Lilypie Fourth Birthday tickers
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
9 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
ในหลวง...พ่อของแผ่นดิน (อ่านแล้วประทับใจมากๆๆ)

วันนี้ red colorได้รับ mail ดีๆ เป็นบทสัมภาษณ์ประสบการณ์ของคุณยายท่านหนึ่งที่ได้รับพระเมตตาจากในหลวงและพระราชินีของพวกเราคนไทย อ่านแล้วประทับใจมากจริงๆ จึงขอเอามาเผยแพร่ต่อค่ะ

ในหลวงของปวงเรา

ยายซุบ สามร้อยยอด เป็นหญิงชาวบ้านวัย 70 แห่งบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยายยากจนมาตั้งแต่สาวจวบจนวันนี้ หากแต่ยายกลับยืนยันว่ายายมีอดีตที่มีความหมายต่อชีวิตของแก อดีตที่หมายถึงชีวิตใหม่ ไม่ว่าแกจะยังจน ต้องขอเงินลูก ๆ 9 คนใช้ดังเช่นทุกวันนี้หรือจะมั่งมีศรีสุข ถูกหวยรวยเบอร์ อย่างไรก็ตาม แกไม่เคยลืมเหตุการณ์ครั้งนั้น เหตุการณ์ที่ล่วงเลยมานานกว่า40 ปี

การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฏรบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี ไม่เพียงทำให้หมู่บ้านที่ยากจน ล้าหลัง ไม่มีแม้ถนนที่จะติดต่อกับโลกภายนอก ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หากแต่การเสด็จพระราชดำเนินในครานั้นได้ทำให้หญิงคนหนึ่งมีชีวิตยืนยาวต่อมาจนถึงวันนี้

ถาม : สมัยยังสาวยายเคยไปรับเสด็จในหลวงใช่ไหม?
ยาย : ใช่ ตอนนั้นไปรับเสด็จที่ตีนถ้ำไทรในหมู่บ้านเรานี่แหละ ท่านเสด็จฯ มาทางเหนือ ไอ้เราป่วยเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องมาครึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่รู้หรอกนะตอนนั้นว่าเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องนอนซม คนในบ้านบอกในหลวงจะมา เราก็อยากเห็น อยากไปรับเสด็จ แต่ปวดท้องจนเดินไม่ไหว

ถาม : เดินไม่ไหวแล้วไปยังไง?
ยาย : ก็ให้คนหามไป ใส่เกวียนไปเลย

ถาม : ทำไมถึงเลือกไปเฝ้าในหลวง ไม่ไปหาหมอ?
ยาย : ไม่รู้สิ คืออยากเห็นตัวจริง ๆ ใกล้ ๆ นะ คิดในใจว่ายอมตายได้ แต่ขอไปรับเสด็จก่อน แลกตัวแลกชีวิตกันเลย พูดง่าย ๆ ว่าวัดดวงเอาเลย อีกอย่างตอนนั้นถ้าเราไปหาหมอก็ลำบากเพราะน้ำแห้งเรือเครื่องก็ไม่มี ถ้าไปก็คงไปไม่ถึง มันคงจะตายก่อนแล้ว

ถาม : ตอนนั้นได้ถวายอะไรท่านบ้างไหม?
ยาย : ยกมือพนมยังจะไม่ไหวเลย จะให้ถวายอะไรอีก
(หัวเราะเสียงดัง)

ถาม : แล้วได้เห็นท่านไหม?
ยาย : ก็ได้เห็นท่านอยู่ แต่ก็เห็นห่างๆ แล้วก็เห็นไม่นานเพราะว่าพระองค์ท่านต้องเสด็จฯ ไปที่ตีนเขาอีกลูก คนละฟาก ทรงไปดูเรื่องที่จะระเบิดเขาทำทางเข้าออกหมู่บ้าน

ถาม : ไส้ติ่งเรากำลังจะแตก แล้วรอดมาได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้น?
ยาย : ตอนนั้นไส้ติ่งกำลังจะแตก เงินสักบาทก็ไม่มีติดตัว พอดีว่าพระราชินีท่านทรงเยี่ยมเยียนราษฏร แล้วทอดพระเนตรเห็นเรานั่งหน้าซีด พิงเพื่อน คือได้ตอนนั้นมันไม่ไหวจริง ๆ ท่านทอดพระเนตรเห็นก็คงสังเกตได้ว่าอาการเราไม่ดี พระองค์ก็ถามว่า เป็นอะไร ท่านบอกให้พูดธรรมดาก็ได้ เราบอกว่าเจ็บท้อง พระองค์ท่านตรัสถามต่อว่า เจ็บมากี่วันแล้ว เราก็บอกว่า เจ็บมาครึ่งเดือนเห็นจะได้ ท่านก็เลยบอกให้หมอที่มาด้วยตรวจดู

ถาม : แล้วหมอว่ายังไง?
ยาย : หมอบอกว่าไส้ติ่งกำลังจะแตก พอหมอบอกอย่างนั้น พระองค์ท่านก็ทรงติดต่อไปที่ในหลวงซึ่งทรงอยู่ที่ตีนเขาอีกลูก

ถาม : รู้ได้ยังไงว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงติดต่อไปที่ในหลวง?
ยาย : รู้สิ เพราะเห็นในหลวงพระองค์ท่านทรงวิ่งจากตีนเขาลูกโน้นมาเลย ห่างกันถึง1 กิโล (แค่นี้ก็ตื้นตันแทนคุณยายแล้ว)

ถาม : รู้สึกอย่างไรบ้างในตอนนั้น?
ยาย : ดีใจแล้วก็ปลื้มใจแบบมากๆ ไอ้ตอนแรกคิดว่ากำลังจะตายนี่ คิดว่าตัวเองรอดแน่ มันมีกำลังใจ คิดว่าขนาดพระเจ้าแผ่นดินยังเอาใจใส่เราขนาดนี้ เราจะตายไม่ได้

ถาม : พอในหลวงเสด็จมาถึง ทรงตรัสว่าอย่างไรหรือไม่?
ยาย : ท่านให้เอา ฮ. มารับ ท่านตรัสว่า เดี๋ยวเราจะกลับทางเรือเอง ให้เอาคนไข้ไปส่งก่อน พอพระองค์ท่านตรัส หมอสองคนก็หิ้วปีกเราไป ในหลวงท่านทรงเมตตาเราไปจนถึงเครื่อง พอเราขึ้นไป ก่อนที่ประตู ฮ. จะปิด เราก็มองลงมาเห็นในหลวง ท่านทรงโบกพระหัตถ์ เราซาบซึ้งมาก ยิ่งบอกตัวของเราเลยว่าเราจะตายไม่ได้

ถาม : ถ้าไม่มีในหลวงในวันนั้นก็ต้องตายแน่ ?
ยาย : แน่นอน ไม่ต้องอะไรหรอก หมอบอกว่า มาช้ากว่านี้แค่ 2-3 นาที ก็ไม่รอดแล้วแล้ววันนั้นอย่างที่บอกว่าเรือเครื่องก็ไม่มี น้ำก็แห้ง ไม่รู้ใช้เวลาครึ่งวันจะเดินทางไปถึงโรงพยาบาลหรือเปล่า ถ้าในหลวงไม่เสด็จมาที่นี่ วันนั้นก็ตายแน่ ตายทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไรตาย

ถาม : เหมือนกับได้ชีวิตใหม่?
ยาย : ใช่ ชีวิตทุกวันนี้ถึงฉันแก่แล้ว แต่เมื่อนึกถึงวันนั้นทีไร รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ทุกที ตอนนั่งดูโทรทัศน์เวลาเห็นท่าน เราก็จะพนมมือไหว้ตลอด รู้สึกว่าท่านได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเรา

ถาม : ตอนนั้นอยู่บน ฮ. เป็นอย่างไรบ้าง?
ยาย : จำไม่ค่อยได้ รู้แต่ว่าพอบินขึ้นไปพักใหญ่หมอก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เราพูดไม่ค่อยไหว แต่ก็บอกไปว่าปวดท้อง บน ฮ. นอกจากเรา ก็มีหมออีก 2 คน แล้วก็คนขับอีก 2 คน จำได้แค่นี้ล่ะ

ถาม : ฮ. พาไปที่โรงพยาบาลไหน?
ยาย : โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ เพชรบุรี

ถาม : แล้วพักอยู่กี่วัน?
ยาย : ปกติคนเป็นไส้ติ่งทั่วไปเขาพักกัน 3-4 วันก็ออกได้แล้ว แต่เราเป็นหนักต้องพักถึง 24 วัน ถ้าในหลวงไม่ช่วยก็ตายแน่ แล้วถ้าเราตายลูกเต้าก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง ในหลวงท่านทรงเมตตา ทรงดูแลเราอย่างดี ห้องที่เราพักอยู่นี่ดีมาก เป็นห้องพิเศษเลย พูดตรง ๆ ว่า ดีกว่าบ้านที่ฉันอยู่อีก หมอก็นิสัยดี พูดจากับเราเพราะแล้วก็ใจดี ในหลวงท่านทรงห่วงใยเรามากมีคนมาเยี่ยมถามอาการ ถามสารทุกข์สุขดิบทุกวัน คนใกล้ชิดพระองค์ท่านก็ถามเรานะว่า จะฝากอะไรถึงท่านไหม เราบอกให้ พระองค์ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ พูดได้แค่นั้น มันตื้นตันจนนึกไม่ออก

ถาม : หลังจากวันนั้นแล้วเป็นอย่างไร?
ยาย : ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านอีกเลย ถ้าเรามีโอกาสจะขอเข้าไปกราบแทบพระบาทเลยสิ่งที่พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือเราไว้ เป็นความซาบซึ้งที่สุดในชีวิตแล้ว

คิดดูสิโลกนี้จะหากษัตริย์อย่างท่านได้ที่ไหน เราเป็นแค่ชาวบ้านจน ๆ แต่ท่านห่วงเราเหมือนเราเป็นลูกพระองค์ท่าน ทรงห่วงเราเหมือนที่เราห่วงลูก ท่านทรงเสียสละแม้กระทั่งของส่วนพระองค์ ทรงยอมลำบากกลับทางเรือเพื่อคนอย่างเรา พูดตรง ๆ ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้ฉันตายแล้วเกิดใหม่อีกสิบชาติก็ทดแทนไม่หมด

ถาม : กลับมาบ้านแล้วเป็นอย่างไร?
ยาย : ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลใหม่ ๆ พระองค์ท่านก็ส่งเงินมาให้อยู่ถึง 1 ปี ครั้งละ 3-5 พันบาท ส่งมาหลายครั้งอยู่ เรารู้เพระว่าใส่ซองสีขาว ประทับตราสำนักพระราชวัง จากเหตุการณ์นั้นทำให้เรารักในหลวงของเรามากแล้วทุกวันนี้ก็ยังน้อยใจตัวเองอยู่ว่า เวลาที่ท่านป่วย เราก็ไม่มีเงินไปเฝ้าไปแสดงความจงรักภักดีกับท่าน ได้แต่ร้องไห้อยู่กับบ้าน นั่งร้องไห้ทุกวัน ดูข่าวทุกวันไม่เคยเว้นเลย

ฉันอายตัวเองว่า ในขณะที่ท่านให้ชีวิตใหม่กับเรา แต่เราช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย

ถาม : การเสียสละของในหลวงคราวนั้นได้เอามาปฏิบัติตามหรือไม่?
ยาย : มีส่วนมากเลย เวลาคนในหมู่บ้านเขาป่วยเป็นอะไร ฉันก็ไปเยี่ยมเขาทั่ว ไปไหนไปกัน มีใครเจ็บในหมู่บ้านนี่ฉันจะไปเยี่ยมหมด บางทีถึงไม่ใช่หมอ ไม่ใช่ญาติเขา แต่เราก็ไป ไปนั่งพูดคุยให้กำลังใจบางทีก็ไปบีบให้นวดให้ นี่คือสิ่งที่ในหลวงให้เรา และเราให้คนอื่นต่อ เมืองไทยเราโชคดีที่มีในหลวง โชคดีมาก ๆ ไม่มีกษัตริย์ที่ไหนในโลกอีกแล้วที่จะเป็นห่วงชาวบ้านอย่างฉันเท่ากับท่าน

คนอย่างเราเปรียบไปก็เหมือนมดปลวก แต่ท่านก็ยังใส่ใจ ท่านใส่ใจจริง ๆ เหมือนกับว่าคนไทย คือ ลูกของท่านทั้งแผ่นดิน





Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 17:02:54 น. 9 comments
Counter : 540 Pageviews.

 
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ..

ขอบคุณ จขบ.มากนะคะ ที่นำเรื่องราวของพระองค์ท่านมาบันทึกไว้ในบล้อก


โดย: i'm not superman วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:52:08 น.  

 
พระองค์เป็นทุกอย่างของพวกเราชาวไทย


โดย: kohchat (kohchat ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:54:26 น.  

 
ทรงพระเจริญ


โดย: biebie999 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:57:56 น.  

 


===Happy BiRtHDaY na ka.===





โดย: ^^Ken-Ju***Pu-Jung^^ วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:2:54:51 น.  

 
ขอให้มี

ความสุข สมหวัง ร่างกายแข็งแรง

ประสพความสำเร็จในหน้าที่การงาน

และมีครอบครัวที่อบอุ่น

เนื่องในวัน

คล้าย

วันเกิดครับ




โดย: somnumberone วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:9:43:45 น.  

 



ป้าพานางฟ้ามาอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ คนที่ดีมีจิตใจดี
และเหตุการณ์ดีๆนะคะ
หวังว่าคงจะไม่ช้าไปนะคะ
********
****
อ่านแล้วตื้นตันใจมากเลยค่ะ
มันปวดร้อนเบ้าตาและหัวใจมากๆ
**********
*****




โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:10:58:20 น.  

 


โดย: โสมรัศมี วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:11:56:59 น.  

 



โดย: vintage วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:14:21:04 น.  

 


*** สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ
พรใดที่เป็นของชาวโลก
สุขใดที่ช่วงโชติของชาวสวรรค์
รักใดที่อมตะและนิรันดร์
ขอรักนั้นและพรนั้นจงเป็นของ....จขบ. คะ***



โดย: หน่อยอิง วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:19:11:03 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

red color
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




powered by ハピネム

Friends' blogs
[Add red color's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.