ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (20 พ.ค.58) ธนาคารกสิกรไทย โดย "บัณฑูร ล่ำซำ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย นำร่องแถลงข่าวประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ด้วยตนเองที่สำนักงานใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย ลง 0.13-0.25% มีผลตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2558   ซึ่งถือเป็นแบงก์พาณิชย์รายแรกได้ตอบรับนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)  

 "จะมีอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ทำไมหากมีแล้วไม่มีคนทำตาม การที่นโยบายดอกเบี้ยจะมีผลกระตุ้นเศรษฐกิจ ระบบธนาคารก็ต้องทำตามกันไปด้วยไม่ใช่ว่าตื่นเช้ามา จะต้องให้ผู้ว่าการแบงก์ชาติมาทวง ทำไมถึงทำตัวเป็นกามตายด้าน ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกลายเป็นบรรยากาศที่ต้องขัดกัน 

....สถานการณ์ปัจจุบัน ธุรกิจธนาคารพาณิชย์มีความมั่งคั่งมากขึ้นจึงน่าจะสามารถดำเนินการตามแนวทางนโยบายรัฐได้ และเป็นเหตุที่ธนาคารกสิกรไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้

... แน่นอนว่าราคาหุ้นแบงก์ต้องตก เพราะทั้งนักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างก็คำนวณได้อยู่แล้วและหลังจากนี้ก็คงมีผลต่อผลประกอบการด้วย การทำแบบนี้ก็เฉือนเนื้อไปบ้าง คงมีเลือดไหลแน่แต่ที่สมาคมธนาคารไทยประชุมว่าไม่ลดอัตราดอกเบี้ยนั้น วันนี้เราจะทำซึ่งก็จะดูต่อไปว่าจะมีคนทำตามไหม"

ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 25 - 27 พ.ค. 2558

ขณะที่มุมมองของนายแบงก์ใหญ่จากธนาคารกรุงเทพโดย "โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์" ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ  มองประเด็นนี้ดังนี้

 "ใครๆ ก็รู้ว่า ถ้าดอกเบี้ยต่ำมากเกินไป จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไร คนจะวิ่งไปหาอะไรก็ได้ที่ให้ผลตอบแทนสูง แบบนี้ ก็ยุ่งเหมือนกัน ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องต้องแข็งแรง ขึ้น...

....ถ้าเราอยากมีนโยบายดอกเบี้ยอ่อนๆ ก็ทำได้ แต่ต้องเข้มงวดกับ สิ่งต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็นการ เก็งกำไรที่อาจจะสูงเกินขอบเขต เพราะถ้าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะเกิดปัญหาขึ้นได้

.....พวกนี้เป็นเรื่องของการดูแล ถ้าปล่อยให้ดอกเบี้ยอ่อนก็ต้องไปดูแลไม่ให้เกิดการ เก็งกำไรจนทำให้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินออมของชาวบ้าน ซึ่งการดูแลไม่ใช่แค่หน้าที่ของแบงก์ชาติเท่านั้น แต่ทุกคน ต้องเข้าใจ อยากฝากทุกคนว่าต้องเข้าใจ ดอกเบี้ยต่ำๆ แบบนี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้ไปหาผลตอบแทนที่สูง นั่นก็คือ การเก็งกำไร หรือไม่ ก็อาจถูกหลอกลวงให้ไปลงทุน"

".....ดอกเบี้ยนโยบายที่ล่าสุดปรับลดลงอีก 0.25% มาอยู่ที่ 1.5% นั้น ......ธนาคารพาณิชย์อื่นไม่รู้ว่าคิดอย่างไร แต่สำหรับธนาคารกรุงเทพแล้ว เราเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องลดตาม เพราะดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดก็เป็นการส่งสัญญาณออกไปให้เห็นผลอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นดอกเบี้ยอ้างอิง เวลาที่เราทำงานเราก็ใช้ดอกเบี้ยอ้างอิงนี้กันเยอะ จึงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่เราจะปรับลดตาม

......ถ้าจะให้ลดดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ ก็ทำได้ แต่ต้องคำนึงถึงผู้ออมเงินด้วย ถ้าไปลดดอกเบี้ยลงอย่างเดียวโดยไม่ ดูเงินออมของประชาชน แบบนี้ก็อาจเกิดปัญหาได้...."  นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์  ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ 

ที่มา  เนชั่น