กันยายน 2555

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
 
 
เรื่อง เด็กน้อย โลกแห่งความจริง กับสังคมออนไลน์ที่ไร้ขีดจำกัด

เมื่อคุณพบว่าเด็กน้อยอายุเพียง 12 ปี ที่คุณได้เจอะเจอบนโลกแห่งความจริงกับในโลกอินเตอร์เนตมันช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน คุณจะเกิดความรู้สึกอย่างไร สำหรับนิลดาแล้ว มันน่าตกใจมากกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย และเทคโนโลยีที่มีส่วนอย่างมากกับทิศทางของสังคม พฤติกรรมของเด็กในวันนี้

 

นิลดามีโอกาสได้รู้จักกับเด็กหญิงคนหนึ่ง ผู้ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักเขียน เด็กหญิงผมบ๊อบ แสกกลาง กับท่าทางเขินอายเวลาที่ได้สนทนากัน ไม่กล้าที่จะสบตาผู้คน มักจะก้มหน้าอยู่เป็นนิจ พูดจาประหยัดถ้อยคำ หากหญิงสาวไม่เป็นคนเปิดบทสนทนา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ คงเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมโลกเท่านั้น

สำหรับนิลดาแล้ว การได้รู้จักกับเด็กหญิงคนนั้น ในโลกที่สัมผัสตัวตนและร่างกายได้ รวมถึงการได้เห็นหน้า อากัปกิริยา การแสดงออก เป็นสิ่งที่วิเศษมาก เนื่องจากเด็กน้อยได้สร้างแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ จุดพลังในตัวหล่อนให้เกิดการสานต่อความฝัน โดยไม่ล้มเลิกไปกลางคัน เด็กอายุ 12 ผู้ที่บอกหญิงสาวว่า เธอรักการเขียน และเริ่มต้นเขียนมาเมื่อตอนเรียนหนังสือขณะเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 6 และอนาคต เธอต้องการเป็นนักเขียน

 

ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังบอกหล่อนอีกว่า ศาสตร์ที่เธอสนใจคือประวัติศาสตร์โดยเฉพาะในฝั่งเอเชียตะวันออก

ประวัติศาสตร์ที่ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนรวมถึงตัวนิลดาเอง ไม่เคยคิดที่จะศึกษาหรืออ่านอย่างจริงจัง ประวัติศาสตร์ที่มีผู้เขียน ผู้เรียบเรียง และผู้รวบรวมเยอะแยะมากมายหลายเวอร์ชั่น จนหล่อนไม่รู้เลยว่าเวอร์ชั่นไหนคือประวัติศาสตร์จริงหรือเป็นเพียงประวัติศาสตร์ที่มีการชำระแล้ว 

มีเรื่องหนึ่งหล่ะที่เป็นประวัติศาสตร์ใหม่ที่หญิงสาวอย่างนิลดาไม่เคยได้รับรู้มาก่อน นั่นคือประวัติพระเจ้าตาก การสวรรคตของท่าน และชีวิตในบั้นปลายก่อนสวรรคต ในมุมมองของการค้นคว้าและวิจัยจากอาจารย์ท่านหนึ่งที่ได้แบ่งปันเล่าให้เธอฟัง นี่เป็นความรู้ใหม่สำหรับเธอ แต่เธอไม่ได้เก็บมุมมองนั้นมาเป็นประเด็นสำคัญ เพราะเธอคิดว่า ประวัติศาสตร์เป็นศาสตร์ที่คนในยุคนั้น ๆ เท่านั้น ถึงจะรู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร ยุคอื่น ๆ ต่อมา มันก็เป็นเพียงแค่คำบอกเล่า ที่ยังไม่สามารถหาข้อเท็จจริงได้ เว้นแต่ จะมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรยืนยัน นอกนั้น ก็เป็นเพียง “เสียงลือเลียงเล่าอ้างอันใดพี่เอย”

 

มองกลับมาที่เด็กหญิงอายุ 12 ณ ห้วงเวลาที่นิลดาได้เห็น ได้คุยด้วยรังสีของความมุ่งมั่น ความตั้งใจ ความปรารถนาในสิ่งที่ตนเองฝันอยากจะเป็น หล่อนรับรู้ได้ นิลดาชื่นชมเธอมาก และภาวนาเสมอให้เด็กน้อยสานฝันและเป็นนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต

 

แต่แล้ว ในวันหนึ่ง เมื่อทั้งคู่ได้มีการแลกเปลี่ยน Facebook กัน วันนั้น นิลดาแทบตกใจกับภาพในโลกความจริงกับโลก Social Media ราวหน้ามือกับหลังมือ เมื่อหล่อนได้เข้าไปเยี่ยมเยียนที่หน้า Facebook ของน้องเขา

บางคนอาจจะบอกว่า ไม่แปลก บางคนอาจจะถึงสิ้นสติ ส่วนนิลดา ได้แต่ร้องคราง OMG!!

เพราะสิ่งที่หล่อนเห็นบนหน้านั้น มันเต็มไปด้วยสัตว์เลื้อยคลาน คำผรุสสวาส การบ่น การตำหนิ ภาพที่แบ่งปันมาจาก page อื่น และนั่นทำให้หล่อนคิดว่า มันเกินกว่าเด็กอายุ 12 ควรเป็น และแน่นอน มากกว่าภาพนอกอินเตอร์เนตที่หญิงสาวได้รู้จัก

โบราณว่าไว้ว่า “รู้หน้าไม่รู้ใจ”

ปัจจุบันคงต้องเปลี่ยนใหม่เป็น “รู้หน้าไม่รู้ใจ อยากรู้เธอเป็นอย่างไร ให้ดูในอินเตอร์เนต”

อ้อ ถ้าเป็นบน Facebook คงต้อง “ดูช้างให้ดูหาง ดูนาง อย่าดูรูปโปรไฟล์”

 

ความผิดบนอินเตอร์เนต นิลดาไม่อาจโทษเด็กน้อยตัวเล็ก ที่ยังไม่เดียงสาต่อสิ่งที่ตนเองทำลงไป แต่หล่อนโทษไปที่พ่อแม่ สังคม และเทคโนโลยีที่มันไร้ขีดจำกัด จนเราไม่สามารถจำกัดมันได้ โดยเฉพาะกับเด็กในสมัยนี้ การเขียนข้อความ การโพสต์ความเห็นต่าง ๆ ลงไป บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า “ไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันจึงไม่ต้องรับผิดชอบกับคำพูดของฉัน” หรือแม้กระทั่งพ่อแม่เด็กเองก็คงปล่อยปละละเลย ไม่ตรวจสอบการใช้อินเตอร์เนตของลูกหลานจนก่อให้เกิดดราม่า มาม่าเต็มเวปที่วัยรุ่นนิยมใช้กัน

ทว่า หากกลับมามองให้ดีอีกครั้ง การที่เราเห็นอะไรในอินเตอร์เนต อาจจะเป็นเพียงความคะนองเล็กน้อยตามวัยหรือไม่ เมื่อผ่านพ้นวัยนี้ไปแล้ว สังคมที่ดี จะหล่อหลอมให้เขาเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนพฤติกรรม และเปลี่ยนนิสัยไปก็ได้

อย่าให้ถึงขนาดเกินเลยจนกลายเป็นปัญหาสังคม ที่เราพบเห็นกันเป็นประจำทุกวัน ทั้งเด็กหญิงตบกันแย่งผู้ชาย เด็กผู้ชายตีกันแย่งความเป็นหนึ่ง(ในรั้วอาชีวะ) เด็กน้อยที่มีนัยตามุ่งมั่นของนิลดา คงไม่กลายเป็นหนึ่งในนั้นหรอกนะ

ทั้งนี้ หญิงสาวก็ได้แต่หวังว่า เด็กหญิงอายุ 12 ผู้ส่งผ่านพลังมาให้หล่อน ในวันหน้า เธอจะเปลี่ยนไป ในทางที่ดีขึ้น v

 

 

 

 

 

 

 




Create Date : 19 กันยายน 2555
Last Update : 26 กันยายน 2555 9:36:56 น.
Counter : 487 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

aunty_reedsi
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



คนโสด ไม่ขี้เหงา แต่เดี่ยวดาย
New Comments