จินตนาการจากความว่างเปล่า
Imagination from the emptiness
Group Blog
 
 
เมษายน 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
10 เมษายน 2548
 
All Blogs
 
The Blend

โ ยคา ว ชายเต ภูริ
อโยคา ภูริสงฺขโย
เอตํ เทฺวธาปถํ ญตฺวา
ภวาย วิภวาย จ
ตถตฺตานํ นิเวเสยฺย
ยถา ภูริ ปวฑฺฒติ . . . ฯ ๒๘๒ ฯ

Indeed from concentration springs wisdom,
Without concentration wisdom wanes.
Knowing this twofold way of loss and gain,
Let him so conduct himself
That wisdom may grow well.


ปัญญาเกิดมีได้ เพราะตั้งใจพินิจ
เสื่อมไป เพราะไม่ได้ตั้งใจพินิจ
เมื่อรู้ทางเจริญและทางเสื่อมของปัญญาแล้ว
ควรจะทำตนโดยวิถีทางที่ปัญญาจะเจริญ





อิทํ ปุเร จิตฺตมจาริ จาริกํ
เยนิจฺฉกํ ยตฺถกามํ ยถาสุขํ
ตทชฺชหํ นิคฺคหิสฺสามิ โยนิโส
หตฺถึ ปภินฺนํ วิย องฺกุสคฺคโห . . . ฯ ๓๒๖ ฯ

Formerly this mind went wandering
Where it liked, as it wished, as it listed.
I will now control it with attentiveness
As the driver with his hook a wild elephant.


เมื่อก่อนใจข้าได้ท่องเที่ยวไปในอารมณ์
ตามปราถนา ตามความใคร่ ตามสบาย
แต่บัดนี้ ข้าจักบังคับมันด้วยโยนิโสมนสิการ
เหมือนควาญช้างถือขอ บังคับช้างที่ตกมัน





สวนฺติ สพฺพธี โสตา
ลตา อุพฺภิชฺช ติฏฺฐติ
ตญฺจ ทิสฺวา ลตํ ชาตํ
มูลํ ปญฺญาย ฉินฺทถ . . . ฯ ๓๔๐ ฯ

Everywhere flow the craving-streams,
Everywhere the creepers sprout and stand.
Seeing the creepers that have sprung high
Do you cut their roots with your wisdom-knife.


กระแสน้ำคือตัณหา ไหลไปทุกหนทุกแห่ง
เถาวัลย์คือกิเลส ก็ขึ้นรกไปทั่ว
เมื่อเห็น เถาวัลย์นั้นงอกงามแล้ว
พวกเธอจงตัดรากมันด้วยมีดคือปัญญา


-- The Dhamapatha's word
(แปลโดย คุณ เสฐียรพงษ์ วรรณปก)


Create Date : 10 เมษายน 2548
Last Update : 10 เมษายน 2548 1:26:22 น. 4 comments
Counter : 679 Pageviews.

 

And look-a thousand Blossoms with the Day
Woke-and a thousand scatter'd into Clay:
And this first Summer Month that brings the Rose
Shall take Jamshy'd and Kaikobad away.


เห็นไหม,หมื่นดอกไม้ บานไสวรับทิวา
แต่แล้วก็โรยรา ร่วงสลายกลายเป็นดิน
แล้วคิมหันต์...
ก็เวียนผันพากุหลาบกำซาบกลิ่น

มาเบ่งบานหวานวาบอาบชีวิน
เพื่อหวนพาทุกสิ่งสิ้นสูญมลาย
กษัตริย์ไกโกบาดกล้า ผยองมาแล้วบัลหาย
จักรพรรดิจัมชิดกลาย เป็นเถ้าแทบพสุธา



***Note: ไกโกบาด = กษัตริย์นักรบในตำนานเปอร์เชียโบราณ




The worldly Hope men set their Hearts upon
Turns Ashes-or it prospers, and anon,
Like Snows upon the Desert's dusty face
Lighting a little Hour or two-is gone.



ฝันโลกย์เล่ห์โลกลวงสลายฝัน
หรืออาจบันดาลดลดังใจหมาย
แต่ก็เป็นเช่นหิมะบนรอยทราย
แพรวพรายแล้วลับไปไม่เหลือรอย



Come,fill the Cup, and in the Fire of Spring
The Winter Garment of Repentance fling:
The Bird of Time has but a little Way
To fly-and Lo! The bird is on the Wing.



มาสิ,รินเมรัยให้ปริ่มถ้วย
ท่ามกลางเพลิงอร่ามสวยแห่งคิมหันต์
เถิดสลัดพัสตราภรณ์เหมันต์
ที่สวมแล้วอัดอั้น,เศร้า,เสียดาย

วิหคแห่งเวลา
ถลาวูบก็วับหาย
ดูสิ! มันขยับกาย
จะว่ายฟ้าไปลิบแล้ว


-- รุไบยาต


โดย: ไร้นาม วันที่: 10 เมษายน 2548 เวลา:1:37:57 น.  

 

I am forever walking upon these shores,
Betwixt the sand and foam
The high tide will erase my foot-prints,
And the wind will blow away the foam.
But the sea and the shore will remain
Forever.



ฉันท่องไปบนหาดนี้อยู่เนืองนิจ
ระหว่างทรายกับฟองคลื่น
คลื่นจะซัดสาดลบเท้า
ลมจะพัดฟองแตกกระจาย
แต่ทะเลและฝั่งจะคงอยู่
ตลอดไป



It was but yesterdat I thought myself a fragment
Quivering without rhythm in the sphere of lift.
Now I Know that I am the sphere,
And all life in rhythmic fragments moves within me.



วานนี้เอง ฉันรู้สึกตนเองเป็นชิ้นสั่นสะเทือน
ไร้จังหวะในห้วงชีวิต
บัดนี้ฉันรู้แล้วว่า ฉันคือห้วงชีวิต
และสรรพสิ่งปรากฏเป็นชิ้นๆเคลื่อนไหวภายใน



They say to me in thir awakening
You and the world you live in are but a grain of sand
upon the infinte shore of an infinite sea.
And in my dream I say to them, I am the infinite sea,
And all the worlds are but grains of sand
Upon my shore.



เธอและโลกของเธอเป็นเพียงเม็ดทราย
ที่ชายหาดอนันต์ของอนันตสมุทร
และฉันตอบในความฝันว่า
ฉันเองเป็นอนันตสมุทร
และโลกทั้งหลายเป็นเพียงเม็ดทราย
ที่ชายหาดอันอนันต์ของฉัน



When God threw me, a pebble,
into this wondrous lake
I disturbed its surface with countkess circles.
But when I reached the depths
I became very still.



เมื่อพระเจ้าทรงขว้างข้าฯอันเป็นก้อนกรวด
ลงสู่สระอันน่าอัศจรรย์นี้
ข้าฯก่อกวนแผ่นผิวให้กระเพื่อมเป็นวงนับไม่ถ้วน
แต่เมื่อข้าฯลุถึงความลึก ข้าฯนิ่งเงียบจริงๆ


-- ทรายกับฟองคลื่น


โดย: ไร้นาม วันที่: 10 เมษายน 2548 เวลา:1:41:34 น.  

 
เมื่อก่อนใจข้าได้ท่องเที่ยวไปในอารมณ์
ตามปราถนา ตามความใคร่ ตามสบาย
แต่บัดนี้ ข้าจักบังคับมันด้วยโยนิโสมนสิการ
เหมือนควาญช้างถือขอ บังคับช้างที่ตกมัน
--------------------
เมื่อพระเจ้าทรงขว้างข้าฯอันเป็นก้อนกรวด
ลงสู่สระอันน่าอัศจรรย์นี้
ข้าฯก่อกวนแผ่นผิวให้กระเพื่อมเป็นวงนับไม่ถ้วน
แต่เมื่อข้าฯลุถึงความลึก ข้าฯนิ่งเงียบจริงๆ
--------------------
ผมชอบ 2 บทนี้ครับโดนใจดี


โดย: noom_no1 วันที่: 31 พฤษภาคม 2548 เวลา:15:48:25 น.  

 
--- คุณ noom_no1 ---

ชอบเหมือนกันค่ะ


โดย: ไร้นาม วันที่: 3 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:55:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]





"อ่านคนอ่านที่ความคิด
หาใช่ชื่อเสียงเรียงนาม"
Friends' blogs
[Add ไร้นาม's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.