My Home Makes Me, Me!
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
13 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

รักเอย...

ผู้ชายนับ 10 ผู้หญิงนับ 0

ผู้ชายนับ10:
ผมเกือบเดินกลับเข้าออฟฟิศแล้วสิ ถ้าไม่เห็นเธอเดินเข้ามา
นางฟ้าของผมวันนี้เธอใส่เสื้อสีขาว กระโปรงชมพู
เธอดูน่ารักเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่นแก้มแดง
ผมเดินเสไปเสมาหาอะไรกินอีกหน่อย ทั้งที่อิ่มจะแย่แล้ว
ทั้งนี้ก็เพื่อเฝ้ามองนางฟ้าเวลาพักเที่ยงของผม
อยากรู้จักเธอจัง ทำไงดีหว่า

ผู้หญิงนับ0:
ฉันสังเกตเห็นเขาตั้งหลายวันแล้วล่ะ คนอะไรก็ไม่รู้
กินเส้นเล็กน้ำเปื่อยได้ทุกวัน ไมรู้จักเบื่อมั่งเลย
หน้าตาเขาตลกดีนะ
นี่ถ้าเขาจะสร้างหนังโดราเอมอนเดอะมูฟวี่
ฉันคงจะ e-mail บอกผู้กำกับ
ให้มาเชิญพี่แกไปเล่นเป็นโนบิตะ

ผู้ชายนับ9:
วันนี้ผมตัดสินใจจะแอบตามเธอไปดูว่าเธอทำงานที่ไหน
เพราะเธอไม่ใช่พนักงานบริษัทเดียวกับผม
แต่ที่แน่ กว่าเธอจะลงมากินข้าวก็เกือบบ่าย
และกว่าจะกลับก็จวนบ่ายสอง
แต่ที่ทำงานเธอคงอยู่แถวนี้แหละ

ผู้หญิงนับ1:
พี่กุ้งชี้หมอนั่นให้ฉันดูแล้วหัวเราะคิกคัก
อีตาโนบิตะนั่นเอง!
เขาทำเป็นเดินโทรศัพท์ตามพวกเรามาห่างๆ
สงสัยพี่แกจะแอบชอบใครสักคนในกลุ่มเราแน่ๆเลย
(สงสัยจะเป็นพี่กุ้งแฮะ ก็เธอสวยออกซะงั้น)
เอ.. เอาเข้าจริงๆอีตานี่มองมุมเฉียงก็ดูดีเหมือนกันนะ

ผู้ชายนับ8:
เธอทำงานแถวนี้จริงๆด้วย
เธอทำงานอยู่ในสถานฑูตแห่งหนึ่งในหลายแห่งแถวนั้น
แต่เป็นหน่วยงานย่อยเกี่ยวกับวัฒนธรรมและความร่วมมือ
และเป็นโรงเรียนสอนภาษาไปในตัวด้วย
โรงเรียนสอนภาษาเหรอ...เออ เข้าท่า

ผู้หญิงนับ2:
อีตาโนบิตะถ้าจะเอาจริงแฮะ!
วันนี้บุกมาถึงที่เลย มาหยิบโบรชัวร์อะไรให้วุ่นเลย
อยากรู้เหมือนกันนะว่าแกจะมาจีบใคร

ผู้ชายนับ7:
พักเที่ยง ผมยังไม่ไปกินข้าว
แต่เดินมานั่งกินกาแฟอยู่ที่ Cafe ของสถานฑูต
รอนางฟ้าเสด็จลงมาเสวยภักษาหาร
หัวใจผมเต็มแรงขึ้นเรื่อยๆ..
ที่นี่เขาใช้กาแฟพันธุ์อะไรมาชงเนี่ย
เมื่อเธอลงมา คราวนี้ผมจะต้องชวนเธอคุยให้ได้

ผู้หญิงนับ3:
"นี่พี่กุ้ง อีตาโนบิตะมารอพี่แหน่ะ
นั่งกินกาแฟอยู่ที่คาเฟ่ด้วย"
"จริงง่ะ! เขาสมัครเรียนอะไรรึเปล่าอ่ะหนิง"
"ไม่หรอกพี่ เขามารอพี่อะแหละ
สงสัยวันนี้พี่กุ้งไม่ได้กินข้าวกับพวกหนูแล้วล่ะ"
"บ้า!! เหลวไหล"

ผู้ชายนับ6:
"คุณครับ ทำงานที่นี่ใช่หรือเปล่าครับ"
ผมเดินเข้าไปถามเธอ
"ผมสนใจจะเรียนภาษาฝรั่งเศสครับ แต่มีคอร์สไหน
สำหรับคนที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างผมมั่งไหมครับ"

ผู้หญิงนับ4:
อีตาโนบิตะเค้าเข้ามาคุยกับฉัน!!! เขาถามฉัน!!!
เขามารอฉันหรอกเหรอเนี่ย
แล้วอย่างนี้ทุกวันที่เขามองก็.... หวาย..

ผู้ชายนับ5:
วันนี้เธอน่ารักเป็นพิเศษขึ้นอีกหลายเท่า
แก้มงี้แดงน่ารักเชียว
เธอบอกให้เพื่อนคนอื่นไปทานข้าวกันก่อน
ส่วนเธอยอมเข้ามาคุยกับผมใน Cafe
และแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียนให้ฟัง

ผู้หญิงนับ5:
พี่กุ้งน่ะสิ ทำขยิบหูขยิบตาให้ฉันคุยกับเขา
จะบ้าเหรอ แต่ก่อนที่ฉันจะทันตอบอะไรได้
พี่กุ้งก็ชิงบอกว่า
"อ้อ..ยินดีค่ะ มีอะไรก็ปรึกษาน้องหนิงได้นะคะ
น้องเขาดูแลเรื่องนี้อยู่พอดีค่ะ"

ผู้ชาย-ผู้หญิง
"คุณ...เคยเรียนภาษาฝรั่งเศสมาบ้างหรือเปล่าคะ"
"ไม่เคยครับ เอ้อ..ผมชื่อเอกครับ"
"หนิงค่ะ"
"หนิงทำงานที่นี่นานหรือยังครับ
หนิงจบเอกภาษานี้มาเหรอครับ"
"ค่ะ หนิงเพิ่งจบได้ปีเดียวเอง"
"ขอผมเลี้ยงข้าวนะครับ หนิงอุตส่าห์คุยกับผมตั้งนาน
อดไปกินข้าวกับเพื่อนเลย"
"อุ๊ย อย่าเลยค่ะ ในนี้แพงออก ไว้คราวหน้าดีกว่าค่ะ"
คราวหน้า!!! คราวหน้า
ได้ยินกันไหมครับ ท่านผู้ฟัง เข้าทางผมเลย
"คุณหนิงมีเบอร์มือถือไหมครับ
ยังคุยไม่จบเลย พอดีผมต้องกลับไปทำงานแล้ว"
บ้า!!! ฉันพลาดไปได้ไงอ้ะ!!
"อ้อ ก็.. เอ้อ.. มีค่ะ 0 8 1 6 1 5.."
ให้เบอร์เค้าไปทำไมอ่า.. แง๊ๆๆ
ฉันจิกกระดาษทิชชู่ในมือจนเละเป็นปุยเหมือนปลาดุกฟู

ผู้ชายนับ4:
ผมคุยกับน้องหนิง(เธออ่อนกว่าผมสี่ปี)
สองสามคืนติดต่อกัน คืนละหลายชั่วโมง
ตอนกลางวันก็ไปนั่งกินข้าวด้วยกัน
แต่ก็ได้แค่นั้นเองง่ะ...
พอจวนบ่ายสองก็แยกย้ายกันไปทำงาน
เคยลองชวนไปดูหนังแต่เธอก็บอกไม่อยากดู
ตอนเย็นก็ต้องรีบกลับบ้าน
ไปนั่งที่ไหนต่อก็ไม่ได้
สงสัยกลับบ้านช้าแม่จะดุล่ะมั้ง..

ผู้หญิงนับ6:
พี่ๆล้อว่าฉันเป็นแฟนอีตาโนบิตะ เอ๊ย พี่เอก
ไม่ใช่ซะหน่อย ก็แค่เพื่อนคนนึง ทำงานอยู่ใกล้ๆกัน
ตอนกลางวันต่างคนต่างก็ต้องกินข้าวอยู่แล้ว
ให้เขากินด้วยอีกคนจะเป็นอะไรไป
แต่พี่เอกเค้าคุยสนุกดีเหมือนกันนะ
ฟังเขาคุยทีเพลินเลย บางทีนึกว่าคุยแปปเดียว
ที่ไหนได้ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน

ผู้ชายนับ3:
น้องหนิงน่ารักจริงๆและเธอเป็นนางฟ้าจริงๆ
เธอช่างมองโลกในแง่ดี
สวยงาม และใสสะอาด เสียจนผมละอาย..
ผมเริ่มได้คิดว่า ผมเหมาะกับเธอหรือเปล่า
ผมสามารถใช้ชีวิตแบบเธอได้ไหม
การเลี้ยงดูของเรามันต่างกันเหลือเกิน
เธอไม่เคยพบกับความยากลำบาก
และสิ่งอันชั่วร้ายอะไรในโลกเลย...
ถ้าเธอเป็นนางฟ้าจริงๆ
ส่วนผมน่ะเหรอ เรียกว่าคนเดินดินยังยากเลย
เธอเรียนจบจากโรงเรียนสตรีชื่อดัง
จบมหาวิทยาลัยของรัญที่มีชื่อเสียง
และเข้าทำงานกับสถานฑูต
ส่วนผมน่ะเหรอ... อย่าให้เล่าเลยคุณ ยาว

ผู้หญิงนับ7:
พี่เอกนี่มีอะไรมากมายกว่าที่ฉันคิดแฮะ
พี่เขาผ่านอะไรต่ออะไรในชีวิต
มามากมายกว่าที่จะนึกถึง
เขาไม่เหมือนใครที่ฉันเคยรู้จักเลย
เขาเริ่มต้นจากเด็กเกเรคนหนึ่ง
ลองมาหมดแล้วอะไรแสบๆทั้งหลาย
เหล้า ยา การพนัน เคยเข้าบ้านเมตตาก็เคย
แต่แล้วเขาก็สมารถตั้งใจเรียนจนจบ
ทั้งการศึกษานอกโรงเรียน
และเรียนมหาวิทยาลัยเปิด
จนจบด้วยตัวเองตลอด
และเข้าทำงานในบริษัทใหญ่ขนาดนี้ได้
ในตำแหน่งและเงินเดือนที่ไม่น้อยทีเดียว
ฉันทึ่งในชีวิตของพี่เขาเหลือเกิน

ผู้ชายนับ2:
วันนี้ตอนเช้า ผมซื้อดอกไม้ให้เธอ...
เพราะรู้ว่าเธอจะมีแจกันเล็กๆ
ที่ใส่ดอกกุหลาบน่ารักๆเอาไว้บนโต๊ะทำงานเสมอ
แต่เธอรับไปแล้วก็ไม่ว่าอะไรสักคำ...
ตอนเที่ยงผมไปหาเธอที่ห้องทำงานตามปกติ
ดอกไม้บนโต๊ะทำงานเป็นดอกเดียวกับที่ผมเห็นเมื่อวาน...
เธอไม่ได้เอาดอกไม้ที่ผมให้มาปักแจกันหรือนี่...
สงสัยดอกไม้ถูกๆช่อเล็กๆ ซื้อที่สถานีรถไฟฟ้าแบบนี้
มันคงจะไม่ถูกใจเธอละมั้ง

ผู้หญิงนับ8:
พี่เขาให้ช่อดอกไม้เล็กๆกับฉันล่ะ..
มันน่ารักจนฉันพูดอะรไม่ออกเลย
แม้แต่คำว่าขอบคุณ...
สงสัยฉันต้องรีบไปหาซื้อซิลิก้าเจล
มาเก็บดอกไม้นี่เสียแล้วสิ..
ไม่อยากให้มันเฉาไปเลย

ผู้ชายนับ1:
ผมพยายามที่จะยอมรับความจริง
ว่าผมกับเธอนั้นแตกต่างกันแค่ไหน..
นางฟ้าก็มีไว้สำหรับคนบนฟ้า..ผมคิด
ผมพยายามทำงานให้หนักขึ้น
กลับมาสู้โลกแห่งความเป็นจริงเหมือนเดิม
และคุยกับเธอให้น้อยลง
(หรือถ้าให้ถูก เธอเองก็ไม่ค่อยจะโทร
หาผมสักเท่าไรแล้วช่วงนี้)
ผมจะจำเธอไว้ในฐานะ
ความทรงจำที่สวยงามแล้วกัน

ผู้หญิงนับ9:
เพื่อนฉันที่ทำงานบริษัทเดียวกับพี่เอกบอกว่า
ช่วงนี้พี่เขาทำงานหนักมาก..
บางวันสี่ทุ่มก็ไม่ยอมกลับบ้าน มาถึงก็ก่อนแปดโมง
ฉันก็เหงานะ แต่เราก็ชอบที่พี่เขาเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ
ผู้ชายที่มีพลังและความรับผิดชอบ ที่พุ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา
สิ่งที่ฉันทำได้ คือให้เขาทำสิ่งที่เขาตั้งใจนั้น
อย่างเต็มที่โดยไม่ขัดขวางหรือแง่งอน..
ถึงจะไม่ได้พูดคุยกับพี่เขาบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ..
ไว้ถ้าพี่เขาว่างๆคราวนี้ถ้าจะชวนไปดูหนัง
หรือกินข้าวเย็นบ้าง ฉันจะไปล่ะนะ

ผู้ชายนับ0:
ผมทำงานจนเกือบบ่ายสองแล้วนึกได้ว่าลืมกินข้าว
"พี่เอกคะ ทานข้าวมั่งปะเนี่ย"
น้องออยเด็กฝึกงานมาถามผมด้วยความเป็นห่วง
"ออยไปซื้อให้ไหมคะ"
"ไม่เป็นไรหรอกพี่ไปกินเองก็ได้ แล้วออยล่ะกินหรือยัง"
เธอสั่นหน้าแทนคำตอบ
"งั้นไปกินข้าวกับพี่ไหม..พี่เลี้ยงเอง"
น้องออยพยักหน้าตอบรับ..
เออ วันนี้น้องออยแก้มชมพูเลย

ผู้หญิงนับ10:
"พี่กลับไปก่อนนะหนิง"
"ค่ะ เดี๋ยวหนูรอแถวนี้อีกแป๊บนึงแล้วกันนะ"
พี่เอกคงงานยุ่งจนไม่ได้ออกมาทานข้าว
วันนี้แหละ ถ้าพี่เอกชวนฉันไปดูหนัง ฉันจะไปดูกับเขา



10 เหตุผลที่ความรักเหมือนขนมเค้ก

1. ขนมเค้ก.. มองเผินๆก็จะเห็นแต่ความหอมหวาน น่าลิ้มลอง
2. มองนานๆก็จะยิ่งอยากกิน
3. แต่ความอร่อยของขนมเค้กไม่ได้วัดกันที่ความสวยงามของหน้าตา
4. และความรักก็ต้องมองให้ลึกลงไป
5. ขนมเค้กจะสมบูรณ์แบบ ต้องมีเนื้อเค้กที่อร่อยจริง
6. เพราะถ้าเลือกกินแต่ครีมที่แต่งหน้าก็จะเลี่ยน
7. และถ้าเลือกมองแต่ความสวยงามภายนอก ก็จะได้รู้จักแต่ความรักอย่างผิวเผิน
8. เหมือนที่ไม่ได้รู้จักความอร่อยของเนื้อเค้ก
9. กว่าจะมาเป็นขนมเค้กที่สมบูรณ์แบบได้ ต้องใส่ใจในทุกส่วนประกอบ
10. และกว่าจะเป็นความรักที่สมบูรณ์แบบได้... ก็เช่นกัน



หนังสือความรัก

อย่าตัดสินหนังสือว่าดี แค่ปกสวยๆ
☺ อย่าบอกว่าน่ารักเหลือเกิน แค่คุยกันหนเดียว ☺
คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเลย ใช่ว่าจะมีหนังสือเล่มแรกที่ชอบไม่ได้
☺ คนที่บอกว่าจะไม่แต่งงาน มักแซงหน้าแจกการ์ดก่อนคนอื่นเสมอ ☺
อย่าตกใจเมื่ออ่านหนังสือระดับ Best Seller แล้วไม่ชอบ
☺ ถ้ารักคนๆเดียวกับที่คนอื่นรัก คงแย่งกันน่าดู ☺
อย่าเสียดายเวลา ถ้าอ่านหนังสือบางเล่มจบแล้วพบว่าไม่ใช่แบบที่ชอบ
☺ จงรู้สึกดีกับการใช้เวลากับใครสักคนหนึ่งอย่างเต็มที่ ☺
เพราะอย่างน้อยที่ผ่านมา ย่อมต้องมีช่วงเวลาที่มีความสุขอย่างแน่นอน
☺ แม้วันหนึ่งจะรู้ว่า เขาหรือเธอคนนั้นไม่ใช่เลยสักนิด ☺
เพราะอย่างน้อยเราก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น
☺ และพร้อมที่จะตามหาคนของเราต่อไป ☺
การอ่านหนังสือสักเล่ม ต้องใช้เวลา
☺ เราไม่สามารถรู้จักใครสัดคนได้ดีตั้งแต่วันแรก ☺

หนังสือมีสิ่งต่างๆหลากหลายให้ศึกษา
ทดลองอ่านดูก่อนที่จะตัดสินว่าน่าเบื่อ
บางครั้ง สิ่งที่เราไม่เห็นประโยชน์และมองผ่านมันไป
วันหนึ่งมันอาจจะมีค่าสำหรับเรา
แล้วในตอนจบจะรู้ว่า หนังสือประเภทไหนเหมาะกับเราที่สุด


เหมือนกับความรัก
ทุกครั้งที่เรามีความรักกับใครสักคนนั้น
แม้ทุกอย่างจะเดินมาถึงจุดจบ
แต่คนทั้งคู่ย่อมได้รับอะไรจากสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาโดยไม่รู้ตัว

อย่างน้อยที่สุดก็ได้บทเรียนที่มีค่าเพิ่มอีกหนึ่งบทเรียน
ที่จะนำไปสร้างความรักครั้งใหม่ที่มีรากฐานที่ดีกว่าที่ผ่านมา

สำหรับฉัน "ความรัก"
เปรียบเสมือนการได้อ่านหนังสือหลายๆเล่ม
แต่ละเล่มที่ผ่านไป สอนให้ฉันเข้มแข็ง
สอนให้ฉันรู้จักโลกที่เป็นจริง
และสอนให้ฉันรู้จักใจของตัวเอง

แม้ว่าตอนจบของแต่ละเล่มจะไม่สมใจ
แต่ฉันก็ไม่คิดจะหยุด ท้อ หรือกลัวที่จะค้นหา
ฉันจะอ่านต่อไป จนกว่าจะเจอ "หนังสือของฉัน"

คุณล่ะ เจอรึยัง? หนังสือของคุณ
ถ้าเจอแล้ว อย่าลังเลที่จะหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน
อย่ากลัวที่จะเสียเวลาและผิดหวัง
ไม่แน่นะเล่มที่อยู่ในมือคุณตอนนี้
อาจจะตรงกับความรู้สึกของคุณที่สุดก็ได้



คำคม..คำรัก

Never say I love you
If you don't really care
อย่าพูดว่ารัก ถ้าคุณไม่ได้สนใจจริงจัง

Never talk of feelings
If they aren't really there
อย่าพูดถึงความรู้สึก ถ้าคุณไม่ได้อยู่ที่นั่นจิงๆ

Never hold my hand
If you mean to break my heart
อย่าจับมือฉัน ถ้าคุณหมายถึงจะทำลายจิตใจฉัน

Never say forever
If you ever plan to part
อย่าพูดว่าชั่วชีวิต ถ้าคุณคิดจะจากไป

Never look into my eyes
If you are telling me a lie
อย่ามองตาฉัน ถ้าคุณกำลังโกหกฉันอยู่

Never say hello
If you think you'll say goodbye
อย่าเอ่ยทักทาย ถ้าคุณคิดจะบอกว่าลาก่อน

Never say that I'm THE one
If you dream of more than me
อย่าพูดว่าฉันเป็นหนึ่งเดียว
ถ้าคุณฝันถึงอีกหลายๆ คนนอกจากฉัน


Never lock up my heart
If you don't have the key
อย่าปิดหัวใจของฉัน ถ้าคุณไม่มีกุญแจ



อ่านโดยใช้หัวใจ..แทนสายตา



การรักและไม่ได้รับรักตอบ เป็นทุกข์
แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่า คือการรักใครสักคน
แต่ไม่มีความกล้าพอ ที่จะบอกให้คนคนนั้นรู้
และต้องมาเสียใจภายหลัง



ความรัก คือ ความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่
แม้จะแยกความรู้สึก ความลุ่มหลง
และความสัมพันธ์แบบรักใคร่ออกไปแล้ว



สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต คือการพบคนที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเรา
แต่มาค้นพบภายหลังว่า เราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อสิ่งนั้น
และจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป



เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง
ประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้น
แต่เราก็มัวแต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนาน
จนกระทั่งเรามองไม่เห็นประตูแห่งความสุขบานอื่นที่เปิดไว้รอ



เพื่อนที่ดีที่สุด คือ คนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกัน
โดยไม่พูดอะไรกันสักคำ แต่สามารถเดินจากไป
ด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด



เป็นความจริง ที่เราไม่สามารถรู้เลยว่าเรามีอะไรอยู่
จนกว่าเราจะสูญเสียมันไป... แต่ก็จริงอีกเช่นกัน
ที่เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้าง
จนกระทั่งผลของสิ่งนั้นเข้ามาหาเรา



การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคน
ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ
อย่าหวังที่จะได้รักตอบ
แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา
แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ก็ให้พอใจว่า อย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้น
ในใจของเราเอง



มีสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน
แต่คุณจะไม่ได้ยินมันจากปากของคนที่คุณอยากได้ยิน
แต่อย่าทำตัวเป็นคนหูหนวก
โดยไม่รับฟังสิ่งนั้นจากคนที่เขาบอกกับคุณจากหัวใจ



อย่าบอกลา ถ้าคุณยังต้องการจะพยายามต่อไป
อย่าท้อใจถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไปไหว
อย่าพูดว่าคุณไม่รักคนคนนั้นอีกแล้ว
ถ้าคุณยังไม่สามารถ "ทำใจ"



ความรักมักมาเยือนผู้ที่ยังคงหวัง
ถึงแม้ว่าจะผิดและมาเยือนผู้ที่ยังคงเชื่อ
ถึงแม้ว่าจะถูกทรยศหักหลัง
และจะมาเยือนผู้ที่ยังคงรัก
ถึงแม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน



อย่ามองใครจากหน้าตา
เพราะมันอาจหลอกเราได้
อย่ามองใครจากความร่ำรวย
เพราะมันไม่จีรังยั่งยืน
ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้
เพราะเพียงยิ้มเดียว
สามารถทำให้วันที่หม่นหมองกลับสดใส



การที่เราจะประทับใจใครนั้น
อาจใช้เวลาแค่เพียงนาที
การที่เราจะชอบใคร
อาจใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมง
การที่เราจะรักใคร
อาจใช้เวลาเพียงชั่ววัน
แต่การที่จะลืมใครนั้น
ต้องใช้เวลาชั่วชีวิต



ขอให้คุณมีความสุข
มากพอที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนหวาน
ผ่านการทดสอบมา
มากพอที่จะทำให้คุณเข้มแข็ง
มีความเศร้าโศกพอ
ที่จะทำให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์
และมีความหวังมากพอ ที่จะทำให้คุณเป็นสุข



เอาใจเขามาใส่ใจเรา
ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งนั้นจะทำให้คุณเจ็บปวด
รู้ไว้เถอะว่าคนอื่นก็เจ็บปวด
จากสิ่งเดียวกันเช่นกัน



จุดเริ่มของความรักคือ
การปล่อยให้คนที่เรารักเป็นตัวของตัวเอง
อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา
มิฉะนั้นจะหมายความว่า
เราต้องการเพียงภาพสะท้อนของตัวเรา
ที่ปรากฎในตัวเขา


คนที่มีความสุขที่สุด
ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด
เพียงแต่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามี
ให้ดีที่สุดได้ต่างหาก



อนาคตที่สดใส
มีรากฐานอยู่บนอดีตที่ถูกลืม
คุณไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ดี
ถ้าหากไม่รู้จักปล่อยวาง
จากความผิดพลาดในอดีต และความปวดใจ



คุณร้องไห้ตอนคุณเกิด
ในขณะที่คนรอบข้างกำลังยิ้ม
จงมีชีวิตอยู่เพื่อเมื่อตอนคุณตาย
คุณจะเป็นคนที่ยิ้ม
ในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้คุณ...


จากกันทั้งที่ยังรัก.. ดีกว่าต้องอยู่ถึงวันที่ไม่รักกัน..

ความรักถึงทางแยก….ทุกอย่างถึงจุดอิ่มตัว…
..เรายอมจากลากัน
ดีกว่าต้องรอถึงวันที่เราสูญเสียความรู้สึกดีๆที่ให้กัน..

จากทั้งๆที่ยังรักกัน ดีกว่าต้องอยู่ถึงวันที่เราต้องเกลียดกัน

..ไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้หมายความว่า…
จะห่วง…จะคิดถึงกันน้อยลง
นี่อาจจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
และเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจะให้แก่กัน…

ก็รู้ว่าคงมีซักวัน ที่ฉันต้องบอกไป
แต่วันนี้ยังทำใจไม่ได้ คือคำว่าลาก่อน

..เราเคยมีวันคืนที่ดี มีเธอ และมีฉัน

เราเคยมีใจที่ให้กัน..

ก็คิดว่าแน่นอน

แต่เราก็เดินมาถึงตอน

ที่เป็นฉากสุดท้ายแล้วใช่ไหม?

ไม่อยากเป็นคนต้องบอกลา

แค่คิดฉันก็ยิ่งปวดใจ
เก็บเอาความรู้สึกดีๆ
ส่งเธอเลยตรงนี้จะได้มั้ย

ส่งไกลแค่ไหนเราก็ต้องลาอยู่ดี
ก่อนเราจากกันฉันควรจะหยุดเท่านี้น้ำตาที่มี
ให้เธอโชคดี ให้เธอปลอดภัย ทุกอย่าง
จะส่งที่ไหน ฉันคิดว่าคงไม่ต่าง ยังไงก็เจ็บเหมือนกัน

ดูแลตัวเธอเองให้ดี จากนี้ไม่มีฉัน

เจอใครยังไงไม่สำคัญ อย่าลืมกันก็พอ
จากนี้ไปคงไม่ต้องรอ แค่สิ่งเดียวที่จะขอ ครั้งสุดท้าย...




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2552
6 comments
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2552 1:39:35 น.
Counter : 876 Pageviews.

 

ข้อคิดดีๆๆๆๆๆ เกี่ยวกับความรักเยอะแยะเลยค่ะ

กำลังนั่งใช้หัวใจอ่านอยู่


บล็อคน่ารักจังเลยค่ะ ชอบบบ

 

โดย: oRanGIsM 13 ตุลาคม 2552 0:33:25 น.  

 

ได้คิดอะไรหลายอย่างเหมือนกันครับ
ขอบคุณท่แบ่งปันครับ

 

โดย: RN.BELOVED 13 ตุลาคม 2552 1:19:13 น.  

 

ขอบคุณที่เอามาให้อ่านค่ะ

 

โดย: แสนดีคนในพื้นที่ 13 ตุลาคม 2552 9:44:25 น.  

 

โดนเลยค่ะ

 

โดย: บางส้มเปรี้ยว 13 ตุลาคม 2552 12:20:58 น.  

 

ซึ้งมากมากเลยค่ะชอบมากๆ ขอบคุณนะคะที่ทำให้หนูได้รู้จักคำว่า รักมากขึ้น





 

โดย: นิด หัวกุญแจ IP: 180.180.87.14 11 กุมภาพันธ์ 2553 21:10:06 น.  

 

ทุกคำทุกตอน โดนหัวใจสุดๆ

 

โดย: แสนดี IP: 124.120.227.45 19 มกราคม 2555 17:16:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สาวชาววัง
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





สารบัญ Weblog
คลิกที่รูปเลย
v







Friends' blogs
[Add สาวชาววัง's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.