ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 
15 ยอดสตรีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

มีผู้หญิงจำนวนมากที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชาย
ในประเทศสัมพันธมิตร ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อตอนที่สงครามเริ่มใกล้จะแตกหักแล้ว
ในช่วงแรก ๆ ผู้ชายต่างยังไม่มั่นใจมากนัก
แต่แล้วต่อมาก็ยอมรับว่า ไม่เลวเลย
พวกเรากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง

รายชื่อผู้หญิงจำนวนนี้ บางรายมืชื่อเสียง
บางรายค่อนข้างลึกลับไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก
แต่ทุกคนต่างเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญมาก
1. Virginia Hall: Allied Spy



Virginia Hall of Special Operations Branch receiving the Distinguished Service Cross 
from General Donovan, September 1945 Photo via the CIA.


" เธอคือสายลับพันธมิตรที่อันตรายที่สุด
เราต้องหาตัวให้ได้และจัดการฆ่าเลยทันที "
นี่คือคำสั่งของหน่วยสืบราชการลับเยอรมันนี Gestapo
ที่ระบุเกี่ยวกับ Virginia Hall สตรีชาวอเมริกัน
ที่ร่วมปฏิบัติการอยู่ใน Vichy ฝรั่งเศส
ผู้ช่วยรวบรวมข้อมูลสำคัญจำนวนมากให้สหราชอาณาจักร
ในช่วงต้น ๆ ของสงครามโลก

แม้ว่าความจริงในตอนช่วงแรกประเทศสหรัฐอเมริกา
ยังไม่ยอมเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุโรป
ขณะเดียวกันผู้หญิงโดยทั่วไปแล้ว
มักจะไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นสายลับ
ยิ่งการที่เธอต้องเดินกะเผลกร่วมกับขาเทียมข้างหนึ่ง
ยิ่งเป็นการง่ายกับการระบุชี้ชัดตัวบุคคล

ในที่สุดอเมริกาตัดสินใจเข้าร่วมรบในสงคราม
Hall ตัดสินใจที่จะไปทำยุทธการรบด้วยตนเอง
ด้วยการเดินเท้าข้ามเทือกเขา Pyrenees
แม้ว่าจะมีขาจริงเพียงข้างเดียวจนกระทั่งถึงสเปน
เธอถูกทหารฝรั่งเศสที่ยึดครองพื้นที่แห่งนั้นจับตัวเธอได้
และต้องการจะส่งตัวเธอกลับสหราชอาณาจักร

เธอจึงสารภาพว่าตนเองเป็นสายลับของอเมริกา
แล้วเริ่มลงมืออบรมนักรบกองโจรฝรั่งเศสฝ่ายต่อต้านอักษะ
วิธีการทำลายเส้นทางลำเลียงกำลังพลของนาซี
และการสร้างความโกลาหลวุ่นวายในพื้นที่ต่าง ๆ
เพื่อเตรียมการวันยกพลขึ้นบกของพันธมิตรที่ Normandy
ขณะที่กองกำลังนาซีเยอรมันนีต่างพยายายามตามล่าตัวเธออย่างจ้าละหวั่น
สายลับ Gestapo ต่างไม่สงสัยเลยว่าจารชนที่ตามล่าตัว
จะเป็นผู้หญิงพิการที่มีเพียงขาจริงเพียงข้างเดียวอีกข้างเป็นขาเทียม



2. Jacqueline Cochran: Aviator



Jacqueline Cochran in the cockpit of a P-40 fighter plane.
(USAF negative number: 117391 AC)


ก่อนที่สหรัฐอเมริกาจะเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2
นักบิน Jacqueline Cochran ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า
เธอมีความสามารถในการบินเหนือกว่าผู้หญิงและผู้ชายหลายคน
ต่อมา เธอได้สอบถามอย่างสุภาพกับนายพล Gen. Hap Arnold
เพื่อขอปฏิบัติเที่ยวบินรบในกองทัพสหรัฐอเมริกา
ก็ได้รับคำตอบเบื้องต้นว่า ไม่ ขอบคุณ

แต่เมื่อสงครามเริ่มคุกกรุ่นมากแล้ว
ทางนายพล Hap Arnold ก็ยอมอนุมัติให้เธอเข้าทำงานได้
ช่วงเวลาเพียงสามปี เธออบรมนักบินหญิง
ที่รู้จักกันในชื่อว่า WASPs
ทั้งยังเป็นสตรีคนแรกที่ขับเครื่องบินทิ้งระเบิด
ที่บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติค
เธอมีหน้าที่กำกับดูโครงการฝึกอบรมถึง 120 สนามบิน
ภาระกิจดังกล่าวกองทัพสั่งให้สิ้นสุดลงในปี 1944

แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดยั้งชื่อเสียงของ Cochran
ที่เป็นสตรีคนแรกที่บินทะลุกำแพงเสียงได้
และได้รับการบันทึกใน National WASP World War II Museum ว่า
เธอทำสถิติความเร็วนานาชาติ ระยะทาง ชั่วโมงบิน มากกว่านักบินคนอื่น ๆ
ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายจนถึงทุกวันนี้



3. Sophie Scholl: German Dissident



20th anniversary of the assassination against Adolf Hitler on July 20th 1944
Graphics by Gerd und E. Aretz : Michel-Katalog-Nr: 431


จากข่าวเล่าลือถึงการตายในแนวหน้าจำนวนมาก
และจำนวนคนในชาติที่ล้มตายตลอดเวลา
Sophie มีวัย 21 ปีกับน้องชายของเธอ Hans
และเพื่อนชื่อว่า Christoph Probst
ได้เริ่มต้นแจกใบปลิวในมหาวิทยาลัย Munich
ตามด้วยมหาวิทยาลัย Hamburg
ก่อนใบปลิวนี้แพร่กระจายไปทุกหนทุกแห่ง
ประนามพวกนาซีเยอรมันนี
แล้วเรียกร้องให้ชาวบ้านร่วมกันคัดค้านพวกมัน

พวกเธอเป็นคนเพียงไม่กี่คนในยุคนั้น
ที่กล้าหาญคัดค้านการเมืองนรกของ Hitler
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ไม่นานนักพวกเธอทั้งสามคนก็ถูกจับกุม
โดยพวกสายลับ Gestapo
แล้วถูกตัดสินประหารชีวิตข้อหากบฎ
วาทะกรรมสุดท้ายของเธอคือ

" การตายของฉันไม่สำคัญหรอก
แต่จะทำให้ผู้คนนับหมื่นได้ตื่นจากการหลับใหล
และเริ่มลงมือคัดค้านสงคราม (ที่ก่อขึ้นโดยฮิตเลอร์) "



4. Susan Travers: French Foreign Legion Soldier



Susan Travers (23 September 1909 – 18 December 2003)
สตรีชาวอังกฤษเพียงคนเดียวที่ช่วยชีวิตของ French Foreign Legion


สตรีเพียงคนเดียวที่ขับรถพยาบาลใน French Foreign Legion
Travers ประจำที่ฐานทัพ Free French fort Bir Hakeim ใน Libya
ในตอนที่ถูกล้อมโดยกองทัพเยอรมันนี
เธอปฏิเสธที่จะหลบหนีขณะที่สตรีคนอื่น ๆ
ที่ต่างอพยพหนีออกไปจากฐานทัพหมดแล้ว
Travers กับทหารคนอื่น ๆ ต่างตั้งมั่น
ในค่ายอย่างกล้าหายถึง 15 วัน
จนกระทั่งเสบียงอาหารเริ่มขาดแคลน
และกองหนุนที่จะมาช่วยคงมาช่วยไม่ได้แล้ว

และแล้ว Travers ก็กระโดดขึ้นบนรถบรรทุก
แล้วตะโกนพูดว่า " ตามมา ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ "
ทั้งกองทัพต่างขับรถยนต์ฝ่าวงล้อมตามเธอในตอนกลางคืน
Travers เป็นคนขับรถนำหน้าขบวน
รถบรรทุกของเธอถูกกระสุนยิงใส่ถึง 11 นัด
แต่ในที่สุดพวกเธอก็เดินทางไปถึงเขตพันธมิตรได้
ช่วยรักษาชีวิตทหาร Free French ได้ถึง 2,500 นาย
มีเสียงเล่าลือว่าเธอไม่เคยเสียเลือดแม้แต่หยดเดียว
เธอจะมีอายุยืนยาวถึง 71 ปี


5. Faye Schulman: Partisan Fighter 



Photo by Faye Schulman, via Jewish Partisan Educational Foundation


หลังจากครอบครัวเธอถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยพวก Nazis
ในเขตกักกันชาวยิว Lenin ghetto ที่ Poland
Faye Schulman ได้หลบหนีเข้าป่าละแวกนั้น
แล้วเข้าร่วมกลุ่มนักรบกองโจรต่อต้านพวกศัตรู
ด้วยทักษะช่างถ่ายภาพทำให้ Schulman
นอกจากการเข้าร่วมโจมตีอย่างกล้าหาญแล้ว
เธอยังเก็บภาพถ่ายเหตุการณ์ต่าง ๆ
เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของนักรบกองโจรในช่วงสงคราม

ในฐานะที่เป็นผู้หญิงชาวยิวหนึ่งเดียวในกองโจร
Schulman ได้ปกปิดความลับตัวเธอตลอดช่วงเวลาสงคราม
ความกล้าหาญและเสียสละอย่างมากของเธอ
ทำให้มีเอกสารหลักฐานเป็นภาพถ่ายยืนยัน
เธอให้สัมภาษณ์หลังสงครามสิ้นสุดลงแล้ว

" ฉันต้องการให้ประชาชนรู้ว่ามีการต่อต้านพวกศัตรู
ชาวยิวไม่ใช่พวกแกะที่เดินไปให้พวกมันเชือดคอ
ฉันเป็นช่างภาพ ฉันถ่ายภาพ ฉันมีหลักฐาน "



6-7. Frances Eliza Wills กับ Harriet Ida Pickens: Naval Officers



Lt.(jg.) Harriet Ida Pickens and Ens. Frances Wills, สตรีคู่แรกที่เป็นครูฝึก Negro Waves
นักเรียนนายเรือที่จบการศึกษาที่ Naval Reserve Midshipmen's School (WR) Northampton, MA


แม้ว่าจะมีผู้หญิงจำนวนมากมายที่ทำหน้าที่เป็นกลาสีเรือ
ใน Naval Reserve (WAVES) ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่สำหรับ Frances Eliza Wills กับ Harriet Ida Pickens
ต่างเป็นนายทหารเรือคู่แรกที่เป็นคนผิวดำ
กับต้องเผชิญหน้ากับการเหยียดผิวในยุคนั้น
แม้ว่าภายในกองทัพก็ยังคงมีความรู้สึกเรื่องนี้เช่นกัน

ทั้ง Wills กับ Pickens ต้องเอาชนะกำแพงที่ขวางกั้นเรื่องนี้อย่างแรง
เพราะสังคมต่างคาดหวังในเรื่องหน้าที่การงานดังกล่าวนี้
น่าจะเหมาะสมกับทหารผิวขาวที่มีนับพันคนมากกว่า
ทั้งคู่เป็นเรือตรีสตรีผิวดำคู่แรกในกองทัพเรือ U.S. Navy
และได้รับมอบหมายให้สอนที่ Hunter Naval Training Station ใน Bronx
แม้ว่าจะมีสตรีผิวดำอีก 72 คนที่ทำงานใน WAVES
ในช่วงเวลาเดียวกันแต่มีหน้าที่การงานที่ด้อยกว่า Wills กับ Pickens



8. Veronica Lake: Actor/Icon



Veronica Lake Paramount publicity headshot, ca. 1940s  Paramount Pictures 


ดาราภาพยนต์ Veronica Lake
มีชื่อเสียงอย่างมากกับการตัดผมสั้นของเธอ
เพราะภาพลักษณ์ของเธอจะมีผมยาวหยักศก
ที่จะต้องปรากฎตัวในภาพยนต์เช่นนี้มาตลอด
การทำหน้าที่เป็นดาราภาพยนต์ในวงการนี้

ในช่วงปี 1940 หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้น
การตัดผมสั้นของเธอ ทำเพื่อชาติ
มีสตรีอเมริกันหลายพันคนที่ตัดผมเลียนแบบเธอ
หลังจากต้องเข้าทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมหนัก
เธอให้สัมภาษณ์ในหลายปีต่อมาว่า

อุบัติเหตุในโรงงานลดลงถึง 22%
หลังจากการตัดผมสั้นของเธอ
มีผู้หญิงอีกหลายคนทำตามแบบเธอ

แม้ว่าหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
งานแสดงของเธอจะเริ่มลดน้อยถอยลงก็ตาม
แต่บทบาทครั้งสำคัญของเธอยังไม่มีใครลืม



9. Gertrude Boyarski: Partisan Fighter



Gertrude Boyarski ในงานแต่งงานปี 1946 
Photo provided by Jewish Partisan Education Foundation


หลังจากหลบหนีออกมาจาก Derechin
ค่ายกักกันชาวยิว Polish Jewish ghetto
พร้อมกับพ่อแม่พี่น้องของเธอในช่วงวัยรุ่นตอนนั้น
แต่แล้วต้องเห็นภาพสยองขวัญที่แต่ละคนในครอบครัว
ต่างค่อย ๆ ล้มหายตายจากไปทีละคน
จากการยิงทิ้งของกองทหาร SS
และสมัครพรรคพวกมันในท้องถิ่น

Boyarski หลบหนีรอไปได้จนพบกับ
กลุ่มนักรบกองโจร Russian
และขอร้องหัวหน้ากองโจรว่า

" ฉันต้องการล้างแค้นให้กับครอบครัวทุกคน "

เรื่องราวของเธอเป็นเรื่องเล่าขานของชาวรัสเซียมากที่สุด
เกี่ยวกับการแก้แค้นของเธอกับพวกนาซีเยอรมันนี
หลังจากไม่นานที่เธอเข้าร่วมรบกับพวกนักรบกองโจร

Boyarski กับเพื่อนของเธอคนหนึ่งบุกเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
หิ้วถังน้ำมันก๊าดเผาทำลายสะพานไม้ของพวกเยอรมันนี
ที่ใช้ลำเลียงพลและเสบียงอาหารยุทธปัจจัย

แม้ว่าพวกนาซีเยอรมันพยายามจะตอบโต้และยิงใส่ทั้งคู่
แต่ Boyarski กับเพื่อนของเธอต่างไม่ยอมลดละ
ด้วยการใช้มือและเท้าพยายามทำลายสะพานไม้ที่ลุกไหม้
ท่ามกลางเปลวไฟที่เผาไหม้คนทั้งสองตลอดเวลา


10. Nancy Wake: Allied Spy


Photo via Australian War Memorial/Wikimedia Commons


ย่อหน้าแรกของ Nancy Wake's 2011 New York Times
อดีตสายลับชาวนิวซีแลนด์ New Zealander

" ไม่ชอบฆ่าคน แต่บางครั้ง เธอฆ่าคนด้วยมือเปล่า "

สตรีที่เยือกเย็นหรือมีฉายาว่า หนูขาว "The White Mouse"
โดยพวกนักไล่ล่านาซีเยอรมันนี
Wake ใช้เวลาในการปฏิบัติการรบในฝรั่งเศส
ช่วยเหลือพวก POWs (เชลยศึก)
และคนอื่น ๆ ที่นาซีเยอรมันนีตามล่าตัว
ให้หลบหนีไปยังสเปน พร้อมส่งข่าวสารต่าง ๆ ระหว่าง
กองทัพสหราชอาณาจักรกับฝ่ายต่อต้านเยอรมันนีชาวฝรั่งเศส
และที่แน่นอนคือเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับพวกนาซีเยอรมันนี

" ฉันไม่ใช่คนดีนักหรอก แต่เรื่องแบบนี้
ไม่ทำให้ฉันต้องงดอาหารมื้อเช้าแต่อย่างใด "

เธอเสียชีวิตอย่างสงบในวัย 98 ปีในปี 2011
แต่ผลงานที่มีประสิทธิภาพของเธอ
คงไม่ตามไปบีบคอพวกนาซีให้ตายเป็นหนที่สอง



11. Nadezhda Popova: Bomber Pilot



Photo by Kremlin Presidential Press and Information Office/Wikimedia Commons


ช่วงเวลาที่สหภาพโซเวียตรัสเซีย USSR
ยินยอมให้สตรีเข้าร่วมในกองทัพอากาศ Air Force
หลังจากที่กองทัพนาซีเยอรมันนีรุกคืบหน้าเข้าไปใน
ดินแดนของรัสเซียและเกือบใกล้กรุงมอสโควมากแล้ว

Nadezhda Popova เข้าร่วมในกองทัพอากาศ
เป็นกลุ่มสมาชิกที่น่ากลัวฉายา แม่มดราตรี Night Witches
Popova บินด้วยเครื่องบินปีกสองชั้นรุ่นเก่า
ปฏิบัติการรบในช่วงกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ถึง 852 เที่ยวบิน
ถูกยิงตกก็หลายครั้ง แต่ก็ยังทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์เยอรมันนี
และเส้นทางลำเลียงพลทหารเยอรมันนีได้จำนวนมากเช่นกัน



12. Hedy Lamarr: Inventor



Publicity photo of Hedy Lamarr for film Comrade X. MGM / Clarence Bull


ในช่วงปลายปี 1930 ถึง 1940
Hedy Lamarr เป็นดาราที่มีชื่อเสียงมาก
ในภาพยนต์หลายต่อหลายเรื่อง
ที่แสดงร่วมกับดาราดังเช่น Charles Boyer,
Spencer Tracy, และ Clark Gable

ขณะเดียวกันก็ผลิตเทคโนโลยีชิ้นสำคัญให้กองทัพ
ในช่วงเวลาว่างเว้นจากภาระกิจงานแสดง
ซึ่งแตกต่างมากจากภาพลักษณ์ของงานแสดงหนัง
Lamarr หลงใหลกับการเป็นนักประดิษฐ์

สตรีที่เป็นผู้อพยพชาวออสเตรีย
พร้อมต่อต้านพวกนาซีเยอรมันนีอย่างสุดชีวิตจิตใจ
เธอทำงานร่วมกับนักแต่งเพลง George Antheil
Lamarr ค้นพบวิธีการที่แสนฉลาดมาก
ที่ทำให้การดักฟังวิทยุของเรือรบศัตรู
ไม่สามารถดักฟังจากคลื่นวิทยุสื่อสารของเรือรบอเมริกา
ด้วยการผสมสัญญาณเสียง/คลื่นความถี่เข้าไป
แทนที่จะส่งสัญญาณไปในช่องความถี่เดียวแบบเดิม



13. Violette Szabo: Allied Spy



Photo via the Imperial War Museum/Wikimedia Commons


หลังการตายของสามีเธอที่สนามรบใน North Africa
Violette Szabo ได้อาสาสมัครเข้าร่วมกับ
British Special Operations Executive
และกระโดดร่มลงเขตยึดครองของเยอรมันนีในฝรั่งเศส
เพื่อทำลายสิ่งกีดขวางและสร้างความหายนะให้กับพวกนาซีเยอรมัน
Szabo ทำลายได้มากมายเหลือคณานับ
ทำลายโครงสร้างพื้นฐานพวกนาซีเยอรมัน
เธอทำงานที่ชื่นชอบแบบนี้เป็นเวลาหลายเดือน

จนกระทั่งเธอกับพรรคพวกนักรบกองโจรกลุ่มหนึ่ง
พยายามจะขับรถยนต์ฝ่าด่านตรวจของทหารเยอรมัน
Szabo กับสหายร่วมรบต้องสละรถยนต์
แล้วหลบหนีไปตามทางเท้าพร้อมกับยิงต่อสู้ตลอดเวลา
แต่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า Szabo
ไม่ยอมหลบหนีแต่พยายามยิงสะกัดพวกทหารเยอรมันนี
จนกระทั่งสหายร่วมรบเธอหลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย

ในช่วงที่เธอกับผู้หญิงอีกคนถูกจับล่ามโซ่เข้าด้วยกัน
ในตอนนำไปส่งที่ค่ายกักกันเชลยที่ Ravensbruck
ทั้งสองคนต่างพยายามลากตัวผ่านรางรถไฟ
เพื่อนำน้ำดื่มให้กับนักโทษชายที่กำลังได้รับบาดเจ็บ
ระหว่างการถูกซุ่มโจมตี

Szabo พยายามแหกคุกหลายครั้ง
แต่โชคร้ายไม่เคยสำเร็จ
เธอถูกประหารชีวิตในเวลาไม่นานนักไม่กี่สัปดาห์
ก่อนที่กองทัพพันธมิตรจะมีชัยชนะเหนือนาซีเยอรมัน



14. Veronica Foster: Factory Worker



Photo via Library and Archives Canada/Wikimedia Commons


Veronica Foster ในภาพกำลังสูบบุหรี่
และถือปืนที่เธอเพิ่งประกอบขึ้นมาจากสายการผลิต
ภาพการประกอบปืนของเธอสร้างแรงบันดาลใจ
ให้สตรีชาวแคนนาดาหลายล้านคน
ให้ร่วมมือร่วมใจทำงานในโรงงานยุทธปัจจัย

หลังสิ้นสุดสงคราม
เธอกลายเป็นนักร้องนำในวงดนตรีขนาดใหญ่ที่หนึ่ง



15. Lyudmila Pavlichenko: Soviet Sniper



ฉันมาที่นี่พร้อมเคี้ยวหมากฝรั่งแล้วยิงพวกนาซี
และหมากฝรั่งของฉันมักจะหมดซะก่อน
Photo by Mar/Wikimedia Commons


ทหารโซเวียตรัสเซียนักซุ่มยิงที่ยิงนาซีเยอรมันนีถึง 309 ศพ
Lyudmila Pavlichenko สตรีนักซุ่มยิงที่ยิงศัตรูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์

" เราจัดการพรรคพวกฮิตเลอร์เหมือนเก็บรวงข้าวสุก "
เธอเล่าถึงบทบาทในการรบที่ Sevastopol
ในการหยุดยั้งพวกหนูร้าย ถืบประตูบ้านให้พังลง
แล้ววิ่งขึ้นลงบันไดค้นหาจัดการพวกมัน
Pavlichenko กลายเป็นวีรสตรีของชาติ
กับความเก่งกาจและการเดินทาง
เพื่อโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย
ที่สหรัฐอเมริการในปี 1942

สุดท้ายโซเวียตก็ไปจึงถึงแนวหน้าด้านตะวันออก
แล้วเดินทัพอย่างช้า ๆ เข้ายึดครองเยอรมันนี
สุดท้ายโลกก็ไม่เคยเหมือนเดิมอีกต่อไป


เรียบเรียง/ที่มา

//goo.gl/i5879n


สายลับเยอรมันนีที่โด่งดังที่สุด

Gabrielle “Coco” Chanel




ที่มา //goo.gl/8C64J2


Franck Ferrand นักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส
ได้ออกอากาศรายการโทรทัศน์ช่อง France 3 เรื่อง
“L’Ombre d’un Doute” (The Shadow of a Doubt)
เบื้องหลังการค้นหาเอกสารพยานหลักฐาน
ที่คาดว่านักออกแบบเสื้อผ้าและน้ำหอมชื่อดัง
Gabrielle “Coco” Chanel
ทำงานเป็นสายลับให้นาซีเยอรมันนี
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารลับที่สุด
ของกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส
แต่หมดอายุความจัดเก็บแล้ว
จึงนำมาเปิดเผยกับสาธารณะได้
มีรายงานในการสืบรัฐการลับว่า
เธอทำงานใหักับหน่วยงานสายลับเยอรมันนี

Baron Hans Gunther von Dinklage
คือกิ๊กของ Chanel ที่มีการติดต่อกันหลายปี
Baron เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงหน่วยงาน Gestapo
สำนักงานสายลับของนาซีเยอรมัน




จากหลักฐานทางเอกสารลับรัฐการระบุว่า
Chanel ใช้ชื่อสายลับว่า Westminster
จากการมีสัมพันธ์กับ Britain’s Duke of Westminster ในปี 1920/2463
และรหัสชื่อในหน่วยข่าวกรองเยอรมันนี Abwehr Spy
รหัสเรียกขานหมายเลข F-7124

ในเอกสารลับยังได้ระบุว่า Chanel
พยายามใช้อิทธิพลของนายทหารเยอรมันนี
ช่วงเข้ายึดครองมหานครปารีส์
เพื่อยึดกิจการน้ำหอมของ
ครอบครัวชาวยิว Jewish Wertheimer
ที่จำหน่ายในชื่อ Chanel no. 5 ในปี 1924/2467

แต่เธอก็ล้มเหลวในเรื่องนี้
เพราะครอบครัว Wertheimers
ได้ส่งมอบธุรกิจให้กับนอมินีชาวฝรั่งเศส
ที่ไม่มีประวัติว่าเป็นชาวยิว
แล้วกลับมาบริหารเอง
ภายหลังจากสงครามโลกสิ้นสุด

เรื่องนี้มีการฟ้องร้องกันอย่างยื้ดเยื้อ
ต่อมาภายหลังครอบครัวชาวยิวกับ Coco
ตกลงกันได้ว่า เธอจะได้รับเงินส่วนแบ่งในอัตรา
2% ของยอดขายน้ำหอมทั่วโลก
ไปจนตลอดชีวิตของเธอ




เรียบเรียง/ที่มา

//goo.gl/8C64J2
//goo.gl/2DkdRq
https://goo.gl/ZQme5U
เรื่องเดิม



Roza Shanina ผลงาน 54 ศพ



ทหารหญิงซุ่มยิง กองพลที่ 3 Shock Army กองพันแนวหน้าที่ 1 Belorussian Front 

แถวแรก
G. Staff Sgt VN Stepanov: 20 ศพ G. Sgt JP Belousov: 80 ศพ G. Sgt AE Vinogradov: 83 ศพ
แถวสอง
G. Lt EK Zhibovskaya: 24 ศพ G. Sgt KF Marinkin: 79 ศพ G. Sgt OS Marenkina: 70 ศพ
แถวสาม
G. Lt NP Belobrova: 70 ศพ Lt N. Lobkovsky: 89 ศพ G. Lt VI Artamonov: 89 ศพ 
G. Sgt MG Zubchenko: 83 ศพ
แถวสี่
G. Sgt NP Obukhov: 64 ศพ G. Sgt AR Belyakov 24 ศพ

G = Guard Sgt = Sergeant Lt = Lieutenant
ยอดรวมที่ยืนยันเป็นทางการ 775 ศพ เฉลี่ยคนละ 64.6 ศพ
ถ่ายภาพร่วมในเยอรมันนี 4 พฤษภาคม 1945

//pantip.com/topic/32475255 สวย สังหาร ทหารหญิงรัสเซีย ตอนที่ 1



Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko ผลงาน 309 ศพ
ในจำนวนทั้งหมดนี้มีทหารซุ่มยิงนาซีเยอรมันนี 36 ศพ

//pantip.com/topic/32483380 สวย สังหาร ทหารหญิงรัสเซีย ตอนที่ 2



Nina Pavlovna Petrova ผลงาน 122 ศพ ยอมจำนน 3 คน
คุณยายวัย 52 ปี เป็นพลซุ่มยิงอายุมากที่สุดของโซเวียต

//pantip.com/topic/32577335 สวย สังหาร ทหารหญิงรัสเซีย ตอนที่ 3



Create Date : 27 ธันวาคม 2558
Last Update : 1 มีนาคม 2559 22:05:47 น. 0 comments
Counter : 923 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.