My Home Makes Me, Me!
Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
10 กันยายน 2549
 
All Blogs
 

เรื่องดีๆมีไว้แบ่งปัน :-)

อีกหนึ่ง...ถึงชีวิต

ความรุ่งโรจน์ของชีวิตมนุษย์
อยู่ที่การไม่ใช่รู้จักตกต่ำ
แต่อยู่ที่การกลับลุกขึ้นใหม่ได้
ทุกครั้งที่เราตกต่ำต่างหาก
- - อัญชัญ

คนเรานั้น หากพอยื่นมือออกไป...ก็ได้มา
ชีวิตยังมีความหมายอันใด และจะหาความสุขได้วันใด
- - ภาษิตจีน

มีเพื่อน 500 คนยังน้อยไป
มีศัตรู 1 คนยังมากไป
นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน ขึ้นที่สูงไม่ได้
- - ภาษิตจีน

ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย เรายังต้องทำงาน
และเหนือกว่านั้นเราต้องเชื่อถือตัวเราเอง
เราต้องเชื่อว่าคนแต่ละคน
สามารถทำอะไรบางอย่างได้ดี
และเมื่อเราค้นพบว่า
อะไรบางอย่างนั้น คืออะไรแล้ว
เราต้องมุมานะ
- - แมรี่ คูรี่




นมแก้วเดียว

เมื่อเด็กชายที่เดินเร่ขายของตามบ้านเพื่อน
หวังเก็บเงินไว้เป็นทุนรอนสำหรับเล่าเรียนหนังสือ
พบว่าตัวเองมี เงินเหลือติดตัวเพียง 10 เซนต์
เขาก็บังเกิดความหิวขึ้นมาตะหงิดๆ
จึงตัดสินใจที่จะบากหน้าเดินไปขอข้าวจากบ้านหลังถัดไป
และแล้ว เขาก็รู้สึก ประหม่า
เมื่อมีอันต้องเผชิญหน้ากับสาวน้อยน่ารักที่ลุกขึ้นมาเปิดประตูบ้าน
เมื่อ ดูจากท่าทางอันหิวโซของเด็กชาย หญิงสาวจึงยื่นนมให้แก้วหนึ่ง
เด็กน้อยค่อยๆ ดื่ม แล้วถามว่า "จะให้ผมจ่ายตังค์เท่าไรดีครับ"
"ไม่หรอกจ๊ะ..เธอไม่ต้องจ่ายอะไรฉันหรอก" สาวน้อยตอบ
"คุณแม่สอนฉันเสมอว่าไม่ให้รับเงิน
จากน้ำใจที่เราได้แสดงออกไปให้กับคนอื่น"
ถ้าอย่างนั้น หนูก็ขอบคุณจากใจนะครับ" เขาตอบ
เมื่อ พ่อหนูเฮาวาร์ด เคลลี่ เดินจากบ้านหลังนั้นไป
เขามิเพียงแต่รู้สึกว่า ร่างกายมีกำลังวังชาขึ้น
หากแต่ความเชื่อมั่นในพระเจ้าและในมนุษย์ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย.

.. มิไยว่าก่อนหน้านั้นเขาจะรู้สึกหมดศรัทธาในทั้งสองสิ่งนี้ไปแล้วก็ตาม
กาลเวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่ปรากฏ
หญิงสาวผู้นั้นได้ล้มป่วย ลง
คุณหมอในโรงพยายาลท้องถิ่นหมดหนทางจะเยียวยา
จึงส่งเธอไปยังเมืองใหญ่ที่มีคุณหมอเฉพาะทาง
เพื่อรักษาโรคที่ไม่ค่อยได้พบเจออย่างนี้
คุณหมอเฮาวาร์ด เคลลี่ ถูกเรียกตัวมาเพื่อให้คำปรึกษาเคสนี้
เมื่อเขาได้ยินชื่อเมืองที่ผู้ป่วยถูกส่งมา
ถ้าคุณสังเกต จะเห็นว่ามีประกายตาแปลกๆ อยู่ในดวงตาคู่นั้น
ทันใดนั้น เขารีบลุกขึ้นและเดินตรงไปยังห้องพักของเธอ
พลางสวมเสื้อกาวน์ไปด้วย...
เขาสามารถจดจำเธอได้ในทันที...เมื่อกลับไปยังห้องทำงาน
เขาก็พยายามหาหนทางที่ดีที่สุดเพื่อ รักษาชีวิตของเธอ นับจากวันนั้น
คุณหมอก็เพียรดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วย รายนี้เป็นพิเศษ...
หลังจากที่ยื้อยุดฉุดกระชากกับโรคร้ายอยู่พักใหญ่
ในที่สุดเขาก็ได้รับ ชัยชนะ
แล้วคุณหมอเคลลี่ก็ขอให้ฝ่ายการเงินของโรงพยาบาล
ส่งใบเรียกเก็บเงินของผู้ป่วยรายนี้
มาให้เขาพิจารณาอนุมัติ
เขาเขียนอะไรสองสามตัวลงบนขอบกระดาษใบนั้น
แล้วฝากเจ้าหน้าที่ส่งผ่านไปยังผู้ป่วย
เมื่อใบเรียกเก็บเงินเดินทางมาถึง
เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัว ด้วยมั่นใจว่า
ตัวเลขคงสูงมากจนเธออาจต้องใช้เวลาที่เหลือในชีวิตนี้
ชดใช้ค่ารักษาพยาบาลในครานี้
ถึง ที่สุดแล้ว เธอก็เปิดออกดู...
พบอะไรบางอย่างที่ดึงความสนใจของเธอ
มาอยู่ตรงขอบๆ กระดาษแผ่นนั้น
เธออ่านได้ใจความว่า
"จ่ายหมดแล้วด้วยนมหนึ่งแก้ว"
พร้อมกับลงชื่อกำกับไว้
หญิงผู้นี้อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาด้วยความชื่นชมยินดี
ขณะหัวใจอันเปี่ยมสุข อธิษฐานว่า
"ขอบคุณพระเจ้าที่ได้แผ่ความเมตตาของพระองค์
มายังหัวใจ และอุ้งมือของผู้คนบนโลกนี้"



เรื่องของขนมคุ๊กกี้ห่อหนึ่ง

ที่สนามบินนานาชาติระดับโลก
มีนักธุรกิจหญิงแต่งตัวดี
จำเป็นต้องรอเวลาถึง 3 ชั่วโมงในการเปลี่ยนเครื่องบิน
เพื่อไปจุดหมายปลายทาง
เธอจึงตัดสินใจเดินไปซื้อหนังสือ 1 เล่ม และคุ๊กกี้ 1 ห่อ
และเตรียมหาที่นั่งเพื่ออ่านและกิน ฆ่าเวลาไปพลาง ๆ
เธอสอดส่ายมองหาที่นั่งได้ 1 แห่ง
เมื่อนั่งลงก็เตรียมหนังสือและคุ๊กกี้
เพื่ออ่านและกินไปพลาง ๆ
เธอสังเกตเห็นว่าข้าง ๆเธอมีชายหนุ่ม
ซึ่งนั่งเหยียดกายอย่างไม่สนใจว่าจะมีใครนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา

สักครู่หนึ่ง ขณะที่เธออ่านหนังสือ
ชายหนุ่มก็หยิบขนมคุ๊กกี้ออกจากถุง
ซึ่งวางอยู่ระหว่างคนทั้งสอง แล้วกินมันอย่างละชิ้น
เธอมองด้วยความโกรธ
แต่ไม่ต้องการทำเรื่องวุ่นวาย เธอจึงทำเป็นไม่สนใจ
เธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะกินคุ๊กกี้และเฝ้ามองนาฬิกา
ในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งเป็นผู้ขโมยไร้ยางอาย
กำลังกินมันให้หมดสิ้นไป เธอเริ่มโมโหและคิดในใจว่า
"ถ้าฉันไม่ใช่ผู้ดีมีการศึกษาแล้วละก็....
ฉันจะชกหน้าเจ้าหมอนี้ให้แหลกไปเลย"
ทุกครั้งที่เธอหยิบกิน 1 ชิ้น
ชายหนุ่มก็หยิบมันกิน 1 ชิ้น ทั้งสองส่งสายตามองกัน
เมื่อคุ๊กกี้เหลือเพียงชิ้นสุดท้าย
เธอหยุดและอยากรู้ว่าชายหนุ่มจะทำอย่างไร
ชายหนุ่มค่อย ๆ หยิบคุ๊กกี้
ชิ้นสุดท้ายแล้วหักออกเป็น 2 ชิ้น
ส่งให้เธอครึ่งชิ้นและกินเองครึ่งชิ้น
เธอรับจากชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและคิดในใจว่า
"เขาช่างเป็นคนไร้มารยาทสุดๆ
ช่างไร้การศึกษา ไม่มีแม้แต่พูดขอบคุณสักคำ"
เธอลุกขึ้นหยิบข้าวของทั้งหมดแล้วตรงไปยังประตูขึ้นเครื่อง
ไม่แม้แต่เหลียวหลังกลับมามองหัวขโมยผู้ไร้มารยาทซึ่งยังนั่งอยู่ที่เดิม
ภายหลังจากขึ้นเครื่องและนั่ง
ประจำที่อย่างสบายแล้ว
เธอก็หยิบหนังสือที่อ่านค้างอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง
ในขณะที่หยิบหนังสือจากกระเป๋า
ก็พบว่ามีขนมคุ๊กกี้ 1 ห่อ เธอตกใจมาก
ถ้าคุ๊กกี้ของฉันยังอยู่ที่นี่ ก็แปลว่า.....
คุ๊กกี้ห่อนั้นเป็นของชายหนุ่มที่แบ่งให้เธอกิน
เธอลุกขึ้นทันที
แล้ววิ่งออกจากเครื่องบินไปยังที่นั่งของชายหนุ่ม
แต่คงเหลือแต่ที่นั่งว่างเปล่า
มันสายไปเสียแล้วที่จะได้ขอโทษชายหนุ่ม
ระหว่างเดินกลับเข้าเครื่อง เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
เธอนั่นเองที่ไร้มารยาท เป็นหัวขโมยที่ไร้การ
ศึกษาตัวจริง

มีกี่ครั้งในชีวิตของคนเรา ที่ค้นพบในภายหลังว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง
มันเป็นการเข้าใจผิด

มีกี่ครั้งในชีวิตที่เราขาดความไว้วางใจผู้อื่น
และทำให้เราตัดสินผู้อื่นจากความคิดเย่อหยิ่งของเราเอง
ซึ่งห่างไกลจากความเป็นจริงมากมาย
นี่แหละที่ทำให้เราต้องคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนตัดสินผู้อื่น
หลาย ๆ สิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น
ควรมองผู้อื่นในแง่ดี แล้วคอยสงสัยตัวเองว่า
"เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง?
เราเคยแบ่งปันอะไรแก่คนอื่นบ้างหรือไม่"



แค่หวัง...

อยากให้ฝนตก
แค่หวังว่าเสียงฝน จะกลืนเสียงร้องไห้ของฉัน

อยากให้ดอกไม้บาน
แค่หวังว่าความสดใสของดอกไม้ จะกลืนความแห้งเหี่ยวในใจฉัน

อยากให้ดวงอาทิตย์ส่องแสง
แค่หวังว่าการที่ฉันเห็นเงาตัวเอง จะกลืนความรู้สึกไร้ตัวตนของฉัน

อยากให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง
แค่หวังว่าความเย็นจากน้ำ จะกลืนความร้อนในตัวฉัน

อยากให้เธอยิ้ม
แค่หวังว่ารอยยิ้มของเธอ จะกลืนความโศกเศร้าในใจฉัน

อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้
แค่หวังว่า...
วันพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้
>> แคท - เขียน



สองฟากถนน

ฟากหนึ่งของถนน...

หญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่
เธออยากข้ามไปฝั่งตรงข้าม
ข้ามไปหาชายหนุ่ม
คนที่เธอคิดว่าเขามีความรักให้เธอ
แต่เธอไม่กล้าข้าม
เพราะครั้งหนึ่ง เธอเคยข้ามถนน
แล้วถูกชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถชน
เธอเจ็บ...
เจ็บจนกลัว

อีกฟากหนึ่งของถนน...

ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่
เขาอยากข้ามไปฝั่งตรงข้าม
ข้ามไปหาหญิงสาว
คนท ี่เขาคิดว่าเธอมีความรักให้เขา
แต่เขาไม่กล้าข้าม
เพราะครั้งหนึ่ง เขาเคยขับรถ
แล้วชนหญิงสาวคนหนึ่ง
เขากลัว...
กลัวว่าจะเจ็บแบบนั้น



ทั้ง 2 ฟากของถนน...

ความรัก มองเห็นคนทั้งสองอยู่
ความรัก มองเห็นความเจ็บและความกลัวของคนทั้งสอง
แปลง... กลับกลายเป็นกำแพง
สูง
ระฟ้า
หนา
ไม่มีใครเข้าถึง
ไม่มีประตู ไม่มีหน้าต่าง

ความรัก เฝ้ารอคนทั้งสองอยู่
รอวันที่กำแพงจะถูกทลายลง
พังทลายด้วยความรักของคนทั้งสอง
>> แคท - เขียน


ใครคือฆาตกรกันแน่ ???

วิธีอ่าน
- มิติที่ 1 อ่านธรรมดาให้จบก่อน
- มิติที่ 2 แล้วค่อยอ่านเว้นบรรทัด

คืนนั้นเป็นคืนที่เงียบสงบและเปล่าเปลี่ยว

เขากำลังวางหูโทรศัพท์ ขณะที่ผมเดินไปหาเขา เขาชวนให้

ผมนั่งกินเหล้ากันเขา เราคุยกันเรื่อง

ตลกขบขัน บางทีก็เรื่องของเพื่อนฝูง รวมทั้งเรื่อง

สัพเพเหระมากมาย เราดื่มกันแก้วแล้วแก้วเล่า เรื่องราว

ที่เขาเล่า ทำให้ผมนึกถึงสมัยเด็กๆ เสียงหัวเราะ

เริ่มพร่างพรูออกมา เรื่องเก่าๆที่ ผมเคย

ทำสิ่งต่างๆ ร่วมกับเขามา เขายังพูดถึงเรื่องเพื่อนที่เคย

ชกต่อยกับเขาสมัยเด็กๆ และคนรักเก่าของผม

ก็เข้ามาห้าม แล้วก็บอกให้เพื่อนคนนั้นคืนหนังสือ

ที่เขาเป็นคนแย่งชิงไป เขาเป็นเพื่อนที่ผมรักมาก

เพื่อนอีกคนนั้นทำธุรกิจร่วมกับเขา

แต่ในขณะเดียวกันก็เกลียดเขามาก เป็นเพื่อนที่ทำเลว

กับเขาเขาหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ใส่ใจ เขาให้ข้อคิด

กับผมหลายเรื่อง เมื่อเห็นว่าดึกแล้ว ผมเดินไปส่งเขาที่รถ

เขาบอกผมว่า ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเขาจะเมา แต่ผมไม่สบายใจ

ผมมองจนเขาขับรถออกไป แล้วผมจึงค่อยขับตาม

แต่เขาขับเร็วมาก จนคลาดสายตาผมไป ผมร้อนใจมาก

จนถึงที่เปลี่ยวแห่งหนึ่ง หัวใจผมเต้นรัว ผมหยุดรถที่มุมตึก

กำลังจะเดินเข้าไปหาเขาที่รถ ผมคิดว่าเขาคงจะเมามาก แต่ภาพที่ผมเห็น มีผู้ชาย

ดึงและกระชากเขาออกมาจากรถ ฟาดเขาด้วยไม้ท่อนโต

ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ปากก็พร่ำตะโกนด่า

แก้แค้น!! แกมาขัดผลประโยชน์ทำไม ผม

แอบมองอยู่ มือสั่น หัวใจแทบหยุดเต้น ผู้ชายคนนั้นคง

เกลียดเขาเข้าไส้ ถึงได้ฆ่าเขาอย่างโหดเหี้ยม

ผมมองไม่เห็นหน้าฆาตกร ตรงนั้นมืดมาก

เขาตาย เลือดไหลนองไปที่พื้น ผม

แทบจะทรุดลงตรงนั้น ผมช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใคร

เป็นคนฆ่าเขา............




 

Create Date : 10 กันยายน 2549
12 comments
Last Update : 10 กันยายน 2549 6:33:45 น.
Counter : 1091 Pageviews.

 

ชอบอ่าน.,.,มากมากคะแตจ๋า.,.ได้แง่คิดดีคะ.,.Thank you for sharing mak mak na ka.,.ขอcoppy เก็บไว้นะนะ

 

โดย: MinnyJa 16 กันยายน 2549 12:58:30 น.  

 

ชอบอะ ชอบมั่กๆ เรื่องไคคือฆาตรกร
เข้าใจเขียนอะ สร้างสรร ดี
เจ๋งคะ

 

โดย: cinderella IP: 124.120.195.21 14 พฤศจิกายน 2551 1:45:40 น.  

 

สร้างสรรค์ดี

 

โดย: ชอบ IP: 202.28.27.3 8 มกราคม 2552 21:07:56 น.  

 

ไม่อยากตื่นจากฝัน เพราะฉันฝันถึงเธอ
ไม่อยากลืมตา เพระกลัวว่า ภาพเธอจะจางหายไป
ไม่อยากจะคิดเลยว่า หลังจากลืมตาขึ้นมานั้น เห็นแต่ภาพ เธอ กับเค้า
ไม่ใช่เธอกับเรา ที่ในฝัน วันนั้น ฉัน?รมาณที่สุด แต่
เชื่อเถอะว่า ฉันจะกลับมามีความสุขได้อีก แม้ไม่มีเธอ
เพราะ ทุกครั้งที่ฉันหลับตา ก็ยังจะมีภาพเธอกับฉันอยู่เช่นนั้น เสมอ
ไม่ว่า จะกี่วัน กี่เดือน หรือจะกี่ปี ขอให้โชคดี ขอให้มีความสุข

ครั้งนึงเมื่อ สามสิบปีมาแล้ว 555

 

โดย: ข้าพเจ้า นาย เด็กนนท์ IT Six Senses IP: 117.121.212.130, 117.121.208.2 22 พฤษภาคม 2552 15:38:48 น.  

 

ชอบเรื่องสองฟากถนนค่ะ

เพราะตอนนี้คนที่เรารัก

ก็กล้วที่จะข้ามถนน

มาหาเราเหมือนกัน

 

โดย: ฝ้าย IP: 203.158.211.80 19 มิถุนายน 2552 14:42:54 น.  

 

กัวการข้ามถนนจิงๆ

แต่ไม่รุ้คนฟากนุ้นเค้าจะกัวเหมือนเรา

หรือว่าไม่คิดจะข้ามเลย กันแน่

 

โดย: sillypor IP: 118.173.242.87 18 กันยายน 2552 16:20:34 น.  

 

Very well.

 

โดย: Rose IP: 118.172.214.177 15 ตุลาคม 2552 20:04:06 น.  

 

=ชอบเรื่องใครคือฆาตกร
ช่างคิดนะ

 

โดย: Nada IP: 58.147.94.130 23 ตุลาคม 2552 14:39:34 น.  

 

ชอบใจเรื่องที่อ่าน

ชอบใจ..หัวข้อเรื่อง..เรื่องดีๆ มีไว้แบ่งปัน

คิดแบบโลภ..

ไหน ๆ ก็แบ่งแล้ว ทำบล๊อคให้ เซฟข้อมูล ได้ง่าย ๆ สมชื่อก็ดี

คิดแบบความเป็นจริง

ของใคร ใครก็หวง

ผ่านไปละ

 

โดย: ผ่านมาเจอ IP: 110.164.202.24 7 มิถุนายน 2553 9:09:28 น.  

 

ทเด นสี

 

โดย: เยสรียว IP: 118.173.244.134 27 กันยายน 2553 13:23:53 น.  

 

คู่เเท้คือคนที่คุฌรอมาลอดชีวิตเเละเขาก็รอคุณมาตลออดชีวิตของเขาเช่นกันเมื่อ

 

โดย: โสวัฒน์ เเสงขาว IP: 118.173.244.134 27 กันยายน 2553 13:27:20 น.  

 

ชอบเนื้อหาของทุกเรื่อง ได้แง่คิดดีดี

 

โดย: แอน IP: 192.168.5.165, 182.53.113.184 18 ธันวาคม 2553 15:20:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สาวชาววัง
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





สารบัญ Weblog
คลิกที่รูปเลย
v







Friends' blogs
[Add สาวชาววัง's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.