LovelyTrip เที่ยวทุกที่ที่ใจอยากไป
Group Blog
 
<<
เมษายน 2560
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
18 เมษายน 2560
 
All Blogs
 

เที่ยว “สกลนคร” เมืองน่ารัก & น่าเที่ยว




พูดถึงจังหวัดสกลนคร เราไม่ได้มาอัพเดทนานกว่า 10 ปีแล้ว การมาเที่ยวรอบนี้ตามโครงการ ผู้หญิงพาเที่ยว 2017  จึงต้องขอบคุณ คุณสุหฤทธิ์ ชาญวนังกูร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสกลนคร-นครพนม พร้อมผู้ช่วย คุณตุ๊ก และฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล ที่ชวนมาเที่ยวชมอัพเดทสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งของที่นี่





“สกลนคร” ในสายตาเรา เป็นเมืองที่น่ารักและน่าเที่ยวเลยทีเดียว เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่อง ผ้าย้อมคราม และปัจจุบันผ้าย้อมครามนี้ได้กลายเป็นแม่เหล็กดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยว ณ เมืองแห่งนี้มากมาย



การเดินทางมาเที่ยวจังหวัดสกลนครนั้นไม่ยาก ใช้เวลาเดินทางน้อยมาก เพราะสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้ มีทั้งสายการบิน นกแอร์  แอร์เอเชีย ใช้เวลาบินประมาณชั่วโมงก็ถึงแล้ว ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินไปก็ประมาณ 1,000 บาทบวกลบนิดหน่อย หรือถ้าเลือกซื้อช่วงโปรโมชั่น หรือซื้อล่วงหน้าเป็นเดือนราคาตั๋วก็จะยิ่งถูกลงไปอีก ต้องวางแผนเที่ยวดีๆ ชัดเจน



1.เที่ยวชม การผลิตผ้าฝ้ายย้อมครามธรรมชาติขนานแท้ ของ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าย้อมครามบ้านดอนกอย เป็นผ้าย้อมคราม ที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน หลายคนยังไม่เคยเห็น “ต้นคราม” พืชโบราณ ที่เลื่องลือสรรพคุณด้านสุขภาพ



ชาวบ้านนำมาย้อมสีผ้าแบบไร้สารเคมี เมื่อได้สวมใส่ผ้าฝ้ายย้อมคราม จะให้ความรู้สึกเย็นสบาย ไม่ร้อน และมีผลวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ระบุไว้ว่า ผ้าย้อมครามช่วยป้องกันรังสียูวีได้



รวมถึง แพทย์พื้นบ้านโบราณก็ยังเชื่อว่า กลิ่นหอมของผ้าจะช่วยทำให้ผู้สวมใส่ รู้สึกผ่อนคลาย ปัจจุบันกลายเป็นที่รู้จักกันว่า ผ้าผิวสวย











จากที่ไปสัมผัสกรรมวิธีการย้อมครามของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าย้อมครามบ้านดอนกอย อย่างใกล้ชิด พบว่าชาวบ้านที่นี่ มีความละเมียด เอาใจใส่ทุกเส้นด้าย ไม่แปลกใจที่เนื้อผ้าย้อมครามถึงได้ออกมาเป็นผ้าเนื้อนิ่มสีฟ้าสดใส สวมใส่แล้วพลิ้วสวยงาม



ผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมคราม มีหลากหลายมากมายทั้ง เสื้อผ้า ผ้าคลุมไหล่ ผ้าถุง ผ้าพันคอ ผ้าเอนกประสงค์ ลวดลายต่างๆ เช่น ลายนกนางแอ่น ลายดอกจาปา ลายโคมไฟใหญ่ ลายสายใยบัว ลายบานไม่รู้โรย



2.เที่ยวชม 3 ดำมหัศจรรย์ ได้แก่ ไก่ดำ สุกรดำ โคเนื้อภูพานดำ อยู่ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดาริ






พวกเราไปเดินชมบนเส้นทางนี้เพื่อตามรอยพ่อ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เคยเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ดังที่เราเคยเห็นผ่านพระบรมฉายาลักษณ์หรือสารคดีส่วนพระองค์ 



3.เที่ยว ชม ความสวยงามและกราบสักการะ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร นมัสการพระธาตุเชิงชุม ศาสนสถานสาคัญคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวสกลนครเคารพนับถือ บนยอดฉัตรเหนือองค์พระธาตุเป็นทองคำบริสุทธิ์หนัก 247 บาท



4.ถนนคนเดินผ้าคราม อยู่บนถนนด้านหน้าวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เป็นแหล่งรวมจำหน่ายสินค้าผ้าครามจากหมู่บ้านต่างๆ ทั่วจังหวัดสกลนคร



ตลาดเปิดขายของเวลา 17.00-20.00 น.ของทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันสำคัญทางศาสนา





ฉะนั้นในทุกเย็นของวันที่เปิดถนนคนเดิน เราจะเห็นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจะสนุกสนานกับการช้อปปิ้ง เสื้อผ้า ผ้าถุง กระเป๋า รองเท้า และของที่ระลึก ดีไซน์สวยงามติดไม้ติดมือกลับบ้านกัน



5.เที่ยวชม กลุ่มสกลเฮ็ด เป็นการรวมกลุ่มของคนรุ่นใหม่ในแต่ละธุรกิจของจังหวัดสกลนครกว่า 8 คนมารวมผลิตภัณฑ์ของแต่ละคนมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน       



โดยนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาต่อเป็นผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย และอนาคตไม่ไกลจากนี้เราน่าจะเห็นเมืองสกลนครเป็นเมืองอาร์ทๆอีกเมืองหนึ่งที่ไม่แพ้จังหวัดอื่น



6.เที่ยวชม อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล โบสถ์คริสต์ทรงหัวเรือใหญ่ซึ่งเปรียบได้ดั่งเรือของโนอาตามความเชื่อทางศาสนา









และยังได้เดินไปชมหมู่บ้านของชาวคริสต์นิกายคาทอลิคที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย อายุนับร้อยปี สร้างแบบยุโรปโดยช่างมีมือชาวเวียดนาม มีจำนวน 4 หลัง ตั้งอยู่ที่บ้านท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร



7.เที่ยว ชม บึงบัวหนองหาน ในอุทยานหนองหานเฉลิมพระเกียรติ ชมทุ่งดอกบัวบานสะพรั่งในบึงบัวกว้างใหญ่ มีสะพานไม้ทอดยาวเหนือน้ำ ให้เดินชมความสวยงามของดอกบัวอย่างใกล้ชิด



8.เที่ยวชม วัดถ้าผาแด่น ชมทัศนียภาพงดงามของวัดบนภูเขาที่มีองค์พระธาตุตั้งเด่นบนก้อนหินคล้ายพระธาตุอินทร์แขวน ที่เมียนมาร์ 



กราบพระธาตุ ไหว้พระและชมปฏิมากรรมหินผาแกะสลักเป็นภาพพระพุทธรูป เทพเจ้า และพระเกจิอาจารย์ ซึ่งวัดนี้มีความสำคัญมาก “หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” และคณะครูบาอาจารย์สายวัดป่ากรรมฐาน เคยธุดงค์มาปักกลดบำเพ็ญเพียร เมื่อปีพ.ศ. 2483 ด้วย




สำหรับที่พักนั้นพวกเราแวะเข้าเช็คอินที่ @ SAKON Hotel โรงแรมเล็กๆ น่ารักๆสไตล์ชาวสกลคนยุคใหม่



ส่วนอาหารที่พวกเราไปอิ่มอร่อยในทริปนี้กันมีหลายสถานที่ หลากหลายเมนู ทั้งส้มตำ ไก่ย่าง ลาบหมู ไข่กระทะ  ฯลฯ

















สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ คุณสุหฤทธิ์ ชาญวนังกูร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสกลนคร-นครพนม พร้อมผู้ช่วย คุณตุ๊ก และฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล อีกครั้ง ที่นอกจากพาเที่ยวชมเมืองสกลนครแล้ว ยังพาชมกรรมวิธีการผลิตผ้าย้อมครามตั้งแต่ต้นทางถึงตัวผลิตภัณฑ์ออกมาให้นักท่องเที่ยวได้สวมใส่ รวมถึงการพามาสัมผัสวัฒนธรรมของชาวสกลนครอีกด้วย



โดยเฉพาะอาหารมื้ออร่อยในแบบพาแลง (อาหารเย็น) ที่บ้านโนนหอม การบายศรีสู่ขวัญ และชมการแสดงของชาวผู้ไทที่หาชมได้ยาก ช่วยให้เราได้นำเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันกัน










พบกันใหม่ทริปต่อไปนะคะ #Lovelytrip #raveetawan #สกลนคร #ฮันนีมูนทราเวล  ขอขอบคุณภาพสวยๆบางส่วนจากน้องๆร่วมทริปนี้ ทั้งน้องน็อต  น้องไหม น้องตุ๊กตา รวมถึง Travelista นักเดินทาง Blogger Travel ที่เอื้อเฟื้อภาพสวยๆตลอดทริปเดินทางค่ะ






 

Create Date : 18 เมษายน 2560
4 comments
Last Update : 18 เมษายน 2560 7:39:18 น.
Counter : 8774 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณMaeboon

 

 

โดย: เสลาสีม่วง 18 เมษายน 2560 13:11:40 น.  

 

แม่บุญมีทั้งหลานชาย หลานวะใภ้อยู่ที่สกลมานานนับสิบปี แต่ไม่เคยไปเที่ยวเลยค่ะ ตอนนี้เขาย้ายมาอยู่กรุงเทพฯแล้ว ก๊ากกก ใกล้เกลือกินด่าง ไม่รู้เลยว่ามีอะไรดีๆ ให้ชม ขอบคุณนะคะ กลับบ้านคราวหน้าจะหาเวลาไปค่ะ

โหวตท่องเที่ยวไปเลย

 

โดย: Maeboon 24 เมษายน 2560 13:31:15 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ เพิ่งเคยเห็นต้นครามครั้งแรกเหมือนกัน อาหารน่าหม่ำทุกอย่างเลย :)

 

โดย: ไม่ต้องหวานซึ้ง...ก็นึ่งได้ 26 เมษายน 2560 17:15:34 น.  

 

จะไปเที่ยวสกล นครพนม ช่วงปลายเดือนกันยายนค่ะ

น่าจะได้ตามรอยหลายที่เลย

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 29 สิงหาคม 2560 14:15:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Lovelytrip
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




จำนวนผู้ชม 5140140 ครั้ง
จำนวนผู้ชม Profile 970 ครั้ง

เที่ยวทุกที่ที่ใจอยากไป
New Comments
Friends' blogs
[Add Lovelytrip's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.