Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2557
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
10 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 

วิวาห์ร้าย พ่ายรัก - 8 - เท่าไหร่?




อติยะถีบประตูห้องชุดส่วนตัวเข้าไปหลังจากใช้คีย์การ์ดปลดล็อกได้สำเร็จ จากนั้นก็เดินดุ่มเข้าไปในห้องนอนเพื่อจะได้วางร่างของหญิงสาวลงบนเตียงของตัวเอง

“เฮ้อ...ถึงซะที เห็นตัวบางอย่างนี้หนักเหมือนกันนะคุณ”

เขาถอนใจยาวพลางบ่นอย่างนึกหมั่นไส้แม่เสือสาว

อ้อ ไม่ใช่สิ ตอนนี้เธอเป็นลูกแมวน้อยของเขาแล้ว ลูกแมวน้อยขี้เมาซะด้วย...

ชายหนุ่มอมยิ้ม คุกเข่าลงข้างเตียงเพื่อจะได้พิศใบหน้าของอีกฝ่ายได้เต็มตายิ่งขึ้น นิ้วเรียวเกลี่ยลูกผมข้างแก้มออกให้อย่างอ่อนโยน พวงแก้มนุ่มขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ามองจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ใบหน้าคมโน้มต่ำลง หมายจะเรียกร้องเอาค่าเหนื่อยให้ชื่นใจเสียหน่อย ทว่าเสียงเรียกเข้ามือถือก็ดังขัดจังหวะ

เขาพ่นลมหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดู เมื่อเห็นไฟกะพริบที่หน้าจอขึ้นชื่อบุคคลอันตรายหมายเลขหนึ่ง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจกดปิดมันเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว

เพียงเห็นชื่อก็อยากจะบ้า ยิ่งนึกถึงใบหน้าเขายิ่งอยากจะคลั่ง ผู้หญิงอะไรตามตื๊ออยู่ได้ น่ารำคาญชะมัด!

รัศมีเป็นสตรีคนแรกที่ทำให้เขาพยายามวิ่งหนีมนุษย์โลกที่มีชื่อว่า ‘ผู้หญิงสวย’ หากไม่เพราะถูกอชิระขอร้องแกมบังคับให้ปฏิบัติตัวดีๆ กับเจ้าหล่อน เขาไม่มีทางยอมถูกลากไปโน่นมานี่กับเธอแน่ เพราะคำว่า ‘ธุรกิจ’ ตัวเดียว เขาต้องยอมทนทำตัวเหมือนเป็นวัวถูกสนตะพาย นี่ขนาดว่าหลบลี้หนีหน้าไปเป็นคาวบอยอยู่ต่างจังหวัดแล้ว แต่สาวเจ้ายังกัดไม่ปล่อย นึกแล้วก็เจ็บใจพี่ชายตัวแสบนัก

‘เอาน่าเล็ก คุณลูกหมีเธอชอบนาย ไม่ได้ชอบเรา นี่ถ้าเธอสนใจเราซักหน่อย เราไม่ให้นายต้องลำบากแบบนี้หรอกไอ้น้องชาย’

คำพูดของอชิระยังบาดใจอยู่ไม่หาย เขากับพี่ชายก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออก แต่ทำมั้ย ทำไม ยายลูกหมีมือตุ๊กแกนี่ถึงไม่สนใจพี่ชายของเขานะ ให้ตาย!

นึกเซ็งอยู่ครู่ใหญ่ก็ได้ยินเสียงพลิกตัวของหญิงสาว เขาปัดความรำคาญใจเรื่องรัศมีออกไปแล้วหันมาใส่ใจกับลูกแมวน้อยขี้เมาที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้ม ความขุ่นข้องหมองใจก่อนหน้านี้หายไปเกือบหมด

อย่างน้อยวันนี้ยายลูกหมีก็เป็นเหมือนตัวนำโชคของเขาละ!

“อือ...ร้อน...” เสียงครางอ้อแอ้ดังขึ้นจากเรียวปากอิ่ม ร่างบางพลิกตัวไปมา มือปัดป่ายดึงทึ้งเครื่องแต่งกายของตัวเองด้วยท่าทีคล้ายรำคาญเหลือประมาณ

อติยะยิ้มกริ่ม นัยน์ตาพราวระยับด้วยความพึงพอใจ นั่งลงบนเตียงช้าๆ พร้อมดึงมือเล็กนุ่มมาแตะริมฝีปากหยักร้อนของตนอย่างแผ่วเบา อีกมือไล้ที่พวงแก้มนวลอย่างทะนุถนอม ก้มลงกระซิบเสียงนุ่มข้างใบหูของหญิงสาว

“งั้นเดี๋ยวผมเช็ดตัวให้นะครับ...ที่รัก”

ว่าแล้วก็เดินผิวปากหวือเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะกลับออกมาอีกทีพร้อมอุปกรณ์การเช็ดตัว รอยยิ้มของเสือร้ายปรากฏบนใบหน้าคมขณะบิดผ้าขนหนูเปียกน้ำให้หมาดเพื่อนำมาซับตามเนื้อตัวและใบหน้าของสาวสวยให้สะอาดและช่วยให้เธอรู้สึกสบายตัวขึ้นด้วย

สำหรับเขา ผู้หญิงคือดอกไม้นานาพรรณบนโลกใบนี้ ทั้งสวยงาม หอมหวาน และมีอยู่มากมายให้เด็ดดมไม่รู้เบื่อ หญิงสาวที่นอนทอดร่างอยู่บนเตียงของเขาในขณะนี้ก็เช่นกัน เธอเป็นเพียงดอกไม้แสนสวยอีกหนึ่งดอกที่ผ่านเข้ามาในเส้นทางเดินของชีวิต และคงจะเพียงแค่ผ่านไปเหมือนดอกไม้อื่นที่เขาดมดอมแล้วเบื่อหน่ายเท่านั้น

เสียงครางคล้ายเด็กงอแงดังขึ้นเป็นระยะในขณะที่เขาพยายามแกะกระดุมชุดแส็กที่ผ่าด้านหน้าตลอดแนวด้วยกระดุมที่เรียงเม็ดอยู่ทางไหล่ซ้าย เธอยังคงหลับหูหลับตาดึงทึ้งเครื่องแต่งกายของตัวเองอย่างรำคาญ เรียวขาขาวสวยตะกรุยไปบนที่นอนอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ชุดที่สั้นอยู่แล้วร่นขึ้นไปจนเห็นต้นขานวลเนียนน่าสัมผัส

ชายหนุ่มส่ายหน้า จุปาก พลางถอนใจยาวเคล้าเสียงหัวเราะงึมงำในลำคอ

“อย่าเพิ่งยั่วสิ ตัวคุณเหม็นเหมือนอาบเหล้ามาเลยรู้มั้ย”

ไม่มีเสียงตอบรับที่บอกให้รู้ว่าหญิงสาวเข้าใจสิ่งที่เขาพูด เธอยังคงดึงทึ้งเครื่องแต่งกายสลับกับการปัดป่ายมือใหญ่ที่พยายามจะวุ่นวายกับร่างกายของตัวเองอย่างรำคาญตามประสาคนเมาได้ที่

อติยะชักจะหมดความอดทน โดยปกติก็เป็นคนที่มีความอดทนต่ำอยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นผู้หญิงที่ตัวเองพึงพอใจนอนระทวยอยู่บนเตียงและพยายามดึงทึ้งเสื้อผ้าออกจากร่างกายต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ ช่างเป็นภาพที่ปลุกเร้าความต้องการในตัวเขาให้ตื่นเตลิดได้ติดหมัดนัก

ชายหนุ่มกลอกตามองเพดานพลางโยนผ้าขนหนูผืนเล็กทิ้งไปอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเหลือบมองใบหน้าแดงก่ำแสนเซ็กซี่ ไล่ลงมาที่ริมฝีปากสีเชอร์รี่อิ่มสวย เพียงเท่านี้เขาก็ถึงกับกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอแล้ว ยิ่งเลื่อนระดับสายตาให้ต่ำลงไปอีกนิดก็พบกับเนินไหล่มนเรื่อยไปจนถึงเนินอกอิ่มที่โผล่พ้นคอเสื้อซึ่งถูกปลดกระดุมออกไปแล้วหนึ่งเม็ด ถึงตอนนี้ใจเขาเต้นตึกตักจนเกินควบคุม

แค่จูบเดียวคงไม่เป็นไร...

ร่างสูงโน้มกายลงไปบนเตียงกว้าง จมูกโด่งและริมฝีปากร้อนจัดลากไล้แผ่วเบาไปบนใบหน้านวลใส เสียงครางเบาๆ จากเรียวปากอิ่มที่เล็ดลอดออกมากระตุ้นให้อารมณ์ของเขาเตลิดไกล กดริมฝีปากร้อนจัดลงบนเรียวปากอิ่มหวานล้ำที่เขาติดอกติดใจนักหนา

หญิงสาวยังคงหลับตาพริ้ม ปลดปล่อยอารมณ์ให้เพริดไปกับสัมผัสของเขาอย่างไม่รู้สึกตัว มีเพียงเสียงครางเบาๆ อย่างพึงพอใจที่บอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้หลับสนิทเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่การตอบสนองอย่างไร้เดียงสาและเต็มไปด้วยความกระรือรือร้นของหญิงสาว ทำให้เขาต้องถอนริมฝีปากออกมาอย่างแสนเสียดาย

ชายหนุ่มหอบหายใจกระชั้น นัยน์ตาคมขุ่นมัวไปด้วยไฟปรารถนาเร่าร้อน กระซิบปลุกเธอด้วยเสียงแหบพร่า

“ลูกแมวน้อยของผม ตื่นได้แล้ว คุณไม่ควรขี้เซาแบบนี้นะ ผมต้องการให้คุณตื่น จ้องมองผมด้วยสายตาเหมือนที่ผมมองคุณ ได้โปรดเถอะ...”

ยังคงมีเพียงเสียงครางงึมงำตอบรับคำอ้อนวอนของเขา อติยะแทบจะหมดความอดทนในวินาทีนั้น ทว่าเขาไม่ต้องการให้เรื่องราวดำเนินไปเช่นนี้ เขาอยากให้เธอตื่นขึ้นมารับรู้และมีความสุขร่วมกันทั้งสองฝ่าย

ดังนั้นแม้ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าเสือร้ายอย่างนายอติยะยอมผละจากสาวสวยที่นอนทอดร่างระทดระทวยอยู่ตรงหน้า เข้าไปดับความเร่าร้อนในร่างกายด้วยสายน้ำเย็นจัดจากฝักบัว!



อากาศภายในห้องพักเย็นจัดเนื่องจากเจ้าของห้องปรับแอร์ให้มีอุณหภูมิต่ำเกินความจำเป็นของร่างกาย แม้แต่ตัวเองยังหนาวจนต้องห่มผ้าชิดลำคอ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่มีความคิดที่จะเพิ่มอุณหภูมิภายในห้องให้สูงขึ้นเลยสักนิด

ชายหนุ่มพลิกตัวไปมา กระสับกระส่ายด้วยความไม่เข้าใจ ไม่เคยคิดฝันเลยว่าตัวเองจะมีความอดทนมากมายถึงเพียงนี้ ทั้งที่มีสาวสวยหุ่นดีแสนจะตรงสเปกนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน แต่เขากลับปล่อยให้เธอนอนหลับสบายในขณะที่ตัวเองต้องนอนตาแข็งค้าง

เขาเหล่มองหญิงสาวอย่างหมั่นไส้แกมคาดโทษ

ตื่นเมื่อไหร่เถอะ คุณต้องชดใช้ผมบานตะไทเลยนะลูกแมวน้อย!

อากาศเย็นขนาดนี้อย่าว่าแต่คนปกติจะนอนไม่ได้เลย แม้แต่คนที่น็อคไปเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังรู้สึกหนาวสะท้านจนต้องขยับกายเข้าหาความอบอุ่น

อติยะสะดุ้งเฮือกเมื่อเรียวแขนกลมกลึงไต่มาบนตัวเขาและกอดไว้แน่นภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แถมเจ้าหล่อนยังเบียดกายนุ่มนิ่มเข้ามาหาพร้อมเรียวขาเนียนนุ่มพาดขึ้นมาเกี่ยวเอวเขาอย่างสนิทสนม

เขากลายเป็นหมอนข้างของเธอไปแล้ว

ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างเซ็งจิต อยากจะกลั้นใจตายให้รู้แล้วรู้รอดเมื่อลมหายใจอุ่นซ่านของคนข้างกายเป่ารดอยู่กับซอกคอ แถมทรวงอกอวบอิ่มยังเบียดกระแซะอยู่กับลำแขนแข็งแรงอย่างใกล้ชิด สถานการณ์เช่นนี้ทรมานใจเขายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

“นี่คุณ...ใจคอจะยั่วผมให้ได้เลยใช่ไหม”

คนถามหลับตา กัดฟันกรอด

ตกลงที่เขาเปิดแอร์จนหนาวสั่นนี่เพื่อทรมานตัวเองหรืออย่างไร?

มินตรายังคงหลับปุ๋ย ไม่รู้เรื่องรู้ราว ตรงไหนอุ่น ตรงไหนนอนสบายเธอก็เบียดกายเข้าหาโดยไม่รู้เลยว่าได้สร้างความทุกข์ทรมานให้คนข้างๆ มากแค่ไหน

อติยะพยายามนอนนิ่ง นับหนึ่งถึงสิบในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลั้นใจปลดเรียวแขนของหญิงสาวออกจากลำตัว ทว่าเธอไม่ยอมปล่อย ซ้ำกลับยิ่งเบียดร่างเข้าหามากยิ่งขึ้น

ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ก่อนลืมตาขึ้นมาจ้องมองใบหน้าสะสวยที่หลับพริ้มอยู่กับซอกไหล่กว้างอย่างหมดความอดทน

พวงแก้มใสขึ้นสีชมพูระเรื่อ ขนตาหนาเป็นแพงอนงาม จมูกเล็กโด่งรั้นรับกับริมฝีปากอิ่มนุ่มเย้ายวนใจเหลือเกิน ฟางเส้นสุดท้ายขาดลงก็ตรงนี้ เรียวปากอิ่มหวานล้ำที่เขาดูดดื่มแล้วยิ่งติดอกติดใจคล้ายกับได้มามากเท่าไรก็ไม่มีวันพอ

ใบหน้าคมโน้มต่ำ ริมฝีปากร้อนจัดครอบครองเรียวปากอิ่มด้วยสัมผัสแผ่วเบาดุจปีกผีเสื้อในครั้งแรก ก่อนจะกดแนบลงไปอย่างลึกซึ้ง ขบเม้ม ดูดดึงเร้าอารมณ์ เรียกเสียงครางแผ่วๆ อย่างพึงพอใจจากคนครึ่งหลับครึ่งตื่นได้เป็นระยะ

เสียงครางแผ่วหวานของเธอกระพืออารมณ์ปรารถนาของเขาให้ลุกโชน ยากจะหยุดยั้ง นิ้วเรียวราวอิสตรีช่ำชองศึกรักมานักต่อนักประคองใบหน้างามให้แหงนเงยรับจูบเร่าร้อนของเขาอย่างถนัดถนี่ เรียวปากหยักลึกบดขยี้กลีบปากนุ่มด้วยอารมณ์ปรารถนาร้อนแรง อีกมือแกะกระดุมชุดแส็กแสนสั้นทีละเม็ดอย่างเชี่ยวชาญ

เขาส่งเสียงครางลึกในลำคออย่างพึงพอใจ หลังอ้อยอิ่งกับเรียวปากหวานล้ำเนิ่นนาน กระแสร้อนแรงในดวงตาคมลามเลียไปทั่วร่างอรชรภายใต้แสงโคมไฟอ่อนจางที่หัวเตียงด้วยความชื่นชมหลงใหล อารมณ์ใคร่ร้อนระอุปะทุทั่วทุกรูขุมขนจนร่างกายสั่นสะท้าน

ปลายนิ้วซุกซนสัมผัสผิวเนื้อละมุนมืออย่างเจนจัด ปลุกเร้ากระตุ้นอารมณ์ของเธอให้พรักพร้อมด้วยจมูกโด่งกับริมฝีปากที่พรมจูบไปทั่วใบหน้างาม ลากไล้ลงมาตามแนวคาง ซอกคอ และเนินอกอิ่มอย่างยั่วเย้าหลอกล่อ ลมหายใจหอบกระชั้นเป่าไอร้อนผ่าวรินรดผิวกายหอมกรุ่นทุกตารางนิ้วให้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

มินตราแม้ยังหลับด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ หากเมื่อถูกรุกรานทั้งจากริมฝีปากอุ่นชื้นและร่างกายกำยำร้อนผ่าวที่บดเบียดสนิทสนมจนแทบจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน อารมณ์ปรารถนาเร้นลึกในร่างกายจึงถูกปลุกเร้าให้ตื่นตัว

ร่างงามบิดส่ายทรมานด้วยความซาบซ่านหวานหวามที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เรียวปากอิ่มเผยอ ส่งเสียงครวญครางรัญจวนใจ ตอบสนองทุกสัมผัสวาบหวามที่เขาปรนเปรอให้อย่างกระตือรือร้น

ไฟปรารถนาในกายพลุ่งพล่านเกินระงับ อติยะรู้สึกทุกข์ทรมานเหมือนใจจะขาด หิวกระหายที่จะได้รับการปลดปล่อยพอๆ กับหญิงสาวที่ยังคงหลับตาพริ้ม ครวญครางเสียงหวาน หอบหายใจสั่นสะท้าน และบิดส่ายไร้มารยาภายใต้ร่างกายร้อนระอุของเขา

เมื่อความต้องการดำเนินมาจนถึงขีดสุดเขาก็ปิดกั้นเสียงครางหวานหูด้วยเรียวปากหยักลึก มอบจุมพิตดูดดื่มเร่าร้อนขณะเคลื่อนกายเข้าครอบครองร่างงามโดยสมบูรณ์

ในความรู้สึกสะลืมสะลือมินตราคิดว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในห้วงฝันแสนประหลาด สัมผัสอ่อนหวานยั่วเย้าบนผิวกายดูดดึงลมหายใจของเธอให้ขาดห้วง การรุกรานจาบจ้วงหนักหน่วงในบางช่วงบางตอนไม่ต่างอะไรกับเปลวไฟระอุที่นาบไปบนผิวนวลให้ร้อนรุ่ม ทุรนทุรายดั่งกับจะขาดใจตายเสียให้ได้

ทว่าท่ามกลางความทรมานซ่านทรวงนั้นกลับแผดเผาเธอด้วยความรู้สึกอิ่มเอมซาบซ่านในห้วงอารมณ์จนแทบมอดไหม้เป็นจุล

หญิงสาวต้องต่อสู้กับความรู้สึกหลากหลายในห้วงฝันครั้งแล้วครั้งเล่าจนอ่อนเปลี้ยเพลียแรงกว่าจะได้หลับใหลอย่างแท้จริง



แสงแดดอ่อนจางทอลอดรอยแยกของผ้าม่านเข้ามาภายในห้องพัก อติยะยังนอนก่ายหน้าผาก สีหน้าเคร่งเครียดกังวลใจ หากไม่ว่าจะเสียเวลาหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้นานสักเท่าไร คำตอบยังไม่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน

เขาเหลือบมองร่างอรชรที่ยังคงหลับใหลซุกอกแกร่งภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันด้วยความรู้สึกหวงแหนท่วมท้นใจ

ในวัยหนุ่มที่เต็มไปด้วยแรงใจ ไฟฝัน ความคึกคะนอง สนุกสนาน และเต็มที่กับชีวิต ไม่เคยมีครั้งใดที่คำว่า ‘เสียใจ’ จะแทรกผ่านกะโหลกหนาๆ ของเขาได้

ใช่ว่าเขาไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงที่รู้จักกันเพียงไม่นาน หากคราวนี้แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เขาจำต้องยอมรับความจริง

เขาไม่เคยมีอะไรกับสาวบริสุทธิ์!

นึกมาถึงตรงนี้เปลือกตาก็ปิดลงอย่างอ่อนล้า มือที่ก่ายหน้าผากเคลื่อนมาบีบนวดขมับทั้งสองด้าน ไล่อาการปวดตุบๆ ที่แล่นริ้วขึ้นมาอย่างกะทันหัน ความรู้สึกผิดติดค้างในหัวใจ

เขาคงจะไม่รู้สึกแย่ถึงเพียงนี้ หากเธอไม่ได้เมา แต่ลุกขึ้นมารับรู้ ร่วมมือ และมีความสุขไปด้วยกัน ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันตรงข้าม แม้ว่าหญิงสาวจะตอบสนองทุกสัมผัสเร่าร้อนที่อัดแน่นไปด้วยความหิวกระหายของเขาอย่างกระตือรือร้น จนยากจะเชื่อว่าเธอยังบริสุทธิ์ดุจหยาดน้ำค้างยามเช้า แต่เขาปฏิเสธไม่ได้เมื่อพบสิ่งกีดขวางที่แม้แต่ตัวเองยังงงเป็นไก่ตาแตก

แต่ขึ้นชื่อว่าตัณหาและความใคร่ ใช่ว่าจะควบคุมมันได้อย่างใจคิด นาทีนั้นอารมณ์ปรารถนาของเขาไปถึงขีดสุดแล้ว หากจะให้หยุดก็บอกได้เลยว่า ‘ฆ่า’ เขาให้ตายไปเลยดีกว่า!

แย่ที่สุดก็คือหลังจากทราบความจริงแล้ว แทนที่เขาจะสำนึกแต่กลับเฝ้าเรียกร้องตักตวงความสุขจากหญิงสาวครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างคนเห็นแก่ตัวเมื่อรู้ว่าได้เป็นเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ

ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขารู้สึกเช่นตอนนี้ได้ เขาต้องการเป็นเจ้าของเธอแต่เพียงผู้เดียว!



มินตราขยับกายเข้าหาความอบอุ่น แม้แสงแดดจะทักทายแล้วหากภายในห้องนอนเปิดแอร์เย็นฉ่ำเกินกว่ามนุษย์จะทานทนไหว ความปวดเมื่อยตามร่างกายทำให้หญิงสาวนิ่วหน้า ปรือตาสู้แสงแดดจ้าอย่างเกียจคร้าน

ห้องนอนสีขาวกว้างใหญ่ไม่คุ้นเคยทำให้ดวงตาคู่สวยฉายแววฉงน กวาดสายตาไปจนทั่วก็ไม่พบสิ่งใดที่เป็นของตัวเองนอกจากชุดแส็กสั้นที่เธอสวมใส่ตั้งแต่เมื่อวาน ทว่าตอนนี้มันกลับกองร่นอยู่บนพื้นห้องโดยไม่ได้รับการใส่ใจ ถัดไปอีกหน่อยเป็นเครื่องแต่งกายชิ้นน้อยที่ทำเอาหญิงสาวใจหายวาบ

เธอไม่เคยเปลื้องผ้านอนเสียหน่อย!

มินตราก้มลงสำรวจสภาพตัวเองด้วยใจที่เต้นระส่ำจนแทบกระดอนออกมานอกอก หัวใจเหมือนถูกควักออกมาสับจนแหลกละเอียดเมื่อรับรู้ว่าเธอเปลือยกายอยู่ใต้ผ้าห่มผืนนี้ และมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายอย่างชัดเจน

ประตูบานหนึ่งเปิดออกมาพร้อมร่างสูงเพรียว แต่กลับดูแข็งแกร่งและงดงามในเวลาเดียวกัน หญิงสาวนั่งตัวแข็งค้างกลางเตียง ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกตะลึง

รอยยิ้มเก๋ประดับเรียวปากหยักลึกชวนมอง เสียงทักทายเซ็กซี่พอๆ กับนัยน์ตาคมกรุ้มกริ่ม

“อรุณสวัสดิ์ครับลูกแมวน้อยของผม”

เธอกระถดร่างหนีโดยอัตโนมัติเมื่ออีกฝ่ายก้าวพรวดเข้ามาหา มือหนึ่งกระชับผ้าห่มแน่นเพื่อปกปิดร่างกาย อีกมือยกขึ้นดันอกแกร่งพราวหยดน้ำของเขาออกห่างสุดชีวิต ริมฝีปากสั่นระริก ตะโกนไล่ด้วยความตื่นตระหนก

“แก...ออกไปนะ ไปให้พ้น ไอ้คนบ้า ผู้ชายสารเลว คนเห็นแก่ตัว!”

เขารวบมือเล็กไว้พร้อมกระตุกหญิงสาวเข้ามาชิดอกด้วยเรี่ยวแรงที่มากกว่า กอดกระชับร่างบางที่ดิ้นรนหลบหนีอย่างเอาเป็นเอาตายไว้ในวงแขน บีบบังคับให้เธอไม่สามารถขยับไปไหนได้ กดจมูกรุกรานพวงแก้มใสระไปตามใบหูหอมกรุ่นพร้อมเอ่ยเย้าเสียงนุ่ม

“ไม่เอาน่าคุณ ตื่นมาก็หยาบคายกับผู้ชายคนแรกของตัวเองเลยเหรอ เมื่อคืนไม่เห็นพูดแบบนี้เลย”

“กรี๊ดๆๆ” เสียงกรีดร้องด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ดังขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายเอ่ยถึงเรื่องราวอัปยศอดสูที่เกิดขึ้นโดยที่เธอไม่ได้สติ

ชายหนุ่มนิ่วหน้า เบี่ยงหลบเสียงแปดหลอดของหญิงสาวสุดชีวิต มิฉะนั้นก็อาจหูดับได้ง่ายๆ

“อย่ามาพูดบ้าๆ กับฉันนะ ไอ้คนสารเลว แกข่มขืนฉันแล้วยังเอามาพูดถึงอย่างหน้าด้านๆ แบบนี้ได้ยังไงฮะ ไอ้คนชั่ว!”

หญิงสาวหอบหายใจเร็วแรงด้วยความเจ็บแค้น ตะโกนด่าอีกฝ่ายอย่างดุเดือด หากทำได้เธออยากเอามีดมาสับเขาให้แหลกยับคามือกันเลยทีเดียว เดี๋ยวให้หลุดไปได้ก่อนเถอะ ตายกันไปข้างแน่!

เขาไม่แปลกใจกับปฏิกิริยารุนแรงของหญิงสาว หากเธอแสดงออกผิดไปจากนี้สิ ถึงจะแปลก

เมื่อเธอโถมร่างเข้าใส่หมายจะให้เขาเจ็บตัว ชายหนุ่มก็ฉวยโอกาสพลิกร่างบางหงายหลังลงบนเตียงพร้อมตามไปกักขังอิสรภาพด้วยร่างกายสูงใหญ่ของตน ไม่ว่าเธอจะดิ้นรน ต่อต้าน ถลึงตาวาวจัดเข้าใส่ หรือแม้แต่แสงเข้มสะท้อนความรังเกียจที่ฉายออกมาอย่างชัดเจนนั่น เขาก็ไม่สนใจ

คิ้วเข้มย่นเข้าหากัน โคลงศีรษะ นัยน์ตากรุ้มกริ่มแพรวพราวจ้องลึกเข้าไปในดวงตาวาววับดุจแม่เสือหวงลูก

“ผมเป็นคนบ้า สารเลว เห็นแก่ตัว แถมยังชั่วสุดๆ อีกด้วย ยอมรับทุกข้อหานั่นแหละ แต่ขอแก้ต่างให้ตัวเองหน่อยได้ไหม ไอ้ที่เราทำกันเมื่อคืนมันไม่เรียกว่าข่มขืนหรอกนะ ถึงคุณจะเมาแต่ผมขอยืนยัน คุณให้ความร่วมมือกับผมเป็นอย่างดีเชียวละ”

มินตราฟังแล้วปรี๊ดเข้าเส้นเลือดทันที “ไม่จริง ไม่มีทาง ฉันไม่มีวันทำแบบนั้น ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ ปล่อย!”

เขากระตุกยิ้มยั่ว นัยน์ตาพราวระยับ “งั้นผมคงต้องพิสูจน์สินะ...ที่รัก”

สิ้นเสียงนุ่มนั้นริมฝีปากหยักร้อนกับจมูกโด่งแสนซุกซนก็เริ่มปฏิบัติการ ‘พิสูจน์’ ให้หญิงสาวเห็นกับตาและยอมรับว่าเขาพูดถูก

มินตราเบิกตาโพลงด้วยความตื่นตระหนก ดิ้นรนปัดป่ายอย่างไร้ผล เรียวปากนุ่มถูกครอบครองอย่างเร่าร้อนดุดันก่อนที่เธอจะกรีดเสียงใส่หน้าเขาได้เป็นผลสำเร็จ ร่างกายทุกสัดส่วนถูกตรึงไว้อย่างแน่นหนาใต้ร่างแกร่งทรงพลัง

ชายหนุ่มอาศัยความจัดเจนในประสบการณ์หลอกล่อหญิงสาวให้โอนอ่อนผ่อนตามด้วยจูบเว้าวอน กระชากกระชั้นสลับกันไปพร้อมร่างกายที่บดเบียดเสียดสีเชิญชวนให้คลุ้มคลั่ง

ไอร้อนผะผ่าวจากร่างของเขาราวกับจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้ ณ เดี๋ยวนั้น ผ้าห่มที่ยึดคลุมกายไว้ในทีแรกถูกเขากระชากออกไปตั้งแต่เมื่อไรไม่อาจรู้ แต่ตอนนี้ทั้งผ้าห่มและผ้าขนหนูที่เขาพันเอวไว้ก็หล่นลงไปกองข้างเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สติที่หลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดสั่งให้เธอหยุดเขา

“ปละ...ปล่อยฉัน”

หญิงสาวแทบร้องไห้ด้วยความอับอายกับน้ำเสียงขาดห้วง แตกพร่า ฟ้องอารมณ์ปรารถนาของตัวเอง

รู้อย่างนี้ สู้ไม่พูดอะไรเลยยังจะดีเสียกว่า!

อติยะเงยหน้าขึ้นจากซอกคอหอมกรุ่น นัยน์ตาคมหม่นมัวไปด้วยไฟปรารถนา ผงกศีรษะขึ้นไปจูบยั่วเย้าที่เรียวปากหวานล้ำก่อนจะถอนออกมาพร้อมเสียงกระซิบแผ่วพร่าเย้ายวนใจชิดริมหูของเธอ

“คุณไม่อยากให้ผมปล่อยหรอกที่รัก”

สิ้นเสียงนั้นริมฝีปากหยักลึกก็ขบเม้มเบาๆ ที่ติ่งหูระเรื่อยลงไปตามผิวนวลชวนสัมผัส ทุกตารางนิ้วบนร่างอรชรได้รับการสำรวจอีกครั้งอย่างถี่ถ้วน ไอร้อนผะผ่าวสลับกับสัมผัสหนักเบา ลากไล้ รินรดผิวบางไปทุกหนทุกแห่งที่จมูกและริมฝีปากของเขาคลอเคลียหยอกเย้าอย่างมีชั้นเชิง

หญิงสาวอ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟ เผลอจิกเล็บลงไปบนท่อนแขนกำยำ ริมฝีปากอิ่มขบเม้มแน่นเพื่อปิดกั้นเสียงครวญครางพึงพอใจที่เกิดจากสัมผัสของเขา แม้จะพร่ำบอกตัวเองให้เข้มแข็งกว่านี้ แต่เมื่อความปรารถนาเร้นลึกในร่างกายถูกปลุกให้ตื่นเสียแล้วก็ยากจะมีสติไตร่ตรองถึงเหตุผลและความผิดชอบชั่วดีได้

ชายหนุ่มเลื่อนตัวขึ้นมาจูบหยอกเย้าเรียวปากอิ่ม ก่อนจะลากไล้ทั่วใบหน้านวลด้วยความเสน่หา นัยน์ตาเข้มข้นร้อนระอุราวกับจะแผดเผาหญิงสาวให้ละลาย กระซิบถามเสียงสั่นพร่าชิดแก้มนวล

“คุณยังต้องการให้ผมหยุดในตอนนี้ไหมลูกแมวน้อย”

มินตราปรือตามองเขาอย่างฉงน อารมณ์กระเจิดกระเจิงเกินกว่าจะรับรู้ว่าเขากำลังพูดอะไร ร่างกายบิดส่ายด้วยความทรมานซ่านทรวง ยิ่งเมื่อเขาหยุดนิ่ง จ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาของเธออย่างรอคอย ทำให้อารมณ์พิศวาสขาดตอนไป ความหงุดหงิดงุ่นง่านพลันเข้ามาแทนที่ ดวงตาคู่สวยมองตอบเขาอย่างไม่เข้าใจ เผลอส่งกระแสอ้อนวอนไปให้โดยไม่รู้ตัว

อติยะหอบหายใจสั่นสะท้านด้วยความทรมานพอๆ กับหญิงสาว แต่เขาต้องการแสดงให้เธอเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมิใช่การบังคับขืนใจ แม้ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด เขาก็ต้องบังคับตัวเองให้สำเร็จ

มือข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาปัดไรผมเปียกชื้นออกจากดวงหน้านวลที่แดงระเรื่อด้วยไฟปรารถนา กระซิบถามซ้ำด้วยเสียงแหบพร่าแทบขาดใจ

“บอกผมว่าคุณต้องการอะไร ให้ผมอยู่หรือไป คุณต้องเลือก”

หลังจากพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดแข่งกับความต้องการในด้านมืดของร่างกาย หญิงสาวก็ส่ายหน้าไปมาอย่างขัดอกขัดใจ

โอ้วไม่...เขากำลังทรมานเธอให้ตายทั้งเป็น!

“บอกผม...ลูกแมวน้อย คุณ...ต้องเลือก”

เขากระซิบอีกครั้งด้วยน้ำเสียงขาดห้วง นัยน์ตาเข้มข้นไปด้วยความปรารถนาแสนเร่าร้อน ทว่าแฝงไว้ด้วยความจริงจัง เฉียบขาด

หากเธอไม่พูด เขาจะหยุดเพียงเท่านี้!

ชายหนุ่มทำท่าจะผละจากไปเมื่อเธอไม่ตอบ

หญิงสาวส่ายหน้าอีกครั้ง หอบหายใจสั่นสะท้านแทบเป็นสะอื้น ทุกข์ทรมานด้วยความต้องการดำมืดที่ไม่อาจต้านทานไหว หลับตาลงอย่างยอมแพ้ กระซิบบอกเขาด้วยเสียงแหบเบาแทบฟังไม่รู้เรื่อง

“อยู่!”



ริมฝีปากหยักลึกกดประทับลงบนไหล่เนียนอย่างเอาใจแกมยั่วเย้า สองแขนตระกองกอดร่างอรชรเอาไว้แนบอกอย่างหวงแหน กระซิบชิดใบหูหอมกรุ่นเสียงนุ่ม

“ใครๆ ก็เรียกผมว่า ‘เล็ก’ แล้วคุณล่ะลูกแมวน้อย คุณชื่ออะไรฮึ”

ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากหญิงสาว ดวงตาคู่สวยเหม่อมองชายผ้าม่านอย่างเลื่อนลอย ประกายตาว่างเปล่า ไร้ชีวิตชีวาดังเช่นเคย หวนนึกถึงฝันประหลาดของตัวเองอย่างปวดใจ

ที่แท้ไม่ใช่ความฝัน แต่เธอถูกผู้ชายที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อจาบจ้วงล่วงเกินในยามที่สติไม่สมประกอบ เขาอาศัยช่วงเวลาที่เธอเมามายฉกชิงความภาคภูมิใจที่เธอปกปักษ์รักษาอย่างทระนงในความเป็นวรเสนาไปอย่างหน้าไม่อาย

แต่นั่นยังไม่เลวร้ายเท่ากับว่าแม้ในยามที่สติของเธอสมบูรณ์พร้อม เธอก็ยังไม่อาจต้านทานกระแสเชี่ยวกรากของความปรารถนาเร้นลึกในร่างกายได้

ถูกแฟนสวมเขา ต้องแต่งงานล้างหนี้ แล้วยังมีอะไรกับผู้ชายแปลกหน้าอีก ชีวิตของเธอทำไมมันช่างบัดซบได้ขนาดนี้!

หญิงสาวหลับตาลง กล้ำกลืนฝืนทนกับความรู้สึกสะอิดสะเอียนในตัวเองอย่างร้ายกาจ

ชายหนุ่มมุ่นคิ้วเมื่อหญิงสาวในอ้อมกอดนิ่งเงียบ พลิกร่างบางที่หันหลังให้เขากลับมาเผชิญหน้ากันตรงๆ เธอหลับตาแน่นคล้ายไม่ต้องการมองหน้ากันเสียอย่างนั้น ความหงุดหงิดส่งกระแสเกรี้ยวกราดในดวงตาคม เอ่ยถามเสียงกระด้าง

“ทำไม ทนมองหน้าผู้ชายคนแรกของตัวเองไม่ได้หรือไง”

ดวงตาคู่สวยลืมโพลง วาววับด้วยไฟโทสะจากคำพูดของเขา ผลักอกแกร่งออกห่างสุดกำลังที่มีแล้วผุดลุกขึ้นนั่งกลางเตียงพร้อมกำผ้าห่มให้กระชับอกแน่น กวาดสายตามองหาเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วพร้อมกระโจนลงจากเตียงทั้งที่มีผ้าห่มคลุมกาย หยิบเสื้อผ้าทุกชิ้นของตัวเองขึ้นมากำไว้

เขาก้มลงเก็บผ้าขนหนูที่กองอยู่ข้างเตียงมาพันกายลวกๆ สีหน้าบึ้งตึง ตาคมหรี่มองหญิงสาวที่พยายามสวมใส่เสื้อผ้าอย่างทุลักทุเลเพราะต้องกระชับผ้าห่มที่คลุมร่างไว้ด้วย

มินตราไม่สนใจว่าเขาจะมองเธออย่างไร ตอนนี้ไม่มีอะไรจะเสียและไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว เธอไม่คิดจะเดินเข้าไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำของเขา ไม่คิดอยากใช้สิ่งใดร่วมกันแม้กระทั่งลมหายใจ สิ่งเดียวที่ปรารถนาคือออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด และลืมให้หมดว่าเธอทำเรื่องน่าอัปยศไว้เพียงใด

“ฉันต้องกลับบ้าน ป่านนี้ที่บ้านคงเป็นห่วงแย่”

หญิงสาวกัดฟัน ข่มใจ บอกอีกฝ่ายเสียงเรียบเมื่อโดนกระชากเรียวแขนเข้าไปเผชิญหน้ากับเจ้าของห้อง

อติยะถอนใจยาวลึก พยายามข่มความหงุดหงิดงุ่นง่านในใจเอาไว้สุดกำลัง ทั้งที่ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเหตุใดเธอต้องแสดงกิริยาหมางเมินต่อเขาถึงเพียงนี้

เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนเขายังไม่ได้พิสูจน์ให้เธอเห็นอย่างชัดเจนหรอกหรือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือความ ‘เต็มใจ’ ของทั้งสองฝ่าย

“ทำไมต้องรีบกลับ โทร. ไปไม่ได้เหรอ บอกคนที่บ้านสิว่าคุณสบายดี แล้วอยู่กับผมที่นี่” เขายื่นข้อเสนอด้วยท่าทีใจเย็น

หญิงสาวหลับตา ข่มกลั้นโทสะเอาไว้ ไม่อยากกวนโมโหเขาด้วยกลัวว่าจะไม่ได้ออกไปจากที่นี่ดีๆ

“ฉันอยู่กับคุณไม่ได้ ฉันมีภาระต้องรับผิดชอบ”

อติยะเลิกคิ้ว นัยน์ตาคมฉายแววเข้าใจ รอยยิ้มหยันกระตุกบนเรียวปากได้รูป หากในหัวใจปวดแปลบเล็กๆ กับความคิดที่ว่าผู้หญิงคนไหนก็เหมือนกันหมด

“คุณต้องการเท่าไหร่ล่ะ บอกผมสิ ผมยินดีจ่าย”

มินตราอ้าปากค้าง มองหน้าเขาอย่างตกตะลึงในนาทีแรก โทสะที่ระอุอุ่นอยู่ในอกปะทุขึ้นมาเป็นเสียงหัวเราะแปลกแปร่งกับรอยยิ้มหยามหยันที่จงใจใช้มันซ้ำเติมตัวเองโดยเฉพาะ

มินตรา วรเสนา มีค่าเพียงของเล่นชิ้นนึงของผู้ชายไร้สกุล!

“เก็บเงินของคุณเอาไว้เถอะ เพราะถ้าจะซื้อฉัน คุณคงต้องจ่ายหนัก ฉันกลัวคุณจะกระเป๋าฉีกซะเปล่าๆ”

หญิงสาวแค่นเสียงตอบอย่างดูหมิ่น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าดูหมิ่นเขาหรือตัวเองกันแน่

ชายหนุ่มแค่นหัวเราะบ้าง อารมณ์ดีๆ ที่พยายามจะรักษามันเอาไว้พลันปลิวว่อนไปกับน้ำเสียงหยามหยันของหญิงสาว กระชากร่างบางเข้ามาปะทะอกอย่างไม่ปรานี โอบกอดเธอไว้อย่างถือสิทธิ์ เอาแต่ใจ ไร้ความอ่อนโยนโดยสิ้นเชิง น้ำเสียงยั่วเย้าแฝงแววดูถูกกระซิบชิดพวงแก้มอิ่ม

“ลองบอกมาก่อนสิว่าคุณต้องการเท่าไหร่ ผมอาจจะมีให้มากกว่าที่คุณจะได้จากคนอื่นอีกหลายเท่าก็ได้นะ”

มินตราหัวเราะเยาะตัวเอง ก่อนจะตอบเขาอย่างท้าทาย “ร้อยล้าน คุณมีเงินร้อยล้านให้ฉันไหมล่ะ ถ้ามี...ชีวิตนี้ฉันจะยกให้คุณเป็นเจ้าของ!”

อติยะเลิกคิ้ว อารมณ์ขุ่นมัวอย่างรุนแรง

ร้อยล้านแลกกับผู้หญิงหิวเงินน่ารังเกียจที่มีดีแค่ความสวย มากไปหน่อยมั้ง!

เขาคิดอย่างดูถูกและปากก็ไวเท่าความคิด

“มันก็ไม่แน่นะ บางทีผมอาจไม่ต้องเสียอะไรเลยซักอย่าง คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าลีลาของผมเร่าร้อนถึงอกถึงใจแค่ไหน ผมว่าบางทีคุณอาจจะติดใจจนไม่อยากได้อะไรตอบแทนเลยก็ได้ พิสูจน์อีกซักครั้งไหมล่ะ”

มือเล็กกำแน่น คำพูดเสียดแทงหัวใจของเขาได้ผลดีเกินคาด ใบหน้าสะสวยเชิดรั้น กัดฟันตอบโต้อย่างดุเดือดไม่แพ้กัน

“ร้อยล้านอาจมากไปสำหรับคุณ แต่รู้เอาไว้ซะด้วยว่ามีคนกล้าจ่ายให้ฉัน เงินสดร้อยล้านมากองตรงหน้า แต่ถ้ามีน้อยกว่านั้นก็ปล่อยมือ แล้วอย่าสะเออะมายุ่งกับฉันอีก เว้นแต่ว่าคุณจะล่ามโซ่ฉันไว้ที่นี่ เพราะนั่นเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดฉันได้!”

ประกายตากร้าวแข็งเจิดจ้าไปด้วยสัตย์มั่นในทุกถ้อยคำ ทำให้เขายอมลดมือลงจากเรียวแขนกลมกลึง

ความคิดที่ว่าจะมีชายอื่นหอบเงินร้อยล้านมากองแทบเท้าเธอแล้วกระทำกับหญิงสาวเช่นที่เขาตีตราเป็นเจ้าของไว้ทุกตารางนิ้วบนเรือนร่างงามทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิดงุ่นง่านเหลือกำลัง แต่เขาไม่บ้ามากพอจะทุ่มเงินร้อยล้านเพื่อของเล่นเพียงชิ้นเดียวแน่

เอาเถอะ วันนี้ปล่อยเธอไปก่อน แต่อย่าให้เจออีกทีก็แล้วกัน ถึงตอนนั้นเขาไม่ปล่อยเธอไปอีกแน่!









 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2557
1 comments
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2557 0:43:59 น.
Counter : 1032 Pageviews.

 

เอาละสิ เจอกันวันแงงานเลยรึเปล่า

 

โดย: sakeena IP: 110.169.236.136 10 พฤศจิกายน 2557 9:50:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ระตา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




รู้สึกอยู่เสมอว่าการได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้คือความมหัศจรรย์...และการอ่านออกเขียนได้คือรางวัลของชีวิต...
Friends' blogs
[Add ระตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.