หลังจากเดินเที่ยวกันเสร็จแล้ว ก็กลับไปหลับไปนอน เพราะว่าต้องตื่นเช้ามาปฐมนิเทศอีก
---------------------------------------------------
เช้ามา ...... ตื่นเองม่ะมีใครปลุก (ปรกติอยู่เมื่องไทยตื่นสายตลอดตู)
แล้วเราก็เตรียมตัวลงไปข้างล่างไป ปฐมนิเทศ แยกย้ายก็เพื่อนที่เดินทางมาด้วยกัน
แล้วเราก็ได้เจอเพื่อน ๆ ที่จะไปทำงานที่เดียวกัน ซะที
เราเจอเพื่อนที่มาจากบริษัทเดียวกัน แชมป์ (เคยเจอกันที่กทม) อร่อย และติ๊ก (บริษัทเดียวกันจากเชียงใหม่)
นุ้ย กับ โร (ที่เจอกันบนเครื่องจากไทยมาฮ่องกง) และก็ แบงค์ สิริรวมได้ 7 คน
อีกหนึ่งหน่อ ไปรออยู่แล้วที่ทำงานแล้ว
ในงานก็ไม่มีอะไรมาก เค้าก็พูด ๆ ๆ จุดประสงค์ของโครงการ
แล้วก็บอกวิธีทางไปที่ทำงาน แนะนำวิธีอยู่รอดใน เมกา (หรอ!?!?)
บลา บลา บลา ไปเรื่อย แล้วเค้าก็จะให้เราทำ Social Number ที่นี้
ก็จะมีเจ้าหน้าที่จาก SSN มาทำให้ถึงที่เลยค่ะ
แล้วเราก็วิ่งกัน วุ่นวายไปหมด ต้องไป copy passport มาให้เค้า
ที่นี้ไม่มีคน copy ให้นะ ทำเองหมด วิ่งไป วิ่งมาอยู่หลายรอบกว่าจะเสร็จ
--------------------------------------------------
หลังจากทำ SSN เสร็จก็ต้องรอ อีก 2 อาทิตย์เค้าจะส่งมาให้ที่ทำงานเอง
เราก็คุยกับเพื่อนว่า เราจะเดินทางไปที่ทำงานกันยังไงดี
นุ้ย โร และ แบงค์ มีตั๋วไปลงที่ Bozeman กันแล้ว
เหลือแต่เรา กะเพื่อนที่มาจากบริษัทเดียวกัน
เราเลยตกลงจะไปที่ ISIC travel เพื่อซื้อตั๋วไปลง Bozeman กัน
------------------------------------------------
แล้วเรากับเพื่อนก็เตรียมตัว ออกเดินทางกันเอง ทริปนี้ไปกัน 5 คน
มี เรา แชมป์ อร่อย ติ๊ก แล้วก็ ไกด์(คนนี้ไปกันคนละที่แต่อยากตามไปเที่ยวด้วย)
ตกลงเราจะไป subway กันแล้วเราก็เดินลงไปที่ subway
ซื้อตั๋วแบบ 1 day มาซะเพราะเรามีแผนไปเที่ยวต่อ (เราใช้ตั๋วคุ้มจริง ๆ)
แล้วเราก็เริ่มกางแผนที่ หาทางไปเอง .....
ลงสถานีนี้ ต่ออีกสถานี ไปจนถึงที่ตั้ง
แต่ .... พอไปถึงตั๋วไป bozeman มันเหลือแค่ที่เดียว แถมราคามหาโหด 800++
แม่เจ้า ใครมันจะไปซื้อฟร่ะ เพื่อนเราเลยลงความเห็นว่า เราจะนั่งรถ grayhound ไปกัน
คราวนี้ก็นั่ง subway ย้อนกลับไปทางเดิมอีก เผื่อไปซื้อตั๋ว Grayhound
ไอ้รถบ้านี้หน่ะ ตั๋วยาวมาก เปลี่ยนรถ 4 รอบได้
ในตั๋วระบุไว้ เดินทาง 2 วัน 2 คืนก็ถึง ราคาอยู่แค่ 168 เหรียญเอง ออกเดินทางพรุ้งนี้ 9 โมงเช้า
ได้ตั๋วก็เย็นมากแล้ววววว 6 โมงเย็น แต่ยังสว่างจ้าอยู่เลยยย
แต่เราก็มีความพยายาม ไหน ๆ ไอ้ตั๋ว subway มันก็ใช้ได้ถึงตี 2 นิน่า ไปเที่ยวต่อดีกว่า
เพื่อน ๆ คนอื่นก็ขอกลับไปโรงแรมกัน เหนือยมาทั้งวัน
เหลือเรากะไกด์ เราอยากเที่ยวนิวยอกก่อน เพราะเราไม่มีโอกาสกลับไปอีกแล้ว
เพราะขากลับเราไปขึ้นเครื่อง ที่ LAX เลยขอเที่ยวก่อน เอาให้คุ้ม
ไกด์เป็นคนดีมากมาย ยอมมาด้วยเพราะไม่อยากให้มาคนเดียว
ขอบใจหลายเพื่อน
เราไป world trade center (แอบผิดหวัง เพราะมันไม่มีไรแล้ว)
แล้วก็นั่ง subway ไปลง south ferry แต่เรื่อที่ไปเกาะ หมดแล้วได้แต่นั่งเรื่อข้ามไปอีกฝั่ง
แล้วก็วิ่งไปนั่งเรือกลับมา เรื่อนี้ขึ้นฟรีด้วย 555+ สบายกระเป๋า
ขากลับก็ลงเลยไปอีก 1 สถานี ไปลง time square
แวะเดินเที่ยวเล่น ขาเริ่มไม่ไหว หนาววววจนปวดขา 555++
แล้วก็เดิมกลับไปที่โรงแรมกัน
ปรากฏเพื่อนที่อยู่ห้องเดียวกันเค้าออกเดินทางไป arizona แล้ว
ทิ้ง โน๊ตกับเมล์ไว้ให้เรา
คืนนั้น ..... เราก็หลับเป็นตายกับเพื่อนอีกคน ที่ไป work ที่อื่น
มารู้ตอนหลังว่า .... เราเคยเรียนประถามโรงเรียนเดียวกัน (มิน่าหน้าคุ้น ๆ เนอะ โลกแคบจริง ๆ)
ประมาณเที่ยงคืนกว่า ๆ ....... อยู่ ๆ ก็มีเสียงไซเรน ดังมาก ๆ ๆ
ไอ้เราก็ตกใจตื่นขึ้นมากันหมดเลย 2 คน มองหน้ากัน งง เกิดไรขึ้นหว่ะเนี้ย
แล้วก็มีประกาศมาตามสายว่า มีไฟไหม้โรงแรมอยู่ชั้นไหนก็ไม่รู้ (ฟังม่ะทันมัน)
ขอให้ทุกคนหนีออกมา ..... ห้ามใช้ลิฟท์ (อ้าวเฮ้ย ... ตูอยู่ชั้น 73 นะโว้ย )
ไอ้เรากับเพื่อนก็พยายามโทรหาเพื่อนห้องอื่น ๆ กันวุ่ยวายไปหมด
แล้วก็วิ่งลงบันไดกันไป จนถึงชั้น 70 เพื่อน ๆ คนอื่นก็ออกมากัน วุ่นวายมาก
แล้วเค้าก็ประกาศมาว่า ตอนนี้สถานการ์ณสงบลงแล้วววว
ไม่มีปัญหาไรแล้ว .... สบายใจได้ (กำ กำ กำ แล้วให้ตูวิ่งลงมาเนี้ยหน่ะ ตกใจหมด )
แล้วเราทุกคนก็ลงไปที่ lobby เพื่อจะถามว่าเกิดไรขึ้น (ตามประสาคนสอดรู้) 555++
เค้าก็บอกดูเหมือนมีคนสูบบุหรี่แล้วไอ้เครื่องจับควันมันก็ดังขึ้น
ตกใจกันใหญ่เลย ดับเพลิงมากันเต็ม .....
แล้วเราก็กลับไปหลับไปนอนกันต่อ เก็บแรงไว้เผชิญ วิบากกรรมพรุ้งนี้ต่อ ......
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2553 18:18:31 น. |
|
0 comments
|
Counter : 486 Pageviews. |
|