หลังจากตกลงปลงใจว่าควรจะแต่งงานกันได้แล้ว คุงแฟนก้อประกาศิตว่าต้องจดที่ฝรั่งเศสเท่านั้น (เพราะเพื่อนฝูงมีมากเป็นภูเขาเลากา กลัวจะลางานมาเมืองไทยกันไม่ได้) ส่วนงานที่เมืองไทย จัดเมื่อไรก้อได้ รอดูฤกษ์งามยามดีไปก่อนจริงๆ แล้วเราตกลงแต่งงานกันตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว (2008 - นานมะ) แต่ตอนนั้นแฟนยังทำงานอยู่ที่มาดริด เรื่องเอกสารฟังแล้วยุ่งยากเลยรอให้แฟนย้ายงานกลับฝรั่งเศสช่วงปลายปีก่อน เราทั้งคู่ก็เลยชิลชิลปาจิงโกะจนกระทั่งกลางเดือนมิถุนา-เดือนสิงหา นุ่นถึงได้เริ่มเรื่องเอกสารอย่างจริงจัง เริ่มด้วยเราต้องนำเอกสารพวกนี้ไปรับรองที่กรมการกงสุลก่อน-สำเนาบัตรประชาชน-สำเนาทะเบียนราษฎร์หรือทะเบียนบ้าน-สำเนาสูติบัตรหรือหนังสือรับรองการเกิด-ใบรับรองโสด (ขอได้ที่เขตที่มีทะเบียนบ้านอยู่ พาพยานไปด้วย 2 คน รอรับเอกสารได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่าย)มีให้เลือกว่ารับรองด่วน คืนเอกสารในวันเดียวกันเสียฉบับละ 400 บาท หรือรับเอกสารคืนใน 2 วันทำการ เสียฉบับละ 200 บาท เลือกแบบนี้เพราะบอกแล้วว่ามีเวลาเยอะ ค่าเสียหายทั้งหมด 800 บาท (เหงื่อเริ่มซึมๆ ตามตัว)จากนั้นกรอกคำร้องขอรับรองเอกสาร ตอนยื่นเอกสาร เจ้าหน้าที่จะเรียกดูเอกสารต้นฉบับด้วย หลังจากได้เอกสารที่รับรองแล้ว นำไปแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสตามรายชื่อนักแปลที่ได้รับการรับรองจากสถานฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย นุ่นเอาไปแปลที่สมาคมฝรั่งเศส ที่เดียวกับแผนกวีซ่าฝรั่งเศส ถ. สาทร แปลวันศุกร์ นัดรับวันอังคาร เร็วดีเหมือนกันค่าเสียหายทั้งหมด 1,900 บาท (คราวนี้เริ่มมีเลือกออกซิบๆ) วันไปรับเอกสารแปล ซวยมาก ดันมีม๊อบโรงงานบ้าที่ไหนก้อไม่รู้มายึด ถ. สาทร เริ่มตะหงิดตั้งแต่ลงทางด่วนพระราม 4 แหล่วว่าทะมัยรถมันติดแบบนี้ ออกจากบ้านเก้าโมง แถวรามอินทรา ขึ้นด่วนตลอดเพราะปกติไม่เกิน 40 นาทีก้อถึง แล้วแพลนว่าจะไปรับรองเอกสารที่สถานฑูตฝรั่งเศสต่อ สบายๆ ไม่เกินเที่ยง ดั้นมาฤทธิ์อีม๊อบบ้าจนในที่สุดต้องหักรถเลี้ยวเข้าไปจอดที่จอดรถเอกชนชั่วโมงละ 30 บาทแล้วกิ่งเดินกึ่งวิ่งฝ่าดงม๊อบเพื่อไปเอาเอกสาร ตอนนั้น 11.30 แหล่ว (ปิดเที่ยง) ในที่สุดก้อทัน แต่ก็ไม่ได้ไปสถานฑูต ปิดเที่ยงเหมือนกัน) เซร็งเป็นที่สุด ต้องมาลางานเพิ่มอีกหนึ่งวันอ่ะ เอาใหม่ หาวันไปสถานฑูตฝรั่งเศสได้แล้ว ใครขับรถไป ให้เข้าซอยโรงแรมโอเรียลเต็ล (เจริญกรุง 36) เพราะซอยเข้าสถานฑูตเป็นวันเวย์ขาออก ซอยจะเชื่อมกัน เอารถไปจอดได้ที่รับฝากจอดรถเอกชน อยู่ฝั่งหน้าสถานฑูต ชั่วโมงละ 20 บาท หรือเอาไปจอดที่โรงแรมโอเรียลเต็ลก็ได้ เข้าไปจิบชากาแฟแล้วขอปั๊มบัตรจอดรถ เมื่อเข้าไปถึงด้านในจะมีคุณป้าแหม่มนั่งอยู่ที่เคานท์เตอร์ (เพิ่งมารู้ทีหลังว่าแกพูดไทยได้) เราก็สปีคอิงลิชกะแก บอกว่ามาขอรับรองเอกสารแปล แกจะพลิกๆ เอกสารดู แล้วแจ้งค่าเสียหายว่าประมาณเท่าไร จากนั้นก็นั่งรอจนกว่า จนท จะว่างเซ็น วันนั้นนั่งรอเกือบครึ่งชั่วโมงถึงได้โดนเรียกขึ้นไปที่ชั้นสอง เค้าจะเชิญให้นั่ง จากนั้นก้อส่งเอกสารให้เค้าตรวจดูและเซ็น จนท จะแจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขอแนะนำให้หาเงินย่อยเงินเหรียญไปเผื่อหน่อย เพราะเค้าถึงกะควักกะเป๋าตังค์ตัวเองมาหาเงินทอนให้เรา (นู๋ขอโต๊ดค๊ะ) ค่าเสียหายทั้งหมด 3,728 บาท (ตอนนี้เลือดไหลเป็นทาง ต้องเอาผ้าก๊อซซับๆ ไว้)ตอนนี้เอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เตรียมเอาไปยื่นที่ Mairie พร้อมคุงแฟนได้แร้วจ้าปล. สรุปค่าเสียหายทั้งหมด 800+1,900+3,728= 6,428 บาท (ซื้อ Longchamp ใบเล็กที่ฝรั่งเศสได้อีก 2 ใบ)