พื้นที่ภายในระบุ .0257 ตารางกิโลเมตร
หนึ่งตารางกิโลเมตร มีเนื้อที่ 625 ไร่
ดังนั้นพื้นที่ .0257 ตารางกิโลเมตร
จะมีเนื้อที่ประมาณ 16.0625 ไร่
หรือประมาณ 6,425 ตารางวา
คิดแบบชาวบ้านแถวปักษ์ใต้สมัยก่อนคือ
ห้องแถวรุ่นเก่า 16 ห้อง
ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 20 เมตร
พื้นที่รวม 100 ตารางเมตร หรือ 25 ตารางวา
16 ห้องเท่ากับ 1,600 ตารางเมตร
หรือ 400 ตารางวา เท่ากับ 1 ไร่
สมัยทำงานที่ธนาคารไทยแห่งแรก
ตอนตรวจนิติกรรมสัญญาของสาขา
ที่ดินตลาดย่านยาว จังหวัดพังงา
หน้ากว้าง 5 เมตรบ้าง 10 เมตรบ้าง
แต่ยาวหรือลึกบางแห่งราว 100 เมตร
ถามชาวบ้านกับพนักงานในพื้นที่
บอกเป็นวัฒนธรรมคนใต้
ชอบซื้อขายที่ดินต้องคิดเป็นห้องก่อน
กว้างประมาณ 5 เมตรอย่างต่ำ
ยาวหรือลึกเท่าไรค่อยว่ากัน
แต่ส่วนมากประมาณ 16 เมตรอย่างต่ำ
เคยถามชาวบ้านว่า
ที่ดินลึกขนาดนี้ทำอะไรบ้าง
แกตอบก็ปลูกบ้านพออยู่
ที่เหลือปลูกผักปลูกหญ้าหรือทิ้งให้รกร้าง
แกตอบที่ได้ที่ดินลึกขนาดนี้
เพราะชาวบ้านตัดแบ่งขาย
ในตอนช่วงขุดแร่ดีบุกบูมมาก
ชาวบ้านเดิมไม่ค่อยรู้เรื่องหรือ
เข้าใจในการตัดแบ่งที่ดินขายมากนัก
กอปรกับได้ราคาดีมากเลยตัดขายแบบนี้
ตอนนี้แปลงลึกขนาดนี้มีเหลือไม่มากนัก
ส่วนใหญ่แปลงสภาพเนื้อที่ดินเป็นแปลงย่อย ๆ
โดยซื้อเพิ่มหรือร่วมมือกับเจ้าของที่ดินข้างเคียง
5. การก่อสร้างครั้งใหญ่ในช่วงปี 1960 กับ 1970
มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ในเมืองนี้
พร้อมกับมีการพัฒนาภายใน เช่น
น้ำประปาจากบ่อน้ำใกล้เคียง
ไฟแสงสว่างในจุดที่แสงแดดส่องไม่ถึง
6. หมอเถื่อนมีหมอรักษาโรคกับหมอฟัน
ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
หรือเอกสารหลักฐานว่า
สำเร็จการศึกษาทางการแพทย์
แต่ทำการรักษาโรคผู้อยู่อาศัย
จำนวนนับหมื่นคนภายในเมืองนี้
7. ชีวิตทั่วไปครอบครัวภายในกำแพงเมืองนี้
ใช้ชีวีตเหมือนคนทั่ว ๆ ไป
ผู้ชายมีอาชีพหนึ่งอย่างหรือหลายอย่าง
หรือทำธุรกิจภายในเมืองนี้
ส่วนผู้หญิงมักจะอยู่ที่บ้านเป็นแม่บ้าน
ส่วนลูก ๆ มักจะเข้าไปเรียนที่โรงเรียนในเกาลูน
ที่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ เข้าเรียนได้หลายแห่ง
8. คนนอกกำแพงมีคนนอกเมืองเถื่อนน้อยรายมาก
ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ภายในเมืองนี้
และบอกเล่าประสบการณ์ในเมืองนี้
ยกเว้นแต่ Jackie Pullinger
ที่เคยรักษาอาการติดยาเสพติดที่เกาลูน
ได้เขียนบอกเล่าไว้ในหนังสือเรื่อง
ยาเสพติดในกำแพง Crack in the Wall
มีหนังสือหลายเล่มที่เขียนเกี่ยวกับชีวิตภายใน
รวมทั้งชอว์บารเดอร์ก็เคยสร้างหนังเกี่ยวกับชีวิตในนี้
9. สามสิ่งชั่วร้ายที่จำเป็นตั้งแต่ช่วงปี 1950 ถึงปี 1980
กลุ่มไตรลักษณ์(มาเฟียจีน)
ที่ขึ้นชื่อมากที่สุดคือ แก้ง 14k กับแก้ง Sun Yee On
มีอิทธิพลบทบาทภายในกำแพงเมืองนี้มาก
มีอาชีพค้า โสเภณี ยาเสพติด และบ่อนการพนัน
(มาเฟียในสหรัฐเรียกว่า สิ่งชั่วร้ายที่จำเป็น
พระเจ้าให้อภัยได้กับสิ่งชั่วร้ายสามสิ่งนี้)
แต่ชาวบ้านส่วนมากในเมืองนี้ไม่ได้ทำอาชีพนี้
10. ทางการจีนทำการขับไล่/รื้อถอน แต่ทางจีนผืนแผ่นดินใหญ่ให้ท้ายและให้เงินสนับสนุน
หมายเหตุทางการจีนมีชื่อเสียในเรื่องจัดการ
กับคนไม่เชื่อฟังอำนาจรัฐอยู่แล้ว
เพราะไม่เช่นนั้นจะปกครองประชาชน
ที่มีจำนวนเป็นพันล้านคนไม่ได้
มีเรื่องเล่ากันเล่น ๆ ว่า
ขนาดศพตายไปพันกว่าปี
ยังยอมเปิดปากรับสารภาพผิดเลย
พอโดนตำรวจจีนซ้อมให้รับสารภาพ
11. รื้อถอนเมืองเถื่อนในระหว่างมีนาคม ปี 1993 ถึงเมษายน 1994
รัฐบาลจีนได้รื้อถอนเมืองเถื่อนในเกาลูน
ได้อย่างราบคาบเป็นหน้ากอง
โดยผู้อยู่อาศัยในเมืองย้ายออกหมดแล้ว
วิธีการนำรถ Backhole ขึ้นชั้นบนอาคาร
ที่มาของภาพ //lowertownballpark.com/wp-content/uploads/2013/11/IMG_20130725_095108_573-1000x1777.jpg
ที่มาของภาพ //www.aviationspectator.com/files/images/CH-47-Chinook-helicopter-093.preview.jpg
12. สวนสาธารณะ Kowloon Walled City Parkหลังจากการรื้อถอนเสร็จสิ้นแล้ว
เมืองเถื่อนในอดีตได้เปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ
มีทางเดินเท้า สวนหย่อม ลำธาร
และสิ่งปลูกสร้างในอดีตที่อนุรักษ์ไว้
เพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติ
ซากปรักหักพังและทางเข้าด้านใต้ของเมือง
ที่มาของภาพ //en.wikipedia.org/wiki/File:Image-Kowloon_Walled_City_southgate.jpg
ที่ทำการราชการของจีนในอดีต บริเวณนี้เป็นที่พักผ่อนและจัดงานภายในเมืองเถื่อน
ที่มาของภาพ //en.wikipedia.org/wiki/File:KWC_Yamen1.JPG
13. อิทธิพลจากอดีตเมืองเถื่อนแห่งนี้มักจะมีภาพ
เป็นฉากในภาพยนตร์และเกมส์ต่าง ๆ
ในภาพของเมืองอาชญากรรม
หรือเมืองลึกลับที่เต็มไปด้วยความเลวร้าย
14. ความทรงจำเก่า ๆ ผู้เคยพักอาศัยในเมืองเถื่อนแห่งนี้
ได้รำลึกถึงอดีตเมืองนี้ด้วยความพึงพอใจ
แม้ว่าความเป็นอยู่ข้างในจะยากลำบาก
แต่คนที่เคยอยู่หลายคนต่างรู้สึกว่า
มีความเป็นชุมชน/คนบ้านเดียวกัน
ภายในเมืองเถื่อนที่มีความผูกพันกัน
อย่างเหนียวแน่นมากในอดีต
น่าทึ่งมาก
ไม่ลงถนนแล้วเหรอคะ
เมืองเถื่อนเพิ่งเคยเห็น
เคยได้ยินค่ะ
ถ้าอยู่ในช่วงนั้น คงลำบากมาก
ดูจากสภาพแล้วอัตคัตตามมีตามเกิดกันมากเลยค่ะ
น่ากลัวด้วยอ่ะ เหมือนเมืองร้าง
ปาดังเบซาร์เมื่อก่อนตอนยังไม่เปิดด่านต้องข้ามรั้วหนามไปก็รู้สึกเหมือนกันค่ะ
ว่าข้ามไปทีเหมือนไปซื้อของเถื่อน ที่จริงต้องบอกว่าของหนีภาษี แต่ตอนนี้ดีหน่อยเปิดดิวตี้ฟรีดักหน้า่ด่านซะเลย อิอิ
ส่วนมากนุ่นก็ชอบข้ามไปซื้อที่ตลาดฝั่งมาเลย์ค่ะ ของถูกดี แต่ต้องไม่ซื้อเยอะแบบเอามาขายแบบนั้นเจอยกลงอีกต่างหาก
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่า