อยู่ใต้ฟ้าจะกลัวอะไรกับฝน
 
เมษายน 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
8 เมษายน 2550
 
 
ลังกาสุกะ


มัสยิดกลางปัตตานี


ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านดาโต๊ะ ตำบลแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 19 กม. เส้นทางเดียวกับ ทางไปหาดตะโละกาโปร์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในประวัติศาสตร์ด้านศาสนา ซึ่งกรมศิลปากรได้ ทำการสำรวจและขึ้นทะเบียนโบราณสถานไว้แล้ว //www.thai-tour.com
หากใครได้ไปเจอมัสยิดกลางของจริงจะต้องตลึงกับความงาม และความยิ่งใหญ่อลังการณ์ของมัสยิดแห่งนี้ ดิฉันได้มีโอกาศไปเห็นครั้งหนึ่งของจริงสวยกว่ารูปมาก เป็นสถาปัตยกรรมที่เอารูปแบบมาจากทัชมาฮาลของประเทศอินเดีย ถ้าใครมีโอกาศได้ไปเยือนจังหวัดปัตตานี อยากให้ไปชมสถานที่แห่งนี้ เพราะเป็นที่ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ได้รับการขนานนามว่า เป็นมัสยิดที่สวยที่สุดในประเทศไทย




วัดช้างให้


วัดช้างให้ ตั้งอยู่ที่ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธ์ิ เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ตามตำนานกล่าวว่า พระยาแก้มดำเจ้าเมืองไทรบุรี ต้องการหาชัยภูมิสำหรับสร้างเมืองใหม่ให้กับน้องสาว จึงได้เสี่ยงอธิฐาน ปล่อยช้างให้ออกเดินทางไปในป่า โดยมีเจ้าเมืองและไพร่พลเดินติดตามไป จนมาถึงวันหนึ่ง ช้างได้หยุดอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง แล้วร้องขึ้นสามครั้ง พระยาแก้มดำจึงได้ถือเป็นนิมิตที่ดี จะใช้บริเวณนั้นสร้างเมือง แต่น้องสาวไม่ชอบ พระยาแก้มคำจึงให้สร้างวัด ณ บริเวณดังกล่าวแทน แล้วให้ชื่อว่า วัดช้างให้ แล้วนิมนต์พระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ชาวบ้านเรียกว่า ท่านลังกา หรือ สมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด มาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ท่านได้เดินธุดงค์ไปมา ระหว่างเมืองไทรบุรีกับวัดช้างให้ และได้สั่งลูกศิษย์ไว้ว่า ถ้าท่านมรณะภาพ ขอให้นำศพไปทำการฌาปนกิจ ณ วัดช้างให้ ซึ่งเมื่อท่านมรณะภาพที่เมืองไทรบุรี ลูกศิษย์ก็ได้นำศพท่านมา ทำการฌาปนกิจที่วัดช้างให้ อัฐิของท่านส่วนหนึ่งฝังไว้ที่วัดช้างให้ อีกส่วนหนึ่งนำกลับไปเมืองไทรบุรี ต่อมาได้สร้างสถูปบรรจุอัฐิของท่านไว้ที่วัดช้างให้
เมื่อปี พ.ศ. 2480 พระครูมนูญเจ้าอาวาสวัดพลานุภาพ เจ้าคณะตำบลทุ่งพลา ให้พระช่วงมาเป็นเจ้าอาวาสวัดช้างให้ ท่านได้ชักชวนชาวบ้านมาแผ้วถางป่า สร้างกุฎิ ศาลาการเปรียญ พร้อมเสนาสนะอื่น ๆ จึงได้ชื่อว่า วัดราษฎร์บูรณะ เจ้าอาวาสองค์ต่อ ๆ มาก็ได้บูรณะเพิ่มเติมวัดช้างให้ มาตามลำดับจนถึงปัจจุบัน วัดช้างให้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2500 และผูกพันธสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2501 //www.dhammathai.org



น้ำตกทรายขาว


น้ำตกทรายขาว เดิมชาวบ้านเรียกว่า น้ำตกตะโกน มีต้นน้ำเกิดจากยอดเขานางจันทร์ในทิวเขาทรายขาว เทือกเขาสันกาลาคีรี ถูกค้นพบโดยพระครูศรีรัตนากร (ท่านสีแก้ว) เจ้าอาวาสวัดทรายขาว เมื่อปี 2475 อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาวมีพื้นที่ครอบคลุมป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ ในท้องที่อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี อำเภอเมืองยะลา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา และป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาสันกาลาคีรี ในท้องที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ประกอบด้วยจุดเด่นตามธรรมชาติและน้ำตกที่สวยงาม สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิดที่ควรแก่การศึกษาหาความรู้เป็นอย่างยิ่ง ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 68,750 ไร่ หรือ 110 ตารางกิโลเมตร

เดิมกรมป่าไม้ได้จัดตั้งวนอุทยานน้ำตกทรายขาวเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2497 และวนอุทยานโผงโผง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2527 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของสำนักงานป่าไม้เขตปัตตานี เนื่องจากวนอุทยานทั้ง 2 แห่ง มีบริเวณอาณาเขตติดต่อกัน กรมป่าไม้จึงได้มีคำสั่งที่ 1759/2528 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528 ให้ นายตระกูล คุณาพัทธิ์ นักวิชาการป่าไม้ 7 หัวหน้าฝ่ายจัดการวนอุทยาน ไปสำรวจหาข้อมูลวนอุทยานทั้ง 2 แห่ง และบริเวณใกล้เคียงเพื่อรวมพื้นที่วนอุทยานทั้ง 2 แห่ง จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ และต่อมา นายปรีชา บุญมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปัตตานี และ นายเกรียงศักดิ์ ศักดิ์คเชนทร์ สมาชิกสภาจังหวัดปัตตานี ได้มีหนังสือลงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2530 ถึง พลเอกหาญ ลีลานนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนให้รวบรวมวนอุทยานทั้ง 2 แห่ง และขอให้สำรวจบริเวณน้ำตกอรัญวาริน ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันรวมจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติด้วย //www.dnp.go.th



หาดแฆแฆ


ที่ตั้ง หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี
จุดเด่น ชายหาดซึ่งมีความสวยงามและน่าเที่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของปัตตานี ชายหาดโค้งเว้ามีความยาวเป็นระยะทางไกล ทรายมีสีทองละเอียดตัดกับน้ำทะเลสีครามในวันฟ้าใส นอกจากนั้นยังมีโขดหินขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตาจำนวนมากที่เกิดขึ้นเอง จึงมีลักษณะคล้ายสวนหินธรรมชาติ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวท้องถิ่น และต่างถิ่นแวะเวียนมาพักผ่อนเล่นน้ำกันอยู่เสมอ บริเวณชายหาดได้จัดทำเป็นซุ้มศาลาพักร้อน คำว่า “แฆแฆ” เป็นภาษามลายู แปลว่า “อึกทึกครึกโครม
”www.pattani.go.th


Create Date : 08 เมษายน 2550
Last Update : 8 เมษายน 2550 11:47:40 น. 4 comments
Counter : 3531 Pageviews.

 
จังหวัดปัตตานียังมีอะไรที่สวยงามน่าค้นหาอีกเยอะ อย่างหาดแฆแฆนี่ ช้างเผือกในป่าจริงๆกว่าจะเข้าไปได้อยู่ห่างจากถนนมากแต่พอไปถึงก็คุ้มค่าเหนื่อยจริงๆอยากให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ จ. ปัตตานีบ้างค่ะ


โดย: เจ้าตัว (fun with fon ) วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:11:52:38 น.  

 
อยากไปน้ำตกกับหาดจังเลยค่ะ ดูแล้วสวยสบายตาดีจังโดยเฉพาะที่หาดอ่ะ


โดย: umi_chan (umi_chan_2 ) วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:15:59:55 น.  

 
เสียดายความสวยงานเนอะ


โดย: Darksingha วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:12:24:40 น.  

 
โอ้ โอ ปักษ์ใต้บ้านเรา แม่น้ำภูเขา ทะเลกว้างไกล อย่าไปไหน กลับใต้บ้านเรา

กิ๊ฟ เข้ามาคิดถึงบ้านค่ะ ไปมาแล้ว ทุกที่ในภาพเลย

คิดถึงมากๆๆ



โดย: grippini วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:3:00:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

fun with fon
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Google
 
[Add fun with fon's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com