...ดอกขาวพราวพร่างกระจ่างใส
อวดใบชูดอกระลอกสี
ส่งกลิ่นหอมโชยมาวนาลี
สลับสีหลากหลายมากมายพันธุ์
....พลันสัตว์ร้ายตัวกลั่นมันมาไกล้
กระทำใหญ่หยาบช้าพากระสันต์
ต้องทำการรวมตัวรวมพลัง
ต้องใล่มันให้พ้นจนหมดแรง

“ไร้นาม”ช่วย delete กลอน(ที่ 3)บนนี้ออกด้วย เพราะมันไม่สัมผัสหาความไพเราะ/งดงามในแง่ศิลป์ฯมิได้เลยจริงๆครับ ผมอยากให้ลบ เพราะผมแต่งเองแล้วไม่เป็นซะอีก ขอบคุณ.
-----------------------------
--สถานะการณ์“การเมือง”บ้านเราในยามนี้ยังมีอาการโคม่าน่าเป็นห่วง ประชาชนพากันเครียดกันทั้งบ้านทั้งเมืองและต้องบอกว่าหลังการเจรจากันระหว่าง รบ.-นปช.ไปแล้วสองรอบก็ยังไม่มีข้อยุติที่เป็นรูปธรรม

--เพราะต่างฝ่ายก็อ้างความต้องการของตนๆขึ้นมาโต้กันชนิดที่ไม่อาจจะไปในทิศทางเดียวกันได้เลย อย่างนี้กระมังที่เขาเรียกกันว่า “คุยคนละเรื่องเดียวกัน” เฮ้อ! มุมมอง ปชช.ผู้เสียภาษีคนหนึ่งอย่างผมดู/ฟังแล้ว “กลุ้ม” ครับ

--เสมือนใช้วิธีการ“โต้วาที” เล่นชิงหลักหักเหลี่ยมกันไปมา ประชาชีปวดใจครับ อาทิฝ่ายหนึ่งอ้างเป็น “ลาภมิควรได้” ของการได้มาซึ่งตำแหน่ง “ผู้นำ” แต่ก็น่าเสียดายที่ไปหักล้างกันถึงลาภมิควรได้เหมือนกันของตำแหน่งผู้แทนฯ แล้วงี้มันจะไป “ลงเอย” กันได้งัย.เพราะมันคนละระดับของ “สถานะภาพ” (STATUS)และแตกต่างกันเลยนะครับท่าน เออนะ..เป็นไปได้!?!

--ผมยกตัวอย่างการ “เจรจา” มาแค่นี้ก็พอรู้แล้วว่าคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วครับเนี่ย! สงสาร ปชช.เถอะครับ “การเจรจา”น่าจะเป็นพูดจาแบบว่ามีการประนีประนอมหาทางออกร่วมกัน. หาใช่เวทีเชือดเฉือนคมแห่งวาทะกรรมของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่!?! ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าจะไม่มีการเจรจารอบต่อไปได้อีก..และที่แล้วมาไม่ควรมาฉายซ้ำๆอีกครับ.ว่านะ.

--จะอย่างไรก็ตามก็น่าเห็นใจทั้งสองฝ่ายแหละครับและก็ยังหวังนิดๆ ว่าเวทีการเจรจาน่าจะเป็นหนทางออกให้บ้านเมืองได้และ ทาง รบ.ท่านก็พยายามจะเปิดทางอีกวาระหนึ่ง..

--แต่ผมว่าควรต้องเป็นกติกา/บรรยากาศ ของ NEGOTIATION ที่มีความจริงใจไม่ซ่อนเร้นทั้งสองฝ่ายจริงๆนะครับ ได้แต่วิงวอนว่าอย่าใช้เป็นโอกาส “วันโกน”หรือแบะท่าทำนองว่าถือไพ่เหนือกว่า/จะมิยอมให้ผู้ใดมากระชากเข็มขัดแช้มป์ของกันและกันไปได้น่ะครับนะ!?!

--บ้านเมืองเราเสียหายไปมากมายเกินกว่ายามนี้ไปไม่ได้อีกแล้ว..เออนะ...แล้วนี้ก็เป็นการคอมเม้นต์เล็กๆจาก ผู้เสียภาษีคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาพาดพิงใดๆ/ใครผู้ใด..โปรดเข้าใจด้วยครับ.สวัสดี.
------------------------------------
.. ป.ล.ขอขอบคุณ “ไร้นาม”และตอนนี้ผม No Private Net ส่วนตัวแล้วครับ ตั้งใจว่าจะลองแบบเคเบิ้ล/บรอดแบรนด์อะรัยเนี่ย.. จึงอยากเรียนถามผู้รู้ “ไร้นาม”ถึงข้อดีข้อเสียทางเทคนิคฯเมื่อเทียบกับแบบมีเบอร์บ้านน่ะครับ.

--"การเมืองเรื่องใกล้ตัว"กลายเป็นหลายๆอย่างประกอบกันซะแล้วพี่น้อง--นับแต่แบบว่า "ยุ่งขิง"-โคม่า-น่าเป็นห่วง-ผ่าตัดด่วน!?!

--แต่กรุงเทพฯดินแดนสวรรค์ก็ยังคงรักษาลำดับเดิมไว้อย่างเหนียวแน่นตราบใดที่ยังไม่มีการพลิกผันไปสู่ความวุ่นวายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่ที่แน่ๆคือ กทม.ดูแคบลงถนัดใจ...อาจถึงขั้นต้องย้ายเมืองหลวงที่มีการพูดกันมาแล้วจะเป็นรูปธรรมเอาก็ตอนนี้เองกระมัง?

--จะสาเหตุอันใดอีกเล่าหากมิใช่การหลั่งไหลของผู้คนพลเมืองซึ่งเป็นประชาชนคนไทยด้วยกันเองจากทั่วทุกสารทิศร่วมกันเคลื่อนไหวทางการเมืองตามสิทธิ รธน.ว่างั้นเถอะ..เจ้าของประเทศทำได้!

--ผมบอกไปแล้วว่าน่าเห็นใจทั้งสองฝ่ายที่ยังปรับความเข้าใจกันและกันมิได้ ในฐานะ ปชช.คนหนึ่งก็วิพากษ์ไปตามเนื้อผ้า(ไม่เป็นทางการ)ละครับว่า สถานะการณ์แบบนี้น่ะสุ่มเสียงที่จะออกได้ทั้งหัว/ก้อยนะครับนะ จะให้ฟันธงเลยก็ตามนี้ครับ...

1) รบ.และ นปช.คุย/เจรจากันไม่รู้เรื่อง ทำแบบลักษณะลอยตัวเหนือปัญหาไม่สนองตอบข้อเรียกร้องของอีกฝ่าย...ผลตามมาก็คือ บ้านเมืองเราคงวุ่นวายแบบไม่รู้จบ...กลุ้มครับ!

2) รบ.ใช้มาตรการเด็ดขาดที่เขาเรียกกันจนเป็นที่เข้าใจคำว่า "สลายฯ"..ผลตามมาคือบ้านเมืองเสียหายและเดือดร้อนหนัก/ วุ่นวายตามข้อ (1) แต่จะยิ่งหนักขึ้นเป็นยกกำลังอีกหลายเท่าทวีคูณไม่รู้จบอีกเหมือนกัน.. กลุ้มหนักครับ!

3) สรุปดีกว่าครับ ทางออกที่น่าจะนุ่มนวลและพอใจทั้งสองฝ่ายก็คือ ทั้งสองฝ่ายกลับมาตั้งโต๊ะเจรจากันใหม่ เกิดขึ้นได้มั๊ยเนี่ย!?!

4)สรุปอีกที ทางออกที่น่าจะเสียหายน้อยสุดๆก็น่าจะเป็นไปตามที่ท่าน"ผู้นำ" เคยปรารภไว้ทำนองว่าการจะยุบสภามิใช่เรื่องที่เป็นไปมิได้เสียเลยใน ระบอบ ปชต. ...แต่ลดเงื่อนไขลงซะบ้าง ว่านะ
------------------
--ผมดูแล้วปัญหาบ้านเมือง(ศก.;การเมือง;สังคม ฯลฯ)มันสาหัสสากรรจ์ขึ้นทุกเวลานาที และเข้าใจว่าทุกภาคส่วนมีความเป็นห่วงต่อบ้านเมืองกันทั้งนั้น

--ความเห็นนี้ก็มิใช่การชี้นำหรือใดๆ เพียงอยากเห็นบ้านเมืองสงบ และผมก็เข้าใจอีกว่าทั้งสองฝ่ายมองปัญหาไปในทิศทางเดียวกันได้แล้ว เพียงแต่ นน.จะเอียงไปข้างไหนมากก็ควรรับฟังตามระบอบ ปชต.

--พิจารณาดูอีกทีให้รอบคอบเพราะขณะนี้บ้านเมืองเราเสียหายไปมากมายเกินกว่ายามนี้ไปไม่ได้อีกแล้ว..เออนะ...แล้วนี้ก็เป็นการคอมเม้นต์เล็กๆจาก ผู้เสียภาษีคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาพาดพิงใดๆ/ใครผู้ใด..โปรดเข้าใจด้วยครับ.สวัสดี.

---สถานการณ์ "การเมือง" ในประเทศนี้ยามนี้ยังคงคุกรุ่น จนดูเสมือนจะเพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้นทุกขณะ ถึงขนาดว่าองศาหน้าร้อนในเดือนเมษานี้ยังต้องชิดซ้ายให้เลยอ่ะนะ น่าจะเข้าทำนอง "ขิงก็รา ข่าก็แรง" นั่นเอง.

--ผมคิดไปมาก็พอจะเห็นภาพว่าสภาพของปัญหามันสาหัสสากรรจ์จนอดคิดไปว่า ทัศนะ/ความคิดเห็นของแต่ละฝ่ายดูจะไม่ค่อยไว้วางใจกันในผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นทั้งสภาพที่เป็นอยู่ขณะนี้หรือหลังการเลือกตั้งทั่วไปหากมีการยุบสภา-Dissolution Of Parliament=DOP. เกิดขึ้นจริง? ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ เรายังวนเวียนอยู่กับ"ความเห็นต่าง"ในระบอบ ปชต.อนิจจา.

--Dissolution Of Parliament=DOP. ดูจะเป็นประเด็นหลักของการเรียกร้องของกลุ่มเคลื่อนไหว ในขณะที่อีกฝ่าย (รบ.)ก็อ้างความชอบธรรมในการเข้ามากุมอำนาจรัฐ เออนะ แล้วมันจะลงเอยกันได้งัยครับเนี่ย!?!

--แล้วนี่ประเทศนี้จะเดินหน้าไปได้ยังงัยกันครับเนี่ย!?!ผมสุดงง แต่ปัญหาทุกปัญหามีทางออก ว่ากันยังงั้น!!! คิดแล้วว่าสถานะการณ์น่าจะลงท้ายด้วยดีไม่มีเหตุรุนแรงซึ่งไม่มีใครอยากให้มันเกิดแน่นอน.

--แต่ขณะเดียวกันขณะที่แต่ละฝ่ายพยามหาหนทางออกเพื่อความสงบสันติและความวัฒนาถาวรของประเทศนี้ให้ได้ ผม ปชช.คนหนึ่งก็เป็นกังวลมิใช่น้อยว่าทางออกของปัญหาน่าจะมีข้อยุติที่ทุกฝ่ายยอมรับกันได้เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนคนไทยด้วยกัน นั่นแล.

--โลกของเราใบนี้มันมีอะรัยแปลกๆชวนให้คิดให้เป็นไปต่างๆนานา ตามประสาที่มวลมนุษย์ชาติที่เป็นสัตว์สังคมที่ต้องอยู่ร่วมกัน เพียงแต่ว่ากติกาการอยู่ร่วมกันนี้นั้นควรต้องตกลงกันด้วยความเหมาะสมและถูกต้องเป็นธรรม หาไม่แล้วคนเราคงอยู่ร่วมกันลำบาก ว่านะ
-------------------------
--มาถึง ณ วินาทีนี้ สถานะการณ์การอยู่ร่วมกันดังว่า ไหงจึงมีแต่ความขัดแย้งเห็นต่างฯ นี้เป็นโจทย์ที่ทุกคนไทยควรต้องเก็มมาคิดและแก้ไขให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมตามวิถีพุทธ นี้ผมมิบังอาจไปสอนใครนะ เป็นความคิดเห็นเชิงวิพากษ์น่ะ เออนะ.

--ผมจะปิดท้ายในเชิงที่ว่า เร็วนี้ทางสื่อทีวีช่องหนึ่ง เห็นมีนักวิชาการบางท่านมองไกลถึงขนาดว่าการใช้เวทีที่"สพานผ่านฟ้าฯ"ก็ยังไม่วายจุดพลุให้เป็นประเด็นว่าเป็นอะไรซักอย่างในเชิง"สัญญลักษณ์" แน่ะไปโน่นเลย!?!

--มุมมองแล้วผมว่าแม้จะเปลี่ยนชื่อเป็น"ผ่านพิภพ/ผ่านบาดาลฯ"ก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันอีกแหละ? การจุดพลุอาจนำไปสู่การขยายวงความขัดแย้งได้ ว่านะ แต่เอาเหอะความคิดเห็นครับ..ไม่ว่ากัน.

--ผมสรุป(เสียที)ว่าปัญหามีทางออกเพียงที่ว่ากันว่า"ClicK"แล้วไม่ค้างhang ซะก่อน ประเทศเดินหน้าได้ครับ ลองๆพิจารณาดูอีกทีให้รอบคอบเพราะขณะนี้บ้านเมืองเราเสียหายไปมากมายเกินกว่ายามนี้ไปไม่ได้อีกแล้ว..เออนะ...

--แล้วนี้ก็เป็นการคอมเม้นต์เล็กๆจาก ผู้เสียภาษีคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาพาดพิง/ชี้นำ/ผู้ใด หรือหน่วยงานใด..โปรดเข้าใจด้วยครับ.สวัสดี.

--ดีกรีองศาช่วงฤดูร้อนปีนี้(2553) ดูจะรู้เห็นเป็นใจกับผู้ร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองไปซะอีกแน่ะ เพราะอุณหภูมิอากาศยิ่งร้อนก็ยิ่งเพิ่มความร้อนแรงและกระพืมโหมความฮึกเหิมของการเคลื่อนไหวมากขึ้นเท่านั้น..ยิ่งมัวแต่คิดจะป้องอำนาจมันก็ดูเหมือนยิ่งแย่ลง!?!

--มองแบบเป็นกลางเหตุผลที่เป็นเช่นนี้น่าจะวิเคราะห์อย่างเป็นจริงได้หลายประการ อาทิ .-

--ทีวี /FreeTVไม่ยอม OnAiR สถานะการณ์ที่เป็นอยู่เลยอ่ะ แปลกดีครับ!?! เพราะหากคิดว่าเป็น รบ.ของ ปชช.ที่เขาเลือกตั้งมาและกุมอำนาจรัฐอยู่ก็น่าจะเปิดโอกาสให้ ปชช.ที่เป็นกลาง/พลังเงียบได้รู้เห็นสภาพการณ์อย่างตรงไปตรงมา..ได้ใช้วิจารณาญาณบ้างครับ.

--ไม่เห็นว่าจะเสียหายตรงไหน ตรงข้ามหากคิดว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่กระทำผิดจริง ปชช.เขาก็จะได้ใช้พิจารณาญาณได้ว่าข้างไหนผิด/ถูก ไปปิดหูปิดตาทำมัยครับเนี่ย!?!งงแฮะ!!!

--เปิดให้ ปชช.เขาสังเกตุการณ์บ้างคนอีกตั้ง5-60 ล้านคนเขาจะได้สัมผัสบรรยากาศของบ้านเมืองตนเองบ้าง!?! จะเป็นไรไป ว่านะ.
ส่วนวิทยุชุมชนฯที่รายงานเหตุการณ์จริง(ที่จริงก็เป็นของรัฐของหลวงทั้งหมดแหละ)

--เขา"เห็นต่าง"ตามกรอบ ปชต.ก็อย่าไปรบกวนเขาเลยครับ ว่านะ เพราะเท่ากับไปกระพืมโหมเหตุการณ์ให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก เพราะทุกฝ่ายก็พูดกันตลอดว่าเราต้องการ“การประนีประนอมแทนการการใช้ความรุนแรง”กันมาโดยตลอดเวลา มิใช่รึ!?!

--จะมีก็แต่สื่อสิ่งพิมพ์บางฉบับเท่านั้นที่พยายามรายงานข้อเท็จจริง อย่างตรงไปมาตามภาระหน้าที่ของผู้ที่ได้ชื่อว่า ผู้สื่อข่าว/ Correspondents อย่างแท้จริง ไม่ได้เข้าข้างใคร อย่างนี้ดีน่าสรรเสริญครับ ว่านะ.

--เพื่อที่ว่า ปชช.เขาจะได้ทราบว่าอะไรเป็นอะไรตามความเป็นจริง การปิดหูปิดตามทำให้ ปชช.อาจเกิดตะหงุดตะหงิดขิดขวางใจและพาลไม่พอใจสื่อของรัฐเอานะเนี่ย(ข้อ1-2)!?!

--ช่องทีวีเอกชน!?! อาทิ People TV/AstV ก็ออกอาการไม่เท่าเทียมกันอีกแล้วครับพี่น้อง!?! ไปปิด/ไปเปิดโอกาสเขาเสมือนเลือกปฏิบัติ มันก็เลยไปกันใหญ่ ผมเองใช้ดูทางเน็ตก็ผิดหวังเหมือนกัน

--ส่วนในเหตุผลประเด็นอื่นมากมายที่ชิงหลักหักเหลี่ยมไม่จริงใจต่อกันอยู่นั้นไม่ต้องพูดถึง และผมก็นึกไม่ถึงว่า “อำนาจ/เงินตรา”มันจะมีอานุภาพมากมายใหญ่หลวงถึงเพียงนี้

--ถึงกับต้องทำให้มนุษยชาติในชาติเผ่าพันธุ์เดียวกันต้องมา “ขัดแย้ง” กัน ก็ได้แต่ภาวนาว่า รบ.ท่านน่าจะตัดสินใจตามข้อเรียกร้องน่าจะดีกว่าเพราะว่า หลังการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ รบ.ก็ได้เปรียบระหว่างการเลือกตั้งอยู่แล้ว...

--ผมว่า หากท่านมาเป็น รบ.คราวหน้าอีกจะไม่มีใครมาประท้วงกันอีกงัยล่ะครับ. เออนะ.น่าจะเป็นทางออกให้บ้านเมืองสงบสันติเสียที แล้วมาช่วยกันเดินหน้าพัฒนาชาติไทยต่อไปจะดีกว่ามั๊ย!?!
-------------
เอาละครับเพียงเท่านี้ก็พอจะมองเห็นภาพแล้วว่ามีความแตกต่างกันเมื่อเทียบกันในระดับ รบ.ในด้านการสื่อสารมวลชน เปิดเหอะครับ อย่าไปปิดหู้ปิดตาทีวีเลย.

--ผม ปชช.ผู้เสียภาษีคนหนึ่งก็ยังอยากทราบสถานะการณ์เหมือนกันทั้งที่มิได้ออกไปเคลื่อนไหวกะเขาเลยเนี่ย..เออนะ เป็นไปได้บ้านเราเมืองเราแท้ๆทำไมจึงอย่างนี้ไปได้ ก็เลยพอรู้พอเห็นเดาได้ว่า การกระทำปิดหู/ตาเป็นสิ่งไม่ผิดกติกาซะงั้น!?!

--สรุปซะที ประเด็นหลักของการคอมเม้นต์ครานี้คือขอเรียกร้องให้ สื่อทางทีวี/วิทยุชมชนของ รบ.ที่ท่านบอกว่ามาจากการเลือกตั้งของ ปชช.ฯได้มีโอกาสออกอากาศในสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้.

--แล้วน่าจะลดรายการตามปกติซะบ้าง เพราะนี่เป็นเรื่องการเมืองของประชาชนทั้งประเทศน่าจะสำคัญกว่า หากไม่ออกอากาศอ้างว่า เป็นเรื่องธุรกิจ ก็ไม่ว่ากัน แต่จะทำให้คิดไปว่านี่มันไขสือกันอะป่าว ปชช.พลเมืองเขาก็อึดอัดซิครับนะโธ่!!! เป็นไปได้!?!

----แล้วนี้ก็เป็นการคอมเม้นต์เล็กๆจาก ผู้เสียภาษีคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาพาดพิง/ชี้นำ/ผู้ใด หรือหน่วยงานใด..โปรดเข้าใจด้วยครับ.สวัสดี.

โอ๊ะโอ เพิ่งเห็นค่ะคุณ SkyWalker, ลบกลอนอันที่ขอให้ลบแล้วนะคะ (แอบเสียดายแทนเล็กน้อย) เรื่องการเมือง เศร้าค่ะ ช่วงนี้จุกพูดไม่ออก แอบไม่ชอบสื่อรัฐยังที่ชอบเสี้ยมให้คนเกลียดกัน T_T

คิดเหมือนกันหลายจุดมากเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องสื่อ และเรื่องการเลือกตั้งใหม่ที่ถ้ามีน่าจะโปร่งใสกว่าและเดินหน้้าได้ แต่ก็เศร้าใจเพราะเพื่อนๆ ชาวกรุงมัวแต่ตามกระแสที่ถูกสร้างโดยสื่อหลัก กลับดูเหมือนอยากให้มีความรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ (เหนื่อยๆ)

เรื่อง net ถ้าไม่ติดแบบ fix ก็ลอง aircard ไหมคะ? ลงทุนค่า aircard (เอามาเสียบ USB) ประมาณ 1,200 B แล้วก็เสียค่าบริการรายเดือนตามนิสัยเราที่ใช้ (แล้วแต่ค่ายมือถือแล้วแต่ package) อันนี้ก็สะดวกที่จะ online ที่ไหนก็ได้ (พอดีเห็นเพื่อนเป็นทหารอากาศเหมือนกันก็ใช้แบบนี้เพราะต้องไปจังหวัดโน้น จังหวัดนี้)

--พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯประกาศ(เมื่อ 7 เม.ย. 53)ได้เพียงสามวันขึ้นวันเสาร์ที่ 10 เม.ย. 53 ก็เกิดเป็นเรื่อง... เมษาสลดหรือสงกรานต์เลือดซ้ำรอยปี 52 เข้าจนได้มั๊ยล่ะพี่น้อง...

--ผมคงไม่ไปลงรายละเอียดอะรัยให้มากความเพราะทั้งข้อเท็จข้อจริงก็มีให้เห็นกันทางสื่อต่างๆให้พี่น้องคนไทยกันเองได้ใช้วิจารณาญาณกันได้ต่อไปอย่างมิรู้จบ !?!

--แต่ที่ผมสงสัยมากๆ(เช่นเดิม--อาจเป็นข้อ กม.!?!)ก็คือทำไมจึงไปเพิ่มปฏิบัติการบางอย่างเสมือนเลือกปฎิบัติ/เพิ่มดีกรีของความ “ขัดแย้ง”ในความคิดความเห็นของพี่น้องชาวไทยเรา...ดังนี้.-

--อาทิการปิดสื่อของผู้ชุมนุม (พีทีวี-วิทยุชุมชนฯอ้างว่าบิดเบือน!?!)ส่วนสื่อหลักก็มีนิดมีหน่อยเน๊าะอันนี้เป็นข้อสงสัยมากจริงในฐานะ ปชช.คนหนึ่งของประเทศนี้ จะว่าบิดเบือนก็น่าจะปล่อยให้ ปชช.เขาคิดเห็นกันเอง ยิ่งไปปิดก็เลยไปเข้าตำราธรรมชาติคนเรามันก็อยากรู้ซีครับนะ…เออนะ.

--เอาเหอะยังงัยมันก็คงไม่เป็นผลแล้วละเสียงเล็กๆน้อยๆแค่นี้(หรือรัฐมีเป็นความจำเป็น!?!)เอาเป็นว่าสถานะการณ์ “การเมือง” ณ บัดนี้มันเข้าไปสู่จุดความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเข้าไปแล้วทุกเวลานาที และดูๆไปจะไม่มีใครยอมใคร!?!

--หลายภาคส่วนพยามจะเข้าแก้ปัญหาแต่ก็ดูจะไปคนละทิศละทางหรือไม่เป็นเอกภาพในการจะเป็นศูนย์กลางแห่งการแก้ปัญหา/ปมแห่งความขัดแย้ง..พออีกฝ่ายพูด ก็จะมีอีกฝ่ายคอยแย้งฯซะนี่ เออนะ เป็นไปแล้ว... เสี่ยงครับ ..ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ณ วินาทีใด...

--สิ่งที่ผมภาวนาได้ในยามที่เกือบจะสิ้นหวัง ณ วินาทีนี้ก็คือ—ความไม่อยากเห็นผู้คนซึ่งเป็นชนชาติเดียวกันแท้ๆต้องมาห้ำหั่นกันเอง..โปรดอย่าลืมว่าชนชาติไทยเรานั้นได้ชื่อระบือนามมาแต่โบราณกาลว่าเป็นชนชาตินักรบ/ชายชาตินักรบผู้กล้าหาญกันทุกผู้ทุกคน—

--จนมีคำกล่าวติดปากกันเสมอจนถึงปัจจุบันว่าชายไทยทุกคนเป็น “ทหาร” เพราะมาจากแต่เก่าก่อนชายไทยทุกคนต้องออกรบกับศึกสงครามกันมาตลอด คนไทยจึงไม่เหมือนชนชาติอื่นก็ตรงนี้ เราจึงรอดตัวและไม่ยอมเป็นเมืองขึ้นต่อชนชาติใดมาจน ณ ปัจจุบัน...

--แต่อนิจจา มาบัดนี้เราคนยุคปัจจุบันดูจะลืมสิ่งนี้ คือแทนที่จะเอากำลังพล/กำลังคนผู้กล้าหาญ/ความเป็นชาย/หญิงชาตินักรบของแต่ละคนไว้ปกป้องศัตรูจากภายนอก! แต่เรากลับต้องมาเล่นงานรบรากันเอง..ผมว่ามันน่าเวทนานักเชียวล่ะ!!! หรือดูจะคล้ายกับว่าความเป็น “ชายชาติทหาร” นั้นจะไปผูกติดอยู่กับผู้ที่มีความเป็น “อาชีพ” เท่านั้น ผมว่าไม่น่ะ !อาจจะเขวไปป่าว..เออนะ.


--อย่าสู้รบกันเลยมีแต่เสียกับเสียไม่แพ้/ชนะกันผมว่าน่ะเอ้า..หรือจะไปดู ตย.ประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเวียตนามก็ยังเล่นงานเอายักษ์ใหญ่อย่าง US ต้องยอมปะไร!?! เออนะ..มันบ่แน่หรอกนาย..ในโลกใบนี้มันไม่มีรัยแน่นอนครับ.

--ครับ มาถึงข้อสรุป(ซะทีสิน่ะ)ผมว่าไหนๆต่างฝ่ายก็เดินทางมาจวนเจียนจะเข้าสนามเล่นงานกันเข้าแล้วเนี่ย..เราต่างมาถอยกันซักนิด..ซักครึ่งก้าวก็ยังดี..แล้วพิจารณากันให้รอบคอบกันอีกซักตั้งปะไร มัน “เจรจา”กันไม่ได้ ก็ให้มันเป็นแบบว่า “DEBATE”(ไหนๆ ก็ดีเบท/โต้วาทีกันมาสองครั้งแล้วอ่ะนะ)

--คราวนี้ให้เห็นดำเห็นแดงกันไปเลยต่อหน้าเวทีสาธารณะชนทาง TV จะ 3 วัน 7 วันก็ว่ากันไป ดีสุดๆแล้วให้ ปชช.เขาลงคะแนน/ประชามติกันหลังเสร็จสิ้นการดีเบทไปเลย อย่ามัวไปลงประชามติแบบเป็นพิธีการที่แล้วน่าจะเสียเวลาและเงินทอง.. หากเห็นด้วยก็ตามนี้นะครับ ..ขอกราบขอบพระคุณท่านผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย!!!อย่าให้ประเทศชาติและประชาชนต้องย่ำแย่ไปกว่านี้เลย.

--ท้ายนี้เช่นเคยเป็นการคอมเม้นต์เล็กๆจาก ผู้เสียภาษีคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาพาดพิง/ชี้นำ/ผู้ใด หรือหน่วยงานใด..โปรดเข้าใจด้วยครับ.สวัสดี.
--------------------------
ป.ล. ขอบคุณ "ไร้นาม"ที่ยังคงให้พื้นที่ครับส่วนเรื่อง NET โดยผ่านช่องทาง aircard (เอามาเสียบ USB) น่าสนใจครับผมจะลองไปสอบถามดู แต่เอ แล้วมันต้องใช้กับระบบ WIFI ด้วยเปล่าครับ.

--เหตุการณ์กลางวันแสกๆของวันที่ 22 เม.ย.53 เกิดขึ้นจนได้หลังจากคืนที่ผมนั่งอยู่หน้าแป้นคีย์บอร์ด--ไม่นึกเลยว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าของวันนั้นจะต้องมีการปะทะกันอีก..ผ่านไปแล้วคงไม่ลืมกันง่ายๆ...นับจากนี้ไปก็รอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงละกัน..และขอให้เป็นครั้งสุดท้ายจริงเถอะนะ..สาธุ.

--เอาเป็นว่าสถานะการณ์ “การเมือง” ได้เดินทางมาจนบัดนี้มันเข้าไปสู่จุดความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเข้าไปอีกแล้วทุกเวลานาที และดูๆไปจะไม่มีใครยอมใคร!?!
------------------
--แต่พี่น้องครับ...สถานะการณ์คลี่คลายลงทันด่วนเลยน่ะเมื่อตอนประมาณสามทุ่มครึ่ง(3 พ.ค.53)นี่เองที่ท่าน "ผู้นำ"ได้ออกมาแจ้งแถลงข่าว(ดี?)ข้อหนึ่งว่าจะกำหนดให้มี "การเลือกตั้ง"ในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ย.53 ...ไชโย! คนไทยหายใจโล่งอกขึ้นเยอะครับ!!!

--แหมแต่ท่านผู้นำเล่นเอาคนไทยกันเองงงอีกแล้ว!?! แล้ววันยุบสภาละครับเป็นวันไหนเอ่ย? เดากันเองตามกฏเกณฑ์ รธน.ละกัน เฮ้อก็น่าเห็นใจครับ..เอาเป็นว่าท่านมีข้อเสนอแล้วหากมีการสนอง..ก็เป็นไปตามนี้..แต่หากไม่มีการตอบสนอง..ก็ลุ้นภาวะวิกฤติกันต่อ!?!ก็มีการกล่าวปิดท้ายในที่ประชุม ส.ว.(ตาม ม.161)ทำนองนี้อ่ะนะ.
-------------------
--สำหรับเนื้อหาสรุปการประชุม ส.ว.ก็น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะการยอมรับถึงสภาพปัญหาต่างๆของสังคม จนถึงกับกล่าวได้ว่า "การปฎิรูปสังคมไทย"เรียกว่าเราเห็นตรงกันมากขึ้น ยอมรับกันมากขึ้น ดีครับนี่แหละคือทางออกของวิกฤติ และทุก รบ.ก็ต้องรับเป็นเจ้าภาพด้วย.

--ท้ายนี้เช่นเคยเป็นการคอมเม้นต์เล็กๆจาก ผู้เสียภาษีคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาพาดพิง/ชี้นำ/ผู้ใด หรือหน่วยงานใด..โปรดเข้าใจด้วยครับ.สวัสดี.

--"ความเดิม"เหตุการณ์กลางวันแสกๆของวันที่ 22 เม.ย.53 เกิดขึ้น..." (วรรคแรก)แก้ไขเป็น...

--เหตุการณ์ทั้งวันที่ 22 และ 28 เม.ย.53 เป็นเหตุที่ใครๆก็ไม่คาดคิด แต่ทว่าก็เกิดขึ้นอีกจนได้ ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้สูญเสียและบาดเจ็บของทุกคนทุกฝ่ายแหละครับนะ ขอให้เหตุการณ์วันที่ 28 เม.ย.53 เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆเถอะนะ..สาธุ.

เวลาผ่านไปปีกว่าแล้วก็เลยแวะมาหน้าบล๊อคการเมืองและขออนุญาตคอมเม้นต์เล็กๆนะครับ

Excerpt story:JULY 3 ELECTION Yingluck takes the stage.

Weeks of speculation ended yesterday(may 16,2011) when Yingluck Shinawatra won official endorsement from Pheu Thai executives to be the party's prime ministerial candidate.
--
However, she affirmed that should Pheu Thai form the next government, everyone would receive equal treatment under the law. Yeah I do agree !
------------
UK vs UK !!! What would happend just wait and see on Jul 3,2011 general election. na krab
--------------------------------------------
remark:1st UK stands for The United Kingdom (Oxford University)
:2nd UK stands for University of Kentucky, USA.
congratulation to PM candidates who both from 2-UKs
INCREDIBLE;UNBELIEVABLE and Wonderful krab 555+

มาขออนุญาตเติมบรรยากาศทางการเมืองหน้าบล๊อคของ"ไร้นาม"
ก็ไม่มีอะไรมากครับฐานะ ปชช.เจ้าของประเทศตัวเล็กๆคนหนึ่ง ก็ออกมาคอมเม้นต์บ้าง โดยมิได้มีเจตนาชี้นำและ/หรือไปกระทบบุคคลหรือองค์กรใดๆทั้งสิ้น....

ส่วนหนึ่งเห็นจริงว่าเดี๋ยวนี้สุภาพสตรีโดยทั่วไปนั้นเริ่มมีบทบาทในด้านต่างๆมากขึ้น แสดงถึงความเสมอภาคทางเพศเป็นรูปธรรมแล้ว

ขอขอบคุณ อาจารย์ "ไร้นาม" และหวังว่าคงสบายดีเช่นเดิม แต่เวลาที่จะอัพเดทบล๊อคคงน้อยลง ก็มิเป็นไรครับว่างๆก็ลงรูปภาพใหม่ๆมาฝากแฟนคลับละกันครับผม.

คุณ Sky

เพิ่งเห็นค่ะ ขอบคุณที่มาแจมนะคะ :)