และแล้ว ก็ทำตามกระแสคนทั่วไปหน่อยนึง เค้าฮิตกันนัก ก็ต้องพยายามลัดเลาะ เสาะหาเวลาเดินทางไปเที่ยวให้ได้ ว่าแล้วก็เตรียมเสบียง  (น้ำเปล่า 1 ขวด)

ทุกอย่างพร้อม ก็..ลุยยยย

ใครว่าอีสานแห้งแล้ง  ต้องขอเถียงกันละค่ะ  ระหว่างทางเขียวชะอุ่มสบายตาเหลือเกิน สดชื่นมากกับบรรยากาศร่มไ้ม้ใหญ่สองข้างทาง ไม่มาเห็นเองก็ไม่เชื่อนะนี่ ภาคอีสานเรา มีหลายอย่างให้แวะชมมากมายเหลือเกิน ดินแดนที่มีครบทั้งวัฒนธรรม ทั้งวิว ทิวทัศน์ ให้น่าค้นหาอีกมาก

เป้าหมายต่อไป  ..  ผ่านเข้าสู่จังหวัดเลย

ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอแวะไปภูกระดึงซักหน่อยละกัน 
ระหว่างทางจะมีจุดแวะพักสำหรับทานอาหาร เข้าห้องน้ำ ตรงจุดนี้ เรียกผานกเค้า เป็นอีกหนึ่งวิวที่น่ามองและน่าทึ่ง

อิ่มแล้วก็...เดินทางต่อไป  

เมื่อมาถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ก็แวะไปที่สำนักงานอุทยานฯ ปรากฎว่าช่วงนี้เป็นช่วงปิดอุทยาน ก็เลยได้แค่ลงชื่อมาทักทาย และชมภาพพร้อมข้อมูลรอบๆ เจ้าหน้าที่ต้อนรับดี ยิ้มแย้มแจ่มใส  

ออกมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์รอบๆ ซักนิด  ก็เจอเจ้าตัวนี้..

พอได้ที่ เดินทางต่อเลยดีกว่า  จุัดหมายต่อไป...

..เชียงคาน...จ้า  (ไม่เอาคานนะ)

ได้ที่พักริมน้ำโขง ก็ไม่พลาดหรอกเจ้าค่ะ ที่จะเก็บภาพไว้ระทึกใจตัวเองเล่น ว่าอย่าได้มาเฉียดคานล่ะ  55

จากนั้น ก็เริ่มเดินสำรวจถนนหนทางแถวเชียงคาน เก็บบรรยากาศรอบๆ ภาพตึกรามบ้านช่อง ที่บางหลังยังคงเก็บรักษาสภาพเิดิมเอาไว้ให้เราแวะชม

พอเย็นย่ำ อิ่มหนำสำราญ ก็เดินดูตลาดกันอีกรอบ  ร้านค้ามากมาย..แต่ที่สะดุดตา  ก็อันนี้แหละค้า

วันรุ่งขึ้น ออกสำรวจตลาดอีกตอนเช้า..(สำรวจจริงเชียวเรา)  แล้วออกจากที่พักไปแถวแก่งคุดคู้ มองไปอีกฟากได้เห็นประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เอง

สูดอากาศ ถ่ายภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็แวะนมัสการพระศักดิ์สิทธิ์ที่เก่าแก่ประจำเชียงคาน คือ วัดท่าแขก เห็นด้านข้างวัดสะดุดตาดี

และหลังวัด ก็ได้เจอต้น "หลาวชะโอน" ..เกิดมาเพิ่งเคยเห็นนี่แหละค่า

และด้วยความที่อากาศดี ฝนตกพรำๆ  ..(อย่าทำน้ำท่วมล่่ะ) ก็นั่งจิบกาแฟชิลๆ อย่างที่เห็น

สุขจริงๆเลยเรานี้  อิอิ