดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศ Kenya พร้อมกับ Stefan ( Janek Rieke ) สามีหนุ่มของเธอ ทั้งสองบังเอิญได้พบกับ Lemalian ( Jacky Ido )นักรบหนุ่มเผ่า Massai ที่สะดุดสายตาใครต่อใครด้วยเครื่องแต่งกายประจำเผ่าสีแดงสดกับร่างกำยำผิวเข้ม และได้รับการช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆพร้อมกับรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความเป็นมิตร Carola รู้สึกสะท้านใจตั้งแต่ในแว่บแรกที่เจอ Lemalian ทันที

ในวันเดินทางกลับ ขณะที่ทั้งสองยืนอยู่หน้าช่องตรวจหนังสือเดินทาง Carola ได้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ที่จะไม่เดินทางกลับสวิสเซอร์แลนด์พร้อม Stefan เธอขอเลือกที่จะไปตามหาและติดตามคนที่เธอคิดว่าใช่ตามความรู้สึกภายในที่ร้องเรียก

แล้วการเดินทางที่มีแต่เพียงหัวใจนำทางก็เกิดขึ้น Carola ได้รับคำแนะนำให้ไปเจอกับ Elisabeth ( Katja Flint ) สาวผิวขาวชาวตะวันตกคนนึงที่ได้สามีเป็นชาวพื้นเมืองเช่นกันที่เมืองไนโรบี และ Carola ก็ได้พักอาศัยชั่วคราวอยู่กับ Elisabeth ตามคำเชิญชวนเพราะเธอได้อธิบายถึงธรรมชาติของชาวเผ่า Massai ว่าจะสามารถเจอกับเขาได้ ก็ต่อเมื่อเขาอยากจะเจอ Carola ต้องติดแหงกอยู่ที่บ้านของ Elisabeth ร่วม 10 วัน ……จึงได้เห็น Lemalian มายืนมองเธออยู่นอกรั้ว

Carola และ Lemalian ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันท่ามกลางสุมทุมพุ่มไม้ที่แห้งแล้ง ในบ้านที่สร้างจากดินผสมมูลวัว ทำมาหากินด้วยการเลี้ยงวัวและแพะ และอาหารชนิดเดียวที่หล่อเลี้ยงชุมชนเผ่านี้ก็คือเนื้อแพะ เครื่องดื่มคือนมผสมเลือดวัว



Carola หญิงสาวชาวตะวันตกร่างอรชรคนนี้ ต้องปรับเปลี่ยนและเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวเผ่า Massai ที่เธอไม่คุ้นเคยให้ได้ ทั้งภาษาที่แทบจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ทั้งความเป็นอยู่ ทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ที่ต่างกับถิ่นที่เธอจากมาราวฟ้ากับเหว เธอสู้และฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ แต่ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าเธออยู่ได้ เธอทำเพราะความรักที่เธอมีต่อ Lemalian ต่างหาก

ถึงตอนนี้ Carola รู้แล้วว่าชีวิตของเธอ จิตวิญญานของเธอทั้งหมดคือที่นี่ ที่เผ่า Massai นี้เท่านั้น เธอจึงกลับไปสวิสเซอร์แลนด์ ขายกิจการร้านเสื้อผ้าที่เธอเคยทำ และถือเป็นการบอกกับพ่อแม่ครอบครัวของเธอ ว่าเธอจะแต่งงานกับ Lemalian ที่เผ่า Massai เมืองไนโรบี หลายคนไม่เห็นด้วย แต่เคารพในการตัดสินใจของเธอ



Carola แต่งงานกับ Lemalian ตามประเพณีของเผ่า ไม่นานนักทั้งสองก็มีลูกสาวด้วยกัน Carola เปิดร้านขายของชำเพื่อเป็นรายได้ของครอบครัว แต่ปัญหาอื่นๆก็ยังมีตามมาไม่จบสิ้น บางครั้งสิ่งที่ Carola ทำถือเป็นการหลู่เกียรติของชายเผ่า Massai แต่ก็ด้วยความที่วัฒนธรรมที่ต่างกัน เธอไม่ได้มีเจตนาร้าย หรือเรื่องการซื้อสินค้าเงินเชื่อของคนในเผ่า ไหนจะมาเฟียเจ้าหน้าที่ทางการ หรือกระทั่งความหึงหวงแบบไร้เหตุผลของ Lemalian ทั้งหมด พอสุมๆกันเข้า ความอดทนของเธอก็ขาดสะบั้นลงทันที

หนังดำเนินเรื่องโดยมีโครงสร้างอันเป็นสามัญ ที่เริ่มจากการแนะนำตัวละคร ปูพื้นนิดหน่อยแล้วปล่อยให้เรื่องดำเนินไปข้างหน้าเรื่อยๆ แบบสบายๆ พร้อมกับภาพมุมกว้างของท้องทุ่งใน Kenya สำรวจวิถีชีวิตของชาวเผ่า Massai ที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นบ่อยนัก มีอุปสรรคเป็นขวากหนามให้ตัวละครได้แสดงอารมณ์หนักๆ และไปพีคสุดๆในเกือบท้ายเรื่อง

เพียงแต่ว่า The White Massai ไม่ได้เสกสรรปั้นแต่งจากจินตนาการของคนเขียนบทเพียงลำพัง

The White Massai หรือ Die Weisse Massai เป็นหนังที่สร้างมาจากหนังสือ ที่ผู้เขียน Corinne Hofmann เขียนจากเรื่องราวชีวิตจริงของเธอเอง และได้ผู้กำกับหญิงชาวเยอรมัน Hermine Huntgeburth มาถ่ายทอดสู่แผ่นฟิล์ม ตัวหนังได้รับรางวัล Best Actress (Darstellerpreis) “ Nina Hoss “ จาก Bavarian Film Award 2006 ของ Germany ที่จัดขึ้นที่เมือง Munich เมื่อเดือนมกราคม ปี2549 ที่ผ่านมา






 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2549
5 comments
Last Update : 14 กรกฎาคม 2549 22:28:41 น.
Counter : 4088 Pageviews.

 

อ่านแล้ว อินจังเลย อิอิ
ขอนับถือความรักด้วยคน
คงต้องหามาดูเพื่อจะได้รู้ตอนจบนะ

 

โดย: C'est Si Bon 14 กรกฎาคม 2549 23:28:35 น.  

 

ยังฉายอยู่นะคะ ที่ลิโด้......ที่เดี้ยว

 

โดย: renton_renton 15 กรกฎาคม 2549 0:10:26 น.  

 

แวะมาทักทาย....มาเยี่ยมเยียน blog
ตามประสา.....คนชอบดูหนัง....

 

โดย: than_phumpat (Than_phumpat ) 16 กรกฎาคม 2549 15:25:58 น.  

 

น่าดูมากเลยครับขอบคุณสำหรับบทวิจารณ์ดีๆ

 

โดย: duldb 19 กรกฎาคม 2549 8:20:07 น.  

 

จากตอนแรก
ดูแล้วรู้สึกว่าผู้เขียนที่เป็นคนผิวขาว
จะชี้ให้เห็นว่าวัฒนธรรมของคนผิวดำนนั้นมีความแตกต่างไปจากแบบแฝนของคนทั่วไปที่สื่อว่าพวกเขามีความเชื่อที่ให้คุณค่ากับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และโดยภาพรวมพวกเขาต้องอาศัยผู้ชายในการดำงรงค์ชีวิตประจำวันของผู้หญิง และมีอยู่ตอนนึง ที่มีการตัดเม็ดละมุดและเย็บช่องคลอดให้เหลือเพียงรูไว้ปัสสาวะของเด็กที่กำลังจะโตเป็นสาวด้วยเพราะเป็นความเชื่อที่ให้เพศหญิงต้องพึ่งผู้ชายในการมีเพศสัมพันธุ์ไม่ต้องช่วยตัวเองเหมือนในปัจจุบัน และจะต้องมีเพศสัมพันธุ์เพื่อการสืบเผ่าพันธุ์เท่านั้น และในเรื่องนี้ผู้หญิงที่เป็นชาวสวิตมีการปรับตัวเพื่อที่จะให้เข้ากับชนเผ่ามาไซเป็นอย่างมาก
อยากรู้จังว่าต่อตอนนี้ที่โคโรล่ากับลูกสาวกลับมาที่เผ่ามาไซอีกครั้ง แลวเธอจะอยู่ในชนเผ่ามาไซอีกไหม และเธอจะให้ลูกสาวของเธอต้องทำตามวัฒนธรรมของชนเผ่าหรือไม่ ที่ต้องตัดเม็ดละมุดในที่ลูกสาวเธอกำลังจะเป็นสาว
ตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรบ้างเนอะ
ใครรู้ช่วยตอบทีน่ะคร้า

 

โดย: นักเรียนวัฒนธรรม IP: 125.26.136.140 30 เมษายน 2552 21:57:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


renton-renton
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket.Just wait until night then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ “เด็ก” ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add renton-renton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.