เมษายน 2555

2
3
4
5
6
8
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
หลายอย่างที่อยากเล่า


ในหลายวันที่ผ่านมาไปพบเจออะไรมากมาย ทั้งทำให้ยิ้มได้ และทั้งที่ทำให้อึดอัด เมื่อสัปดาห์ก่อนมีเหตุให้ต้องเข้าเมืองใหญ่และไปอาศัยอยู่กับญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านเอ็นดูเอาใจใส่ฉันมาก-มากจนฉันอึดอัด ท่านสรรหาโน่นนี่นั่นมาบำรุงฉันจนลืมไปว่าฉันเป็นเพียงเจ้าไม้ขีดไฟหัวโตตัวบาง-แล้วจะกินเข้าไปยังไงหมด และที่สำคัญ ถามฉันไหมว่าอยากกินหรือเปล่า หลายอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ฉันไม่มีจิตพิศวาสกับมัน และที่แปลกกว่านั้นคือ อาหารที่ฉันคิดว่าพื้นๆ ที่กินได้ แต่อาหารย่านนั้นก็ทำออกมาได้รสชาติแย่มาก กินแค่คำเดียวฉันไม่แตะอีกเลย เพิ่งเคยกินขนมครกรสชาติแย่ที่สุดในโลกก็ที่นี่แหละ


ถ้าถามว่ากินข้าวกับอะไรอร่อยที่สุด คำตอบแบบน่ารักคือ กินกับคนที่เรารัก แต่กับกรณีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับฉัน กลับกลายเป็นว่าฉันได้กินอาหารที่รสชาติไม่ถูกจริตมากที่สุด ไม่ใช่ความผิดของใครหรอก แต่คงเป็นความห่างไกลของระยะทางและเวลาที่ทำให้เราไม่รู้ใจกัน

วันหนึ่งที่เราออกไปทำธุระข้างนอก มื้อเที่ยงของเราฉันได้รับสิทธิ์ในการเลือกระหว่างข้าวขาหมูกับก๋วยเตี๋ยว ซึ่งฉันขยาดมากกับข้าวขาหมูที่รสชาติแย่ที่สุดเจ้านั้น ฉันจึงบอกว่ากินก๋วยเตี๋ยวทั้งที่ไม่ค่อยชอบเพราะไม่อยู่ท้อง แล้วเราก็ไปถึงร้านก๋วยเตี๋ยวที่ถัดจากร้านข้าวขาหมู ไปใกล้ๆ ปรากฏว่าเป็นร้าน ก๋วยเตี๋ยวเป็ด! โอ้...ฉันไม่เคยพิศวาสในการกินเป็ดเลย หนีเสือปะจระเข้แท้ๆ จึงสั่งไปว่าเอาแต่เนื้อเป็ด เครื่องในและเลือดไม่เอา

สั่งก๋วยเตี๋ยวเสร็จก็สั่งน้ำ ปกติฉันดื่มน้ำเปล่า แต่คราวนี้ท่านผู้อาวุโสแนะนำว่าโอวัลตินร้านนี้อร่อยมาก ซึ่งฉันจำขึ้นใจจากที่เคยกินเมื่อมาครั้งที่แล้วว่ามันไม่ต่างจากน้ำล้างถ้วยใส่น้ำตาลเลย ฉันต้องปฏิเสธไปอย่างสุภาพ แต่กระนั้นท่านผู้ใหญ่ก็คะยั้นคะยอฉันว่าสักอึกยังก็ดี เพราะที่ร้านไม่มีน้ำเปล่ามาเสิร์ฟ แต่ฉันก็ยืนยันคำเดิม กินก๋วยเตี๋ยวที่เหมือนเส้นหมี่ใส่น้ำพะโล้บวกกับเนื้อเป็ดเหนียวๆ ร้อนก็ร้อนต้องกินไปเช็ดเหงื่อไป เป็นอาหารที่ทรมานอีกมื้อ


ทำธุระเสร็จฉันก็ขอตัวไปซื้อของของตัวเองแล้วจะกลับไปทีหลัง พอปลีกตัวออกมาได้ฉันรีบไปซื้อน้ำเปล่ามากินให้ชื่นใจหายเหนื่อย แล้วไปจัดการซื้อข้าวของในห้างหรูติดแอร์ไม่ต้องไปเบียดเสียดในตลาดร้อนๆ กว่าจะซื้อของครบก็เย็นแล้ว กระเพาะก็เรียกร้องให้หาของกิน ซึ่งฉันได้สั่งอาหารที่ชอบมากิน แม้รสชาติจะจืดชืดไม่อร่อยอย่างที่คิดไว้ แถมนั่งกินคนเดียว แต่ก็เป็นอาหารมื้อที่รู้สึกดีมากๆ ในรอบหลายวัน

 
ฉันตอบไม่ได้ว่าอาหารมื้อที่อร่อยและมีความสุขคือมื้อไหน รู้แต่ว่าอาหารจะอร่อยขึ้นเมื่อเราไปกินกับคนที่เรารัก-แม้เขาจะไม่รู้สึกอะไรก็ตาม  อะไรที่ไม่เคยกินก็ยังกินได้จนหมด มีรอยยิ้มแปะหน้าตลอดเวลา นั่นละคืออาหารมื้อดีๆ ในความทรงจำ ยอมรับว่าบางครั้งฉันเองก็ละเลยกับคนใกล้ตัว มัวแต่วิ่งตามไขว่คว้าคนที่เป็นไปไม่ได้ คนใกล้ตัวยังไงก็ยืนอยู่ข้างฉันเสมอ ไม่เคยผลักไสเหมือนฉันเป็นสิ่งน่ารังเกียจ


เวิ่นเว้อมาซะยาวเพิ่งเล่าได้เรื่องเดียวเอง วันต่อมาฉันไม่ได้ไปไหนดูแต่ทีวีที่สัญญาณภาพไม่คมชัดทั้งวัน พอตกบ่ายก็ปวดหัว คิดว่าเดี๋ยวคงหาย แต่พอจนเย็นก็ยังไม่ดีขึ้นกะว่าเดี๋ยวกินข้าวแล้วจะกินยา แต่ท่านผู้ใหญ่ของฉันก็ให้ลองจิบน้ำครอบจักรวาลเพื่อถามความเห็น เพียงอึกเดียวจิบเล็กๆ แค่ครึ่งช้อนก็เหมือนมีอะไรวิ่งแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ฉันรู้สึกมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น และปฏิเสธที่จะชิมอีก แล้วไปนอน ปรากฏว่าเริ่มมีอาการคลื่นไส้ และไม่นานฉันก็วิ่งเข้าห้องน้ำพร้อมนำพาอาหารกลางวันออกมาจนหมดไส้ ทีนี้ท่านผู้ใหญ่ตกใจมาก ฉันก็พยายามบอกว่าฉันไม่ค่อยสบายอยู่แล้วคงไม่เกี่ยวกับน้ำมหัศจรรย์นั่น จากนั้นฉันก็กินยาแก้ปวดแล้วนอน ตั้งแต่หกโมงเย็นถึงหกโมงเช้าของวันใหม่


คิดว่าอาการคงดีขึ้นเพราะวันนี้ต้องไปหาญาติที่แม่กลอง ปรากฏว่าตอนขึ้นแท็กซี่จะไปขึ้นรถตู้ก็เกิดอาการเวียนหัวต้องร้องขอยาดม ขึ้นรถตู้อาการก็ยังทรงๆ พอไปบ้านญาติก็เจอกับน้องๆ ที่ไม่เคยเจอกันเกือบยี่สิบปีแล้ว ตอนนั้นน้องยังเพิ่งหัดพูด แต่ตอนนี้น้องจบมหาวิทยาลัยแล้ว และน้องๆ อีกหลายคนที่เกิดตอนที่ฉันไม่ได้มาพบปะกัน ตอกย้ำว่าเรานี่แก่ใช้ได้เลย ที่บ้านญาติอาหารต้อนรับเต็มโต๊ะ ซึ่งเป็นอะไรที่ฉันไม่สันทัดเอาซะเลย ก็กินไปตามมารยาท

 
จากนั้นก็ไปตลาดน้ำอัมพวา อาการเวียนหัวไม่ดีขึ้นเลย ฉันเดินชมตลาดกับผู้อาวุโสแบบไร้อารมณ์ เจอคนถ่ายรูปก็หงุดหงิดที่เราต้องหยุดรอเขาถ่ายไม่ไปผ่านหน้ากล้องเขา ทั้งที่เป็นที่สาธารณะที่เขาควรหลีกทางให้เรา แต่ฉันก็ส่งสายตาพิฆาตไปจนคุณนักท่องเที่ยวชาวกรุงต้องรีบหลบไป

ฉันเคยได้ยินได้เห็นภาพของตลาดน้ำแห่งนี้มาเยอะและคิดว่าสักวันต้องมาให้ได้ แต่พอมาในสภาพร่างกายแบบนี้มันหมดอารมณ์ อะไรก็ขัดหูขัดตา ฉันรู้สึกว่าที่นี่เป็นตลาดประดิษฐ์ ไม่มีความเป็นธรรมชาติ ไม่มีเรือพายขายของ มีแต่เรือจอดนิ่งๆ อยู่ริมฝั่งคอยขายของ กับเรือยนต์ที่พานั่งท่องเที่ยวไปเที่ยวตามโปรแกรม คนที่เดินตลาดก็เป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างถิ่น โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่ดูโหยหาความเป็นพื้นบ้านเหลือเกิน เดี๋ยวถ่ายรูป เดี๋ยวอัพเฟซบุ๊กกันวุ่นวาย ฉันเดินได้นิดเดียวก็อยากกลับแล้ว ไม่คิดแม้แต่จะถ่ายรูปสักรูป รู้สึกว่าเหมือนเดินดูนิทรรศการมากกว่า


เดินตลาดแล้วก็กลับมาที่ร้านของญาติที่ขายของที่นั่น พอฉันบ่นว่าที่นี่เป็นตลาดประดิษฐ์ก็ได้รับข้อมูลว่า ตลาดเป็นแบบนี้จริงๆ เพียงแต่วันหยุดจะมีคนมาเยอะ คนท้องถิ่นเขาอยู่เขาเปิดร้านกันแบบนี้จริงๆ แต่พอกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็มีคนต่างถิ่นเข้ามาขายของมากขึ้น ซึ่งวันธรรมดาจะเงียบมาก แนะนำว่าถ้าอยากดูอัมพวาจริงๆ ต้องมาวันธรรมดา

ถึงควรแก่เวลาเราก็ต้องลากลับ ขากลับนั่งรถสองแถวไปกันเอง ฉันได้แต่นั่งตัวเกร็งเหงื่อแตก เพราะร้อนและเวียนหัวมาก รถวิ่งมาได้ไม่เท่าไรมีแม่ลูกขึ้นมา ซึ่งน้องตัวเล็กจับราวรถสองแถวไม่ถึงมายืนตรงหน้าฉัน ฉันหันซ้ายก็ผู้อาวุโสที่มากับฉัน หันขวาก็คุณพี่ผู้หญิงตัวใหญ่ซึ่งคงไม่ลุก ฉันจึงจำต้องลุกไปโหนราวแล้วให้เด็กหญิงนั่ง ซึ่งอาการเวียนหัวก็เพิ่มขึ้นเพราะภาพข้างทางที่ผ่านตา ฉันสูดหายใจลึกๆ ก็ไม่ช่วยอะไร แถมอาการมวนท้องก็เริ่มขึ้น ตายละวา...ไม่มีถุงมาซะด้วยจะอ้วกรดหัวใครไหมเนี่ย พอเข้าเขตตลาดแม่กลองอาการมวนท้องรุนแรง รถก็หยุดๆ วิ่งๆ ตามการจราจร นั่นเท่ากับเขย่าอาหารในท้องฉัน พอรถจอดมันมีอะไรมาจุกคอหอยแล้ว ฉันรีบพาตัวเองลงจากรถวิ่งไปข้างทางหาท่อระบายน้ำ สูดหายใจลึกๆ...รอด ไม่มีอาหารกลางวันออกมา การเป็นคนดีบางทีก็ไม่มีใครรู้ว่าต้องฝืนสังขารแค่ไหน

หลังจากนั่งรถตู้ออกจากแม่กลองใช้เวลาไม่นานก็ถึงเมืองใหญ่ ซึ่งต้องนั่งรถสองแถวต่อเข้าไปอีกจึงจะถึงที่พัก เราขึ้นต้นสายจึงมีที่นั่ง ผ่านตลาดก็มีคนขึ้นจนเต็ม ข้างหน้าฉันเป็นผู้หญิงแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรนั่งหลับตาข่มอาการเวียนหัวอยู่ ลืมตาอีกทีผู้หญิงตรงหน้าขยับแขนโหนราวก็ทำเอาฉันตกใจ-คนท้อง! เวรกรรมใครจะรู้เนี่ยว่าท้อง ก็เธอใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นธรรมดา แต่ตอนขยับฉันจึงได้เห็นท้องที่โตผิดปกติ เสียงข้างในหัวฉันตีกันว่าจะลุกหรือเปล่า ฉันคิดในใจรถแน่นมากถ้ายืนฉันได้อ้วกรดหัวผู้หญิงท้องคนนี้แน่ แต่ถ้าไม่ลุกก็รู้สึกผิดมากที่ทำตัวไร้น้ำใจ เอาไงดี-หลับตาก่อนดีกว่า ลืมตาอีกทีคนลงรถไปเยอะและมีที่นั่งให้ผู้หญิงคนนั้นแล้ว เฮ้อ! รอดไป


การจะทำความดีบางทีคนอื่นก็ไม่เข้าใจ เพื่อนฉันอ้วนแล้วขึ้นรถเมล์แต่มีคนเข้าใจผิดว่าท้องและลุกให้นั่ง เพื่อนฉันเสียความรู้สึกมากบอกออกไปว่า อ้วนค่ะ...ไม่ได้ท้อง ยืนได้ค่ะ หนุ่มคนนั้นก็เหวอไปเลย มีครั้งหนึ่งมีชายขาไม่เท่ากันขึ้นรถสองแถวมาพร้อมฉัน แต่พอมีคนขึ้นเยอะๆ และมีผู้หญิงคนหนึ่งทำหน้าประมาณว่าไม่ลุกให้ฉันนั่งเหรอ ผู้ชายคนนั้นที่คนแทบทั้งรถไม่รู้ว่าเขาขาพิการ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการยืนมากจำต้องลุกให้ผู้หญิงที่มีแขนขาปกตินั่ง ฉันได้แต่มองชายคนนั้นว่าเขาคงลำบากใจเพราะทั้งรถมีแต่ผู้หญิงที่นั่ง ผู้ชายมีหน้าที่ยืน ดูไปก็ไม่ยุติธรรมเลย ใครกันเป็นคนเขียนข้อความบนรถสาธารณะว่าโปรดเอื้อเฟื้อแก่เด็ก คนชรา และสตรี (จะมีครรภ์หรือไม่ก็ตามแต่) บางครั้งนั่งรถเมล์แน่นๆ ก็รู้สึกว่า รถนี้ที่นั่งเป็นของผู้หญิง จริงๆ แล้วผู้หญิงไม่ได้อ่อนแอนะ ไม่จำเป็นต้องเอื้อเฟื้อก็ได้ ควรจะลบข้อความเหล่านี้บนรถสาธารณะได้แล้ว 


อีกประเด็นบนรถเมล์จะมีข้อความไว้ตามที่นั่งว่า ที่นั่งสำรองสำหรับพระภิกษุ สามเณร ที่นั่งสำรองสำหรับคนชรา ที่นั่งสำรองสำหรับสตรีมีครรภ์ แต่ไม่มีที่นั่งสำรองสำหรับแม่ชี หรือภิกษุณี บางครั้งที่รถแน่นๆ ฉันเห็นแม่ชีต้องยืนโหนรถเมล์ เป็นภาพที่ เฮ้อ! ได้แต่ถอนหายใจ ความเสมอภาคอยู่ที่ไหนกัน


พาไปอยู่ในเมืองซะหลายเรื่องกลับบ้านนอกบ้างดีกว่า ฤดูร้อนอย่างนี้มีผลไม้หลากหลายให้เลือกบริโภคและหนึ่งในนั้นคือมะม่วง ซึ่งปีนี้มะม่วงต้นหน้าบ้านให้ผลดกเต็มต้นจนกินไม่ไหว ต้องนำไปจ่ายแจกเพื่อนบ้าน วันต่อมาเพื่อนบ้านที่ได้มะม่วงไปก็นำกล้วยหอมทองหวีใหญ่มาให้ ซึ่งมีเกือบยี่สิบลูก ฉันกินคนเดียวหมดภายในไม่กี่วัน ทำเอาเบื่อกล้วยหอมไปเลย อีกคนเอาข้าวต้มมัดมาให้หลายมัด เห็นแล้วก็ชื่นใจ น้ำใจของคนบ้านนอกอย่างเรายังไม่เหือดหายไปไหน ใครมีอะไรก็เอามาแบ่งปันกัน แต่ฉันเองไม่แน่ใจว่ารุ่นต่อๆ ไปจะเป็นอย่างไร เพราะฉันแทบไม่รู้จักใครเลย รอยยิ้มและน้ำใจที่มีต่อกันจะยืนยาวไปถึงไหนนะ
 
 
 




Create Date : 01 เมษายน 2555
Last Update : 1 เมษายน 2555 15:34:59 น.
Counter : 490 Pageviews.

2 comments
  
เอาหน่า...อย่างน้อยก็ได้เห็นโลกกว้าง ๆ ได้ฝึกความอดทน ได้ฝึกการปรับตัวให้เข้ากับคนและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างจากที่เคยชิน เคยพบเจอเป็นประจำนะคะ ^^
โดย: คมไผ่ วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:20:55:40 น.
  
ฮ่าๆๆ มีคนแอบซุ่มดูด้วยเหรอคะ ไผ่มาเยี่ยมมาเยือนตามประสาหน่ะ ขำๆ ค่ะ คืนนี้นอนหลับฝันดีแล้วกันเน๊อะ จุ๊บๆ
โดย: คมไผ่ วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:22:23:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข้าวเหนียวหวาน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เป็นเพียงเศษละอองของจักรวาล
ที่มีคำถามมากมาย ^_^