มีนาคม 2553

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
สวยด้วยงาดำ
งาดำ
งาดำมีประโยชน์อย่างมาก การบริโภคงาดำเป็นประจำ จะช่วยให้นอนหลับ กระปรี้กระเปร่า ป้องกันโรคเหน็บชา บำรุงกระดูก ป้องกันอาการท้องผูก ลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร และช่วยบำรุงรากผม

ถ้าใช้น้ำมันงาดิบนวดตัวในตอนเช้าก่อนอาบน้ำ จะช่วยปรับระบบประสาทและระดับฮอร์โมน ให้เข้าสู่สภาวะสมดุล ช่วยคลายเครียดทำให้จิตใจสงบ และใช้นวดตัว เพื่อขจัดอาการปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเข่า ขัดยอก ทำให้กล้ามเนื้อไม่เหี่ยวย่น ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

-ใช้ทาและนวดบริเวณลำตัวเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยตัว คลายกล้ามเนื้อ จะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เส้นประสาทภายใต้ผิวหนัง

-ใช้ทาหลังอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเพื่อบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื่น เนียนนุ่ม เต่งตึงเปล่งปลั่ง ไม่แห้งแตกลอกเป็นขุย ทาแล้วผิวจะเป็นมันวาวแต่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้รวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และยังเป็นการผ่อนคลายอารมร์และคลายความตึงเครียดด้วยค่ะ

-ในน้ำมันงายังมีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

-ใช้ทาผิวหนังหลังจากออกแดดจัดๆ เพื่อรักษาอาการผิวหนังไหม้ งามีสาร Beta – sitosterol ซึ่งมีฤทธิ์ลดอาการอักเสบได้ ช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดง และช่วยกระบวนการหายของแผล

- ใช้หมักผมทิ้งไว้ 15-30 นาทีก่อนสระผมจะช่วยให้เส้นผมมีความงามงาม ผมสลวยมีน้ำหนักและนิ่มมากๆ แก้ปัญหาผมแตกปลาย ผมแห้งเสีย แบนลีบได้ดีมากเลยค่ะ

-น้ำมันงายังกระตุ้นการงอกของเส้นผม ให้ผมดกดำ โดยไปเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตรอบ ๆ รูขุมขนบนหนังศีรษะ และบำรุงรากผมให้แข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย

-ใช้น้ำมันงาทาบริเวณเล็บและหนังข้างๆเล็บเพื่อให้เล็บมีความแข็งแรง เงางาม ไม่หักง่าย และให้หนังบริเวณเล็บเนียนนุ่ม ไม่แข็ง

ขั้นตอนการอีดงา
นำเมล็ดงามา "อุ่นแดด" คือตากแดดอีก 1 แดดก่อนนำไป "อีด" ใส่เมล็ดงาประมาณ 15 กิโลกรัมลงในครกอีด ราวครึ่งชั่วโมงงาจะเริ่มแตก จึงค่อยเติมน้ำร้อนลงไปเรื่อย ๆ ปริมาณน้ำต้มที่ใช้ประมาณ 3 - 4 กระป๋องนม อีดจนกากงาแยกจากน้ำมัน ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เปิดช่องให้น้ำมันไหลลงภาชนะรองรับ (กากงาดำนำไปผสมกับหญ้าให้วัวกิน) กรองเอากากออก พักไว้ 1 คืน เทลงถังพักตะกอนถังที่ 2 เป็นเวลา 10 วัน เทน้ำมันจากถังที่ 2 พักไว้ในถังที่ 3 อีก 20 วัน หลังจากนั้นจึงบรรจุลงขวด เพื่อจำหน่ายต่อไป

เคล็ด(ไม่)ลับกับน้ำมันงา
• ใช้น้ำมันงาประกอบอาหารรับประทานเป็นประจำ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว หลอดเลือดหัวใจตีบตัน และอาการท้องผูก

• ใช้ลดการหมักหมมในช่องท้อง โดยทานน้ำมันงาดิบ ๆ 1-2 ช้อนโต๊ะ ขณะท้องว่าง เพื่อให้ลำไส้ขับสิ่งที่หมักหมมอยู่ออกไป

• น้ำมันงา ใช้ทาผมจะทำให้ผมดำเป็นมันวาว ไม่แห้งแตกปลาย และใช้ทาผิว เพื่อให้ความชุ่มชื้น ลดรอยหยาบกร้าน

• น้ำมันงาใส่ขิง ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย โดยใช้ขิงสดขูดละเอียดผสมกับน้ำมันงาในปริมาณเท่ากัน จุ่มผ้าฝ้ายลงในส่วนผสมนี้ นำมาถูนวดบริเวณที่ปวดเมื่อย

• ใช้กระเทียมสับผสมน้ำมันงา รักษาโรคผิวหนังอย่างกลาก เกลื้อน เรื้อนกวาง ทาบริเวณที่มีอาการ

• น้ำมันงาผสมน้ำปูนใส ช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนจากน้ำร้อนลวกได้เป็นอย่างดี ใช้น้ำมันงา 1 ส่วน น้ำปูนใส 1 ส่วน ตีให้เข้ากันจนเป็นครีมขาว เอาผ้าขาวบางที่สะอาดจุ่มแล้วแปะไว้บริเวณที่เป็นแผล

• แก้ปัญหาผมร่วง ใช้น้ำมันงาเคี่ยว ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมาทาบริเวณที่ผมร่วง วันละหลาย ๆ ครั้ง จนกระทั่งผมเริ่มขึ้น

• น้ำมันงา ใช้นวดบรรเทาอาการช้ำบวม ให้ทาน้ำมันงาแล้วนวดเบา ๆ รอบ ๆ บริเวณ จะทำให้ตรงที่ช้ำบวมหายเร็วขึ้น

• เป็นหวัด แพ้อากาศ ให้รับประทานงาเป็นประจำ (ทานช่วงเช้า ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) จะทำให้หายใจโล่ง อาการดีขึ้น

• ฤทธิ์ระบายท้องของงา ช่วยลดอาการอักเสบของหัวริดสีดวง ช่วยห้ามเลือดจากหัวริดสีดวง และน้ำมันงายังใช้ทาหัวริดสีดวง แก้ริดสีดวงอักเสบได้ด้วย

โคลนหมักผมที่สกัดมาจากงาดำ และสาหร่ายเกลียวทอง อาจจะใช้แทนครีมนวดผมหลังสระ หรืออบไอน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง สรรพคุณของงาดำจะช่วยให้เส้นผมดำขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อใช้เป็นประจำ ผมจะดำมันเงางามเหมือนที่เห็นในโฆษณาแชมพูประมาณนั้น

ส่วนสาหร่ายเกลียวทอง จะช่วยให้การฟื้นฟูเซลล์ของหนังศีรษะ ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและนุ่มสลวย



Create Date : 21 มีนาคม 2553
Last Update : 21 มีนาคม 2553 13:47:41 น.
Counter : 2629 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pumekha
Location :
สมุทรสาคร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



รักการอ่านค่ีะ เลยเอาหนังสือที่มีอยู่มาแนะนำ ขอบคุณเว็บต่างๆที่ได้เอารูป และเรื่องย่อมาลงนะคะ เพราะไม่ค่อนถนัดถ่ายรูปนัก (คือดูไม่สวย คือฝีมือตัวเองค่ะ
เจตนาให้คนไทยอ่านหนังสือกันมากๆ การอ่านก็เปิดโลกได้นะค่ะ

แต่ความชอบคนเราก็มีหลากหลาย เหมือนกับปุ๋ม ชอบงานฝีมือด้วย ตอนนี้เป็นแม่คนแล้ว ก็เลยสนใจถักชุดสวยๆให้ลูก ก็เลยเริ่มหัดถักโครเชต์ แต่ยังเป็นพวกบ้าตำราอยู่ ปฏิบัติยังไม่ถึงไหนเลย ก็ได้พี่ๆที่ทำงานช่วยสอนให้ค่ะ

ยังมีงานผ้า ที่ตอนลาคลอด 1 ปี ได้ไปฝึกฝนมา จนเย็บชุดให้ต้นน้ำได้ เป็นภูมิใจที่สุดแล้ว แต่ยังต้องฝึกฝนกันต่อไป

ตอนแรกที่เริ่มตั้งครรภ์ ก็ศึกษาจากเว็บต่างๆผสมกับอ่านหนังสือ ถึงขั้นมีตำราอาหารลูกน้อบเมื่อวัย 6 เดือนแล้วด้วย จนตอนนี้ลูก 2 ขวบครึ่งแล้ว (31 ธค. 55) ก็จะมีหนังสือเลี้ยงลูก พัฒนาการต่างๆอีกเพียบ อิอิ เป็นคุณแม่มือใหม่ เลี้ยงตามตำรานิดนึง ก็เลยเอามาลงในบล็อกให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาข้อมูลกันค่ะ จะทยอยลงมาให้เรื่อยๆนะคะ

ปุ๋มยังไม่ได้เก่งเรื่องอะไรเลย ทั้งงานถัก งานคุณแม่ เลยสอนใครเขาไม่เป็นหรอกค่ะ แต่ก็อยากแบ่งปันความรู้ต่างๆ จากหนังสือที่ตัวเองมี ก็เลยจะเอามาลงให้เพื่อนได้อ่าน ได้เอาไปทดลองทำด้วยตัวเองกัน ใครทำได้สำเร็จแล้ว ก็เอามาโชวกันบ้างนะคะ

สวัสดีวันดีๆทุกวันค่ะ
New Comments
MY VIP Friend