ด้วยรักและห่วงใยสุดใจจะขาดดิ้น
|
|||
สัพเพเหระ ตอนที่ 7 เรื่องของคนมีห่วง ใช่แล้วครับ ผมมีห่วง หมายถึงห่วงยางประจำตัวนะ ถึงตอนนี้มันจะลดขนาดมาพอสมควรจนดูไม่น่าเกลียดเท่าไหร่แล้วก็ตามเหอะ ถ้ามันละลายหายไปได้หมดมันก็น่าจะดีกว่า จิงมะ ๆ เพื่อน ๆ ผมหลาย ๆ คน ตลอดจนคนที่เพิ่งจะรู้จักผมได้ไม่นาน ก็จะสงสัยกันว่าทำไมผมถึงกังวลจัง กับเรื่องนน.ตัว กลัวไม่หล่อ หุ่นไม่ดี สาวไ่ม่กรี๊ดรึยังไง ทุกครั้งผมก็จะบอกไปว่า ไม่ได้สนใจเรื่องตัวเลขน้ำหนักหรอก สนใจตัวเลขสัดส่วนมากกว่า ยังไงซะ ถ้าอ้วนไปมันก็ส่งผลต่อบุคลิคภาพ เสื้อผ้าที่หายากขึ้น ความกระฉับกระเฉง และสุขภาพ แต่ผมยอมรัีบนะว่าเหตุผลในการพยายามลดนน.ของผมในระยะแรก ๆ มาจากเหตุผลด้านภาพลักษณ์ ทุก ๆ สิ่งล้วนมีที่มา ตามมาเลยครับ ย้อนอดีตไปเมื่อสมัยผมเป็นเด็กประถม ผมก็คือเด็กอ้วนคนนึง ตัวกลม ๆ แขนสั้น ๆ ขาสั้น ๆ เหมือนโดเรมอน แต่ผมก็แฮปปี้ของผม เพราะว่าเพื่อน ๆ ในห้องไม่ค่อยล้อผมเท่าไหร่ ไอ้ที่โดนล้อมาก ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกผอม ๆ ซะมากกว่า แต่ก็เป็นลักษณะล้อกันแบบขำ ๆ ไม่ใช่ล้อกันให้เจ็บใจ แค้นฝังหุ่นอะไรเทือกนี้ แต่พอสม้ัยนี้กลับกัน กลายเป็นพวกอ้วน ๆ โดนล้อไปซะงั้น เลยทำให้พวกคลีนิคลดอ้วนทั้งหลายรวยกันเป็นแถบ กลับมาที่ผม ผมก็ใช้ชีวิตเด็กอ้วนมาแบบปกติสุข ไม่มีปัญหากับใคร และไม่มีใครมาทำตัวมีปัญหาใส่ ปัญหามาเมื่อตอนเข้าม. 1 ครับ เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าผมโดนทำร้ายด้วยคำพูดจากความเป็นเด็กอ้วนของผม วันนั้นเป็นวันรับสมัคร ก็ไปเข้าแถวตรวจเอกสาร มีอาจารย์ท่านนึงนั่งหน้าเซ็ง ๆ ตรวจเอกสารไป คนไหนครบก็เรียบร้อย กลับบ้านไป แล้วอีกอาทิตย์นึงมาสอบ พอถึงคิวผม ผมก็ยื่นเอกสารทั้งหมดที่มี และที่คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องให้อาจารย์ตรวจ อาจารย์ท่านก็หยิบดูทีละแผ่น ๆ แผ่นไหนที่ไม่ต้องการก็จะโยน ๆ ออกมา ซึ่งแน่นอนว่าโยน ๆ ออกมาทีละแผ่น ๆ แบบนั้น มันก็จะกระจาย ๆ เต็มโต๊ะ พออาจารย์ท่านดูเอกสารหมดทุกแผ่น ท่านก็ถามมาว่า "ป. 05 อยู่ไหน" ถามห้วน ๆ แบบว่ารำคาญ ตอนนั้นผมไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า ป. 05 คืออะไร มารู้ทีหลังจากอาจารย์ที่นั่งข้าง ๆ ว่ามันคือใบรับรองว่าจบป.6 ก็เลยบอกอาจารย์เค้าไปว่า "ที่โรงเรียนเก่ายังไม่ออกให้เลยครับ" ว่าไปตามความจริง อาจารย์ที่ตรวจเอกสารให้ผมก็ไล่ให้ผมกลับไปเอาป. 05 มาก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่ ผมก็พยายามต่อรองว่า "แต่ผมมีสมุดพกมาแล้วนะครับ น่าจะพอใช้แทนป. 05 ได้นะครับ" ที่ผมตัดสินใจต่อรองตอนนั้นเพราะว่าผมเห็นแล้วว่าหน้าตาป. 05 เป็นยังไง มันก็คล้าย ๆ สมุดพกเลย เพียงแต่ว่ามีเกรดของป. 6 ทั้งสองเทอมเท่านั้นเอง งงมาก ทำไมสมุดพกใช้ไม่ได้ อาจารย์ท่านถอนหายใจ แล้วก็พูดมาว่า "ไปเอาป. 05 มาก่อน แล้วค่อยมาสมัคร" พูดเสียงดังกว่าเดิม ผมก็กลัวสิครับ ก็เลยตัดสินใจถอยออกมาก่อน แต่ก่อนจะถอย ก็เก็บเอกสารที่กระจายเต็มโต๊ะก่อน ผมก็ค่อย ๆ เก็บรวบรวมเข้าแฟ้มที่ผมเตรียมมา มันก็จะเสียเวลานิดนึง อาจารย์ท่านนั้นก็พูดอะไรบางอย่างออกมา "ไปได้แล้วไอ้อ้วน เสียเวลา" ตั้งแต่ตอนประถม เพื่อนผมตั้งแต่ป. 1 ถึงป. 6 ไมเึคยมีใครเรียกผมว่า "ไ้อ้อ้วน" แล้วมาเจอคนระดับอาจารย์เรียกแบบนี้ ผมหันไปดูคนที่ต่อคิวอยู่ข้างหลัง มีแต่ผอม ๆ เว้ยเฮ้ย ผมก็รวบเอกสารทั้งหมดแล้วเดินออกมาอย่างรวดเร็ว พอดีว่าอาจารย์ที่ตรวจเอกสารอีกท่านนึง นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ ท่านก็พยักหน้าทำนองเรียกให้ผมเข้าไปหา ผมก็เดินไปหาอย่างว่าง่าย อาจารย์ท่่านพูดกับผมว่า "ไม่เป็นไรนะ วันสอบค่อยเอา ป. 05 มายื่นก็ได้ วันนี้รีบกลับไปที่โรงเรียนเก่าแล้วขอจากคุณครูมาก็แล้วกัน วันนี้ครูจะรับเอกสารกับใบสมัครไว้ก่อน แล้วครูจะโน้ตไว้ตรงนี้ว่ามีเอกสารขาด วันสอบเอามายื่นให้ครูด้วยนะ ครูอยู่ที่ห้องวิชาการนะ ห้องหมายเลข ### (จำเลขห้องมะได้แร้ว) ไม่ต้องห่วง ครูจำแม่น" โอ้โฮ อยากจะเข้าไปกอดซักที อาจารย์ใจดีมากมาย อยากให้มาเป็นที่ปรึกษาผมจิง ๆ แต่น่าเสียดาย กว่าผมจะได้เรียนวิชาสังคมกับท่าน ก็ปาเข้าไปปีที่ผมอยู่ม. 6 ซะแล้ว เอาฟะ ก็ยังดี กลับมาที่เรื่องอ้วน ๆ ใช่ครับ นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมเห็นความสำคัญของภาพลักษณ์ที่ต้องดูดี เพราะว่าคนไทยตัดสินคนที่ภายนอกแค่เท่าที่เห็น เป็นความจริงที่น่าเศร้า แต่ ณ เวลานั้น ผมก็ no idea จริง ๆ ว่าทำไงนน.ถึงจะลด ผมไปเจอหนังสือเกี่ยวกับเรื่องลดนน.ในบ้านอาม่าเล่มนึง อ่านไปอ่านมาก็พบว่าทำไมมันยากอย่างนี้ ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวมาก ๆๆๆๆๆๆ เราทำไม่ได้หรอก อะไรทำนองนี้ อาจารย์ที่สอนพละท่านนึงก็บอกให้ผมออกกำลังให้มากกว่านี้ อย่ากินขนมมาก แค่นี้นน.ก็ลดได้แล้ว ใช่แล้ว ออกกำลัง คำว่าออกกำลังในความคิดของผมตอนนั้นก็คือการเล่นกีฬา กีฬาชนิดไหนล่ะที่ได้ผล "ไม่รู้หว่ะ" คือไม่รู้จริง ๆ เพราะว่าโดยส่วนตัวก็ไม่ได้ชอบกีฬาอะไรเป็นพิเศษ จนกระทั่งได้อ่านการ์ตูนเรื่องนึง ชื่อ ข้าชื่อโคทาโร่ ท่านที่อายุตั้งแต่ 25 ขึ้นไปน่าจะรู้จักในความบ้า ๆ บอ ๆ ลามกจกเปรตของโคทาโร่ได้เป็นอย่างดี อิอิ ใช่ครับ ผมก็อยากเป็นอย่างนั้น อ๊ะ ๆๆ อย่าเข้าใจผิด ตามเรื่อง โคทาโร่เป็นนักคาราเต้ ซึ่งผมก็รู้ได้ทันทีว่าศิลปะการป้องกันตัวชนิดนี้แหละที่สามารถนำมาใช้ได้จริง เรื่องสำคัญก็คือเราจะได้ลดนน.ด้วย ถ้าได้เล่นเป็นประจำ คือตอนนั้นเข้าใจเอาเองว่าการเล่นกีฬาที่เป็นศิลปะการต่อสู้ จะต้องใช้พละกำลังมาก น่าจะเป็นผลดี ก็เป็นความคิดที่ไม่ผิดซะทีเดียว แต่จะไปเล่นหรือเรียนได้ที่ไหนล่ะ ไอ้เราก็ไม่กล้าบอกที่บ้าน เพราะรู้ว่าไม่น่าจะได้รับการสนับสนุน แล้วโอกาสก็มา ตอนนั้นผมอยู่ม.สอง เพื่อนผมคนนึงก็มาชวนไปเรียนคาราเต้กับมัน คือเป็นการจับกลุ่มกับเพื่อน ๆ หกคน เป็นกลุ่มย่อยของเรากลุ่มเดียว โอกาสมาแล้ว ก็เลยไปขอหม่ามี๊ ตื๊อจนสำเร็จ ใจจริงเรารู้ว่าเราต้องการอะไร วันแรกที่เห็นครูที่สอน โอ้โห คุณครูหุ่นเท่มาก อยากได้หุ่นแบบนี้มั่ง ก็เลยไปถามครูตรง ๆ เลยว่า "ครูครับ ครูหุ่นเท่มาก ผมอยากมีรูปร่างแบบนี้บ้าง ผมต้องทำยังไง" คุณครูเห็นว่าถามมาตรง ๆ ก็ตอบมาตรง ๆ เหมือนกันว่า "ไม่ยาก แค่ทำตามที่บอก ห้ามอิดออด ทำได้มั๊ย" "ได้ครับ" ตอบแบบไม่คิดเลยจริง ๆ ผลจากคำตอบอันนั้น ผมโดนเคี่ยวหนักกว่าคนอื่น ชนิดที่ว่าเพื่อน ๆ ผมเห็นแล้วตะลึง ประมาณว่ามันทนได้ไง แต่ก็ทำไปแล้ว หกเดือนต่อมา นน. ผมขึ้น 3 กิโล ................... แต่ว่า จาก 110% full fat กลายมาเป็น 99% fat free ดีใจมากมาย กลายเป็นว่า ผมล่ำกว่าครูซะอีก อิอิ แต่ไม่ผอมนะ ออกตัน ๆ ล่ำ ๆ กล้ามเนท ๆ ตอนนั้นก็ภูมิใจมาก เพราะว่าแข็งแกร่งมาก โดนเตะโดนต่อยนี่ไม่มีสะเทือน แข็งแกร่งชนิดที่ว่านอนกับพื้นแล้วให้เพื่อนอีกคนขึ้นมาเหยียบท้องได้เลย สุดหยอด ๆ นั่นแหละครับ คือจุดเริ่มต้นของผม แต่อย่างไรก็ตาม สังขารมันเป็นสิ่งไม่เที่ยง ไม่เที่ยงอย่างไร ผมจะมาเขียนเล่าให้อ่านกันตอนหน้าครับ อยู่สบายแบบชายมีห่วงก็แบบนี้แหล่ะจ้า อย่ายึดมั่น ถือมั่น มากเกินไปนะ กินแต่พอดี นอนแต่พอดี และจะอ้วนอย่างพอดี มีพุงอย่างพองาม คริๆๆ
โดย: หนูแมว IP: 124.120.159.82 วันที่: 9 มกราคม 2553 เวลา:22:16:34 น.
โถๆๆ คนมีปมด้อย... สู้ต่อไปจีบัน
โดย: Krapook IP: 124.122.118.198 วันที่: 10 มกราคม 2553 เวลา:20:34:20 น.
เท่าที่เคยเจอกัน พี่โบ๊ตไม่อ้วนเลยนา
โดย: ping IP: 114.128.73.82 วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:16:57:49 น.
มาฮาอะ ไอ้ที่บอกอีกสามเดือนนนขึ้นมาสามโลเนี้ย
โดย: maneki^neko IP: 112.142.149.155 วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:21:26:58 น.
|
The Queenslander
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?] Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |