Bloggang.com : PuPe_so_Sweet : อยู่บ้านก็ช็อปปิ้งได้กับ "Central Online Shopping"

อยู่บ้านก็ช็อปปิ้งได้กับ "Central Online Shopping"

ใครที่เป็นสมาชิก The 1 Card ก็น่าจะได้รับ E-mail ที่แจ้งข่าวให้ทราบว่าทางห้าง Central ได้เปิดให้บริการ Online Shopping โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมานี้เอง (แน่นอนว่าขาช็อปอย่างปูเป้รีบแวะไปเยี่ยมชมทันทีที่เห็นอยู่แล้ว) และในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2553 ปูเป้ก็ได้รับเชิญไปร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว "Central Online Shopping" อย่างเป็นทางการ หลังกลับถึงบ้านก็กลับมาทดสองสั่งสินค้าดูครับ ปูเป้เลยมาขอแชร์ประสบการณ์และขอ Comment เกี่ยวกับบริการใหม่ของ Central กันซะหน่อย

รูปแบบของหน้าเวปไซท์ www.central.co.th ได้เปลี่ยนจากเวปไซท์ให้ข้อมูลเป็นรูปแบบของการช็อปปิ้งออนไลน์เต็มรูปแบบแล้วนะครับ หากใครที่เคยช็อปปิ้งทางออนไลน์กับห้างสรรพสินค้าดัง ๆ ของต่างประเทศก็น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีทีเดียว

สินค้าจะถูกวางเป็นหมวดหมู่ที่แยกไว้อย่างชัดเจน หรือหากเราต้องการค้นหาสินค้าก็สามารถ Search อย่างง่ายดาย

ข้อดีของ Central Online Shopping ที่เห็นได้ชัดคือการมีภาพความละเอียดสูงของสินค้าให้เราสามารถ "ซูม" ดูรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กันอย่างชัดเจน จะเป็นเนื้อผ้า รายละเอียดการเย็บ ก็มองเห็นหมดเลยล่ะ

การซื้อของก็ทำได้ง่าย ๆ แค่กดเลือก "ไซส์" ระบุ "จำนวน" ที่ต้องการซื้อ และคลิก "หยิบใส่ถุง"

หลังจากนั้นจพมี pop-up แจ้งว่าสินค้าได้อยู่ในถุงช็อปปิ้งแล้ว เราจะช็อปปิ้งต่อ หรือจะเข้าสู่กระบวนการชำระเงินก็เลือกได้เลยครับ (ปูเป้เลือกช็อปต่อนะ ;D)

เมื่อเราช็อปปิ้งจนพอใจแล้ว ก็คลิก "ชำระเงิน" ครับ

ทางเวปจะให้เรา Login เพื่อเข้าสู่ระบบสมาชิก หรือหากยังไม่มีสมาชิกก็ให้กด ""ลงทะเบียนครั้งแรก" เพื่อกรอกข้อมูลสมาชิกครับ

การลงทะเบียนก็ไม่มีอะไรมาก แค่ใส่รายละเอียดของ ชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ E-Mail และ รหัสผ่านตามต้องการ ถ้ามีสมาชิก The 1 Card ก็ให้ใส่รหัสลงไปในขั้นตอนนี้เลยครับ เราสามารถสะสมคะแนนในทุก ๆ ยอดซื้อได้ด้วย

หลังจากคลิกลงทะเบียนแล้ว ระบบจะส่ง E-mail มาเพื่อให้เราทำการยืนยันการลงทะเบียนอีกครั้ง ทำตามขั้นตอนที่เขาระบุมาก็เป็นอันเรียบร้อย

หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้วก็ Login โดยใช้ E-Mail และรหัสผ่านที่เราตั้งเอาไว้ ระบุที่อยู่ในการจัดส่ง เลือกวิธีการจัดส่ง (มีแบบจัดส่งมาตรฐาน 3 - 6 วันทำการ และแบบด่วนพิเศษที่ใช้เวลาเพียง 2 วันทำการ) ค่าจัดส่งตอนนี้จะฟรีไปจนถึงสิ้นปี 2553 นะครับ หลังจากนั้นจะมีค่าขนส่งตามรายละเอียดใน "หน้านี้" แต่ถ้าสั่งสินค้าครบ 5,000 บาทขึ้นไปก็จะได้รับสิทธิ์จัดส่งฟรีแบบมาตรฐานครับ

หลังจากผ่านขั้นตอน "ยืนยันการสั่งซื้อ" มาแล้วก็มาถึงหน้าของ "การชำระเงิน" โดยทาง Central Online Shopping มีตัวเลือกให้อยู่ 2 รูปแบบคือ "ชำระผ่านบัตรเครดิต" และ "ชำระผ่านการโอนเงิน"

โดยการชำระผ่านบัตรดิตนั้นเราสามารถใช้บัตรของธนาคารอะไรก็ได้ครับ ขอให้เป็น VISA กับ Master Card หรือ JCB ก็พอ

เมื่อเลือกวิธีการชำระเงินที่ต้องการได้แล้วก็กด "ชำระเงิน" ครับ

หากเลือกการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต (อย่างที่ปูเป้ทำ) เราจะถูกส่งต่อไปยัง K Payment Gateway ของ ธ.กสิกรไทย เพื่อทำการกรอกข้อมูลบัตรเครดิตครับ ก็กรอกให้ครบตามที่เขาระบุเอาไว้ให้ครบก็เป็นอันเรียบร้อย (หากคุณใช้บัตร VISA จะมีขั้นตอนเพิ่มเติมของทาง VISA เองเพื่อความปลอดภัยอีกระดับนึงนะครับ เสียเวลาเพิ่มนิดนึงแต่เราก็สามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลอันมีค่าของเราจะไม่รั่วไหลไปไหน)

หลังจากเสร็จขั้นตอนการชำระเงินแล้ว จะมี E-Mail แจ้งยืนยันการสั่งซื้อสินค้ากลับมาให้เรา นอกจากนี้จะมีพนักงานจากทาง Central โทรมาตรวจสอบเพื่อยืนยันการสั่งซื้อจากเราอีกครั้งนึงด้วยครับ (ถือว่าทาง Central ทำได้ละเอียดทีเดียวนะ)

มีเสียงกดกริ่งจากพนักงาน TNT มาส่งของเองถึงหน้าบ้านตรงตามกำหนดเวลาเป๊ะมาก ๆ สภาพกล่องดูดีไม่มีรอยบุบสลายอันใดเลยครับ

เปิดกล่องดู ข้างในบุกระดาษเพื่อกันกระแทกอย่างแน่นหนาทีเดียว

สินค้าถูกห่อหุ้มด้วย Bubble กันกระแทกมาเต็มที่เลยนะเนี่ย (แต่ไม่มี Sample อะไรส่งมาให้เลย... T-T )

โดยรวมแล้วปูเป้มองว่าการเปิดตัว "Central Online Shopping" นั้นเป็นก้าวสำคัญของวงการ E-Commerce บ้านเรา เพราะเป็นครั้งแรกที่ยักษ์ใหญ่แห่งวงการขายปลีกได้ก้าวมาทำการตลาดในส่วนนี้อย่างเต็มตัว ซึ่งตัวแบรนด์ Central เองก็มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ทำให้ผู้ซื้อสามารถมั่นใจได้เต็มที่ว่าจะไม่ถูก "โกง" หรือ "จ่ายเงินแล้วไม่ได้ของ" หรือต้องมากังวลว่าสินค้าที่สั่งจะ "ไม่มีคุณภาพ" หรือ "เป็นของปลอม" อย่างแน่นอน

การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์นั้นดูจะเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับขาช็อปที่อยู่ในจังหวัดที่ไม่มีห้าง Central หรือไม่สะดวกที่จะออกมาเดินซื้อสินค้าด้วยตัวเอง (อาจจะติดเลี้ยงลูกจนไม่มีเวลาว่าง ไปศัลยกรรมทุบกรามเสริมดั้งมาแต่ยังไม่หายดีออกมาเจอผู้คนไม่ได้เป็นต้น) นอกจากนี้ยังไม่ต้องเดินทางไปผจญกับสภาพการจราจรที่ติดขัดอีกด้วย

สำหรับเรื่องของโปรโมชั่นกับบัตรเครดิตนั้น ปูเป้ทราบมาว่าเนื่องจากข้อจำกัดทางด้านความปลอดภัยของ K Payment Gateway เอง จึงไม่สามารถระบุได้ว่าเราใช้บัตรเครดิตของเครือใดในการชำระเงิน จึงไม่สามารถใช้ Central Card เพื่อได้ส่วนลด 5% และไม่สามารถได้สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตค่ายอื่นได้เช่นกัน (พวก Top-up ลดเพิ่ม / Cash-Back คืนเงิน / แต้มสะสมคูณ 2 เท่า หรือ 10 เท่า ก็อดครับ...) ดังนั้นปูเป้เสนอแนะว่าเพื่อชดเชยตรงนี้ "Central Online Shopping" ควรจะมีโปรโมชั่นหรือสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับการสั่งซื้อทางออนไลน์เท่านั้นเพื่อชดเชยกับตรงนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ

สำหรับใครที่ช็อปปิ้งเครื่องสำอาง ทาง Central แจ้งมาว่าเราจะได้รับของสมณาคุณจากแบรนด์เมื่อซื้อครบยอดด้วยนะครับ และยังแจ้งว่าการสั่งซื้อทางออนไลน์ก็สามารถสะสมแต้มกับทางแบรนด์ได้อีกด้วย ทว่าตรงนี้ปูเป้ขอตรวจสอบกับทางแบรนด์ที่รู้จักกันเพื่อยืนยันอีกครั้งนึง แล้วจะมาอัพเดทให้ทีหลังครับผม

ข้อเสนอแนะสำหรับทาง "Central Online Shopping"

- อยากให้เพิ่มเติมในส่วนของการ "Shopping by Brand" และเพิ่ม "Brand List" เข้ามาด้วยครับ จะได้ดูได้ง่ายขึ้นว่ามีแบรนด์อะไรที่จำหน่ายอยู่บ้าง

- น่าจะมีสินค้า Exlusive ที่วางจำหน่ายเฉพาะ Online เท่านั้น อย่างเช่นชุดเครื่องสำอางแบรนด์ดังในราคาสุดประหยัด หรือไซส์สุดคุ้มขึ้นมาครับ

- น่าจะมีในส่วนของ Promotion Code ให้ใส่ตอนก่อนชำระเงิน เผื่อจะได้ทำการตลาดกับสื่อต่าง ๆ ได้เพิ่มนะครับ อย่างเช่นซื้อ นิตยสาร AAA จะมีโค้ดพิเศษ ลด 10% ทุกอย่างได้อะไรประมาณนี้

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2553

Last Update : 24 พฤศจิกายน 2553 21:31:47 น.

10 comments

Counter : 11347 Pageviews.