"ไฮดี มอนแทค"สาวศัลยกรรมบอกลาสามีหลังโดนล้างสมองหนัก
"ไฮดี มอนแทค"สาวศัลยกรรมบอกลาสามีหลังโดนล้างสมองหนัก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2553 09:25 น.
หลังจากที่แต่งงานควงคู่โชว์หวานจนกลายเป็นคู่เลี่ยนของฮอลลีวูด ล่าสุดมีรายงานว่า "ไฮดี มอนแทค" และ "สเปนเซอร์ แพรทท์" โบกมือลากันเป็นที่เรียบร้อย หลังลือว่าฝ่ายสาวเริ่มทนไม่ได้เหตุโดนกดดันอย่างหนักจนเหมือนถูกล้างสมอง โฆษกส่วนตัวของ ไฮดี มอนแทค ได้ออกมายืนยันข่าวการแยกทางครั้งนี้ของทั้งคู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระบุว่า "จริงค่ะ พวกเขาแยกทางกันแล้ว เป็นเหมือนที่พวกคุณคิดนั่นแหละว่าตอนนี้มันแย่มาก เธอพยายามที่จะให้มันเงียบมากที่สุดในช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้ แต่ที่ฉันพูดได้มากสุดในเวลานี้คือ พวกเขาแยกทางกันในตอนนี้ แต่ยังไม่หย่า" ซึ่งแหล่งข่าวที่เป็นเพื่อนของคู่รักรายนี้ระบุว่าความเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขามีมานานแล้ว "มันไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น" ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ไฮดี เพิ่งขึ้นข้อความทวิตเตอร์ของเธอว่า "ฉันไม่ใช่ ไฮดี แพรทท์ แต่ฉันคือ ไฮดี มอนแทค" บางรายงานระบุว่าสเปนเซอร์ ได้กดดันภรรยาของเขามากเกินไปหลังจากที่บอกให้เธอผ่าตัดศัลยกรรม 10 ครั้งภายในวันเดียว แต่บางสื่อก็ยืนยันว่าการศัลยกรรมนั้นเป็นการตัดสินใจและเป็นความต้องการของตัวไฮดีเองแทบทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ได้มีการลือกันว่าสเปนเซอร์ ถึงขั้นห้ามไม่ให้ภรรยาของเขาดูทีวีและไม่ให้ออนไลน์ในโลกไซเบอร์ด้วย "เขาล้างสมองเธอ เขาทำให้เธอหันหลังให้กับครอบครัวของตัวเอง" แหล่งข่าววงในกล่าวหลังจากที่มีข่าวว่าพฤติกรรมของพวกเขาเริ่มแปลกๆ นับจากที่จ้างอดีตทหารเรือมาช่วยคุ้นกันรอบบริเวณบ้านของพวกเขาในลอสแองเจลิส และจ่ายเงินไปกว่า 400,000 เหรียญเพื่อคุ้นกันเครื่องแก้วคริสตัลของพวกเขาและสาว ไฮดี ถึงขั้นโทรเรียกตำรวจให้มาจับ ดาร์ลีน เอเกลฮอฟฟ์ แม่ของเธอที่มาปรากฏตัวที่บ้านของเธอโดยไม่ได้นัดกันมาก่อนด้วย แต่สำหรับข่าวลือดังกล่าว ในรายการเรียลลิตี้ที่สาวไฮดีร่วมรายการ เธอเคยพูดถึงเรื่องนี้ว่าสามีอาจจะมีห้ามเธอในบางเรื่องแต่ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเธอแต่อย่างใด "ผู้ชายทุกคนก็ต้องมีชอบบงการบ้างเล็กๆน้อยๆ" สาวศัลยกรรมกล่าว ในส่วนของชีวิตคู่ก่อนหน้านี้ ไฮดี เคยทวีตข้อความของเธอในทวิตเตอร์ว่า "ตลอดไป!!!" หลังจากที่เธอแต่งงานกับสเปนเซอร์ ซึ่งก่อนหน้านั้นทั้งคู่เคยหนีออกมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วตั้งแต่เดือน พ.ย. ปี 2009 ท่ามกลางการคัดค้านของผู้เป็นแม่ หลังจากนั้น ดาร์ลีน เอเกลฮอฟฟ์ ก็ยอมใจอ่อนหลังเชื่อว่าลูกสาวรักเขามากจริงๆ "เขาเป็นผู้ชายในแบบที่เธอฝันมาตลอดทั้งชีวิต เธอใฝ่ฝันมาเสมอว่าอยากจะแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย และเธอก็ได้แต่ภาวนา อธิษฐานให้ได้เจอใครสักคนเหมือนเขา"
ขอบคุณที่มา ผู้จัดการออนไลน์ //www.manager.co.th
Create Date : 31 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 1:32:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 368 Pageviews. |
|
|
|
|
|