สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ทุกคนวันนี้ไม่ได้มารายงานผลการลดน้ำหนัก แต่มันมีสิ่งที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเรา ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงอยากจะมาบอกเอาไว้ในบล็อกนี้ค่ะ เป็นความสุขจากการลดน้ำหนักค่ะ ไม่ใช่ว่าเราผอม หุ่นดีแล้วนะคะ แต่มันเป็นความหลุดพ้นจากความคิดที่เรายึดติดไว้น่ะค่ะ ขอเล่าให้เป็นรูปธรรมดังนี้ค่ะเนื่องจากว่าที่ผ่านมานั้น ทุกวันเราจะต้องชั่งน้ำหนัก จิตใจจดจ่ออยู่กับตัวเลขบนตาชั่งค่ะ บางวันกินเยอะก็ชั่ง กินน้อยก็ชั่งค่ะ การนับแคลอรี่ของเรามันไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเราไม่ได้กินตามนั้นหรอกค่ะ แต่เราเพิ่งรู้ตัวเองว่า ที่เรานับแคลอรี่ไปนั้น ก็เพียงเพราะจะได้ทราบว่าน้ำหนักจะมีทิศทางเช่นไร ในวันรุ่งขึ้น มีอยู่วันนึงเราทานอาหารได้ดีอย่างที่ตั้งใจ แต่พอไปชั่งน้ำหนัก(หลังมื้อเย็น) นน.มันกลับไม่ลดอย่างที่หวัง ก็กลับไปหาของกินปลอบใจ แล้วพอวันรุ่งขึ้นน้ำหนักก็ขึ้น ก็เริ่มวุ่นวายใจอีกแล้ว อยากจะเลิกๆๆ แต่ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ จึงทำให้เรากลับมาตั้งหลักได้ในไม่ช้า วันนี้...สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปสำหรับเราก็คือ หลังจากที่ได้ประกาศยกเลิกการนับแคลอรี่และเลิกชั่งน้ำหนักทุกวันแล้ว จิตใจเราโล่งมากเลยค่ะ(เหมือนหลุดพ้นจากบ่วงกรรม 5555) เราไม่เคร่งเครียดหรือจดจ่ออยู่กับน้ำหนักอีกแล้ว เรารู้สึกมีความสุข ทุกทีถ้าเป็นวันหยุดประจำของเรา เราจะกินอย่างตบะแตกทุกครั้ง(เพราะก่อนนั้นจะพยายามควบคุมอาหารให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้) แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในช่วงวันหยุด 2 วันที่ผ่านมา เรากลับไม่หมกมุ่นกับการกินและที่สำคัญเราไม่หมกมุ่นกับน้ำหนักอีกต่อไปแล้วค่ะ เราไม่เคยไปแอบชั่งน้ำหนักด้วยค่ะ ^O^ พฤติกรรมในการกินของเรา บอกได้เลยว่ามันเริ่มเหมือนคนทั่วๆ ไปแล้ว คือ กินเมื่ออยากจะกินจริงๆ ค่ะ ไม่มีแล้วค่ะ ที่กินเพราะน้ำหนักมันลดแล้ว หรือกินเพื่อประชดน้ำหนัก มันเป็นก้าวแรกที่เรารู้สึกเป็นอิสระและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะนี่เราเพิ่งรู้ตัวนะคะเนี่ย ว่าที่ผ่านมา...เราวิตกกังวลกับน้ำหนักมากมายขนาดนี้เชียวหรือ เราไม่เคยยอมรับมันเลย เพราะคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง! แต่มาวันนี้เราย้อนกลับไปมอง สิ่งต่างๆ ที่เราทำๆ มา เราทำเพราะกังวล กลัวว่าน้ำหนักมันจะไม่ลดทั้งนั้น ถึงได้ต้องชั่งมันทุกวัน (วันละบ่อยๆ อีกต่างหาก)ทั้งที่จริงแล้ว ไม่มีใครหรอกที่จะผอมหรืออ้วนได้ในวันเดียว!ขอเล่าพฤติกรรมในการชั่งน้ำหนักของเราเสียหน่อยนะคะ เรามีพฤติกรรมในการชั่งน้ำหนักแบบนี้ค่ะหลังมื้อเย็นชอบชั่งน้ำหนัก พอชั่งแล้วมันลดมากกว่าตอนเช้าที่ชั่งไว้ ก็กินเพื่อไม่ให้มันลดมากไป ถ้าชั่งน้ำหนักแล้วมันเท่าตอนเช้า ก็ไม่ต้องออกกำลังกายแล้วเพราะคิดว่าถ้าออกกำลังกายอีก เดี๋ยวน้ำหนักจะลดเร็วไป ถ้าชั่งน้ำหนักแล้วมันขึ้นกว่าตอนเช้านิดหน่อย ก็ออกกำลังกายอีกสักนิดตอนเช้าจะได้ลดลง(บางวันมันก็ไม่ลดอย่างที่ต้องการนะ) หรือบางทีชั่งตอนเย็นเห็นน้ำหนักเท่าตอนเช้าก็กินมื้อค่ำเข้าไปอีกทั้งๆที่กินมื้อเย็นไปเรียบร้อยแล้วก็ทำให้น้ำหนักไม่ลดลง(จิตตกได้อีก)เห็นไหมคะว่า การชั่งน้ำหนักของเรามันส่งผลให้เรากินมากได้เหมือนกันการชั่งน้ำหนักของเราทุกวัน วันละหลายรอบแบบนี้ มันทำให้เรากระวนกระวายใจมากๆ เลยค่ะ มันเป็นความทุกข์และความเครียดที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวที่เรามักจะหลอกตัวเองว่ามันมีความสุขที่ได้ลุ้นตัวเลขบนตาชั่งทุกวันๆ จนมาวันนี้เราเลิกหลอกตัวเองแล้วค่ะ การยึดติดกับการชั่งน้ำหนักแบบนั้นมันทำให้เราไม่มีความสุข นี่เราจมอยู่กับความทุกข์มานานขนาดนี้เลยเชียวหรือ...และนี่! เราดึงดูดความอ้วนเข้ามาหาโดยที่ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ยด้วยพฤติกรรมการชั่งน้ำหนักแบบนี้ของเรา...มันเป็นเหตุที่ทำให้เราอ้วนค่ะ! วันนี้เราจึงอยากจะมาบอกเล่าประสบการณ์เอาไว้ และนี่ก็ถือได้ว่า เราสามารถเข้าใกล้ความผอมขึ้นมาอีกขั้นแล้วค่ะ อิอิ สู้ๆ ค่าปล.ถึงคุณปะการัง นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อนค่ะ ที่อยากจะไปเล่าให้คุณปะการังฟัง (อิอิ) แต่มันยาวแบบนี้แหละค่ะ เพื่อนเลยเอามาเขียนใส่บล็อกเอาไว้เป็นอุทาหรณ์(บรู๊วว์)แทน ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้สึกดีๆ ดีใจมากมายที่ได้รู้จักคุณปะการังเรืองแสงและขอขอบคุณจักรวาลที่ทำให้เพื่อนได้มีความรู้สึกเช่นนี้ค่ะ