|
WWR 12 : กาซิโกกิ
กาซิโกกิ โจ ชางอิน : เขียน แฮจิน คิม : แปล สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊ค พิมพ์ครั้งที่ 3 เมษายน 2546 276 หน้า 190 บาท
"ปลากาซิเป็นปลาที่แปลกมากครับ หลังจากที่แม่ปลาวางไข่ไว้ก็จะหายตัวไปเลย ไม่สนใจว่าลูกไข่ปลาจะเป็นยังไง พ่อปลาจะทำหน้าที่เฝ้าไข่ไว้แต่เพียงลำพัง พ่อปลาจะสู้ยิบตากับปลาหรือสัตว์อื่นๆที่จะมากินไข่ปลา พ่อปลาจะไม่หลับไม่นอนไม่กินเอาแต่เฝ้าระแวดระวังไม่ให้ใครมาทำร้ายลูกปลาของตนตลอดเวลา หลังจากที่ลูกๆตื่นออกมาจากไข่และเจริญเติบโตขึ้นแล้วลูกปลาก็จะทอดทิ้งพ่อปลาจากไปตามทางของตนเอง พ่อปลาที่เหลืออยู่เพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยวหลังจากที่ลูกปลาไปพ้นอกจะว่ายชนหินจนตาย ปลากาซิทำให้ผมนึกถึงพ่อเสมอ"
เรื่องราวของ จองทาอุม เด็กชายวัย 10 ปีที่ป่วยเป็นลูคีเมีย อาศัยและใช้ชีวิตอยู่กับพ่อ เพราะแม่ทิ้งไปแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ ความรักระหว่างพ่อ-ลูกคู่นี้เป็นความรักที่บริสุทธิ์สัมผัสได้ซึ่งความทุ่มเท พ่อดูแลลูก และ ลูกดูแลพ่อ
พ่อเป็นคนอมทุกข์ มักเหม่อมองท้องฟ้าอย่างเศร้าซึม
"การศึกษาไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดหรอกลูก ถ้าแบ่งการดำรงชีวิตออกเป็นสิบส่วนละก็ การศึกษาเป็นแค่ 1 ใน 10 เท่านั้น"
ผมอยากถามพ่อต่อว่าแล้วอีก 9 ส่วนที่สำคัญคืออะไรแต่พ่อเองคงไม่รู้ ถ้าพ่อรู้ป่านนี้คงไม่มานั่งเศร้าซึมและหมดเรี่ยวแรงแบบนี้หรอก
"คนเราต้องรู้จักอดทนแม้แต่เรื่องที่เราไม่ชอบเพื่อคนที่เรารัก คนที่ผมรักมากที่สุดในโลกคือพ่อ"
ผมเป็นเด็กไม่ดีครับ เป็นลูกที่มักทำให้พ่อต้องทุกข์ใจเสมอ ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้วผมคงเข้าออกโรงพยาบาลมากกว่า 10 ครั้ง อย่างเร็วก็ 1 อาทิตย์ ถ้านานก็เกือบ 2 เดือนก็มี แล้วครั้งนี้ก็เข้ามาอยู่โรงพยาบาลเดือนครึ่งแล้วครับ
"คราวนี้ค้างอยู่ 2 ยอดแล้วนะครับ"
แม้จะไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรมากมายแต่ก็เอาทั้งหมดที่มี จ่ายเป็นค่ารักษาให้โรงพยาบาลจนหมด
"จะรีบจัดการให้ครับ" "แน่นะครับ? ถ้าคุณไม่รักษาสัญญาละก็ ทางเราก็คงต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" "ดำเนินการขั้นเด็ดขาด?" "คงต้องยุติการรักษาทุกขั้นตอน เราเองก็หวังว่าเหตุการณ์จะไม่ถึงขั้นนั้น"
งานที่หวังจะมี เงินที่หวังจะได้ก็พลาดไป จะยืมเงินเพื่อนรักมาเป็นค่ารักษาก็ถูกปฏิเสธ การรักษาด้วยวิธีเดิมๆก็ไม่ได้ผล ส่วนการรักษาวิธีใหม่ค่าใช้จ่ายก็เกิดกำลัง สุดท้ายจองโฮยอนจึงตัดสินใจว่า
"ทาอุมเอ๊ย เราออกจากโรงพยาบาลกันดีมั้ย?"
ระหว่างที่กำลังสับสนกับความคิด จินฮีรุ่นน้องที่เคยร่วมงานก็นำเช็คมาให้ รวมกับเงินอีกจำนวนหนึ่งซึ่งได้จากการขายหนังสือบทกวีที่สะสมให้กับลีกุง จึงทำให้ความคิดของจองโฮยอนเปลี่ยนไปและตัดสินใจที่จะลองรักษาด้วยวิธีใหม่ ตามคำแนะนำของหมอมิน นั่นคือ การปลูกถ่ายไขกระดูก แต่....
"หาผู้บริจาคไม่ได้หรือครับ" "ไม่มีตัวอย่างที่เข้ากันได้อย่างเหมาะสมเลย เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง" "แล้วต้องทำไงต่อครับ" "ก็ต้องรักษากันต่อไป" "จะให้รักษาด้วยวิธีเดิมๆทั้งๆที่ไม่มีความหวังอย่างงั้นหรือครับ ถึงจะรักษาไปก็ตายอยู่ดี อย่างนี้แล้วยังจะรักษาด้วยเคมีบำบัดที่แสนทารุณต่อไปอีกหรือครับ?.... จะออกจากโรงพยาบาลครับ ถึงจะรักษาต่อก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น ก็ควรจำออกจากโรงพยาบาลจริงมั้ยครับ"
ครั้งนี้จะออกจากโรงพยาบาลตามที่ลูกปรารถนา ลูกจะได้เห็นโลกอื่นที่ไม่โดดเดี่ยว ไม่ถูกบังคับ ไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป อยากกินอะไรก็จะให้กินจนเต็มอิ่ม อยากทำอะไรก็จะตามใจเต็มที่ อยากไปไหนก็จะพาไปไม่ว่าจะสุดหล้าฟ้าเขียวก็ตาม
"พ่อ ขอบคุณครับที่ทำให้ผมหายป่วย พาไปเที่ยวทะเล ซื้อหมวกให้ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ"
ไม่ใช่หายป่วยแต่เพราะอัดยาอย่างแรงเข้าไปทำให้เจ้าลูคีเมียมันอ่อนแรงชั่วขณะ แต่อีกไม่นานมันจะกางกงเล็บอันชั่วร้ายออกมาฉีกทึ้งร่างของลูกออกเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน มันเกินกำลังของลูกที่จะเอาชนะโรคร้ายได้ อยู่ที่ว่าเมื่อไหร่เวลานั้นจะมาถึง อยากให้ลูกใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างที่เด็ก 10 ขวบทั่วๆไปเค้าทำกัน ความสุขเพียง 1 วันย่อมมีค่ามากกว่าความทุกข์พันปีเป็นไหนๆ
"คนเราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกลแสนไกลเพื่อหลุดพ้นจากความมืด ไม่จำเป็นต้องวาดหวังที่จะไขว่คว้าความสุขอันยิ่งใหญ่ เพราะความสุขคือการได้อยู่ร่วมกับคนที่เรารักและสามารถทำทุกอย่างเพื่อคนที่เรารักไงล่ะ"
"สนุกมั้ย? งั้นทำไมไม่ซื้อล่ะ" "แต่มันเป็นหนังสือการ์ตูนนะครับ" "ไม่ใช่ว่าไม่ให้อ่านการ์ตูนทุกเรื่อง การ์ตูนบางเรื่องถ้าอ่านแล้ว ทำให้เราได้ใช้ความคิดละก็ ถือว่าเป็นหนังสือที่ใช้ได้ ที่จริงตอนที่พ่ออายุเท่าทาอุมก็ชอบอ่านการ์ตูนมากกว่าหนังสือเรียนอีก" ดราก้อนบอล เป็นการ์ตูนชุดที่ยาวมาก มีทั้งหมด 42 เล่มคงซื้อหมดไม่ไหว และถ้าคิดจะหยุดอ่านกลางคันละก็ไม่ต้องเริ่มอ่านแต่แรกเลยจะดีกว่า แต่พ่อก็ซื้อทั้ง 42 เล่มให้ผม "แต่ต้องสัญญากับพ่อว่าจะอ่านได้วันละเล่มเท่านั้น"
เวลาทุกนาทีที่ผ่านไปนับตั้งแต่ออกจากโซลมามีความหมายอย่างยิ่ง เขาตระเวนไปทั่วเมืองแดลิริและซาพุกเพื่อหาที่อยู่ อาศัยที่เหมาะสมและเขาดั้นด้นขึ้นไปจนถึงแถวเทือกเขาช็อปช็อปซัน เพราะผู้เฒ่าคนหนึ่ง นี่นเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตในหุบเขา อากาศที่แสนจะบริสุทธิ์ น้ำแร่ใสสะอาดที่ไหลจากซอกหิน ไม่มีผู้คนและสิ่งต่างๆที่จะเป็นแหล่งเแพร่เชื้อโรคได้ เป็นที่ที่เขาพอใจอย่างยิ่งเปรียบเสมือนแหล่งพักพิงสุดท้ายที่ดีเลิศ ถูกเตรียมไว้เพื่อพวกเขาแต่แล้วทุกอย่างก็หายวับไปราวกับแสงเทียนช่วงสุดท้าย ที่ลุกโชนอย่างสว่างไสวก่อนจะดับลงอย่างฉับพลันชั่วกาลนาน มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อนอยู่ๆลูกของเขาก็ต้องตกลงไปในห้วงนรกอเวจีอีกครั้ง
"พระเป็นเจ้า ท่านช่างโหดร้ายเหลือเกินท่านเป็นผู้พิพากษาที่โหดร้ายที่สุด ลูกคือสิ่งสุดท้ายที่ผมเหลืออยู่แล้วทำไมยังคิดจะพรากแม้แต่ความปรารถนาสุดท้ายของผมไปอีก... ลูกผมต้องกัดฟันต่อสู้กับโรคร้ายด้วยความทุกข์ทรมาน ทั้งชีวิตมีแต่หยาดน้ำตามากกว่าเสียงหัวเราะ มีแต่ความโศกเศร้ามากกว่าความสุขใจ ลูกผ่านช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดมาเนิ่นนานเพื่อจะมีโอกาสยิ้มเต็มที่ก็เมื่อไม่นานมานี้เอง ลูกไม่มีแม้แต่ครอบครัวที่สมบูรณ์เฉกเช่นคนอื่นๆ แม่ทอดทิ้งลูกไป ส่วนพ่อก็เป็นคนไร้ความสามารถ ทั้งที่ลูกศรัทธาและไว้วางใจท่าน ผมไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านกระทำต่อชีวิตของลูกผม มันไม่ยุติธรรม..... ได้โปรดช่วยชีวิตลูกผมด้วย ถ้าหากท่านต้องการสิ่งแลกเปลี่ยนจากคนไร้ความสามารถเช่นผม ได้โปรดเอาชีวิตผมไปแทนเถอะผมยอมตายแทนลูก นอกจากลูกแล้วไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ผมต้องการอีกแล้ว...."
ลูกยังอยู่ในอาการโคม่า อุปกรณ์การแพทย์จำนวนมากระโยงระยางอยู่เต็มร่างกาย ราวกับเส้นด้ายบางๆที่คอยดึงชีวิตลูกจากปากประตูแห่งความตาย ยาปฏิชีวนะเข้าไปสู่ร่างกายผ่านท่อสายน้ำเกลือที่แทงเข้าสู่เส้นเลือดดำ บนหน้าอกมีเครื่องตรวจจับจังหวะการเต้นของหัวใจ ใต้ท้องน้อยมี่สายยางต่อออกมาเพื่อขับถ่ายปัสสาวะ เครื่องช่วยหายใจถูกเสียบมิดเข้าไปในรูจมูก เพื่ออัดลมหายใจเข้าไปสู่ร่างกายที่เหลือลมหายใจเพียงแผ่วเบา แม้ที่ผ่านมาจะพยายามรักษาแล้วก็ตามแต่ตอนนี้เซลล์มะเร็งได้แพร่กระจาย ไปจนถึงเส้นประสาทไขสันหลังแล้ว
ตลอดเวลาที่ลูกอยู่ในอาการโคม่า เขาวิตกกังวลแต่เรื่องความเป็นความตายของลูก จนไม่ได้คิดเรื่องอื่นแต่หลังจากที่ลูกอาการดีขึ้นความคิดใหม่ก็รุมเร้าเข้ามาในสมองอย่างรวดเร็ว ปัญหาเรื่องเงินอีกแล้ว....เงินที่เตรียมมาตอนออกจากโซลยังเหลืออยู่เกือบเต็มจำนวน แต่ค่ารักษาที่พอกพูนขึ้นตลอดการรักษามันมากพอกับจำนวนเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่ หลังจากชำระงวดนี้แล้วปัญหาต่อมาคือค่ารักษาพยาบาลในวันต่อไปข้างหน้าจะเอาที่ไหนจ่าย
"พี่บอกว่าจะได้เงินมา 10 ล้านวอนแล้วที่เหลืออีก 10 ล้านวอนล่ะจะทำยังไง" "คงต้องหายืมจากที่นั่นที่นี่ดู" "รุ่นพี่ครับ กรุณาอย่าเข้าใจผิดในเรื่องที่ผมจะพูดต่อไปนี้นะครับ ผมมีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งลูกสาวป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมอง เขาตัดสินใจจะขายอวัยวะแม้จะเสี่ยงต่อการถูกต้มตุ๋น ผมแค่แนะนำเป็นวิธีสุดท้ายให้พี่ลองไปตัดสินใจดูก็เท่านั้น"
ถ้าหากนำส่วนนั้นมาช่วยลูกได้เขาก็ควรจะรีบยื่นมือไปไขว่คว้ามันไว้ก่อนที่จะบินหายไป
"คุณชองโฮยอน !! คงต้องล้มเลิกความตั้งใจที่จะบริจาคแล้วละครับ การทำงานของไตไม่สมบูรณ์ ไดอ่อนแอมากจึงได้ส่งผลไปถึงการทำงานของตับ พบเนื้องอกในตับ...พูดตรงๆก็มะเร็งตับ"
ตับเป็นอวัยวะที่จะไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาจนกว่าจะถึงระยะสุดท้าย ชีวิตที่ถูกกำหนดเส้นตายไว้ทำให้เขาไม่เหลือเวลาที่จะลังเลอีกแล้ว
"ผมไตร่ตรองมานานแล้ว ลูกควรอยู่กับคุณจะดีกว่า" "โกหกใช่มั้ย กำลังลองใจฉันอยู่ล่ะซิ" "คิดว่าผมกำลังขอร้องคุณก็แล้วกัน" "แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่งคะ คุณต้องเขียนเอกสารยืนยันว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับลูกอีก ตัดสายใยความผูกพันทิ้งไปซะ โดยเฉพาะความรักความผูกพันที่ลูกมีต่อคุณ ทำให้แกลืมคุณซะ"
"พ่อ" "หยุดอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ" "....พ่อ ผมคิดถึงพ่อ เมื่อไปถึงฝรั่งเศสแล้ว ผมโทรหาพ่อได้มั้ยครับ" "ไม่ได้" "จดหมายล่ะครับ เขียนจดหมายมาได้มั้ยครับ" "ไม่ พ่อไม่ต้องการ"
น้ำตาเม็ดเล็กไหลร่วงลงมาจากดวงตาของลูก ลูกก้มหน้ามองพื้นเพื่อซ่อนน้ำตาเอาไว้แต่แล้วก็ถามขึ้นมาอีกว่า
"พ่อจะไปหาผมใช่มั้ยครับ" "ไม่ต้องรอพ่อหรอก" "งั้นผมก็ต้องรอไปอีกสี่ปีใช่มั้ยครับ กว่าจะได้พบพ่ออีก" "ถ้าอายุไม่ถึงยี่สิบก็ไม่ต้องคิดจะกลับมาเหยียบแผ่นดินนี้ มีเรื่องจะพูดอีกหรือเปล่า" "ผมแกะหน้าตัวเองจากท่อนไม้ที่พ่อเอามาให้ครับ ผมคิดว่าบางทีพ่ออาจจะคิดถึงหน้าผมบ้างอาจจะไม่ใช่เดี๋ยวนี้ แต่ถ้าเผื่อพรุ่งนี้พ่อคิดถึงผมขึ้นมา.." "เห็นถุงกระดาษที่วางอยู่บนม้านั่งมั้ย วางไว้ข้างๆนั่นแหละ แล้วเอาถุงใบนั้นไปซะ สมุดบันทึกให้แม่เขา ส่วนหนังสือเป็นของลูก" "พ่อครับ...ผมมีเรื่องจะขอร้องพ่อ....ผมอยากจับหูพ่ออีกสักครั้ง ให้ผมจับอีกสักครั้งได้มั้ยครับ" เขาส่ายหน้าปฏิเสธอย่างช้าๆ "...ไปได้แล้ว พ่อจะลืมลูกดังนั้นลูกก็จงลืมพ่อซะ มีชีวิตอยู่โดยลืมว่าเคยมีพ่อคนนี้อยู่ รีบไปซิ อย่าหันกลับมามองอีก วิ่งไปหาแม่อย่างร่าเริงด้วย" ลูกไม่ได้หันหลังกลับมามองเขาจนนาทีสุดท้าย
ไปดีนะลูกพ่อ ไปดีนะลูกชายของพ่อ ต่อไปนี้พ่อไม่มีวันได้เห็นหน้าลูกอีกแล้ว ไม่มีทางได้ยินเสียงของลูกอีกแล้ว ไม่มีโอกาสจับมืออับอบอุ่นของลูกอีกแล้ว ไม่มีวันได้กอดลูกแนบอกอีกต่อไปแล้ว แต่ลูกพ่อ...ลูกผู้เป็นทุกสิ่งในชีวิตของพ่อ ถึงพ่อจะตายก็ไม่ได้สูญสลายไปจากโลกนี้
Create Date : 03 ธันวาคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2553 0:55:42 น. |
Counter : 1589 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: สุทธิดา วัฒนาไชย IP: 183.88.180.82 8 กุมภาพันธ์ 2567 20:13:38 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
สวัสดีเพื่อนใหม่ทุกคนนะครับ ผมเป็นมือใหม่หัดเล่น จริงๆรู้จักมานานแล่ะ แต่ไม่ได้เล่น หลังจากแวะเวียนไปมาหาสู่บล็อกคนอื่นๆมานานชักอยากจะมีเป็นของตัวเอง ก็เลยจัดการสร้างซะเลย
ผมชอบอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลงมีความสุขดีครับ สำหรับคอเดียวกันทำความรู้จักกันได้นะครับ ยินดีอย่างยิ่งเลย
|
|
|
|
|
|
|
ปล. อ่ะนะ มีหนังเรื่องนี้ด้วยหรอเป็นหนังญี่ปุ่นนะ ถ้ามีจริงฝากไรต์มาให้หน่อยดิครับ อยากดูอ่ะ
ปล.2 โทรมาตอนไหนก็ได้ครับ ถ้าสะดวกรับเดี๋ยวก็รับเองจ้า