กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
2
12
18
20
21
22
23
24
25
27
 
 
9 กุมภาพันธ์ 2554
All Blog
คิ้ว...คิด...
สิ่งแรกๆ ที่คิดจะทำหลังลาออกจากงานคือ การเจาะคิ้ว-ใช่ คือสิ่งที่ใฝ่ฝันอย่างหนึ่งที่ไม่อาจทำได้ตอนที่ยังทำงานเป็นพนักงานประจำอยู่ เพราะภาพลักษณ์ที่ต้องรักษาไว้ เพราะยังเป็นพนักงานกินเงินเดือนบริษัทที่ทำให้ฉันต้องอยู่ในกรอบนั้น กรอบที่มองไม่เห็นเป็นทางการ กรอบที่ไม่ได้ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็เป็นสิ่งที่รู้สึกได้ว่าไม่เหมาะสม เมื่อพ้นสภาพพนักงานที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้กรอบนั้นแลกกับเงินจำนวนหนึ่งในแต่ละเดือน การแสดงออกซึ่งอิสระจึงได้ประดับไว้ที่หางคิ้วขวา

ทำไมแค่มีอะไรมาประดับที่หางคิ้วแล้วจึงเป็นการแสดงออกซึ่งอิสระ-ไม่รู้ ทั้งที่ร่างกายของเรา เราอยากจะเอาอะไรมาใส่ มาประดับมันก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล เพียงแต่หากเราใส่อะไรในที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่ใส่ เราจะกลายเป็นคนแปลกประหลาด เกิดความไม่เหมาะสม เพราะไม่เหมือนคนอื่น แม้จะไม่มีชุดพนักงานที่เป็นข้อกำหนดตายตัว แต่การที่ต้องพบปะบุคคลอื่น และสร้างความน่าเชื่อถือให้บริษัท ความน่าเชื่อถือคืออะไร คือการทำอะไรอยู่ในกรอบที่สังคมเห็นว่าดีงั้นหรือ แล้วสิ่งใดคือความดีที่แท้จริง

กระโปรงถูกสร้างขึ้นมาเป็นชุดประจำของเพศหญิง แต่ลักษณะงานบางอย่างการใส่กระโปรงกลับเป็นอุปสรรค ในปัจจุบันจึงมีการผ่อนผันให้ชุดปฏิบัติงานของผู้หญิงในบางตำแหน่งงานสามารถเปลี่ยนมาเป็นกางเกงได้ เช่น พยาบาล เพราะถูกเชื่อมโยงกับประโยชน์ใช้สอย กรอบของความนิยมเหมาะสมที่ยึดกันมาจึงมีพื้นที่ให้ได้ขยายออก แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมถึงรสนิยมในการแต่งตัวของแต่ละบุคคล บางตำแหน่งงานถึงกับระบุว่า ห้ามมีรอยสักบนผิวหนัง เราใช้รอยสักทำงานนั้นด้วยหรือ-ไม่ เราไม่ได้ใช้รอยสักทำงาน แต่รอยสักถูกปลูกฝังมาให้เรารู้สึกอย่างไรต่อรอยสักมากกว่า บางคนว่าเป็นศิลปะ บางคนว่าสกปรก บางคนว่าเป็นพวกนิยมความเจ็บปวดรุนแรง บางคนว่า... บางคนว่า... หลายๆ คนจึงมิอาจทำได้

กลับมาที่คิ้วกันต่อ ทันทีที่บอกกับคนใกล้ตัวว่าจะเจาะคิ้ว คำแรกที่ได้ยินคือ บ้าหรือเปล่า-เอ๊ะ! แล้วคนที่เขาเจาะคิ้วกันตั้งมากมายนั้นเขาเป็นคนประเภทไหนในสายตาคนทั่วไปที่ไม่ได้เจาะอะไรเลย แต่สำหรับฉันเขาก็เป็นคนธรรมดาที่ใส่เครื่องประดับที่หางคิ้ว ไม่ต่างอะไรกับคนที่ใส่ต่างหู แค่ขยับต่างหูมาไว้ที่คิ้ว...ก็เท่านั้น

แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากมีเครื่องประดับชิ้นหนึ่งมาเสียบอยู่ที่หางคิ้วขวา คำถามแรกทางสายตาที่พบคือ แปลกใจว่าอะไรอยู่ที่หางคิ้ว คำถามแรกที่กระทบหูคือ ไม่เจ็บหรือ ตอบไปทันทีแบบไม่ต้องคิดเลยว่า ไม่-ไม่ต่างกับเจาะหูเลย เจาะหูเจ็บกว่าด้วยซ้ำ ความรู้สึกตอนที่เข็มแทงเข้าไปในเนื้อที่หางคิ้วส่วนล่างแล้วทะลุออกสู่หางคิ้วส่วนบนมันไม่ต่างอะไรจากถูกฉีดยาเลย เปรียบง่ายๆ คือ มดตัวใหญ่กัดยังเจ็บกว่าเลย เป็นเพียงเสี้ยววินาทีที่เข็มทะลุผ่านเนื้อ หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลับสู่สภาพปกติ หากใครเคยเจาะหูเพื่อใส่ต่างหูเจ็บอย่างไร การเจาะคิ้วก็ไม่ต่างกัน หากไปจับก็ยังเจ็บๆ แต่จะชาๆ เย็นๆ มากกว่า คงเพราะอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งกว่าหูที่ถูกผมปิดบังอำพรางลมไม่ให้ปะทะโดยตรง

ทำไมคนที่เห็นมักจะถามถึงความเจ็บปวดนะ ความเจ็บปวดซึ่งทุกคนให้น้ำหนักว่าเจ็บกว่าเจาะหูแน่นอน ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนโดนเจาะเอง ทั้งที่ฉันบอกแล้วว่าไม่เจ็บ แต่สายตาตอบกลับมามันคือความขยาดว่าไม่เชื่อ และอาการสั่นหัวดิกเมื่อฉันบอกว่า ไม่เชื่อก็ลองดู จะได้รู้ว่ามันไม่ได้เจ็บมากอย่างที่คิดกัน

ไม่ใช่แค่เรื่องความเจ็บปวดที่ทุกคนให้ความหมายว่ามากกว่าทั้งที่ยังไม่เคยลอง หลายคนให้ความหมายเพิ่มเข้าไปอีกว่าฉันเป็นพวกนิยมความรุนแรง ซาดิสม์ เพราะคิดไปเองทั้งนั้นว่าเจ็บกว่า เพราะมีคนเจาะคิ้วน้อยกว่า จึงถูกมองว่าเป็นคนแปลกแยกจากคนส่วนใหญ่ แล้วระหว่างคนเจาะหูหลายๆ รู กับคนเจาะคิ้วเพียงที่เดียว ใครจะถูกมองว่าแปลกแยกมากกว่ากัน ใครจะถูกมองว่านิยมความรุนแรงมากกว่ากัน อาจจะเท่ากันก็ได้ หากเป็นเช่นนั้นก็พอจับประเด็นได้ว่า จำนวนไม่มีนัยสำคัญเท่าตำแหน่งที่เจาะ

เรากำลังใส่อะไรลงในคิ้ว

เด็กอายุไม่ถึง 2 ขวบพอพูดได้เป็นคำๆ มองจ้องหน้าฉันแล้วมือน้อยนั้นก็จับเข้าที่หางคิ้วที่มีเครื่องประดับติดอยู่ด้วยสายตาฉงนสงสัย และส่งเสียงว่า “เจ็บ” ไม่รู้ว่าเด็กต้องการถามว่าเจ็บไหม หรือบอกว่าต้องเจ็บมากๆ แน่เลย หรืออะไรก็มิอาจทราบได้กับความหมายของคำว่าเจ็บนั้น เด็กคนนี้ถูกใส่อะไรลงไปทั้งที่อายุยังไม่ถึง 2 ขวบด้วยซ้ำ

เด็กอาจสงสัยที่มีอะไรติดอยู่ที่ปลายคิ้วพี่คนนี้คงไม่แปลก เพราะเด็กอาจไม่เคยเห็น แต่คำว่า “เจ็บ” เด็กน้อยคนนี้เรียนรู้มาจากไหนกันว่าตรงนี้คือจุดเจ็บ ว่าตรงนี้คือจุดที่ผิดปกติแล้วต้องเจ็บ แปลกที่เด็กตัวเท่านี้ก็เรียนรู้ความเหมือนและความต่างที่สังคมให้ความหมายได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ต่างจากเด็กๆ ป.2 เพื่อนๆ ของหลานตัวน้อยที่มะรุมมะตุ้มเข้ามาดูคิ้วน้าคนนี้ แล้วขอจับว่าฉันเจ็บไหม พอบอกว่าไม่เจ็บก็ไม่เชื่ออีกแน่ะ ต้องทดลองถอดแล้วใส่ให้ดู เด็กๆ ก็ยังทำหน้าตาขยาดว่าต้องเจ็บแน่ๆ เด็กเหล่านี้ถูกใส่อะไรลงไปในคิ้ว โดยใคร? วันข้างหน้าที่พวกเขาโตขึ้นจะเปลี่ยนความคิดไหม

ไม่เพียงแต่เด็กที่สนใจใคร่รู้ความเจ็บปวด หมอ พยาบาล ที่ทำงานอยู่กับความเจ็บปวดก็ยังถาม

ขณะที่ฉันนั่งสวมหน้ากากออกซิเจนรับยาที่พ่นเข้าสู่ระบบหายใจ คุณพยาบาลก็ยังอุตส่าห์ถามว่าเจาะคิ้วเจ็บไหม ฉันทำได้เพียงอมยิ้มแล้วส่ายหน้า เท่านั้นยังไม่พอ คุณพยาบาลยังถามต่อว่า แล้วหูล่ะเจาะข้างละกี่รู ฉันก็ยกมือชูสามนิ้วตอบไป เธอพยักหน้ารับแทนความเข้าใจ แต่ไม่รู้ว่าในใจของเธอตีค่าฉันว่าเป็นคนประเภทไหน

กับคุณหมอก็เช่นกัน คุณหมอถามโดยการชี้ที่คิ้วตัวเองแล้วเอ่ยว่าเจาะมานานเท่าไร ตอนนั้นรอยแผลยังสดเพราะเพิ่งผ่านไปได้เพียง 7 วัน และเกิดการอักเสบ จึงถือโอกาสขอยาแก้อักเสบมาระงับอาการนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่า “ไม่เจ็บ” แม้จะอักเสบก็แค่บวมนิดหน่อยและมีน้ำเหลืองซึมเล็กน้อยเท่านั้น

โอกาสนี้ได้แลกเปลี่ยนความรู้กับหมอด้วย เพราะหมอไม่รู้จะเขียนว่าเครื่องประดับที่อยู่ปลายคิ้วนั้นจะเรียกอย่างไร จึงใช้คำว่า “ตุ้มคิ้ว” ไปก่อน ฉันเองแม้จะเป็นคนใส่เจ้านั่นยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนในวงการเรียกว่าอะไร หาข้อมูลไปมาจึงพอสรุปได้ว่าเขาเรียกว่า “จิว” น่าจะมาจากคำว่า “จิวเวลลี” และจิวนี้ก็ใส่ได้กับทุกส่วนของร่างกายที่เจาะ ใส่หูก็เรียกจิวใส่หู ใส่คิ้วก็เรียกจิวใส่คิ้ว ใส่สะดือก็เรียกจิวสะดือ ประมาณนั้น คุณหมอเองก็ยังอดประเมินฉันจากคิ้วไม่ได้ด้วยคำถามที่ว่า มีเจาะส่วนไหนอีกบ้าง สะดือเจาะไหม แค่เพียงหางคิ้วก็ทำให้สายตาใครที่มองฉันแตกต่างออกไป

ตั้งแต่มีเครื่องประดับชิ้นนี้ฉันมักเจอสายตาที่เป็นคำถามมากมาย ทั้งว่าเรื่องอายุและความเหมาะสมที่เลยวัยจะมาเจาะแล้ว สายตาจากคนแปลกหน้าที่มองฉันแปลกๆ แม้แต่คนใบ้ยังชี้ไปที่คิ้วตัวเองเป็นเชิงถาม ซึ่งคำตอบที่มีให้คำถามเหล่านี้ก็คือรอยยิ้ม ยิ้มที่ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร ยิ้มที่เขาเห็นเราเป็นสิ่งแปลกใหม่ ยิ้มที่เจอคำถามนี้อีกแล้ว หากเราหลงลืมว่ารอบตัวเราล้วนมีความแตกต่างเราก็จะไม่พบอะไรเลย

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่มีเครื่องประดับนี้อยู่ที่หางคิ้วขวา และมันจะคอยบอกฉันเสมอว่า ทุกคนล้วนมีความแตกต่างในทุกครั้งที่มีคำถาม



Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2554 23:04:42 น.
Counter : 917 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข้าวเหนียวหวาน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เป็นเพียงเศษละอองของจักรวาล
ที่มีคำถามมากมาย ^_^