เมื่อวานนี้ผมได้รีวิวครั้งแรกที่ได้เห็น Mitsubishi Attrage รุ่น GLS รองท๊อปสีดำ เป็นรีวิวแรกกันไปแล้วนั้น วันนี้ก็เลยจะขออาษาพาเพื่อนๆสมาชิกไปสำรวจส่วนต่างๆของรถกันบ้าง แต่ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปชมภายในของเจ้า Attrage Pyreness Black Mica คันนี้ ขอพาชมส่วนประกอบต่างๆรอบคันกันก่อนนะครับ มีหลายส่วนที่ยังไม่ได้นำเสนอ เพราะผมเชื่อว่ามีเพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน ยังไม่มีโอกาศได้ไปชมตัวจริงของมิตซูบิชิ แอททราจ เนื่องจากอาจจะอยู่ต่างจังหวัด หรือยังไม่มีการมาเปิดโชว์ตัวในพื้นที่ใกล้เคียงกับบ้านของท่าน ก็เลยขอนำเสนอมาให้ชมกันก่อน เผื่อวันไปชมจริงๆ ท่านจะได้ดูรายละเอียดต่างๆได้มากกว่านี้





เมื่อวานนี้ผมชมดวงตาคู่งาม(ไฟหน้า)นี้ไว้พอสมควร สาเหตุก็อย่างที่บอกไป โคมไฟหน้าของ Attrage สวยกว่าของอัลเมร่าที่ผมใช้อยู่ซะอีก เห็นแล้วอยากจะย้ายเอาไปใส่ไว้ในรถผมยิ่งนัก 555+ เห็นแบบนี้คงไม่ต้องแจงรายละเอียดก็ได้มั้งครับ เพราะหลายท่านคงทราบดีว่ามันก็คือโคมไฟธรรมดาทั่วไป แต่หลายท่านอาจยังไม่ทราบก็ขอหยิบรายละเอียดจากสเป็คมาให้ดูกันอีกครั้ง




โคมไฟหน้า Mitsubishi Attrage เป็นแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ มาพร้อมกับหลอดไฟแบบฮาโลเจน งงมั้ยครับ งั้นอธิบายต่อให้อีกหน่อย ระบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ส่วนใหญ่จะมีมาให้กับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ซึ่งมันก็คือลักษณะของแผ่นท้อนแสงด้านหลังหลอดไฟ ทำหน้าที่สะท้อนแสงจากหลอดไฟหน้าออกไปยังถนน ส่วนฮาโลเจน เป็นประเภทหนึ่งของหลอดไฟ ใช้ในไฟหน้ารถยนต์ทั่วไป ความส่ว่างที่ได้มันก็ขึ้นอยู่กับทั้งสองส่วนช่วยกันครับ กล่าวคือในรถรุ่นใหม่ๆคุณจะได้ทั้ง 2 ต้ว ช่วยกันทำไห้สว่างมากกว่ารถรุ่นเก่าๆ ที่แผ่นสะท้อนแสงอาจยังเป็นแบบรีเฟลคเตอร์ธรรมดาอยู่







มาต่อกันที่ไฟตัดหมอก Attrage กันต่อเลยนะครับ ไฟตัดหมอกคู่หน้าของแอททราจออกแบบมาให้รับกับด้านหน้าของรถได้เป็นอย่างดี ทั้งกระจังหน้าด้านบน และช่องระบายความร้อนด้านล่าง การที่มิตซูใส่ใจเอากรอบโครเมี่ยมมาใส่ให้ด้านข้าง ทำให้ตัดกับตัวรถที่เป็นโทนสีดำ ดูโดดเด่นขึ้นมาอีกเยอะ ไม่ได้เอาแค่ไฟตัดหมอกคู่หน้ากลมๆมาแปะ แล้วก็จบๆไป สำหรับไฟตัดหมอก ก็เอาไปเลย 3 คำสั้นๆ "สวย ลง ตัว"







กระจังหน้า Mitsubishi Attrage ส่วนบนนั้นเป็นโครเมี่ยม ตัดกับตัวรถสีดำได้เป็นอย่างดี แต่ส่วนตัวผมว่ามันเรียบๆไปหน่อย ยังดีที่ได้ช่องระบายความร้อนด้านล่างที่ออกแบบมาให้ฉีกยิ้มเล็กน้อย และไฟตัดหมอกคู่หน้าก็ยังออกแบบมาให้รับการฉีกยิ้มอีก ทั้งสองส่วนนี้ผมมองว่ามันไปเสริมในส่วนที่กระจังหน้าด้านบนมันดูเด่นขึ้นมาอีกนิดหน่อย สรุปแล้วคือหน้าตาโดยรวมถึงจะไม่สวยล้ำ แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรเลยสักนิด ถ้าเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน








ในส่วนของกระจกมองข้างเป็นแบบพับได้อัตโนมัติ และที่เห็นนี้เป็นรุ่น GLS ซึ่งมีไฟเลี้ยวแบบ LED ติดมาให้ด้วย โดยกระจกมองข้างแบบปรับพับได้ พร้อมไฟเลี้ยว LED นั้นจะมีมาให้เฉพาะรุ่น GLS และ GLS Ltd. เท่านั้น ออฟและราคาขนาดนี้ ลองไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งเอาเองนะครับ ว่าเขามีมาให้หรือไม่

นั่งเขียนหัวข้อนี้ก็เพิ่งจะนึกได้ ไฟเลี้ยว LED มีหลอดไฟมากี่เม็ด อันนี้ไม่ได้นับ ต้องขออภัยด้วยจริงๆครับ รีบจัดจนลืมสังเกตุไป 







ในส่วนของโคมไฟท้ายด้านหลัง ออกแบบมาคล้ายๆกับโคมไฟด้านหน้า ดูแล้วสวยเข้ากันดี หลอดไฟที่เห็น ทั้งไฟเบรค ไฟเลี้ยว และไฟถอยหลัง ล้วนเป็นหลอดไฟธรรมดาทั้งสิ้น ไม่มีหลอดไฟ LED แบบตามเทรนมาให้แต่อย่างใด ใครที่แอบหวังก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย แต่ก็อย่าน้อยใจไปครับ ค่ายอื่นๆส่วนใหญ่เขาก็เป็นหลอดแบบนี้ทั้งนั้นแหล่ะ หลอดเสีย หลอดขาด เปลี่ยนง่ายสบายกระเป๋า 




แถมท้ายกันด้วยภาพไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED ที่ถูกติดตั้งไว้ด้านในรถเหมือนอเมซ แต่อัลเมร่าติดอยู่ที่สปอยเลอร์ด้านหลัง อันนี้ไม่ลืมที่จะซูมภาพชัดๆ เพื่อนับหลอดไฟ LED แน่นอน นับได้เบ็ดเสร็จ 12 ดวง หรือ 1 โหลพอดิบพอดี






จัดทำโดย Attrage-Club.com
ที่มา : //www.attrage-club.com/index.php/topic,107.html