ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
ชีวิตบ้านคลองหวะ - น้ำ

ชีวิตบ้านคลองหวะ - น้ำ

น้ำในความหมายของชาวบ้านคลองหวะ
ถือว่าค่อนข้างโชคดีกว่าชาวบ้านควนลัง
ชาวหาดใหญ่เหมือนกันแต่อยู่บนที่สูงกว่า
เพราะขุดบ่อเพียงลึกเพียงเมตรถึงสามเมตรก็ได้น้ำดื่มน้ำใช้แล้ว
แต่ที่ควนลังใกล้ ๆ กับหมู่บ้านสหวิริยะ
ต้องขุดมากกว่ายี่สิบเมตรจึงจะได้น้ำบ่อสักลูกหนึ่ง

ต้องยอมรับกันเบื้องต้นก่อนว่า
น้ำระดับตื้น ๆ ขนาดนี้เรียกว่า น้ำผิวดิน
บางคนเรียกว่าน้ำซับทราย
สมัยก่อนยังสามารถใช้ประโยชน์ดื่มกินได้
แต่ปัจจุบันมีการใช้ยาฆ่าหญ้า สารเคมี เพื่อการเกษตรมากขึ้น
รวมทั้งการปลูกสร้างห้องน้ำห้องส้วมในบริเวณบ้าน
ทำให้โอกาสที่น้ำจะมีการปนเปื้อนกันมากกว่าปกติ

แต่เดิมการไปทุ่ง (หรือการไปถ่ายอุจจาระ)
ก็มักจะไปตามชายป่าตามทุ่งตามนา
แต่พอมีการสร้างห้องส้วมอยู่ใกล้ ๆ กับบ้าน
หรือปลูกสร้างในบริเวณบ้านแล้ว
ก็เริ่มมีปัญหาการปนเปื้อนของน้ำที่ซึมลงไป
ทำให้ปัจจุบันน้ำดื่ม ถ้าไม่รองจากน้ำฝนใ่ส่เพล้ง
(ภาชนะบรรจุน้ำทำจากดินเผา คล้าย ๆ หม้อหุงข้าว
บางแห่งจะใส่แร่ดีบุกก้อนใหญ่ ๆ ลงไปด้วย
นัยความเชื่อว่าจะทำให้น้ำเย็นกว่าปกติ
และมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ดื่มกิน)
หรือน้ำตอนนี้ต้องซื้อมาดื่มกันแล้ว

การขุดบ่อน้ำในสมัยนั้นต้องหาผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ
มักจะเรียกว่า หมอหรือครู
โดยจะใช้จากการสังเกตกอหญ้าบริเวณไหนที่สมบูรณ์
หรือมีหญ้าสีเขียวกว่าที่อื่น หรือรกกว่าบริเวณอื่น
น้ำบ่อบริเวณนั้นมักจะไม่ลึกมากนัก
หรือตรวจสอบโดยการใช้ใบไม้ประเภท ใบบัว ใบเผือก
คว่ำหน้าส่วนที่เป็นสีเขียวเข้มลงไปบริเวณพื้นดิน
แล้วหาพวกไม้หรือก้อนหินกดทับไว้หลวม ๆ
เพื่อดูว่ามีหยดน้ำมาจับหรือไม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น
ถ้ามีน้ำจะระเหยขึ้นมาจับที่ใบสามารถสังเกตได้
หรือถ้าโชคดีมากเกิดขุดตาน้ำได้
ก็จะมีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์
หรือชาวบ้านมักจะพูดกันว่า " ขุดตรงตาน้ำได้ สบายใจจัง "

ส่วนการขุดบ่อน้ำที่ระดับลึกมาก
หรือการลงไปล้างบ่อน้ำที่ลึกเกินกว่าห้าเมตร
จะต้องมีคนคอยเทน้ำลงไปเพื่อให้คลายร้อน
แล้วมีคนคอยใช้ใบไม้กิ่งไม้คอยโบกสะบัด
เหนือบ่อน้ำที่ขุด เพื่อให้ข้างล่างไม่นิ่ง
เพื่อไม่ให้อากาศข้างล่างนิ่ง หรือไม่มีออกซิเจน
จะได้มีอากาศถ่ายเทไม่เป็นโทษเป็นภัยต่อคนอยู่ในบ่อ

เคยเห็นสมัยเด็ก ๆ ที่บ้านมีบ่อน้ำลึกประมาณห้าเมตร
อยู่ในตัวเมืองหาดใหญ่แถวสถานีรถไฟ
บางปีน้ำไหลน้อยก็ให้คนงานช่วยลงไปล้างบ่อ
คือการกวาดขี้เลนหรือทรายที่เป็นเมือก ๆ ออก
จะทำให้น้ำไหลออกมาได้แรงขึ้นหรือมากกว่าเดิม
มักจะได้ยินคนงานในบ่อน้ำร้องตะโกนขึ้นมาว่า
เทน้ำลงมาหน่อย ร้อนโว้ย
และมักจะลงไปได้ทีละคนในปล่องบ่อ
เกินกว่าสองคนจะเกะกะมากเวลาทำงานในบ่อ

แม้ในปัจจุบันที่เป็นบ่อขุดด้วยเครื่องมือขุดบ่อ
แล้วทะยอยฝังลงในบ่อเป็นท่อน้ำหลายท่อนลงไปในบ่อน้ำ
จะมีการล้างบ่อด้วยการอัดอากาศหรืออัดน้ำลงไปในบ่อน้ำ
เพื่อทำความสะอาดบ่อ หรือเป็นการกระแทกให้ทราย
หรือเมือก ๆ ในน้ำ หรือขี้โคลนหลุดออกไปบ้าง
จะทำให้มีน้ำไหลดีขึ้นกว่าเดิม

การมีบ่อน้ำเป็นเรื่องของความเอื้ออาทร
หรือการมีปฏิสัมพันธ์ชุมชนระหว่างกัน
ทำให้สามารถทักทายหรือพูดคุยกันระหว่างตักน้ำมาใช้
เพราะมักจะให้ใช้น้ำร่วมกันได้ระหว่างเพื่อนบ้าน
ในบางแห่งทั้งชุมชนก็มักจะมาใช้น้ำบ่อเดียวกัน
เช่นที่ บ่อตรุ ที่ระโนด และ บ่อชะแล้

เพราะการขุดบ่อน้ำ บางครั้งเป็นเรื่องโชคลาภวาสนา
บางแหล่งน้ำไหลออกมาไม่ทันกินทันใช้
หรือน้ำซึมออกมาไม่ทันการใช้การใช้งาน
หรือคุณภาพน้ำกร่อยหรือน้ำที่ตักขึ้นมาใช้งานไม่ได้เลย
ทำให้หมู่บ้านบางแห่ง หลาย ๆ ครอบครัวมักจะหุ้นกัน
เพื่อขุดบ่อน้ำขึ้นมาใช้งานร่วมกันในระหว่างครัวเรือนหรือชุมชน

แต่สังคมไทยก็มีปัญหาอีกอย่างคือ
เมื่อยุติหรือเลิกใช้บ่อน้ำแล้ว
มักจะไม่ฝังกลบหรือเททรายกลบบ่อ
มักจะปล่อยทิ้งร้างไว้ เผื่อว่าจะได้ใช้
ยิ่งในเมืองใหญ่ที่มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
มักจะไม่นิยมหรือมีกฎหมายบังคับ
ให้ทำกันในเรื่องกลบบ่อที่ไม่ใช้งานอีกแล้ว
ยิ่งเป็นสาเหตุให้น้ำเสียไหลลงในระดับน้ำใต้ดินมากขึ้น

ในสมัยก่อนการเลิกใช้บ่อน้ำ
ต้องมีการทำพิธีบอกลาหรือขอขมาบ่อน้ำ
ที่เคยเห็นพิธีกรรมทั้งของไทยกับของจีนคือ
การจุดธูปเทียน อาจจะมีกระดาษเงินกระดาษทอง
ดอกไม้ และเครื่องเซ่น ไหว้หน้าปากปล่องบ่อ
พร้อมกับการกล่าวสวดเซ่นสังเวยโดยฆราวาส
ที่มีความรู้หรือประสบการณ์ในเรื่องนี้

ถ้าเป็นของคนจีนที่เคยพบเห็นมา
จะไม่มีพิธีกรรมการใช้ฆราวาสในการสวดเซ่นสังเวย
แต่ใช้เจ้าของบ้านเองเป็นคนบอกลา
จุดธูปเทียนนำพร้อมของสังเวย
มีกระดาษเงินกระดาษทอง
เผาตามหลังไปหลังเสร็จพิธี
และมักจะโยนเงินเหรียญลงไปในบ่อก่อนกลบฝังด้วย

พิธีกรรมทั้งสองวัฒนธรรมนี้
เพื่อเป็นการคาระวะและบอกลาขอขมาบ่อน้ำ
ที่เคยมีพระคุณในการให้ดื่มให้กินให้ใช้
แล้วค่อยทำการกลบฝังให้เป็นที่เรียบร้อย

แต่ในปัจจุบันคงต้องกลบฝังลงในท่อ PVC
ที่เป็นรูขนาดสองนิ้วหรือมากกว่านั้นก็เป็นไปได้
โดยการเททรายลงในรูท่อน้ำ PVC

เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ
ก่อนที่จะเลือนหายไปเหมือนบ่อน้ำในอดีต

ภาพประกอบจาก Internet ครับ




Create Date : 28 พฤษภาคม 2554
Last Update : 4 กรกฎาคม 2555 8:19:31 น. 3 comments
Counter : 1353 Pageviews.

 
ได้ความรู้จากบ่อน้ำอีกแล้ว ขอบคุณนะคะที่นำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 28 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:41:46 น.  

 
ที่บ้านเชียงใหม่ก็ใช้น้ำบ่อ

สผก.น่าจะ 2 เมตร ลึกเท่าไหร่ไม่ทราบ

แต่ผิวน้ำราว ๆ 3-5 เมตร แล้วแต่ฤดู

จนภายหลังมีประปาเข้ามา ก็ใช้ทั้งสองอย่าง

เมื่อก่อนแถวบ้านเหมือนบ้านนอกอยู่กลางทุ่ง น้ำบ่อใสมาก

เดี๋ยวนี้อยู่กลางเมือง จะดูเหมือนมีสีสนิมลอยหน้าอยู่ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 29 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:55:12 น.  

 
ได้ความรู้อีกแบบ เก่งค่ะ
ข้อมูล ใช้ประกอบรายงานได้เลย


มอบดอกไม้ให้ค่ะ

>





โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 29 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:36:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.