Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
2. กำแพงแห่งความเงียบ

“เฮ้.. เฟริน ทางนี้” เสียงคิลตะโกนเรียก เมื่อเห็นสาวน้อยที่แต่งตัวทะมัดทะแมงแบบผู้ชายเดินเข้ามาในโรงอาหารดรากอน

หญิงสาวเดินหน้ามุ่ยมาตามเสียงเรียก แล้วกระแทกตัวลงนั่ง ตรงข้ามกับนักฆ่านัยน์ตาสีม่วง

“ปวดหัวฉิบ นายไม่ปวดหัวเหรอ”

“มีบ้างนิดหน่อย กินอะไรร้อนๆ ค่อยยังชั่วแล้ว”

“แล้วนี่คาโลไปไหน”

“มันตื่นแต่เช้า หรือไม่ได้นอนไม่รู้ เมื่อคืนตี 2 แล้วมันยังยืนกินลมอยู่ที่สวนเลย แล้วเช้านี่ก็กินอิ่มแล้ว ไปแล้ว เห็นว่าต้องไปสรุปงานทั้งหมดให้เสร็จ”

“วะ วันนี้ทำไมมันไม่รอเนี่ย ทุกทีเห็นสายกว่านี้ก็รอนี่หว่า” เฟรินบ่นหงุงหงิง

คิลมองหญิงสาวตรงหน้าที่บอกว่าปวดหัวแต่ยังคงเจริญอาหาร บ่นไปกินไป อย่างใช้ความคิดก่อนที่จะเอ่ยขึ้น

“เมื่อคืนนายไปแกล้งอะไรคาโลมันอีกรึเปล่า?”

“เฮ้ย.. เปล่านะ ฉันจำได้ว่า ฉันหลับตั้งแต่ยังไม่ถึงป้อมด้วยซ้ำ ทำไม ไอ้เจ้าชายน้ำแข็งนั่นมันว่าอะไรชั้นอีก” เฟรินเงยหน้าจากจานอาหารขึ้นมาสบตากับสายตายิ้มๆจากคิล

เขาเฝ้ามองความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายน้ำแข็งกับเจ้าหญิงนักก่อเพลิงตัวยงที่ใครๆก็ว่าไม่น่าจะคู่กันได้ แต่ความรักระหว่างทั้งคู่ที่เขาไม่แน่ใจว่ามันเริ่มขึ้นตอนไหน มันก็ทักทอสายใยรัก และความผูกพันมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าฝ่ายหญิงจะปากมีปัญหาไปบ้าง อย่างเช่นตอนนี้

“ไม่นี่ ไม่เห็นคาโลมันว่าอะไรนายเลย แฟนนายจัดการเองแล้วกัน”

หญิงสาวหน้าสีเรื่อขึ้นเล็กน้อยแล้วแยกเขี้ยวงุด อย่างขัดใจกับคำพูดของคนตรงหน้าแต่ทำอะไรไม่ได้

------------------- * ----------------------- * --------------------------

ตั้งแต่เช้าที่เขามานั่งที่ห้องสมุดเพื่อสรุปงานให้เสร็จ เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้ว งานแทบไม่คืบหน้าจากเมื่อคืนก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ยังคงรบกวนสมาธิเค้าจนถึงวินาทีนี้ เขาตัดสินใจพักสักครู่ ขณะกำลังจะเดินออกนอกห้องสมุด เขาก็เจอกับตัวปัญหา

“คาโล ฉันเดาถูกจริงๆด้วย ว่านายต้องอยู่ห้องสมุด” เฟรินส่งรอยยิ้มสดใส นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตสบกับนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยเพียงครู่เดียว นัยน์ตาสีฟ้าก็เบือนหนี

“นายมีอะไร ฉันกำลังยุ่ง”

“พรุ่งนี้จะสอบอยู่แล้ว นายติวให้หน่อยซิ”

“ให้เรนอน มาทิลด้า หรือ แองเจลีน่า ติวให้แล้วกัน หรือไม่คิงชามัลก็ได้ ปกติเค้าติวให้นายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” คาโลพูด พร้อมส่งสายตาเย็นเยียบมายังคนฟัง ทำเอาคนฟังใจแป้วไปไม่น้อย แต่ก็ยังยิ้มสู้

“แม่ 3 สาวนั่นขี้บ่นจะตาย กว่าจะสอนให้ก็ต้องบ่นจนฉันหูแฉะ ส่วนตาคิงชามัลนั่น ถ้าไม่ใช่ไฮคิงสั่งเสียไว้ เค้าคงไม่สอนฉันหรอก แถมสอนทีจะให้จำได้ทั้งเล่ม ใครมันจะไปจำได้ฟะ อยากได้เฉพาะเก็งแม่นๆ ออกเจ๋งๆน่ะ คาโล” หล่อนพูดพร้อมกับพยายามก้าวยาวๆให้ทันกับร่างสูงที่ไม่ยอดหยุดคุยกับเธอ เฟรินเอื้อมมือออกไป หวังจะรั้งแขนของร่างสูงให้เดินช้าลง

“ไม่ได้ ฉันไม่ว่าง” คำปฏิเสธที่ไร้เยื่อใย และการสะบัดการเกาะกุมของเธอออกอย่างแรง ไม่แม้แต่จะหันมามองเธอ ทำเอาขาเฟรินที่กำลังก้าวหยุดชะงัก ปล่อยให้ร่างสูงที่เดินไปจนลับตา

เธอทำอะไรให้เขาโกรธ ตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อคืนนี้ที่บาร์ เขาก็ไม่เห็นโกรธขนาดนี้เลยนี่นา

การพยายามสงบใจ เมื่อสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นั้นมันเป็นเรื่องยากลำบาก ยิ่งเมื่อเธอขยับเข้ามาใกล้ชิด จนรู้สึกถึงไออุ่นจากกายเธอ ความอ่อนหวานในอกก็พลุ่งพล่านขึ้นมาอีก พร้อมกับความรู้สึกรับผิดชอบ เขาต้องจัดการอะไรบางอย่างกับความรู้สึกนี้ ก่อนที่จะใกล้ชิดเธออีกครั้งด้วยความรู้สึกที่มั่นคง และหนักแน่น เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่เอาเปรียบเธอเมื่อคืนไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

แม้ว่าการสอบในแต่ละวิชาจะผ่านไปอย่างยากลำบาก แต่สำหรับคนที่สบายๆเรื่องการสอบอย่างเฟรินแล้ว การที่จะได้พูดคุยกับคาโลเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก

“คอยดูนะ ถ้าฉันสอบตก ฉันจะอัดมันให้น่วมเลย” เสียงเฟรินบ่งบอกอารมณ์เสียสุดขีด จากความกังวลที่สะสมอยู่หลายวัน

“บ่นอะไร จะไปอัดใครอีกหา แม่ตัวยุ่ง” คิลที่นั่งอยู่ตรงข้าม เงยหน้าขึ้นถามอย่างงงๆ กับประโยคที่ลอยขึ้นมา หลังจากที่สาวน้อยนั่งเหม่อมานานสองนาน

“ก็จะใครล่ะ ก็เพื่อนสนิทนาย เจ้าชายภูเขาน้ำแข็งนั่นไงล่ะ”

“คาโลไปทำอะไรให้นายเหรอ ไม่ใช่ว่าป่านนี้ยังยุ่งกับการสรุปรายงานอยู่ที่ห้องสมุดล่ะมั้ง” คิลพูดพลางก้มลงตักอาหารเข้าปากอีกครั้ง

“ก็ไม่ทำอะไรเลยน่ะซิ ไม่มาหา ไม่พูด ไม่แม้แต่จะมองหน้าฉัน”

“นายไปแกล้งอะไรมันอีกรึเปล่า” คิลพูดพร้อมส่งแววตาล้อเลียนมากับดวงตาสีม่วงคู่ที่เฟรินคุ้นเคยดี

“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ตั้งแต่กลับจากเลี้ยงฉลองจบวิชาหัวใจประชา มันก็ไม่พูดกับฉันอีกเลย” เฟรินพูดพลางใช้ส้อมจิ้มขนมปังที่อยู่ในจานไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่ามันพรุนจนเละแล้ว

“งั้นลองไปหาคาโลที่ห้องสมุดกัน มันคงอยู่ที่นั่นน่ะแหละ”

“อย่าเลย ฉันลองหลายครั้งแล้ว” เฟรินพูดพร้อมกับดวงหน้าที่สลดลง

“เฮ้ย... อย่าทำหน้าอย่างนั้นซิ นายอาจจะคิดมากไปเองรึเปล่า คาโลมันก็เย็นๆชาๆของมันมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ”

“...” เฟรินมองคิลด้วยสายตาลังเล เพราะเธอเองก็ไม่อยากจะโดนปฏิเสธซ้ำๆ เพราะแต่ละครั้งที่เธอโดนปฏิเสธมันทำให้เธอรู้สึกว่าเธอมีความหมายต่อคาโลน้อยลงเรื่อยๆ

“ไปน่า งั้นถือซะว่าไปเป็นเพื่อนฉันแล้วกัน”

หลังจากที่ทั้งสองนำถาดอาหารไปเก็บแล้วจึงมุ่งหน้าไปยังห้องสมุด

บริเวณระเบียงทางเดินที่เชื่อมไปสู่ห้องสมุด เฟรินและคิลมองเห็นคาโลกำลังเดินมุ่งหน้ามาทางพวกเขา แต่แล้วคาโลก็หยุดเดินแล้วหันกลับไปในทิศทางตรงกันข้าม

เฟรินเข้าใจทันทีว่า เธอกำลังโดนหลบหน้าอีกแล้ว

“เฮ้ย..ยย คาโล จะไปไหน มาทางนี้ก่อน” คิลตะโกนเรียกเสียงดังลั่นระเบียง มั่นใจว่าเสียงนี้ต้องไปถึงคาโลแน่นอน แต่กลับไม่ทำให้คาโลหยุดเดินได้เลย

“เฮ้ย..ยย” ไม่ทันที่คิลจะออกวิ่งตาม เฟรินก็จับไหล่คิลไว้

“พอเถอะคิล มันเป็นอย่างนี้มาได้ซักพักแล้วล่ะ ไม่มีประโยชน์ที่จะเรียกคาโล เค้าไม่มีทางมาทางนี้ ถ้ามีฉันอยู่ที่นี่”

“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ” คิลถามสาวน้อยที่เคยร่าเริงอยู่เสมอ แต่บัดนี้ดวงตาสีน้ำตาลที่เคยสดใสกลับคลอด้วยหยาดน้ำใสๆ ที่ทำท่าว่าจะล้นออกมา

“...ฉันไม่รู้ ไม่รู้เลยจริงๆ คิล...” เฟรินส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินหันหลังกลับไปทางเก่า

“...” ไม่มีพูดใดจากคิลอีก เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังที่บัดนี้ดูอ่อนแอและบอบบางจนน่าใจหาย

ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น เรียกสติของคาโลที่กำลังครุ่นคิดถึงบางอย่างที่คิดมาตลอดหลายวันนี้ เขาลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือ ที่ยังมีรายงานกองสุมเป็นตั้ง เพราะงานที่เขาต้องสรุปยังไม่คืบหน้า

“กว่าจะมาเปิดได้ ช้าจริงๆ” คิลพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตามนิสัย

“มีธุระอะไรเหรอ เข้ามาก่อนซิ” คาโลพูดพลางเบี่ยงตัวให้คิลก้าวเข้ามาในห้อง

“ก็ไม่มีอะไร แค่อยากรู้ว่าวันนี้นายเดินหนีฉันกับเฟรินทำไม”

“ฉันไม่ได้เดินหนีใคร”

“แต่เฟรินมันว่านายหลบหน้ามัน และมันก็ไม่รู้ว่ามันทำอะไรผิด นายถึงหลบหน้ามัน”

“ฉันมีเหตุผลของฉัน”

“เหตุผลของนายคืออะไร ฉันอยากรู้เรื่องนายกับเฟริน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

คำถามตรงๆจากคิลทำให้คาโลชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือเช่นเดิม

“ก็ไม่มีอะไรนี่”

“นายจะให้ฉันเชื่อเหรอ ว่าไม่มีอะไรจริงๆ” คิลคิดถึงภาพหยาดน้ำตาใสๆที่เอ่อคลอดวงตาสีน้ำตาล

“...”

“ฉันเป็นห่วงนายกับเฟรินนะ เพราะนายกับเฟรินก็เพื่อนฉันทั้งคู่ ถ้ามีอะไรช่วยได้ก็อยากจะช่วย” คิล พยายามตื้อต่อ หลังจากที่ได้ความเงียบจากคาโลมาเป็นคำตอบ

“เรื่องนี้นายคงช่วยอะไรฉันไม่ได้” คาโลตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็น

“เออ...ก็ได้ ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของนายอีก” คิลพูดเสียงกร้าว ก่อนจะเดินออกไป พร้อมกับกระแทกประตูอย่างแรง

คาโลมองประตูที่ปิดลงด้วยความไม่สบายใจ เรื่องที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น คิลไม่สามารถช่วยเขาได้เลยแม้แต่น้อย

สิ่งที่เขาคิดอยู่ตลอดเวลา คือ หนทางที่จะทำให้เสด็จพ่อของเขายอมรับเฟรินในฐานะคู่หมั้นของเขา เขารู้ว่ามันคงเป็นไปได้ยาก เมื่อคิดถึงชาติกำเนิด แม้เฟรินจะมีศักดิ์เป็นเจ้าหญิงแห่งบารามอสและเดมอส แต่เลือดภายในตัวที่ครึ่งหนึ่งที่เป็นของราชาปิศาจ และ ศึกระหว่างมนุษย์กับปิศาจที่ผ่านมาที่สร้างความเสียหายให้แก่หลายประเทศอย่างหนัก มันทำให้ยากที่จะมั่นใจได้ว่าเฟรินจะเป็นที่ยอมรับของทั้งเสด็จพ่อของเขา และจากประชาชน

หลายปีที่ผ่านมาทุกครั้งที่เขากลับบ้าน เสด็จพ่อของเขาจะแนะนำให้เขารู้จักกับเจ้าหญิงหลายองค์ ที่เพียบพร้อมไปด้วย รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ความรู้ และกริยามารยาทอันอ่อนหวานงามตา แต่กลับไม่มีใครเลยที่ละลายน้ำแข็งในหัวใจของเขาได้เหมือนเฟริน แม้ว่าเสด็จพ่อของเขายังไม่พูดถึงการหมั้นแต่เขาเองรู้สึกว่ามันคงเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า

ถ้าเพียงแต่เค้ามั่นใจได้ว่า เฟรินจะอยู่ในฐานะคู่หมั้นของเขา เขาคงสามารถใกล้ชิดเฟรินได้อีกครั้ง โดยไม่รู้สึกว่าเป็นการเอาเปรียบหญิงสาวมากเกินไปนัก ความปรารถนาที่จะได้ใกล้ชิดเฟรินเหมือนเช่นในค่ำคืนนั้น ยังคงแผดเผาใจเขาอยู่ตลอดเวลา แล้วเขาจะแน่ใจตัวเองได้อย่างไรว่าจะไม่เผลอจนขาดสติเช่นนั้นอีก

คาโลถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะพยายามรวบรวมสมาธิที่กระจัดกระจายไปอยู่กับเรื่องอื่นให้กลับมารวมกันอีกครั้งที่งานที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งควรจะต้องเสร็จภายในอีกสามวันข้างหน้า ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนจะปิดเทอม

เสียงถอนหายใจเป็นระยะๆ ของคาโล ไม่ได้พ้นไปจากสายตาคู่หนึ่งที่เฝ้ามองเจ้านายของเธอด้วยความรักและชื่นชมเสมอมา



Create Date : 11 กรกฎาคม 2550
Last Update : 11 กรกฎาคม 2550 13:51:58 น. 5 comments
Counter : 598 Pageviews.

 
ยิ่งอารมณ์ตอนนี้ คือไม่อยากอยู่ในความเงียบเลยคับผม


โดย: UM (add_thai ) วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:40:27 น.  

 
ผมเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ดีนะครับ... แบบที่เกิดขึ้นกับคาโล แฟนผมเองก็รู้สึกเหมือนเฟรินนี่แหละครับ มันยากที่จะทำใจ


โดย: ยามปลายลมหนาว IP: 125.25.193.227 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:20:33:23 น.  

 
-- --;;; (เง้อ)
มีตื่นงง คาแรกเตอร์เปลี่ยนจนน่าตกใจ 0.0


โดย: องค์หญิง IP: 203.156.28.158 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:16:56:27 น.  

 
+++ สวัสดีค่ะ คุณ UM

บางทีความเงียบมันก็เป็นเพื่อนที่ดีนะคะ ^ ^



+++ สวัสดีค่ะคุณยามปลายลมหนาว

หวังว่าตอนนี้ทุกอย่างคงจะคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้วนะคะ ^ ^


+++ สวัสดีค่ะ คุณองค์หญิง

คงต้องขอโทษอีกซักรอบนะคะ


โดย: แค่ก้อนหินที่อยากบินได้ วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:21:59:52 น.  

 
ทำไมเป็นแบบนี้เนี่ย o[]o


โดย: บลูเบอรี่สีเงิน IP: 203.156.26.227 วันที่: 4 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:30:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แค่ก้อนหินที่อยากบินได้
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ขอมี Blog กับเค้าด้วยคนนะคะ ^ ^

Friends' blogs
[Add แค่ก้อนหินที่อยากบินได้'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.