Timeline เจาะเวลาผ่าจักรวาล (New Version) ตอนที่ 11
หลังจากอุมาเทวีได้ไปรับมหาเทพโอซิริสมาแล้วเทพพยากรณ์บอกกับอุมาเทวีให้พามหาเทพไปหาศิวะเทพทันทีที่สเฟียร์มรกตพระนางอุมาเทวีจึงรีบปฏิบัติตามนั้น ต่อมาไม่นานทั้งสามได้อยู่บนโต๊ะแก้วเนรมิตองค์ศิวะเทพได้กล่าวกับเทพทั้งสองว่า ก่อนอื่นต้องบอกให้ทั้งสองท่านทราบก่อนว่าtimelineของโลกที่ท่านจากมากับ timeline ของโบมมีความแตกต่างกัน เทพพยากรณ์เพิ่มเติมข้อมูลทุกอย่างให้มหาเทพโอซิริสเนื่องจากมหาเทพมีศักยภาพพิเศษ จึงสามารถรับรู้และซึมซับข้อมูลทุกอย่างได้โดยง่าย องค์ศิวะเทพได้กล่าวต่อ ทั้งมหาเทพโอซิริสและพระนางอุมาเทวีทรงเป็นมนุษย์ในจักรวาลที่ 76 เพียงแต่มหาเทพโอซิริสจะมีชีวิตอยู่ก่อนพระนางอุมาเทวี12,000 ปี แต่พระนางอุมาเทวีจะเสด็จมาถึงที่โบมก่อน พระนางอุมาเทวีทรงสงสัย ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นได้ล่ะท่าน สำหรับโบมแล้วเราสามารถมองเห็นจักรวาลที่ 76 ได้ทั้งหมดตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุดtimeline ทั้งหมดเปรียบเทียบได้กับแท่งแก้วใสที่อยู่เหนือพวกท่านตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ จุดไหนของ timeline ของโลกที่เข้าถึงโบมได้ก่อนโบมจะรับจิตวิญญาณของผู้นั้นเข้ามาก่อนหรืออาจเรียกได้ว่าจักรวาลที่ 76 มีลักษณะเป็นวงกลมตอนที่มาสัมผัสกับโบมและได้มีการเคลื่อนสัมผัสกันเป็นช่วงๆ ทั้งมหาเทพโอซิริสและพระนางอุมาเทวีได้เงยหน้ามองขึ้นไปพระนางอุมาเทวีทรงสงสัยบางสิ่งบางอย่าง จึงถามองค์ศิวะเทพว่า ท่านมองเห็นได้มากขนาดนี้ทำไมถึงไม่รู้ว่าใครคือตัวการในการฆ่าหม่อมฉัน องค์ศิวะเทพได้กล่าวว่า ,นั่นคือสิ่งที่ข้ายังสงสัยอยู่ข้าทราบว่ามหาเทพโอซิริสตายด้วยน้ำมือของเซธ แต่ไม่รู้ว่าใครฆ่าพระนางอุมาเทวี มหาเทพโอซิริสพูดขึ้นบ้าง นั่นทำให้เราทราบว่าผู้อยู่เบื้องหลังการฆ่าพระนางอุมาเทวีไม่ใช่ธรรมดา พระนางอุมาเทวีได้กล่าวต่อว่า และผู้นั้นอาจจะเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ทำให้เทพซุสกับสหายทั้งหมดต้องหายไปจากโบม องค์ศิวะเทพทรงมีสีหน้าเคร่งเครียด เทพพยากรณ์ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยปัญหาใหญ่ตอนนี้คือการเข้าใจผิดของซุส อาจทำให้โบมมีปัญหา มหาเทพโอซิริสให้ความเห็นว่า เทพซุสเป็นเทพที่ใจร้อนน่าจะสืบก่อนว่าทำไมสเฟียร์ของเขาจึงหายไปจากโบม พร้อมๆกับผองเพื่อนของเขา ไม่ใช่ว่าจะมาทำสงครามกับโบมอย่างเอาเป็นเอาตาย องค์ศิวะเทพกล่าวว่า ซุสเป็นเทพที่วู่วามเขาน่าจะคิดว่าข้าเป็นตัวการ เพราะน่าจะมีข้าคนเดียวเท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้ แสดงว่าตอนนี้ไม่ใช่ท่านคนเดียวแล้วที่ทำแบบนี้ได้ พระนางอุมาเทวีออกความเห็นขณะที่ศิวะเทพกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น เจ้าแม่กวนอิมก็ได้ปรากฏองค์ตรงหน้าเทพทั้งสามเทพทั้งสามยืนขึ้นเพื่อให้เกียรติแก่เจ้าแม่กวนอิม ท่านมีเรื่องอะไรหรือท่าน พระศิวะได้ถามเจ้าแม่กวนอิมเจ้าแม่กวนอิมได้กล่าวว่า ตอนนี้ซุสกับพวกของเขาได้บุกมาที่สเฟียร์ใหญ่ของโบมพระอินทร์กับเทียนกงกำลังรับมือเขาอยู่ ข้าจึงมาเชิญพวกท่านไปที่สเฟียร์ใหญ่ หลังจากพูดจบเทพทั้งสี่ก็หายไปและได้ไปปรากฏตัวที่สเฟียร์ใหญ่ทันที เมื่อพระศิวะ มหาเทพโอซิริสพระนางอุมาเทวี และเจ้าแม่กวนอิมปรากฏตัวขึ้นแล้ว ซุสได้เอ่ยขึ้น พวกท่านมาแล้วเหรอ ท่านเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว พระศิวะได้เอ่ยขึ้นพระองค์มองเทพที่อยู่ข้างๆเขา นั่นคือธอร์กับโลกิ ซุสกล่าวต่อว่า หรือท่านจะบอกว่ามีเทพที่ใหญ่กว่าท่านในโบม พระศิวะไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติมพระองค์เองก็สงสัยเหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องนี้พระองค์มองว่าเทพที่เข้าพวกกับซุสก็มีมากอยู่ ทุกเทพก็คงคิดอย่างเดียวกับซุสคือคิดว่าพระศิวะเป็นสาเหตุที่ทำให้สเฟียร์เขาโอลิมปุสเกิดหลุดออกไปจากโบมพระศิวะถามซุสว่า แล้วเหตุผลที่ข้าต้องทำอย่างนั้นล่ะ ซุสตอบง่ายๆว่า ท่านอาจจะอยากเป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียวในโบมก็ได้ใครจะไปรู้ล่ะว่าทำไมท่านถึงเปลี่ยนไป เมื่อได้ยินอย่างนั้นพระศิวะก็คิดไม่ตกว่าทำไมซุสถึงเข้าใจอย่างนั้นไปได้มหาเทพโอซิริสได้กล่าวขึ้นบ้าง ถ้าพวกท่านไม่มีวิจารณญาณถึงขนาดนั้นพวกเราก็จนใจ ซุสหันไปมองมหาเทพโอซิริสเทพพยากรณ์ยังยินดีที่จะสื่อสารเรื่องที่ซุสอยากรู้ในหัวของเขาทำให้ซุสรู้ว่ามหาเทพผู้นี้คือใคร พวกข้าต้องขอตัวไปก่อนแล้วข้าจะส่งคนมาประกาศสงครามกับพวกท่านอีกครั้ง พอพูดจบทั้งซุสและพวกของเขาก็หายตัวไป พระศิวะไม่ได้ถามว่าทำไมมหาเทพโอซิริสจึงกล่าวอย่างนั้นพระองค์คิดว่ามหาเทพโอซิริสคงมีเหตุผลอะไรซักอย่างแต่พระองค์ก็ไม่คิดที่จะถามมหาเทพโอซิริสในตอนนี้ ณ สเฟียร์ส่วนพระองค์ของพระนางอุมาเทวี เมื่อทรงรับรู้เหตุการณ์หลายอย่างทำให้พระนางไม่สบายพระทัยไหนจะเหตุการณ์ของปี 2014 ที่เกิดเอกภพคู่ขนานปี 3014 และอีกสามแสนปีข้างหน้า ไหนจะเหตุการณ์ที่โบม พวกฝ่ายต่อต้านคงชอบแต่พระนางไม่ชอบเลยที่แต่ละที่เหมือนจะมีสงครามย่อมๆเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโบม ที่อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆได้ ขณะที่กำลังคิดทบทวนหลายเรื่องอยู่นั้น พระนางรู้สึกแปลกๆเหมือนดวงจิตของพระนางจะสื่อกับจิตของใครบางคนได้ ตอนแรกพระนางคิดว่าเป็นภันดรแต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เพราะคนที่พระนางเริ่มสื่อจิตกับเขาได้น่าจะอยู่ในปี 3014และตอนนี้เขาน่าจะรู้สึกเหมือนกัน พระนางเริ่มรู้สึกแรงมากขึ้นเรื่อยๆสัญญาณมันมากขึ้นๆๆๆ จนในที่สุดพระนางรู้สึกว่ามีใครอยู่ด้านหลังพระนาง ถวายความเคารพแด่พระนางอุมาเทวี พอพระนางหันไป ก็พบชายหนุ่มหน้าตาดีเขาน่าจะเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ จิมมี่ พระนางทักออกไป จิมมี่ยิ้มให้พระนางพระนางอุมาเทวีอุทานออกมาสั้นๆว่า ท่าน จิมมี่ยิ้มพร้อมกับอธิบายว่า พระนางเป็นเทพประจำตัวของผมวันนี้ผมถอดจิตมาหาพระนาง ผมอยู่ปี 3014 แปลกใจที่ท่านมาที่โบมได้ พระนางอุมาเทวีกล่าวออกไป จิมมี่ตอบไปว่า ครับ ผมนั่งสมาธิอยู่ที่นครวัดผมพยายามถอดจิต และระลึกถึงพระนาง ผมพอจะทราบว่าพระนางคือเทพประจำตัวของผมหลังจากพระนางเสียชีวิตได้ไม่นาน พระนางอุมาเทวีนิ่งคิดจนพระนางเองก็รับรู้ได้ ใช่แล้วข้าเองก็สัมผัสได้ถึงสิ่งที่ท่านว่า และเหตุที่ข้าเป็นเทพประจำตัวของท่านก็เพราะเราเคยเป็นคู่รักกันมาหลายชาติ แต่ก็ไม่บ่อยเท่าภันดร พระนางอุมาเทวีนิ่งนิดหนึ่งก่อนจะพูดว่า ตอนนี้ท่านทราบเรื่องยุ่งๆทุกอย่างแล้ว ใช่ครับ หลังจากสื่อถึงพระองค์ได้ผมก็รู้หลายเรื่องที่พระองค์รู้ จิมมี่บอกพระนางอุมาเทวีไป พระนางสงสัยอีกเรื่องหนึ่ง แล้วท่านไปที่อื่นของโบมได้ไหม ไม่ได้หรอกท่านผมเข้ามาได้เฉพาะสเฟียร์ของท่าน ผมสื่อจิตถึงท่านโดยตรง จิมมี่ตอบพระนางไป เขาพูดต่ออีกว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมลองถอดจิตถึงท่านหลังจากผมถอดจิตได้ก่อนหน้านี้สองถึงสามครั้ง พระนางอุมาเทวีถามจิมมี่ต่อว่า ตอนนี้ท่านก็รู้เรื่องเหตุการณ์ต่างๆของปี2014,3014 สมัยยุคของราชินีวิคตอเรีย แล้วก็เรื่องราวของโบม ครับ แต่ไม่ใช่แค่นั้นผมยังรู้เรื่องราวและติดต่อกับคนในอดีตได้ด้วย พระนางตกพระทัยกับสิ่งที่จิมมี่บอกมามาก ท่านยังติดต่อกับคนในยุคไหนได้บ้าง ยุคพุทธกาล แอตแลนติสแล้วก็ยุคนครวัดครับ ทำไมท่านถึงทำได้ล่ะ ผมอาจจะมีสิ่งของสามสิ่งที่สามารถสื่อกับคนในยุคนั้นได้ พระนางอุมาเทวีเข้าใจเรื่องราว จึงไม่ถามเรื่องพวกนี้ต่ออีก ไม่นานนักพระนางก็เริ่มคำถามใหม่ แล้วจุดประสงค์หลักที่ท่านมาหาข้าวันนี้คืออะไร จิมมี่ถามพระนางแบบขึงขัง พระนางรู้รึเปล่าว่าใครอยู่เบื้องหลังของฝ่ายต่อต้าน พระนางนิ่งไปพักนึงก่อนจะตอบว่า ข้าไม่รู้หรอก ตอนนี้มีแต่คนอยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องยุ่งๆทั้งหมด คนๆนั้นน่าจะมีอำนาจมากไม่ว่าจะเป็นอำนาจทางพลังจิตหรือทางไหนก็ตาม มีพลังจิตมากกว่ามาริสา สมิทอีกเหรอท่าน พระนางถามจิมมี่อย่างสงสัย จิมมี่ตอบว่า น่าจะเป็นอย่างนั้นครับผู้นั้นน่าจะมีอำนาจมากกว่ามาริสา สมิท จิมมี่คุยกับพระนางอุมาเทวีอีกสองสามเรื่องก่อนที่เขาจะกลับไปยังtimelineที่เขามา พระนางอุมาเทวี เริ่มจะเข้าใจว่าtimeline ของโลกกับของที่โบมต่างกันอย่างไร พระนางเริ่มรู้ว่า timelineที่โบมก็ต่างจาก สวรรค์ชั้นอื่นๆกับขุมนรกอีกด้วย โลกอยู่ในจักรวาลที่เวิ้งว้างโลกปัจจุบันอยู่ในจักรวาลที่ 76 แต่จริงๆแล้วจะเรียกโลกและเหตุการณ์ตอนนี้ว่าเป็นปัจจุบันไม่ได้ เรียกได้แค่เพียงว่าพระนางสื่อได้กับเหตุการณ์นี้เพราะคนในโบมสื่อได้กับเหตุการณ์ในหลายยุคของโลก มันจึงไม่มีอดีต ปัจจุบันและอนาคตจริงๆ ปัญหาหนักสุดตอนนี้คือใครมาเล่นกับเรื่องของเวลาทำให้หลายอย่างดูปั่นป่วน จนทำให้พลังจักรวาลดูยุ่งเหยิง ตอนนี้พระนางรับรู้ได้ว่าพระนางเป็นตัวละครสำคัญของเหตุการณ์นี้หลังจากที่ฝ่ายต่อต้านได้รู้ว่าสิ่งที่เขาคิดไม่ได้เป็นอย่างนั้นเขาอาจกำลังหาทางอยู่ว่าจะทำอย่างไรดีเป้าหมายน่าจะย้ายจากตัวพระนางไปยังราชินีวิคตอเรียโดยตรง แต่ถึงแม้ว่าเป้าหมายจะเลื่อนไปแต่นี่คือโอกาสสำคัญที่สุดที่พระนางจะรู้ว่าแท้จริงแล้วจักรวาลคืออะไร ไม่สิตอนนี้ความสงสัยมีมากกว่านั้น โบมคือที่ไหน และ timeline จริงๆคืออะไรหรือจริงๆแล้ว timeline จริงๆไม่มี แต่พอเราอยู่ในโลกหรืออยู่ในจักรวาลเราจะรู้สึกว่ามันมี ตอนนี้เริ่มมีหลายเรื่องที่พระนางสงสัย ไหนจะการที่จิมมี่สามารถถอดจิตมาติดต่อพระนางได้อีก ขณะที่พระนางกำลังคิดอยู่พระนางรับรู้ได้ว่ากำลังมีใครสักคนพยายามจะติดต่อกับพระนางแต่ไม่สามารถติดต่อได้โดยง่าย จนคลื่นแห่งจิตวิญญาณหายไปแต่พระนางก็ยังอยากรู้ว่าคนๆนั้นเป็นใคร.
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2557 2:42:51 น. |
|
0 comments
|
Counter : 290 Pageviews. |
|
|