เรื่องเก่า...เอามาเล่าใหม่ อย่างละเอียด!!! ((กระทู้เปิดตัวเรนเดียร์ @ ก้นครัวจ้า))

เขียน Blog ครั้งนี้ ถือเป็นการเล่าซ้ำ จากกระทู้ที่เคยไปโพสไว้ในบอร์ด Pantip ค่ะ

อาจจะดูยืดยาวไปสักหน่อยนะคะ

เจตนาหลักก็คือ เล่าใหม่ให้ละเอียดเลยค่ะ เพราะ ไม่ค่อยอยากจะเขียนซ้ำไปซ้ำมา((ขี้เกียจนั่นเอง))

หาก Blog นี้ สามารถเป็นวิทยาทานให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบในการทำเค้กเหมือนกัน และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ การประยุกต์ใช้สิ่งของต่างๆที่อยู่รอบตัวได้ ก็จะถือว่าเป็นการบรรลุ ในการทำบล็อคนี้แล้วล่ะค๊า....................และจักขออนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค๊า.................อ่ะฮุๆ


~~**__(กระทู้ท้าให้ลองค๊า)......ชวนทำเค้กแบบไม่ต้องง้อ~”เตาอบ”~จ้า)__**~~



สวัสดี เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวก้นครัวกันอีกรอบนะคะ หลังจากที่แอบมาโพสอยู่เป็นระยะๆ ในกระทู้ที่ผ่านๆมานี่ค่ะ
//www.pantip.com/cafe/food/topic/D5061615/D5061615.html ก็ถือเป็นการนำเค้กที่เดียร์ทำ มาให้ดูโฉมหน้ากันเฉยๆว่า ใช้ได้รึป่าว

แต่มาวันนี้ ฤกษ์งามยามดีค่ะ ยืมกล้องมาได้พอดีด้วย ก็เลยจะมาบอกวิธีทำเค้ก พร้อมทั้งแปะสูตรเค้ก “แบบที่ไม่ต้องง้อเตาอบ” จากประสบการณ์(ที่ทำเค้กเสีย)มาอย่างโชกโชนของเดียร์เอง มาฝากให้เหล่าสมาชิกทั้งหลายได้ทดลองเล่น ทดลองทำดูนะคะ วิธีแปลกใหม่ สนุกดีค่ะ ลองดูๆๆ

เวอร์ชั่นนี้จัดมาให้เป็นพิเศษ สำหรับ คนที่ชอบบอกว่า “ไม่มีเตาอบ”นะคะ ....อยากให้ลองเริ่มทำดูน่ะคะ แล้วอย่าลืมมาให้ดูบ้างน๊า..... ส่วนท่านที่มีเตาอบก็ลองทำดูนะคะ เดียร์คิดว่า ถ้าเรารู้เกี่ยนวกับระบบการใช้ไฟบน-ล่างและลองดัดแปลงวิธี ก็น่าจะทำอะไรๆแปลกๆใหม่ๆได้ไม่ยากค่ะ

สงสัยกันแล้วล่ะซิ เดียร์มานจะมาใช้อะไรทำเค้กล่ะเนี่ย
.
.
.
............................
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาดูอุปกรณ์ที่เราจะใช้เป็นพระเอกกันในวันนี้กันก่อนนะคะ

......นี่เลย หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ............ธรรมด๊า ธรรมดา ทุกบ้านคงจะมีนะคะ
เดียร์นั่งคิดนอนคิดมานานค่ะว่า หม้อหุงข้าว น่าจะมีความสามารถทำอะไรได้มากกว่าแค่หุงข้าว ...... หลังจากมานั่งดู พลิกไปพลิกมา ได้ความว่า มันทำงานเป็นแบบระบบไฟล่างนี่นา...... แล้วเค้กก็มีตั้งหลายสูตรที่ใช้ระบบไฟล่างเหมือนกัน (หรือไม่มี ก็จะดันทุรังทำล่ะ ทีนี้...........= _=)..........ดังนั้น จึงปิ๊งไอเดียค๊า!!!!.... ทำเค้กซะเลยดีกว่า จะรอช้าอยู่ใย ???
บอกก่อนว่า ไม่ใช่ไม่ยอมซื้อเตาอบมาใช้นะคะ แต่เพราะว่า อยากรู้ขีดความสามารถ( Competency )ที่แท้จริงของอุปกรณ์ที่เรามีอยู่น่ะค่ะ จึงเป็นบ่อเกิดของ เค้กเวอร์ชั่นนี้ขึ้นมาซะนี่...........อิอิ


++++++++++++++++++++++++++++++++++

อุปกรณ์หลักอีกอย่างก็ เป็น เครื่องตีไข่ แบบ ธรรมดา เบๆๆ ค่ะ
หลักๆก็มีแค่นี้ล่ะคะ
มาเริ่มทำกันเลยดีกว่า เค้กที่จะทำวันนี้เป็นเนื้อชิฟฟ่อนนะคะ โดยส่วนตัวเดียร์ชอบค่ะ เบา+นุ่ม ทานเข้าไปเหมือนไม่ได้ทานอะไรเลย.....(แล้วมันดีม่ะเนี่ย......- -“)


+++++++++++++++++++++++++++++++++

ก่อนอื่นเตรียมอุปกรณ์และส่วนผสมให้พร้อม จัดวางตำแหน่งตามความคุ้นเคยของมือค่ะ หัดไว้ให้เป็นนิสัย ..จากรูป ถึงจะดูรก แต่ไม่เคยหยิบของพลาดค่ะ หลับตาหยิบยังได้เลย อ๊ะนี่!!!...(เว่อร์เจงๆ - - ‘)
ขอปูโต๊ะด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์นะคะ เผื่อเลอะเทอะจะได้ทำความสะอาดง่ายๆ .........โกยทิ้งโลด!!!!!


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เดียร์มักจะเริ่มทำเค้กตอนกลางคืนค่ะ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีเพื่อน เป็นเจ้านี่ค่ะ ....MP3ฟังทั้งคืน.... ไม่เหงาหู+ไม่ต้องกลัวผีด้วย(เพราะไม่ได้ยิน) เหอๆๆๆ



+++++++++++++++++++++

เริ่มทำจริงๆแร่ะค๊า......
ต้องทำตามระเบียบวินัยในการทำเค้กที่ทุกคนพึงมีในหัวใจ คือการ ชั่ง ตวง วัด ให้ถูกต้องนะคะ ผิดเพี๊ยนไป ไม่อร่อย โทษกันไม่ได้น๊า .....หุๆ




++++++++++++++++++++++++++

สูตรเค้กเนื้อชิฟฟ่อน ของเดียร์ อาจจะไม่ค่อยเหมือนของบางท่านในนี้นักนะคะ ยังไงก็ถือว่า เป็นอีกทางเลือกในการทำเค้กแบบใหม่ๆนะคะ

หากละเมิด พาดพิง หรือทำอะไรล่วงเกินผิดพลาดประการใดลงไป ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ……. /|\( +_+)

เพราะกว่าจะได้สูตรนี้มา ก็ทดลองทำอยู่นานเอาการเลยล่ะค่ะ .... มี comment ทั้งรสจืดไปบ้าง แป้งไม่นุ่มบ้าง ก็ได้ทำการดัดแปลง ปรับปรุงมาเรื่อย จนได้สูตรนี้ล่ะคะ……ท่านที่ได้นำไปลองทำ ได้ผลอย่างไร มาบอกกันบ้างนะคะ

สูตรแป้งเค้ก
ส่วนที่ 1
แป้งเค้ก 135 กรัม
น้ำตาลป่น(1) 100 กรัม
เกลือ 1./4 ชช.
ผงฟู 1 ชช.
นมผง 1 ชต.
Baking soda 1./2 ชช.
-------------
ร่อนรวมกัน แล้วพักไว้ค่ะ.....



+++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนนี้ มาทาพิมพ์ของเรา ที่เป็นหม้อข้าวค่ะ นำกระดาษไข ตัดให้เกินขนาดก้นหม้อข้าวเล็กน้อยนะคะ แล้วนำแปรงทาไขมันเล็กน้อยที่ก้น+ขอบข้างหม้อ แล้วกรุกระดาษไข ทาทับอีกทีนึงค่ะ ...................แต่ที่เดียร์เคยอ่านมา จากสูตรของบางท่าน บอกว่า ให้กรุกระดาษแล้วไม่ต้องทาไขมันใดๆทั้งสิ้น เดียร์ก็เคยลองมาแล้วนะคะ ปรากฏว่า ในกรณีที่ ถ้ามาทำโดยหม้อหุงข้าว ไม่ work ค่ะ เค้กที่เสร็จออกมา ทั้งก้นไหม้+แข็งดำ+ติดก้นหม้อ เสียไปเลยค่ะ … - -‘



+++++++++++++++++++++++++++++++++

แยกไข่ขาว กับไข่แดงออกจากกัน อย่าให้ในส่วนของไข่ขาว มีไข่แดงหรือน้ำมันใดๆเจือปนเลยนะคะ เพราะจะเป็นสาเหตุสำคัญที่จะทำให้ ตีไข่ขาวไม่ขึ้นฟู ไข่ขาวที่ตีไม่ขึ้นฟูแล้ว ทำอย่างไรก็จะตีไม่ขึ้นอยู่อย่างเดิมนะคะ เสียของไปเลยค่ะ *o*




++++++++++++++++++++++++++++

แล้วก็ถึงเวลา ส่วนที่ 2
น้ำมัน 1./4 Cup
ไข่แดง 4
น้ำเปล่า 1./2 Cup
กลิ่นวานิลลา 1 ชช.
S.P. 5 กรัม ปาดไว้ที่หัวตะกร้อ
----- -------
Mix ทั้งหมดในชามอ่าง



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ใช้ตะกร้อ ตีผสมส่วนของของเหลวนี้ให้เข้ากัน จะได้ออกมาเป็นสีนวลเนียนนิดๆค่ะ




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ใส่แป้งส่วนที่ 1 ลงในส่วนผสมนี้เลยค่ะ
...คือว่า ที่เคยได้อ่านมาจากกระทู้ มีท่านผู้รู้เคยบอกว่าให้คนไปในทิศทางเดียวกันในรูปแบบน้ำเซาะตลิ่ง แต่ตำราที่เดียร์เคยทำมา เค้าบอกว่า “การผสมแป้งไม่ควรผสมไปในทิศทางเดียวกันหรือในลักษณะของการกวนแป้ง เพราะจะทำให้กลูเต็นภายในแป้งเกิดการเชื่อมต่อกันทำให้แป้งเหนียว และเค้กที่อบออกมาก็จะมีลักษณะเหนียวมากเกินไป” ข้อมูลตรงนี้ที่เดียร์ทราบมา ก็เลยนำมาบอกท่านทั้งหลายไว้ให้น่ะคะ ..^^………… ถูกผิดอย่างไร อันนี้ สงสัยต้องลองทำน่ะค่ะ แหะๆๆ.... ;-P



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เดียร์ก็เลยลองทำแบบในตำราบ้างค่ะ เพราะคิดว่าหลายท่านคงทำอีกวิธีนึงไปแล้วจนเป็นวิธีปกติแน่ๆ.....(เป็นหนูทดลองให้เลยนะเนี่ย....อิอิ)
เอ๊า...คนไปคนละทิศละทาง แต่ที่เหมือนกันก็คือ เมื่อส่วนผสมเข้ากัน ไม่มีแป้งเป็นเม็ดแล้วปุ๊บ ต้องหยุดคนเลยค่ะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++

หันมาทางส่วนที่ 3
ไข่ขาว 4 ฟอง
ครีมออฟทาทาร์ 1./3 ชช.
น้ำตาลป่น(2) 65 กรัม
-------------- ---------------
ตีไข่ขาว โดยเริ่มต้นตีที่สปีดต้นๆก่อนแล้วค่อยเร่งให้เร็วจนไปถึงระดับกลาง จะทำให้ไข่ขาวขึ้นฟูได้เร็วและเป็นทรงได้นานกว่าที่จะตีโดยใช้สปีดเร็วตั้งแต่แรกเลยค่ะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พอเป็นฟองหยาบๆก็ใส่ครีมออฟทาทาร์ลงไปค่ะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากนั้นค่อยๆ ใส่น้ำตาลป่นลงไป



+++++++++++++++++++++++++++++

ใช้พายปาดขอบได้เป็นระยะๆ เพื่อดูว่า ไข่ขาวขึ้นฟูใช้ได้หรือยัง



++++++++++++++++++++++++++++

.... ดูว่าตั้งยอดอ่อนแบบนี้นะคะ ก็ค่อยลดสปีดเครื่องลงเป็นต่ำสุดซัก 1 นาที เพื่อไล่ฟองอากาศค่ะ ... ถ้าไข่ขาวตั้งยอดแข็งแสดงว่าตีนานเกินไปแล้วค่ะ จะเกิดผลเสียกับเค้ก คือ ทำให้เค้กเนื้อหยาบ ฟองอากาศจะใหญ่ทำให้เข้ากับส่วนแรกได้ยากและไข่ขาวจะจับตัวเป็นก้อนแข็งกันเอง



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

และแล้ว เราก็ได้ส่วนผสมของ 2 อย่างแล้วค่ะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทีนี้ ได้เวลารวมกันแล้ว ต้อง Fold กันให้เร็วที่สุด แต่เบามือที่สุด....................เดียร์ใช้วิธี แบ่งอย่างละครึ่งมาใส่แต่ละส่วนนะคะ ...(งงรึป่าวเอ่ย) ก็คือ ไม่อยากให้ส่วนของไข่ขาวยุบมากไปอ่ะคะ เวลาเห็นไข่ขาวยุบลงๆแล้ว ใจไม่ค่อยดี ส่วนผสมเหลวเกินไปกลัวเค้กเสียค๊า......>_<



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

การ fold ทำโดยการใช้พายหรือตะกร้อมือ(แล้วแต่จะถนัดนะคะ) ตักส่วนผสมขึ้นมาจากด้านข้างตั้งแต่ก้นภาชนะ โดยเอียงภาชนะเล็กน้อย แล้วตักขึ้นมาให้เบามือ ขึ้นมาตรงกลาง ทำอย่างเบามือค่อยๆหมุนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมเข้ากันดี ก็พอเลยค่ะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ได้ออกมาเป็นครีมๆแบบนี้ สีนวลๆเนียนๆ ดูเป็นที่น่าพอใจม๊ากค่ะ.......



+++++++++++++++++++++++++++++++++++

แล้วก็จัดการใส่ลงหม้อที่เราเตรียมไว้เล๊ย.........



+++++++++++++++++++++++++++++++

ให้ดูกันอีกทีว่า ทำโดยหม้อหุงข้าวจริงๆค่ะ....อิอิ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แล้วก็ทำการ กดปุ่ม Cook โลด!!!

อ๊อ!!!! ลืมบอกไปค่ะ ว่าระหว่างที่เรากำลัง Fold ส่วนผสมให้เข้ากันอยู่นั้น ก็เสียบปลั๊กอุ่นหม้อหุงข้าวเตรียมไว้ก่อนเลยนะคะ ประมาณ 2 นาทีก็พอแล้วล่ะคะ(เลียนแบบการวอร์มเตาอบไงคะ)




++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

กดปุ่ม cook ไปแล้วก็รอ ระหว่างรอก็อย่าให้เสียเวลาค่ะ ไปล้างอุปกรณ์ซะเลย...ซัก2นาที หม้อหุงข้าวก็จะเปลี่ยนไปเป็นระบบ warm ไม่ต้องตกกะใจไปเปิดฝาหม้อนะคะ ระบบเค้าตัดเอง เราต้องใจเย็นค่ะ ทำใจว่า มันไม่ใช่เตาอบ .......- -“ เพราะเราต้องกดอย่างนี้ไปอีก 5 รอบค่ะ.....!!!! 5-6 รอบจริงๆเลยค่ะ ….แหะๆ
แต่อย่าให้เสียเวลาเปล่า ไปเอาหนังสือมาอ่านหรือหาอะไรมาทำซะ นี่ๆๆ.....(หึๆๆ พรุ่งนี้ มี Quiz ซะด้วยเรา....>_<)



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แต่!!!!!!! เตือนซะก่อนเพราะคิดว่า ต้องมีคนที่คิดแบบเดียร์เมื่อก่อนแน่ๆ ที่ใจร้อน ว่า ในเมื่อหม้อหุงข้าว กดไปแป๊บเดียวก็กระเด้งไปวอร์มอีก เลยไปเอาทิชชู่ยัดลงไปเพื่อดันปุ่มให้หม้อหุงข้าวอยู่ในระบบการ cook ตลอด........เตือนว่า อย่าทำเชียวนะคะ เพราะเดียร์ทำมาแว๊ว ……… >_< ไหม้ก้นหม้อ ดำปิ๊ดเชียวล่ะค๊า( บอกแล้วว่า ประสบการณ์การทำเค้กล้มเหลวนั้น โชกโชน...หึๆ)...............ต้องใจเย็น พอเค้ายอมให้เรากดได้อีกครั้งค่อยกดค่ะ ซัก 5-8 นาที กดทีนึงก็ได้ค่ะ ทำแบบนี้ 4-5 รอบค่ะ ระหว่างนี้ก็อย่าตื่นเต้น ไปแอบเปิดดูนะคะ เค้กจะยุบเอาได้ง่ายๆซะด้วย
***ข้อห้ามเยอะจริงๆเลยเน๊อะ ...เฮ๊อ!!!



+++++++++++++++++++++++++++++++++

เวลาผ่านไป 5 รอบการกด ก็ลองเปิดดูได้ค่ะ ทำใจก่อนเปิดนะคะ ....อิอิ
ชะแว๊บ!!! นี่ไง หุงขึ้นหม้อเชียว เค้กของฉ๊าน!!!



+++++++++++++++++++++++++++++++++


ดูกันชัดๆเลยค่ะ.........หม้อหุงข้าวก็ทำเค้กได้จริงจริ๊ง



+++++++++++++++++++++++++++++++++

แล้วก็ยกหม้อข้าวด้านในออกมานะคะ ใช้ สแปตตูล่าแซะขอบข้างนิดหน่อยให้พอร่อน แล้วคว่ำลงตะแกรงได้เลยค่ะ
นี่คือเหตุผลที่เดียร์บอกว่าให้ทาก้นพิมพ์หม้อข้าวด้วยไขมันนิดนึง เพราะจะได้ร่อนออกมาง่ายเชียวค่ะ เคยไม่ทาแล้ว ต้องแซะอยู่นาน เค้กยุ่ย+เละ ก้นก็ดำ ไม่สวยเลยล่ะค่ะ.......



++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากนั้นก็เอากระดาษไขออก มาดูหน้าตาว่าเป็นไงบ้าง เค้กของเรา


++++++++++++++++++++++++++++++

หน้าตาหนู พอจะไปเทียบกะพี่เค้กจากเตาอบมั๊ยค๊า หอมกรุ่นๆ............จุ๊บๆ
….รอให้เย็นก่อนนะคะ ค่อยสไลด์ดูเนื้อเค้กกันค่ะ รอแป๊ะนึง

+

++++++++++++++++++++++++++++

หอมซะจน เจ้าหมูนุ่มตื่นมากลางดึก แอบย่องมาดูเลยนี่...........



++++++++++++++++++++++++++++++++

มาเหลียวซ้าย



++++++++++++++++++++++++++++++++++

แล้วก็เหล่ขวา หาต้นตอของกลิ่นเชียวค๊า..



.+++++++++++++++++++++++++

ระหว่างนั้น มาทำบัตเตอร์ครีมกันดีกว่าค่ะ......
มาเตรียม หัวบีบและถุงบีบ แบบฉบับของคนขี้เกียจ ....ใช้แล้วทิ้งได้เลยค๊า.....



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


เดียร์ได้สูตรบัตเตอร์ครีม อันนี้นำมาจากบล๊อคคุณ พี่แหม่มTiara ค่ะ แล้วนำมาดัดแปลงนิดนึงนะคะ เพื่อความหอมอร่อย ขอบพระคุณ สำหรับสูตรครีมแสนอร่อยเจ้าค๊า.........ขอลอกมาทั้งหมดเลยแล้วกันค๊า........((สูตรเค้าดีจริงๆค่ะ))
ครีมแต่งหน้าเค้ก
ส่วนผสม
1. เนยสดรสจืด 225 กรัม
2. เนยขาว 150 กรัม
3. น้ำตาลทราย 330 กรัม
4. เกลือ 10 กรัม
5. นมข้นจืด 75 กรัม
6. น้ำ 90 กรัม
สิ่งที่ต้องมีคือ เครื่องตีไข่ขนาด 5 ลิตร,หัวตีรูปใบไม้ และหม้อแสตนเลสสำหรับตั้งไฟละลายส่วนผสม หลังจากชั่งของแล้วก็ลงมือเลย
1. เทน้ำตาลทราย เกลือ นมข้นจืด และน้ำผสมกันในหม้อสแตนเลส นำไปตั้งไฟอ่อน ๆ เคี่ยวด้วยพายไม้อย่าหยุดมือ จนกว่าน้ำตาลจะละลายหมด ไม่ต้องรอให้ข้นเหนียวนะ เดี๋ยวเวลาเอามาปาดบนเนื้อเค้กจะตึ๋งหนืดหมด

2. เมื่อน้ำตาลละลายหมดแล้ว ก็ทิ้งไว้ให้เย็น



+++++++++++++++++++++++++++++++++++

3. หันไปตีเนยสดด้วยเครื่องตี ตีจนเนยสดกระจายตัว อย่าให้จับกันเป็นก้อน เอาพายยางช่วยได้..



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

4. หลังจากกระจายตัวและขึ้นฟูเล็กน้อยแล้ว ก็เอาเนยขาวใส่ลงไปเลย ตีด้วยความเร็วปานกลางเหมือนกัน ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาในการตีนานหน่อย ประมาณ 20 นาที ดูจนกระทั่งส่วนผสมกลายเป็นสีขาว ขึ้นฟู และเข้ากันดี เราใช้วิธีสังเกตว่าเนยจะขึ้นฟู โดยดูที่ขอบอ่าง เนยจะฟูขึ้นมาเป็นรูปก้นหอยเล็ก ๆ หากเห็นว่าส่วนผสมยังไม่เข้ากันก็ต้องหยุดเครื่องแล้วปาดอ่างเป็นระยะ ๆ



+++++++++++++++++++++++++++

5. เมื่อเห็นว่าใช้ได้แล้ว ก็นำน้ำเชื่อมที่เราละลายไว้มาเทลงในส่วนผสม โดยไม่หยุดเครื่องตี ยังคงตีไปเรื่อย ๆ เวลาเทให้เทช้าที่สุด แบบเป็นสายเล็ก ๆ ต่อเนื่องกัน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเชื่อมเกาะกันเป็นกลุ่ม

6. ตีต่อไปอีกระยะหนึ่ง อาจปาดอ่างช่วยอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเข้ากันดีแล้วก็ใช้ได้เลย เก็บส่วนผสมที่ได้ไว้รอเค้ก อนุญาตให้ใช้นิ้วจิ้มชิมรสชาติได้
วิธีเก็บรักษาครีมที่ตีไว้แล้ว ให้เก็บในตู้เย็น ใช้ภาชนะปิดสนิท เวลาจะใช้ต้องตั้งไว้ให้ละลายในอุณหภูมิห้อง อย่าใช้ความร้อน ไม่อย่างนั้นเนยจะละลายหมด



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากนั้น มาลองสไลด์ดูเนื้อกันค่ะ ครั้งนี้ ฟองอากาศใหญ่ไปนะเนี่ย สงสัย มัวแต่กังวลเรื่องถ่ายรูป (โทษปี่โทษกลองซะงั๊น...อิอิ....)....เนื้อนุ่ม ฟู หอม อร่อยได้ใจทีเดียวค่ะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++

นำไปแต่งหน้าเค้กต่อเลยค่ะ …………. เตรียมของที่จะใช้แต่งหน้าวันนี้ ขอเป็นสไตล์หวานๆ น่ารักๆ ตามกระแส ใกล้วาเลนไทน์หน่อยนะคะ ………..มีบัตเตอร์ครีม เชอรี่แดง บลูเบอรี่ย์แยม อัลมอนด์ก้านไม้ขีด ชอคชิพ แล้วก็พวกเกล็ดน้ำตาลสีตามชอบค่ะ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันนี้ตัดแต่งเป็นรูปหัวใจได้ เป็นเค้กวานิลลา บูลเบอรี่ย์ ................ให้สำหรับคนกำลังอินเลิฟนะคะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาดูเนื้อด้านข้าง ตอนที่ยังไม่ได้โบ๊ะกันก่อนค่ะ.............พอจะไปกระแซะพวกพี่ๆเค้กจากเตาอบไหวมั๊ยค่ะเนี่ย.......โฟกัสหลุด เวง.....หึๆ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แต่งเสร็จก็ได้ออกมาเป็นประมาณนี้นะคะ ได้เรียนรู้วิธีปาดเค้กให้สวยเนียนมาจากการอ่านกระทู้และบล็อกของพี่วรรณ (A Little Catz) ค่ะ ขอบคุณมากเลยค๊า..............



++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แถมอีกชิ้นค่ะ อันนี้เป็นChocolate cake วิธีทำและส่วนผสมคล้ายสูตรข้างต้นค่ะ เพียงเพิ่ม โกโก้ผง อีก 25 กรัม ลงในส่วนผสมตอนร่อนไปกับแป้งเลยค่ะ



++++++++++++++++++++++++++++++

โปะด้วยบัตเตอร์ครีมชอคโกแลต แล้วราดหน้าด้วย ชอค กานาซ.... อันนี้แต่งเพื่อไปให้วันเกิดค่ะ
สูตรชอคกานาซ ก็ดัดแปลงมาค่ะ ต้องขอประทานโทษเจ้าของสูตรด้วย เพราะตอนที่เดียร์เซฟสูตร มันนานมาแล้วค่ะ ที่มีอยู่ในเครื่องมันก็เลยหายไป มีแต่แบบจดลายมือ
สูตร หน้าชอคกานาซ
Whipping Cream 50 g.
Chocolate 50 g.
Butter 15 g.
Genlatine 1./2 tsp.
Sugar 1+1./2 Tbsp.

**ตุ๋นรวมกัน คนตลอดจนเข้ากัน จึงยกลง คนต่อจนรู้สึกไม่เหลวเยิ้ม ค่อยราดหน้า



+++++++++++++++++++++++++

2 ก้อนนี้ มอบให้ทุกท่าน....ที่มีความรักให้กันและกัน



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ถ่ายรูปหมู่เค้กที่ทำได้ในวันนี้ ผลพลอยได้ในการทำเค้กทุกครั้งของเดียร์ก็คือ ......มินิเค้กค่ะ.............มีทุกครั้งเลยจริงๆ!!!!



+++++++++++++++++
แต่ไม่ต้องห่วง เพราะมีเจ้านี่.............เจ้าหมูนุ่ม………มาคอยรอจัดการกับส่วนที่เป็นผลพลอยได้ ทุกครั้งเหมือนกันค่ะ หึๆๆ อ้วนเป็นหมูเลย หมาฉ๊านเนี่ย.....- __ -“




+++++++++++++++++++++++++++++++++++

แถมอีกชิ้นแล้วกันค่ะ พอดีเห็นสีหวานๆ เหมาะสำหรับการรื้อฟื้นสูตรของคุณ ธิชา มาทำอีกครั้งซะจริงๆ
ทานเค้กสไตล์ใหม่ ให้อร่อย ลองทำแล้วเป็นอย่างไง มาบอกกันบ้างนะค๊า........ขอให้มีความสุขกันโดยถ้วนหน้าทุกท่านค๊า.............

Create Date : 03 กันยายน 2550 Last Update : 14 กันยายน 2550 16:00:45 น. Counter : 3469 Pageviews.		11 comments
Share Tweet