Thailand LH Thailand RH

rayasuree
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ปั่นบล๊อคคุณให้ Hot สุดๆ ที่ BlogYellow.com คลิ๊กโลด



ขอขอบคุณป้ามด พี่ยอดสน และ uggie


และเพื่อนๆ ทุกคน ใน Bloggang น่ะค่ะ


ที่ทำให้ Blog ออกมาเป็นอย่างที่เห็นกันค่ะ


.
.

ปริญญาตรี

มหาลัยศรีปทุม สาขาบัญชี

.
.

ปริญญาโท

มหาลัยรามคำแหง MBA

.
.
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add rayasuree's blog to your web]
Links
 

 
ภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์เรือนกระจก























เจี๊ยบพูดคุย


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาว Bloggang ทุกคนน่ะค่ะ ดีใจมากเลย

Blog ใช้ได้แล้ว เจี๊ยบเข้ามาUpdate Blog ตามปกติ ก็ไม่รู้จะ

เขียนเรื่องอะไร ให้เข้ากับสภาพดินฟ้าอากาศในตอนนี้

เพื่อน ๆ ว่าไหมค่ะว่าอากาศในบ้านเรานั้น นับวันจะปรวนแปร

ไม่เป็นไปตามฤดูกาล เพื่อน ๆ อยากทราบไหมค่ะว่า ทำไม หนอ

"โลก" ใบเล็กๆของพวกเรานี้ จึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปได้

ถึงเพียงนี้ เจี๊ยบข้อมูลมาให้อ่านกันเล็กๆ น้อยๆ เป็นความรู้ค่ะ


ขอบคุณ คุณพลอยสีรุ้งสำหรับ

รูปภาพที่เจี๊ยบนำเอามาแต่ง Blog น่ะค่ะ

วันหลังจะไปเก็บมาใช้อีกน่ะค่ะ















บทความ

ภาวะโลกร้อน

1. ปรากฏการณ์เรือนกระจก สาเหตุของภาวะโลกร้อน


"โลก" เรามีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไปเพราะ “ปรากฏการณ์

เรือนกระจก” ซึ่งมีสาเหตุที่สำคัญจากมนุษย์เรานี่แหละค่ะ

มนุษย์ทำลายธรรมชาติจนสูญเสียสมดุล อุณหภูมิภายใน "โลก"

จึงร้อนขึ้นจนสิ่งมีชีวิตบางชนิดทนไม่ได้ และตายไป หรือบาง

อย่างใกล้สูญพันธ์ เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นภาพของการ เกิด

"ปรากฏการณ์เรือนกระจก"(Greenhouse Effect) ได้ชัดเจน

ยิ่งขึ้น เราสามารถเปรียบปรากฏการณ์นี้ได้กับการจอดรถไว้

กลางแจ้ง โดยปิดหน้าต่าง ทุกบานให้สนิท แสงอาทิตย์จะสาด

ส่องเข้ามาภายในรถได้ จากนั้นบรรดาเบาะนั่งทั้งหลาย จะ ดูด

ซับเอาความร้อนไว้ โดยไม่สามารถปล่อย หรือสะท้อนความร้อน

ให้หลุดลอดผ่านออกจากตัวรถได้ ทำให้อากาศภายในรถร้อน

ตราบใดที่เรายังไม่เปิดกระจก อุณหภูมิภายในรถจะเพิ่มสูงขึ้น

เรื่อยๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับรถของเราเลย เช่นเดียวกันเมื่อเปรียบ

โลกเรากับรถคันนั้นที่เก็บแต่ความร้อนไว้ โดยไม่สามารถปล่อย

กลับออกไปได้ จะทำให้โลกของเราร้อนขนาดไหน ดัง

นั้น “ปรากฏการณ์ เรือนกระจก” จึงเป็นหนึ่งวิกฤตการณ์ ที่เกิด

จากการรวมตัวหนาแน่นของก๊าซ จากอุตสาหกรรม และควันพิษ

เช่น ควันจากโรงงานอุตสาหกรรมรถยนต์ หรือแม้แต่ ก๊าซมีเทน

ที่เกิดจากนาข้าว ล้วนส่งผลกระทบด้วยกันทั้งนั้นเลยค่ะ จะมาก

หรือน้อยย่อมแตกต่างกันไป ซึ่งจะมีผลทำให ้ความร้อนของอากาศ

ที่มีอยู่ในโลก เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และความร้อนนี้ ก็จะไปละลายน้ำแข็ง

ที่ขั้วโลก ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ส่งผลต่อประเทศที่เป็นหมู่เกาะ

และชายฝั่งของทวีป ตลอดจนดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ที่ใช้

สำหรับเป็นที่ผลิตอาหารจะจมอยู่ใต้ทะเล ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะ

รุนแรงมากขึ้น อาจ ดูเหมือนว่า ผลกระทบเหล่านี้จะเป็นเรื่องไกล

ตัวเรา แต่เพื่อน ๆ เชื่อไหมค่ะว่า มันไม่ได้ไกลจากตัวเรานักหรอก

ค่ะทีนี้มาดูที่เรื่องราวใกล้ ๆ ตัวเราบ้าง สาเหตุประการหนึ่งที่นัก

วิชาการทั่วโลกเชื่อว่า เป็นสาเหตุของการแพร่พันธุ์ของยุงลาย และ

แมลงร้าย ที่เป็นพาหะนำโรคต่าง ๆ ก็คือ สภาพภูมิอากาศ และสิ่ง

แวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ในช่วงเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา โลกมี

การเปลี่ยนแปลง รูปแบบของอากาศอย่างชัดเจน อุณหภูมิเฉลี่ย

ของโลกสูงขึ้นอย่างมาก ในปี พ.ศ. 2523-2533 เป็นช่วงที่โลกมี

สภาพอากาศร้อนที่สุด ปรากฏการณ์ เอลนิญโญ่ ได้รับการบันทึกมา

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2110 จนถึงปัจจุบัน ปรากฏการณ์นี้ได้ก่อให้เกิด

ภาวะแห้งแล้ง และอุณหภูมิสูงขึ้นในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึง

ประเทศไทย ภาวะแห้งแล้งนี้มีผลต่อจำนวนแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

ลาย เนื่องจากยุงลายเพาะพันธุ์ในภาชนะขังน้ำ ซึ่งอยู่ในบ้านเรือน

เป็นส่วนใหญ่ และในภาวะนี้ จะเป็นภาวะที่ประชาชนทำการกักตุน

น้ำไว้ ใช้บริโภคมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันจากภาวะที่โลกอบอุ่นขึ้น

อันเนื่องมาจากผลของ “ปรากฏการณ์เรือนกระจก” ยังช่วยทำให้

ยุง และแมลงที่จำศีลในช่วงฤดูหนาว สามารถแพร่พันธุ์ได้ ใน

สภาพอากาศของฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นได้อีกด้วย ขึ้นชื่อว่ายุง

แล้ว แม้บางพันธุ์จะไม่เป็นพาหะนำโรค แต่ก็สร้างความรำคาญใจ

ให้แก่มนุษย์ได้ในทุกวัน เวลา และสถานที่ การทำลายแหล่งเพาะ

พันธุ์ยุง อาจเป็นวิธีการหนึ่ง ที่จะช่วยลดอัตราการเพิ่มจำนวนของ

ยุงได้ เอาละค่ะได้รู้จักกับผลร้ายอันเกิดจากภาวะโลกร้อนกันไป

แล้วทีนี้ เรามาทำความรู้จักกับ สาเหตุและตัวการที่ทำให้เกิดภาวะ

โลกร้อนให้ดีขึ้นกันดีกว่า แล้วมาดูกันซิว่าเราจะมีวิธีแก้ไขปัญหา

กับภาวะโลกร้อนได้อย่างไรบ้าง



2. เรือนกระจกหมายถึงอะไร..?

"เรือนกระจก" คือ อาณาบริเวณที่ปิดล้อมด้วยกระจก หรือวัสดุอื่น

ซึ่งแสงอาทิตย์สามารถส่องผ่านลงมาได้เมื่อแสงอาทิตย์ส่องมากระ

ทบกับ “เรือนกระจก” กระจกจะสะท้อนรังสีบางส่วนออกไปภาย

นอก แต่รังสีส่วนใหญ่จะส่องผ่านกระจกลงมายังต้นไม้และพืชที่อยู่

ใน “เรือนกระจก” ต้นไม้และพืชใน “เรือนกระจก” จะใช้แสง

อาทิตย์เป็นอาหาร และสร้างพลังงานในรูปความร้อน ที่มีชื่อเรียก

ว่า “รังสีอินฟราเรด” และปล่อยออกมาภายนอก เมื่อ "รังสี

อินฟราเรด" ที่พืชปล่อยออกมา ไปกระทบกับกระจก "รังสี

อินฟราเรด" ก็จะสะท้อนกลับเข้าไปใน "เรือนกระจก" ทำให้ภาย

ใน "เรือนกระจก" อบอุ่นขึ้นประเทศเขตหนาวนิยม

ใช้ “เรือนกระจก” ในการเพาะปลูกต้นไม้ เพราะพลังงานแสง

อาทิตย์ สามารถผ่านเข้าไปภายในได้ แต่ความร้อนที่อยู่ภายใน

จะถูกกักเก็บโดยกระจก ไม่ให้สะท้อนหรือแผ่ออกสู่ภายนอกได้

ทำให้อุณหภูมิของอากาศภายใน “เรือนกระจก” อบอุ่น และเหมาะ

สม ต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้และพืช




3. "โลก" และ "เรือนกระจก" เกี่ยวข้องกันอย่างไร

"โลก" เหมือนกับ "เรือนกระจก"

ตอนนี้เพื่อน ๆ น่าจะได้รู้จักกับ "เรือนกระจก" กันแล้วนะค่ะ ถ้า

เพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่รู้จักว่า เจ้า "เรือนกระจก" ที่เรากำลังพูด

ถึงกันเนี่ย หน้าตาเป็นยังไง สำหรับเพื่อนที่รู้จัก "เรือนกระจก"

กันดีแล้ว เจี๊ยบจะพาเพื่อน ๆ มาดูกันให้หายสงสัยเสียทีว่า "โลก"

กับ “เรือนกระจก” เนี่ยมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร

"โลก" มีชั้นบรรยากาศปกคลุมเปรียบเสมือนกระจกที่ปิด

ล้อม "เรือนกระจก" ซึ่งแสงอาทิตย์ สามารถส่องผ่าน ชั้นบรรยา

กาศลงมาได้ เมื่อแสงจากดวงอาทิตย์ส่องมากระทบกับบรรยา

กาศ ชั้นบรรยากาศจะสะท้อน รังสีบางส่วนกลับออกไปในอวกาศ

แต่รังสีส่วนใหญ่ จะส่องผ่านชั้นบรรยากาศ ลงมายังพื้นผิว "โลก"

ต้นไม้และพืชบนผิวโลกจะปล่อย "รังสีอินฟราเรด" ซึ่งเมื่อ "รังสี

อินฟราเรด" ไปกระทบกับ โมเลกุลของก๊าซในชั้นบรรยากาศ ก๊าซ

ในบรรยากาศ จะดูดซับรังสีส่วนหนึ่งไว้ และรังสีที่เหลือ จะสะท้อน

กลับมายังผิว "โลก" ทำให้ภายใน "โลก" อบอุ่นขึ้น และมีอุณหภูมิ

เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต

เอ....อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เจี๊ยบรู้สึกคุ้น ๆ นะค่ะเพื่อน ๆ ค่ะรู้สึก

เหมือนกันหรือเปล่าเอ่ย... อ๋อ ! นึกออกแล้ว ! สิ่งที่เกิดขึ้น กับ

"โลก" ของเราเนี่ยช่างเหมือนกับใน “เรือนกระจก” เปี๊ยบเลย

นะค่ะเนี่ยเพราะเหตุนี้เอง นักวิทยาศาสตร์จึงเปรียบเทียบ

ปรากฏการณ์ที่ความร้อนภายใน "โลก" ถูกกับดักความร้อน

หรือ "ก๊าซเรือนกระจก" เก็บกักเอาไว้ ไม่ให้สะท้อน หรือแผ่

ออกสู่ภายนอก "โลก" ว่าเป็น "ปรากฏการณ์เรือนกระจก"



4. "ปรากฏการณ์เรือนกระจก" ดีอย่างไร..?

โลกของเรา ตามปกติจะมี กระจกตามธรรมชาติ ที่มีประโยชน์อย่าง

มาก ต่ออุณหภูมิของโลก กระจกตามธรรมชาติของโลกคือ ก๊าซ

คาร์บอนไดออกไซด์ และ ไอน้ำ ที่เราเรียกว่า “ก๊าซเรือนกระจก”

เพราะมันจะปกคลุมอยู่ที่ผิวโลกด้านบน และทำหน้าที่เหมือนกับ

กระจกในเรือนกระจก คือ คอยควบคุม ให้อุณหภูมิของโลกโดย

เฉลี่ย มีค่าประมาณ 15 องศาเซลเซียส ถ้าหากในบรรยากาศ ไม่มี

กระจกตามธรรมชาติ อุณหภูมิของโลกจะลดลงเหลือเพียง 20 องศา

เซลเซียส มนุษย์และพืช ก็จะล้มตาย และโลกก็จะเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง



5. ปรากฏการณ์เรือนกระจก" ไม่ดีอย่างไร..?

อย่างทีเพื่อน ๆ ทราบกันแล้วว่า "ก๊าซเรือนกระจก" ทำให้โลกมี

อุณหภูมิสูงขึ้น เมื่อ "ก๊าซเรือนกระจก" มีปริมาณมากขึ้น ก๊าซเหล่า

นี้จะทำให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น และสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่ง "ปรากฏการณ์

เรือนกระจก" จะทำให้ฤดูหนาวสั้นลง ส่วนฤดูร้อนจะยาวนานขึ้น

และอาจทำให้พื้นดินบางแห่งบนโลกกลายเป็นทะเลทราย ในเขต

ร้อนอาจจะมีพายุบ่อยครั้ง และรุนแรง ส่วนที่บริเวณขั้วโลก ความ

ร้อน จะทำให้หิมะละลาย เมื่อหิมะละลาย ปริมาณน้ำในทะเลก็จะ

เพิ่มขึ้น มีผลต่อการเกิดอุทกภัย นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อพืช

และสัตว์ เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น ทำให้ปากใบของพืชปิด ไม่

สามารถรับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และไอน้ำได้ การสังเคราะห์

ด้วยแสงลดลง สัตว์บางชนิดอาจได้รัรบความกระทบกระเทือนต่อ

เนื้อเยื่อตา ผิวหนัง และเป็นเหตุให้สัตว์ต่าง ๆ สูญพันธุ์ไปในที่สุด



6. ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก..?

ก๊าซเรือนกระจกมี 6 ชนิดหลัก ๆ ด้วยกัน

ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)

ก๊าซมีเทน (CH4)

ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O)

ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFCS)

เปอร์ฟลูออโรคาร์บอน (PFCS)

ซัลเฟอร์เอกซะฟลูออไรด์ (SF6)

ก๊าซคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFCs)



7. ก๊าซเรือนกระจกมาจากไหน? ทำไมจึงมีปริมาณมากขึ้น..?
ผู้ผลิต "ก๊าซเรือนกระจก"

มนุษย์ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพราะเมื่อเราหายใจ

เราใช้ก๊าซออกซิเจน (O2) และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

(CO2) กิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาไม้ก๊าซ ถ่านหิน และ

น้ำมัน ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งสิ้น

ผู้ลด "ก๊าซเรือนกระจก"

สิ่งที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้แก่พืชต่างๆบนพื้นโลก

และในน้ำทะเล เมื่อ 100 – 150 ปีก่อน โลกยังไม่มีสิ่งที่เป็น

แหล่งกำเนิดคาร์บอนไดออกไซด์เพราะเรายังไม่มีไฟฟ้า

การขนส่ง ในขณะนั้นจึงมีสมดุลระหว่าง ผู้ผลิต และ

ผู้ทำลาย ทำให้ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ

คงที่ แต่ในปัจจุบัน เราผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

เป็นปริมาณมาก จากการเผาไหม้เชื้อเพลิง เพื่อเป็น

พลังงาน ส่วนใหญ่สำหรับอุตสาหกรรม และการขนส่ง

ผู้ผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ จึงเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อย ๆ

กิจกรรมของมนุษย์ นอกจากผลิตก๊าซคาร์บอนไดออก

ไซด์แล้ว มนุษย์ยังตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเป็นสาเหตุให้

ผู้ทำลาย มีปริมาณลดลง ด้วยเหตุนี้สมดุลระหว่าง

ผู้ผลิต และ ผู้ทำลาย จึงหมดไป



8. หมายความว่าอย่างไร..?

เมื่อปริมาณ "ก๊าซเรือนกระจก" ในชั้นบรรยากาศที่ปกคลุมผิวโลก

มีมากขึ้น ทำให้ "รังสีอินฟราเรด" เกือบทั้งหมด ถูกสะท้อนกลับมา

ยังผิวโลก มีจำนวนน้อยมาก ที่หลุดออกไปยังอวกาศได้ ดังนั้นโลก

กำลังถูกทำให้ร้อนขึ้น มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา และอุณหภูมิเฉลี่ย

บนผิวโลกก็เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีการทำนายว่า ในศตวรรษหน้า อุณหภูมิ

ของโลกจะเพิ่มสูงขึ้นจากทุกวันนี้อีก 1 - 6 องศาเลยทีเดียว




9. อะไรจะเกิดขึ้น.. ?

เมื่อก๊าซเรือนกระจกมีปริมาณมากขึ้นก๊าซเหล่านี้จะทำให้

โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นและจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ " ปรากฏการณ์

เรือนกระจก" ทำให้ฤดูหนาวสั้นขึ้นและมีความชื้นมาก

ส่วนฤดูร้อนจะยาวนานขึ้น อาจทำให้พื้นดินบางแห่งบน

โลกกลายเป็นทะเลทราย และในเขตร้อนอาจจะมีพายุ

บ่อยครั้งและรุนแรง บริเวณขั้วโลกความร้อนทำให้หิมะ

ละลายและปริมาณน้ำในทะเลเพิ่มขึ้น มีผลต่อการเกิด

อุทกภัย นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อพืชและสัตว์เกิดการ

เปลี่ยนแปลง ทำให้ปากใบปิดไม่สามารถรับก๊าซคาร์บอน

ไดออกไซด์และไอน้ำได้ การสังเคราะห์ด้วยแสงลดลง

สัตว์บางชนิดอาจได้รับความกระทบกระเทือนต่อเนื้อ

เยื่อตา ผิวหนัง และเป็นเหตุให้สูญพันธุ์ได้ในที่สุด



10. เราต้องทำอย่างไร... ?

เราต้องทำการลดปริมาณของก๊าซเรือนกระจกเพื่อป้องกันการ

เกิด "ปรากฏการณ์เรือนกระจก"



11. พวกเราจะช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้อย่างไร..?

ช่วยกันประหยัดพลังงานทุกชนิด เช่น พลังงานจากไฟฟ้า

พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า

ทำได้โดย ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น

โทรทัศน์ วิทยุ พัดลม เตารีด หลอดไฟ เครื่องคอมพิวเตอร์

เป็นต้น ช่วยประหยัดพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิง ทำได้โดย

พยายามเดินทางโดยใช้รถโดยสารสาธารณะ ได้แก่ รถประ

จำทาง หรือ รถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟ เรือเมล์

แทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ยกเลิกการใช้สารเคมีอันตราย

เช่นพวกสารคลอโรฟลูออโรคาร์บอน หรือ CFCs สนับสนุน

ให้ผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสนับสนุนงานวิจัย

เกี่ยวกับแหล่งพลังงานชนิดใหม่ แทนที่แหล่งพลังงานเดิม

ที่จะไม่ทำให้เกิด "ก๊าซเรือนกระจก" เช่น พลังงานแสงอาทิตย์

ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างฟุ่มเฟือย... ลดขยะ ลดก๊าซ

เรือนกระจก... รีไซเคิลแก้ว และ กระป๋องอลูมิเนียม

ช่วยกันปลูกต้นไม้เพื่อพิทักษ์โลก

นวัตกรรมที่ช่วยลดการใช้พลังงาน



ป.ล. ขอบคุณ "โครงการเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับ

สารเคมีและสิ่งแวดล้อมสำหรับเยาวชน" ที่ทำให้เรา

ได้รับความรู้เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนนี้ค่ะ ยังมีบทความ

เนื้อหาเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนอีกมากมายที่ควรศึกษา

เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ถ้าทุกคนได้รับรู้และช่วยกันแก้ไข

คนละไม้คนละมือ อาจจะช่วยให้โลกนี้น่าอยู่ไปอีกนาน

รายาสุรีย์ โทณะวณิก (เจี๊ยบ)

7 กุมภาพัน 2550













บทเพลง

ลืมไม่ลง

แหวน ฐิติมา สุตสุนทร


บอกใจ ให้ลืม ลืมความ เจ็บช้ำ วันเก่า

ให้ลืม ครั้งเรายังเคย รักกัน

บอกใจ ให้ลืม ให้ลืม ว่ารัก เธอมั่น

แต่ใจ ไหวหวั่น จำเธอ ขึ้นใจ

ข่มใจ เท่าไร ทำไม ไม่ลืม ไม่เลือน

จิตยัง ย้ำเตือน ถึงวัน ชิดใกล้

จดจำ แม้วันที่เรา แรกรัก ฝันใฝ่

จวบจน สุดท้ายที่พราก จากเธอ

เลือน ลาง แต่กลับชัดทุกที ที่จำ

จำแล้วช้ำ จำว่าหัวใจไม่อยาก จากเธอ

แต่ก็จาก กันไปแล้ว นานแล้ว นี่เธอ

แล้วทำไม ต้องจำไว้แปลกจริง หัวใจ

นี่มันก็ใจ ฉันเองสั่งใจ ฉันเอง ยังทำ ไม่ได้

ปล่อยใจ ให้จำเพราะมัน สุดห้าม ใจได้

หากตาย เมื่อไรคงลืม ได้เอง

เลือน ลาง แต่กลับชัดทุกที ที่จำ

จำแล้วช้ำ จำว่าหัวใจ ไม่อยาก จากเธอ

แต่ก็จาก กันไปแล้วนานแล้ว นี่เธอ

แล้วทำไม ต้องจำไว้

แปลกจริง หัวใจนี่มันก็ใจ ฉันเอง

สั่งใจ ฉันเอง ยังทำ ไม่ได้ปล่อยใจ ให้จำ

เพราะมัน สุดห้าม ใจได้

หากตาย เมื่อไร คงลืม ได้เอง...

เลือกเพลงมาใช้ประกอบ

อาจจะไม่เข้ากับบรรยากาศสักเท่าไหร่

ไม่เป็นไรน่ะค่ะ แล้วเจี๊ยบจะไปเยี่ยมเพื่อนๆ

ทุกคนน่ะค่ะ วันนี้แว๊บมาเดี๋ยวเดียว


























Create Date : 14 มีนาคม 2550
Last Update : 14 มีนาคม 2550 16:04:44 น. 29 comments
Counter : 1489 Pageviews.

 



ภาษิตและคติพจน์อังกฤษ
Good name is bettter that riches.
มีชื่อเสียงดี ดีกว่ามีทรัพย์


สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ห่างหายไปนานเลย
คิดถึงทุกคนเสมอค่ะ ดีใจมากเลยที่
Blog ใช้ได้แล้ว วันนี้ก็แว๊บเข้ามา
เดี๋ยวเดียวค่ะ ต้องไปทำงานต่อแล้ว
แล้วเจี๊ยบจะไปหาเพื่อนๆ ทุกคนน่ะค่ะ
รักและคิดถึงทุกคนเสมอค่ะ
March 14, 2007


โดย: rayasuree (Jeab) (rayasuree ) วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:13:58:00 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณเจี๊ยบ ฝนมาเก็บเกี่ยวความรู้ที่บล๊อกคุณเจี๊ยบค่ะ ^^

บล๊อกปิดปรับปรุงไปนานหลายวันคิดถึงเพื่อนๆ จังค่ะ คิดถึงคุณเจี๊ยบด้วย ขอบคุณสำหรับหลังไมค์นะคะ

เดี๋ยวนี้ที่นอร์เวย์นี่ก็เห็นหลายๆ คนบ่นว่าเปลี่ยนไปเยอะมากค่ะ คือว่าหนาวแต่ก็หนาวไม่มากเหมือนเมื่อก่อนที่ -20 -30 หิมะก็ตกน้อยลงฝนว่าโลกกำลังเปลี่ยนไปจริงๆ ล่ะ ไม่ว่าจะแถบไหนของโลก

ทางภาคเหนือของนอร์เวย์นี่ถ้าเป็นหน้าหนาวจะมืดทั้งวันทั้งคืนค่ะ ถ้าเป็นหน้าร้อนก็จสว่างทั้งวันทั้งคืนเลย


รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: Malee30 วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:14:26:27 น.  

 
สวัสดีค่ะ มาเก็บเอาความรู้จากบล็อกคุณเจี๊ยบค่ะ


โดย: whitelady วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:17:00:30 น.  

 
มา Blog คุณเจี๊ยบทีไร ได้ความรู้ติดกลับไปทุกทีแบบไม่เคยเบื่อเลย

คุณเจี๊ยบช่างสรรหาเรื่องราวน่าสนใจมาทุกครั้งเลย ดีจัง

เรามาช่วยกันดูแลโลกของเรากันดีกว่าครับ


โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:21:41:15 น.  

 


*** แวะมาทักทายให้หายคิดถึง ช่วยรับไว้ด้วยนะคะ มีความสุขมาก ๆ คะ ***



โดย: หน่อยอิง วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:22:09:47 น.  

 

หลับได้เงินหมื่น..ตื่นได้เปนล้านเลยนะจ๊ะ



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:0:28:38 น.  

 
สวัสดีตอนดึกๆที่ฝรั่งเศสค่ะ


โดย: DUNHILL วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:3:37:11 น.  

 
หวัดดีค่ะ สาแวะมาเยี่ยมค่ะ สบายดีนะค่ะบล็อคปิดไปสะนานเลย อิอิ


โดย: Candydolls วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:6:41:33 น.  

 
น่ากลัวจังเลยยยย


โดย: คริสตอลสีชมพู วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:9:11:10 น.  

 
ขอบคุณมากนะคะ สำหรับความรู้ดีๆที่เอามาแบ่งปัน

ขอบคุณมากคะ


โดย: แสงไร้เงา วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:10:42:05 น.  

 


"ภาษิตและคติพจน์อังกฤษ
Good name is bettter that riches.
มีชื่อเสียงดี ดีกว่ามีทรัพย์ ...

ดีจังเลยค่ะ คติดีๆอย่างนี้ป้าชอบ

แต่ป้าหู้อ่อนภาษา"ปะ..กิต"มาก..ของมากๆเลยค่ะ

สัญญานะคะว่าต้องแปลให้ป้าทุกๆครั้งนะคะ

เพราะไม่เช่นนั้น...

มานจาเปนแบบนี้ค่ะ

"ชื่อดี..ดีกั่ว..รวย.."ฟามหมายเพี้ยนปายเยย

อย่าเบื่อคนสติปัญญาน้อยนะคะ..จุ๊บ..จุ๊บ..



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:14:01:18 น.  

 
ขอบคุณที่นำความรู้มาให้อ่านกันค่ะ มีประโยชน์มาก จะว่าไปโลกเรานี่ก็อากาศแปรปรวนเปลี่ยนแปลงไปมากเลยนะคะ


โดย: b@rbOr วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:22:28:44 น.  

 
อากาศแปรปรวนมากจริงๆ ค่ะเมื่อวานแดดแรงมาก ฟ้าร้องดัง นานด้วยค่ะ แล้วฝนก็ตก ทั้ง ๆ ที่แดดยังแรงอยู่

โลกเจริญขึ้น แต่ก็แฝงไปด้วยภัยธรรมชาติ น่ากลัวค่ะ

ขอบคุณเช่นกันค่ะ ที่แวะทักทายพุงสีร้อยเสมอ

ขอบคุณความคิดถึง ที่ส่งให้ทางหลังไมค์ คราวที่บล๊อกปิดปรับปรุงด้วยค่ะ ดีใจนะคะ



โดย: พลอยสีรุ้ง วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:16:49:10 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่เจี๊ยบ สบายดีหรือเปล่าค่ะ คิดถึงค่ะ จากปิดปรับปรุงบล็อค มีความสุขมากๆในวันหยุดสัปดาห์ค่ะ


โดย: Hawaii_Havaii วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:23:37:36 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ
ภาวะเรือนกระจกไม่ดีเลยเนาะ
ที่เชียงใหม่ก้อมลพิษ
คล้ายๆกับภาวะเรือยกระจก
ฝุ่นควันพิษทั้งนั้นเลย



โดย: gripenator วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:16:46:40 น.  

 


*** สวัสดีจ๊ะคุณเจี๊ยบ เป็นวันหยุดที่มีความสุขมากๆ นะจ๊ะ ***



โดย: หน่อยอิง วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:10:17:33 น.  

 
ดีจ้าทานข้าวยังคะ


โดย: ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:13:55:16 น.  

 




ปล.สบายดีนะคะ..ขอบคุณสำหรับความรู้ดีดีนะคะ

ความจริงพอจะทราบเรื่องนี้มานานแล้วค่ะ แต่ก็คิดเหมือนคนส่วนมาก คือนึกว่ามันจะไกลตัว...แต่จริงๆแล้วมันใกล้ตัวมากๆ ค่ะ (ร้อนจริงๆเลยนะคะช่วงนี้)



โดย: แกงส้มชะอมกุ้งใส่ผักบุ้งนิดนึง (น้องแกงส้ม ) วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:15:32:20 น.  

 
เข้ามาอ่าน

โลกร้อนจริงๆนะคะ เดี๋ยวนี้ตอนกลางวันไม่อยากออกไปไหนเลยร้อนมากๆคะ


โดย: น้องผิง วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:11:48:57 น.  

 
แวะมาทักทายพี่เจี๊ยบค่ะ สบายดีนะค่ะ


โดย: Hawaii_Havaii วันที่: 22 มีนาคม 2550 เวลา:0:23:04 น.  

 
มาเยี่ยมค่ะ

ขอบคุณที่มาแบ่งปันสาระดีๆนะคะ



โดย: soda_zappp วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:0:56:21 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะ สบายดีไหมเอ่ย


โดย: b@rbOr วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:12:07:58 น.  

 
ร้อนตัวเหมือนกัน อยากให้ช่วยกันคนละไม้คนละสองมือ
ไม่งั้นลูกหลานแย่แน่ ๆ


โดย: ต่อตระกูล วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:17:26:51 น.  

 



ไม่รู้จะเอาอะไรมาฝาก

ที่มีค่ามากกว่า...รักได้

นอกจากกำลังใจ

กับความห่วงใยไม่จืดจาง



โดย: vpjeab วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:13:15:31 น.  

 
น่ากัวเนอะ

สุขสันต์วันอาทิตย์ค่ะ


โดย: < Nuttz-NT_SerapH > วันที่: 1 เมษายน 2550 เวลา:17:41:36 น.  

 
อรุณสวัสดิ์นะคะพี่เจี๊ยบ


โดย: b@rbOr วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:6:44:29 น.  

 
แวะมาเยี่ยมครับ ห่างหายไปนาน หลังจากสอบเสร็จมาได้ 3วันแล้ว อิอิ
สบายดีป่าวครับ


โดย: than (ราม-ไทย-จีน ) วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:7:40:45 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณเจี๊ยบ..
สบายดีหรือเปล่าค่ะ ?? คิดถึงจังเลยค่ะ ...อ้อหายเงียบไปซ่ะนาน กลับมาอีกทีบล๊อกคุณเจียบเปลี่ยนไปเยอะเลยน่ะค่ะ ผีเสื้อสวย ๆ ทั้งนี้เลยล่ะค่ะ


คุณเจี๊ยบรักษาสุขภาพน่ะค่ะ


โดย: สาวต้นอ้อ (sao-aor ) วันที่: 22 เมษายน 2550 เวลา:14:15:33 น.  

 


ป้าเชิญนางฟ้า..มาอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ คนที่ดีมีจิตใจดี
และเหตุการณ์ดีๆรวมทั้ง...
ความรักที่ดีที่สุดในชีวิตนะคะ
หวังว่าคงจะไม่ช้าไปนะคะ
*********
*******
*****
***
*




โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:15:27:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.