WWR 18 : ฆาตกรรมยุคฟาโรห์
DEATH COMES AS THE END : ฆาตกรรมยุคฟาโรห์ อกาธา คริสตี้ : เขียน ปรีชา-ดวงตา : แปล สร้างสรรค์บุ๊คส์ 264 หน้า 120 บาท
เหนือแผ่นดินอียิปต์ ดินแดนแห่งอารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ ความเชื่อ ความตายและชีวิตนิรันดร์ได้อุบัติขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ ดินแดนแห่งนี้... หากแต่ใครเลยจะคิดว่า ภาพความทรงจำในอดีตอันยาวนาน จะกลับกลายเป็นความจริงสักวันหนึ่งในปัจจุบัน ....
ด้วยต้องการแสวงหาความสงบหลังจากสามีของเธอเสียชีวิต "เรนิเซน" ม่ายสาวแสนสวยจึงเดินทางกลับบ้านของบิดา ณ ริมฝั่งแม่น้ำไนล์
ทว่า ภายใต้เปลือกนอกที่ดูสงบและมั่งคั่งของครอบครัว ได้แฝงไว้ด้วยความละโมบ ตัณหาและความเกลียดชัง และแล้ว..... เมื่ออิมโฮเทปหัวหน้าครอบครัว ได้พาโนเฟรท ภรรยาน้อยผู้ยโสเข้าบ้าน ความสับสนวุ่นวายจึงตามมา ด้วยกิเลสของคนในครอบครัว ได้บันดาลให้เกิดการฆาตกรรมขึ้นถึง 7 ศพ
เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ได้เกิดที่เมืองทีเบสซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ประเทศอียิปต์ เมื่อก่อนคริสตกาลประมาณ 2,000 ปี ทั้งเวลาและสถานที่ดังกล่าวนี้ตรงกับเรื่องนี้โดยบังเอิญ รวมตลอดทั้งเวลาและสถานที่อื่นนอกจากที่กล่าวแล้วก็ตรงกับเรื่องนี้เช่นกัน แต่สิ่งที่ดลใจในการกำหนดบุคลิกตัวละครและการวางโครงเรื่อง ได้มาจากจดหมายยุคที่ 11 ของอียิปต์ ซึ่งคณะสำรวจโบราณคดีอียิปต์แห่งพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมของนครหลวงมลรัฐนิวยอร์ก ได้ขุดพบจากที่เก็บศพตรงข้ามกับเมืองลูซอร์ระหว่างปี 1920-1921 และศาสตราจารย์แบทติสโคม กันน์ได้แปลลงในวารสารพิพิธภัณฑ์
เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านที่ควรกล่าวก็คือการยกทรัพย์สินให้กับพระผู้ดูแลเก็บศพและทำพิธีเซ่นสรวงวิญญานซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันของอารยธรรมอียิปต์ในสมัยโบราณ การยกทรัพย์สินให้ที่ว่านี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับการทำพิธียกทรัพย์สินให้เป็นสมบัติของวิหารในสมัยกลางการยกทรัพย์สินให้พระคอยดูแลที่เก็บศพของผู้ยกให้และคอยนำเครื่องเซ่นไหว้ไปทำพิธียังที่เก็บศพในวันที่จะต้องทำพิธีกรรมตลอดทั้งปี ทั้งนี้เพื่อความสงบสุขของวิญญานผู้ตาย
ปฏิทินการเกษตรของอียิปต์ในสมัยโบราณนั้นมีด้วยกัน 3 ฤดู ฤดูหนึ่งมี 4 เดือน เดือนละ 30 วัน ตามสภาพชีวิตของชาวนาและในปลายปีมีวันเพิ่มอีก 5 วันให้ครบปี ดังนั้น ปีปฏิทินจึงถือว่ามีเพียง 365 วัน ดังกล่าวนี้เริ่มต้นเมื่อน้ำในแม่น้ำไนล์ของอียิปต์เอ่อท่วมตลิ่ง ซึ่งเราสังเกตว่าเริ่มท่วมในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม เนื่องจากอียิปต์ไม่มีปีอธิกสุรทิน ** ทำให้จำนวนวันในบางปีขาดไปเป็นเวลาหลายศตวรรษ ปีที่กล่าวนี้เป็นปีที่เขียนในเรื่อง ผลก็คือ วันขึ้นปีใหม่สากลถึงกำหนดก่อนวันเริ่มเพาะปลูกของอียิปต์ถึง 6 เดือน คือปีใหม่สากลจะเริ่มในเดือนมกราคมแทนที่จะเป็นกรกฎาคมอย่างของอียิปต์ อย่างไรก็ตามเพื่อที่ท่านผู้อ่านจะได้ไม่ยุ่งยากเกี่ยวกับช่วงระยะเวลาที่ต่างกัน 6 เดือน วันเวลาที่กล่าวไว้ในหัวเรื่องแต่ละบทจึงกล่าวถึงวันที่คำนวณจากปีปฏิทินการเพาะปลูก กล่าวคือ ฤดูน้ำหลากเริ่มปลายเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ฤดูหนาวจากปลายเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนมีนาคม และฤดูร้อนจากปลายเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม (จากคำนำผู้ประพันธ์)
ปีอธิกสุรทิน : วันที่เพิ่มขึ้นในปีสุริยคติ คือในปีนั้นเพิ่มวันเข้าในเดือนกุมภาพันธ์อีก 1 วัน เป็น 29 วัน ( จากพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 )
นวนิยายแนวอาชญากรรมของอกาธา คริสตี้ ราชินีนวนิยายสืบสวนเบสต์เซลเลอร์อันดับ 1 ตลอดกาล ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าปกติชอบอ่านแนวนี้แต่ยังไม่เคยอ่านผลงานของอกาธาเลยสักเล่ม เล่มนี้คือเล่มแรกจริงๆ หลักใหญ่ใจความของการฆาตกรรมในเล่มนี้เกิดจากความโลภ ละโมบกับทรัพย์สินของครอบครัว เข้าข่ายมรดกเลือดประมาณนั้น แน่นอนว่าการอ่านหนังสือแนวนี้ต้องมีการโดดเข้าร่วมสมรภูมิค้นหาตัวฆาตกร แล้วใครล่ะคือฆาตกร เหตุจูงใจคืออะไร เนื้อเรื่องหลอกล่อให้เราเดาไปตามที่ผู้เขียนวางไว้ แล้วหักมุมเลี้ยวควับตอนท้าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือมูลเหตุจูงใจไม่ได้หลุดกรอบเหมือนบางเล่มที่อ่านแล้วต้องส่ายหัว แต่สำหรับความเห็นส่วนตัวต่อเล่มนี้ถ้าเป็นคนที่ช่างสังเกตและชอบเก็บรายละเอียด ผมว่าเดาตัวฆาตกรและเหตุจูงใจได้ไม่ยากเลย อ่านได้แต่ยังไม่ค่อยระทึก ตัวละครตายง่ายแต่ไม่เว่อร์เกินธรรมชาติ แนะนำครับ
**** ตัวละครและสถานที่ที่ปรากฏในเรื่องและมีอยู่จริงในตำนาน
อิมโฮเตป เป็นอัครเสนาบดีของฟาโรห์โจเสร์ (Djoser) ฟาโรห์องค์แรกหรือคนที่ 2 ของราชวงศ์ที่ 3 มีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองเมมฟิส เป็นคนแรกที่บันทึกประวัติศาสตร์ของชาวไอยคุปต์ไว้ มีชื่อเสียงโด่งดังในความสามรถหลายอย่าง ทั้งเป็นนักเขียน เป็นหมอ เป็นนักบวชที่เรียนรู้หลักคำสอนของเฮลีออโปลีเทนและเป็นผู้ที่ค้นพบหลักวิชาดาราศาสตร์และสถาปัตยกรรม
ความฉลาดปราดเปรื่องของอิมโฮเตปทำให้ประชาชนเชื่อถือว่าเขาเกี่ยวข้องกับเทพองค์สำคัญ อย่างเช่น เทพปตาฮ์และเทพธอธ
ชาวไอยคุปต์ทุกสมัยรู้จักผลงานทางด้านสถาปัตยกรรมของอิมโฮเตปในนามของปิรามิดขั้นบันไดหรือมาสตาบาแห่งโจเสร์ที่สักการา ใกล้ๆกับเมืองเมมฟิส พีระมิดชนิดนี้สร้างจากก้อนหินปูนที่นำมาจากเมืองตูรา (Tura) บนริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำนิล เป็นพีระมิดแห่งแรกที่ก่อสร้างด้วยหินล้วนๆ มีลักษณะเป็นขั้นบันไดขนาดใหญ่สำหรับกษัตริย์ขึ้นไปบนท้องฟ้า แวดล้อมด้วยวิหารที่ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมและสถานที่เฉลิมฉลองของกษัตริย์มากมาย
สัญลักษณ์ของอิมโฮเตปเป็นนักบวชโกนศีรษะ นั่งหรือคุกเข่าบนม้วนกระดาษพาไพรัส บางครั้งก็สวมกระโปรงยาวอย่างนักบวช ม้วนกระดาษปาปิรุสแสดงถึงแหล่งของความรู้ ส่วนการแต่งกายอย่างนักบวชนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธ์ทางศาสนา -----------------------------------------------
เมมฟิส (ประเทศอียิปต์) เมืองหลวงเก่าของอียิปต์ใต้ในอดีตช่วง 2,200 ปีก่อนคริสตกาล
---------------------------------------------------
องค์เทพปตาห์ (Phtah) เทพแห่งศิลปะ
---------------------------------------------------
ศึกษาเกี่ยวกับยุคอียิปต์โบราณเพิ่มเติมได้ที่บล็อกคุณนีออน //www.bloggang.com/mainblog.php?id=mysmallroom&month=15-08-2009&group=5&gblog=8
Create Date : 19 ธันวาคม 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2553 0:53:36 น. |
Counter : 1080 Pageviews. |
|
|
|