....ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน......
Group Blog
 
 
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
27 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
4. แต่งง่าย ๆ สไตล์พื้นถิ่น

บ้านในฝันของผู้ที่รักชนบท




กลับไปสู่ทุ่งหญ้า ป่าเขาลำเนาไพร ชีวิตชนบทที่เีรียบง่าย และความอบอุ่นของธรรมชาติ








บ้าน “สไตล์คันทรี” (Country Style) เป็นบ้านในฝันของผู้ที่รักชนบท ความงามแห่งธรรมชาติ ที่ผสานกันอยู่ในสายลมอ่อนๆ กลิ่นหอมของดอกหญ้าและไอดิน เพราะการตกแต่งแบบคันทรีนั้นบ่งบอกถึง สิ่งที่ไม่เป็นทางการ ให้ความรู้สึกสบาย อบอุ่นเป็นกันเอง ของแต่งบ้านใช้วัสดุที่ยังคงให้เห็นถึงธรรมชาติและกลิ่นอายของบ้านในชนบท เช่น ตู้ในห้องครัวที่ทำจากไม้ มีชั้นเปลือยสำหรับจัดวางข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้งานบ่อยๆ หรือการตกแต่งบ้านด้วยพื้นไม้ กระเบื้องดินเผา ตู้โชว์ไม้แบบไม่มีกระจกปิด สำหรับโชว์ของสะสมที่ให้ความรู้สึกแบบ Country Home ตลอดจนการเลือกข้าวของเครื่องใช้ที่ทำด้วยทองแดง เครื่องแก้ว จาน ชาม ที่มีลวดลายบ่งบอกถึงความเป็นพื้นถิ่น การเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้ายลวดลายดอกไม้ ผ้าลายปัก หรือการสอดแทรกหัตถกรรมงานหวายให้ดูนุ่มนวลขึ้น ไปจนถึงงานฝีมือแฮนด์เมดที่สร้างสรรค์ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งล้วนบ่งบอกความเป็นสไตล์คันทรีได้ทั้งสิ้น






รูปแบบของ Country Style



ลักษณะการตกแต่งสไตล์คันทรีของแต่และพื้นถิ่นนั้นต่างมีกลิ่นอายและเสน่ห์ แตกต่างกันไป เช่น คันทรีในแบบอังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา แต่ในความเหมือนของสไตล์คันทรีอย่างหนึ่งก็คือ เป็นสไตล์ที่แสดงถึงอารมณ์การตกแต่งในแบบเอาต์ดอร์ สวยงามแบบธรรมชาติ ที่สำคัญเป็นสไตล์ที่ไม่วิ่งตามเทรนด์หรือแฟชั่นแม้แต่น้อย โดยจะแสดงถึงความเป็นตัวเอง อย่างการเลือกสี ลวดลายที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ซึ่งสิ่งที่จะได้เห็นจากงานสไตล์นี้คงไม่พ้นเรื่องราวความน่ารัก ความอบอุ่น ความน่าอยู่ ที่เกิดจากการสะสมอย่างค่อยเป็นค่อยไป








English Country Style



เป็นสไตล์ที่ตัดทอนความเนี้ยบ หรูหรา กรุยกรายของ Traditional Style Classic Style หรือ Victorian Style แต่จะเน้นความอบอุ่น อ่อนหวาน เข้ามาแทน โดยหัวใจของการแต่งบ้านสไตล์ชนบทอังกฤษนี้อย่างแรก คือ การแต่งบ้านที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลายและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ซึ่งการตกแต่งจะเป็นทางการหรือไม่ทางการนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเจ้า ของบ้านเป็นหลัก แต่ยังคงสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ เช่น การเลือกใช้โทนสีแดง ชมพู ลวดลายของผ้าบุ ผ้าคลุมโต๊ะ ผ้าม่าน ที่นิยมผ้าที่มีลวดลาย ทั้งลายดอกไม้ ลายตาราง ลายทาง ผนังวอลเปเปอร์ลวดลายดอกกุหลาบ มาใช้ร่วมกันในการตกแต่ง แต่มีการควบคุมโทนสีให้ไปในทิศทางเดียวกัน หรืออย่างดวงโคมที่ใช้จะเป็นสไตล์ดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นเชิงเทียน โคมไฟ แชนเดเลียร์ ก็สามารถไปกันได้กับสไตล์นี้ และการตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้มากมายนี้เองที่ทำให้ลักษณะของ English Country Style มีความแตกต่างจาก French Country Style
หรืออย่างห้อง ครัวสไตล์ English Country ในแบบดั้งเดิมนั้นจะแสดงออกถึงความคลาสสิก โดยใช้วัสดุไม้เป็นองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งไม้ที่นิยมใช้คือไม้โอ๊ก ไม้วอลนัต สน หรือมะฮอกกานี โดยเลเยอร์ของวัสดุที่ใช้จะสะท้อนถึงประวัติศาสตร์การตกแต่งห้องครัวของคน ประเทศอังกฤษ ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกได้ถึงภาพความมั่งคั่งร่ำรวยของอังกฤษโบราณ การตกแต่งแบบนี้จะเป็นการใช้ของที่ใช้สืบทอดจากเจนเนอเรชั่นหนึ่งมาสู่อีก เจนเนอเรชั่นหนึ่งที่ผสมผสานกันระหว่างของเก่าและของใหม่







French Country Style



เป็นสไตล์ที่ลดทอนความอ่อนหวานจากสไตล์ English Country ลงมาเล็กน้อย แต่ยังคงความอบอุ่น คลาสสิก น่าค้นหา และมีธีมที่สะท้อนเรื่องราวความเป็น European Country Style อย่างงานการเพนต์หรือการวาดลวดลายลงบนเนื้อไม้ รวมไปถึงการใช้ไม้ที่ไม่ลงเงาแสดงให้เห็นถึงความเก่าของเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งส่วนผสมหลายอย่างที่ช่วยให้การตกแต่งแบบ French Country มีความสมบูรณ์คือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ที่ทำจากวัสดุไม้จริงในโทน สีอ่อน ที่จะตัดกันได้ดีกับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ โดยสไตล์การตกแต่งแบบคันทรีของฝรั่งเศสแท้จริงนั้นก็มีต้นแบบมาจากหมู่บ้าน ชนบทที่อยู่ใกล้กับพื้นที่แถบภูเขาในประเทศฝรั่งเศสสมัยก่อนที่มีวิถีชีวิต อาศัยอยู่ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นถ้าจะนึกถึงบ้านและครัวแบบฝรั่งเศสก็ให้นึกถึงความเป็นชนบทที่มองออก ไปเห็นทุ่งดอกไม้กว้างใหญ่ เห็นสัตว์ต่างๆ ภายในฟาร์ม อันสะท้อนมาถึงการตกแต่งผ่านเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในโทนสีอบอุ่น สบายตา










รูปทรงของบ้านสไตล์คันทรี



ยากที่เราจะกำหนดให้ แน่ชัดลงไปได้ เนื่องจากมีความแตกต่างกันไปตามสภาพที่ตั้ง ของบ้านอันเป็นลักษณะเฉพาะที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นมาในแต่ละแห่ง และในแต่ละประเทศ ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งภูมิอากาศ ภูมิประเทศ ซึ่งมีความสวยงามอุดมสมบูรณ์ แตกต่างกันไป เช่น บ้านทางแถบยุโรปตอนเหนือ ซึ่งมีหิมะปกคลุม รูปทรงหลังคาก็จะลาดชันและมีช่องหน้าต่างน้อย

ส่วนบ้านคันทรีในอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงถึง 4 ฤดูกาล ก็จะสะท้อน ถึงความงามแห่งฤดูกาล ผลิ ร้อน ร่วง หนาว ด้วยการประดับประดาที่ช่อง หน้าต่าง แสดงถึงการต้อนรับฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนเวียนมาในรอบปี รูปทรงหลังคาก็บ่งถึง สภาพอากาศที่มีทั้งหิมะและฝน

บ้านสไตล์คันทรี สะท้อนภาพการดำรงชีวิตที่อิงอยู่กับธรรมชาติ รูปลักษณ์ของบ้าน สะท้อนถึงบรรยากาศของป่าเขาลำเนาไพรอันเป็นที่ตั้งของบ้าน นับจากวัสดุที่ใช้ทำตัวบ้าน มักจะเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในแถบนั้น เช่น ไม้ หิน อิฐ ฝาบ้านมักจะมีลวดลายประดับ ที่สะท้อนถึง ความงามของพืชพันธุ์ธรรมชาติบริเวณ เช่น แกะสลักเป็นลายดอกไม้ ลูกไม้ต่างๆ ตลอดจนถึงลวดลายบนผืนผ้าม่าน ถึงแม้ว่าฝีมือเชิงช่างจะไม่ประณีตด้วย ข้อจำกัดทางด้านเครื่องไม้เครื่องมือ แต่กลับได้สัมผัสที่บ่งบอกถึงความมีเสน่ห์อันมิได้ ปรุงแต่ แบบธรรมชาติ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายต่อหลายคนหลงรักบ้านคันทรีอย่าง ถอนตัวไม่ขึ้นทีเดียว








การตกแต่งบ้านสไตล์คันทรี



เฟอร์นิเจอร์



ใช้เครื่องตกแต่ง ภายในบ้านจากเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อหยาบไปจนถึงงานฝีมือที่ประณีต แต่อวดลายผิวพื้นไม้ แบบธรรมชาติ บอกถึงสัมผัสแห่งการต้อนรับสู่บ้านอันอบอุ่น หลังคา รวมถึงผนังบ้าน ที่ใช้วัสดุธรรมชาติจาก หิน กระเบื้องเกล็ดไม้ ไปจนถึงหลังคามุงจาก








สวน



สวนเป็นส่วนสำคัญที่ผูกพันกับบ้านสไตล์คันทรีอย่างแยกกันไม่ออก บ้านคันทรี ในยุโรปมักรายล้อมด้วยพันธุ์ไม้ดอกและสมุนไพรที่ให้สีสันสวยงาม ส่วนบ้าน คันทรี ในเขตอบอุ่น ก็มักนิยมปลูกพันธุ์ไม้เถาเลื้อยจำพวกองุ่นคลุมระเบียงเพื่อหลบแสงแดด อันร้อนแรง



ส่วนที่เชื่อมต่อตัวบ้านสู่สวน



ส่วนที่เชื่อมระหว่างบ้านและสวน เช่น มุขหน้าบ้าน (porches) ระเบียงที่มีหลังคาคลุมอย่างที่เรียกว่า เวอรันด้า (veranda) หรือระเบียงหลังคาโปร่งพันด้วยไม้เลื้อย หน้าต่างฝรั่งเศส (French windows) ซึ่งยาวถึงพื้นสำหรับเปิดมองทิวทัศน์ได้อย่างชัดเจน ประตูบานไม้แบบที่ ใช้กับคอกม้าที่เปิดออกสู่ทุ่งกว้างอันเต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่ชวนพิศมัย


เพิ่มบรรยากาศ



พยายามติดให้ระยะของแสงสว่างส่องลงมาในบริเวณส่วนของที่นั่งเท่านั้น เพื่อเป็นการกำหนดขอบเขตของแสงให้มีความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง จัดหาไฟดวงเล็กๆ พยายามจัดแสงสว่างให้ส่องเข้าไปหาผนังเพื่อให้ผนังดูอ่อนโยนขึ้น และทำให้บรรยากาศในบริเวณนั้นอบอุ่นขึ้น พร้อมทั้งหาวิทยุรุ่นเก่าๆ ที่ยังสามารถเปิดเพลงได้ เปิดเสียงเพลงคลอเบาๆ ไปในขณะนั่งเล่น จะช่วยทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

ที่มา atkitchen

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก //www.oknation.net/blog/oilpalm/2010/09/27/entry-1



Create Date : 27 กันยายน 2553
Last Update : 5 กรกฎาคม 2554 12:40:26 น. 0 comments
Counter : 4029 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ปุ๋ยกะแมงปอ
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ปุ๋ยกะแมงปอ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.