ไม่อยากจะนับเป็นเดือนเลยว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เข้ามาอัพเดทบล๊อกของลูกสาวเลย  นับจากวันนี้ไป จะเข้ามาบ่อยขึ้นล่ะกันนะลูกนะ 

น้องพราวมีพัฒนาการมากมายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แม่จะอัพเดทแบบย้อนหลังนะลูก   แต่วันนี้ เข้าเรื่องก่อนเลยล่ะกัน  เมื่อวานแม่ได้ลองเข้าไปพูดคุยและสำรวจโรงเรียนอนุบาลที่แม่คิดๆ ไว้ว่า นู๋น่าจะได้เรียนที่นี่  (ด้วยเหตุผลหลายๆ ข้อของพ่อและแม่) 

โรงเรียนอยู่ใกล้ออฟฟิสของแม่มากๆ ถ้าเดินไปก็ 5-10 นาที แต่...เมื่อวานแอบไฮโซนิ๊ดนึง ขอขับรถไปล่ะกัน เพราะว่าออกไปเวลาเที่ยงนิดๆ แดดร้อนมากๆ อ้อ...มีน้าด้าดาขอตามไปสำรวจด้วยคน  ดีเชียว มีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นเพิ่มอีกหนึ่ง  อิอิ

ไปจอดรถหน้าโรงเรียน ก็เห็นป้ายประกาศเลื่อนการเปิดเทอมเป็น 7 มิ.ย. เนื่องจากเหตุการณ์ไม่ปกติ   แม่เลยไม่เจอนักเรียนตัวน้อยๆ เลยซักคน นอกจากรั้วข้างๆ ที่เป็นโรงเรียนประถมจะมีพี่ๆ มาวิ่งเล่นกันช่วงเที่ยง (รั้วกั้นระหว่างร.ร.อนุบาลและประถม ใช้เสาสีขาวๆ ต้นใหญ่ๆ มาตั้งๆ เว้นระยะห่างที่แม่คิดเอาเองว่า กะว่าเด็กๆ ไม่สามารถลอดรั้วไปมาได้ อิอิ)

จากหน้าประตูโรงเรียน มีการทำหลังคาเชื่อมเป็นทางโค้งไปยังอาคารที่เป็นโรงอาหารและมีทางเชื่อมและหลังคาตลอดทางระหว่างแต่ละอาคาร

รูปนี้ถ่ายตอนขากลับ เดินออกจากโรงอาหารมาหน้าโรงเรียน

มีโรงอาหารให้เด็กๆ มาทานข้าวเที่ยงพร้อมๆ กันเวลา 11.00 น. ในรูปจะยังไม่ได้ตั้งโต๊ะเต็มพท. เพราะยังไม่ได้เปิดเทอม

 มีห้องสมุดเล็กๆ น่ารักๆ ให้เด็กๆ ไว้อ่านนิทาน

มีของเล่น บ้านบอลซึ่งตั้งไว้ที่โถงกลางหน้าห้องสมุด  แต่ไม่แน่ใจว่า เปิดเทอมจะยังตั้งที่เดิมมั้ย

 ก่อนจะเดินดูโรงเรียน ก็ได้พูดคุยกับคุณครูได้ข้อมูลเบื้องต้นมาพอประมาณ  ที่นี่เป็นร.ร.เอกชนแต่ค่าเทอมราคาต่างจากร.ร.เอกชนละแวกนี้มากๆ อาจจะเพราะเพื่อเป็นสวัสดิการแก่เจ้าหน้าที่ด้วย <-- แม่คิดเองอีกล่ะ 

• ค่าเทอม 13k รวมค่าแรกเข้าแล้วและได้ชุดนักเรียน 1 ชุด (ซื้อเพิ่มชุดละ 300 บาท)


• เด็กๆ เลิกเรียน 15.00 น.


• รับฝากเลี้ยงต่อหลังเลิกเรียนถึง 17.30 น. (แต่ลืมถามราคา )


• มีการสอนพิเศษช่วงเวลา 15.30-16.30 น.


• เรียนภาษาอังกฤษอาทิตย์ละ 1 วันๆ 45 นาที จากครูต่างชาติ


• มีวิชานาฏศิลป์ และ ดนตรีไทย ให้เด็กๆ เรียนด้วย (ดีๆ แม่แอบชอบ คุณครูบอกว่ามีเรียนตีขิมด้วย  ว้าว ว้าว)

เก็บข้อมูลมาไม่มาก เพราะเดี๋ยวจะกลับไปเยี่ยมชมอีกครั้ง หลังจากเด็กๆ เปิดเทอม จะได้เห็นบรรยากาศจริงของการเลี้ยง เอ้ย สอนของคุณครูเลย (ที่นี่อนุญาต ให้เข้าไปได้ ดีจัง)

ก็เป็นอีก 1 ทางเลือก ที่แม่คิดว่า น่าจะเลือกให้น้องพราว ข้อดี คือ ใกล้ที่ทำงานแม่ รับส่งนู๋สะดวก ไม่ต้องกังวลมาก...ข้อเสีย ยังนึกไม่ออก ต้องขอเก็บไว้มาตอบหลังจากไปดูร.ร.อีกครั้ง...

17 มิ.ย. 2553 (วันพฤ. อีกแล้ววว ครั้งแรกที่ไปดูโรงเรียนก็วันพฤ. )

โรงเรียนเปิดได้ 2 อาทิตย์แล้ว  เลยลองเข้าไปดูอีกครั้งว่าเด็กๆ เป็นยังไงบ้าง ตั้งใจไปช่วงที่เด็กพักทานข้าวกลางวันเพื่อจะได้เห็นสภาพการจัดการและการทานข้าวของเด็กๆ   ภาพที่เห็น คือ

- แต่ละห้อง คุณครูพายืนตั้งแถวหน้าห้อง และเดินกันเป็นระเบียบมาที่โรงอาหาร
- คุณครูให้เด็กๆ เข้านั่งประจำที่ของตัวเอง (จะมีแก้วน้ำของเด็กๆ ที่นำมาจากบ้านวางไว้ข้างๆ ถาดหลุมที่ใส่อาหารและของหวาน)
- เมื่อมาพร้อมกันทุกห้อง (อ.1-อ.3) จะมีการร้องเพลงก่อน จึงลงมือทานข้าว
- ทานข้าวแล้ว ไปล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนเป็นชุดนอน เตรียมนอนกลางวันช่วง 12.00-14.00 น.
- ช่วงบ่ายมีของว่างหลังตื่นนอน (เช้า 9 โมงจะเป็นดื่มนม)

ได้พูดคุยและขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณครูสา ถึงตารางกิจกรรม การเรียนการสอนในแต่ละวัน  คุณครูอธิบายว่า

- แต่ละระดับชั้น มีตารางเรียนที่สลับ หมุนเวียนกัน ใน 1 วัน  เช่น ห้อง 1 เรียนภาษาอังกฤษ 9 โมงเช้า ห้อง 2 ก็จะเรียนภาษาอังกฤษ ต่อจากนั้นอีก 45 นาที วนไปจนครบ 5 ห้อง
- การเข้าแถวตอนเช้า ถ้าสนามหญ้าไม่เฉอะ ฝนไม่ตก เด็กๆ ก็จะยืนตรงนั้นได้ แต่ถ้าไม่ได้ ก็จะให้ยืนหน้าห้องเรียน
- เวลาเคารพธงชาติ คือ 8.30 น.
- พี่ๆ อ. 3  จะเรียนที่ชั้น 2 ของอาคาร
- ช่วง summer ก่อนเปิดเทอม จะมีเข้าคอร์สเตรียมความพร้อมให้เด็กก่อนเปิดเทอม

เห็นเด็กๆ อ.3 แล้ว รู้สึกเลยว่า เด็กๆ โตมากจนเราเองที่เป็นแม่ยังแปลกใจ อ.3 เค้าตัวโตกันขนาดนี้เลยหรอ (แอบเปรียบเทียบกับลูกตัวเองนิดนึง อิอิ)  จนต้องรีบถามคุณครูว่า อ.1 นั่งอยู่ไหนคะ  มองไป ก็เอ...ก็ยังดูโตกว่ายัยพราวด์อยู่ดี  สงสัย ต้องรออีก 6 เดือน ค่อยเอาน้องพราวมาเทียบใหม่เนอะ  ที่เทียบเนี่ย แค่ด้านสรีระ  จริงๆ แล้ว น้องพราวก็ทำอะไรๆ ได้เกือบเท่าๆ เด็กที่เรียนอนุบาลแล้วล่ะ  (แอบชมลูกตัวเองนิ๊ดนึง) 

สิ่งที่ลูกควรจะทำ/ ต้องทำได้ก่อนเข้าอนุบาล คือ
1. แต่งตัวเองได้ --> ใส่/ ถอด เสิ้อผ้า ถุงเท้า รองเท้า  <== ผ่าน น้องพราวทำได้หมดแล้ว
2. เลิกกินขวดนม <== ยังอ่ะ   อ่ะ น่า เหลือเวลาอีกตั้ง 1 ปี ต้องเลิกได้ก่อนอยู่แล้วล่ะน่า  สู้ สู้
3. ทานข้าวได้เอง  <== ข้อนี้ หมูมากๆ  (หมูสมกับปีเกิดนู๋เล้ยยยย)  อยู่เนอส ก็ทานเองประจำ แถมทานได้มากด้วย แม่หายห่วง อิอิ

นึกไม่ออกล่ะ ว่าต้องทำไรได้อีก  อ้อ ที่แน่ๆ ต้องตื่นมาโรงเรียนให้ทัน 

แนวทางการเรียน การสอนของที่นี่ จะเป็นแนวเตรียมความพร้อม เชิงบูรณาการ  ไม่ได้เน้นวิชาการมาก ทำให้เด็กไม่เครียดและเตรียมความพร้อมจริงๆ เพื่อการเรียนในระดับประถมศึกษา

Create Date : 04 มิถุนายน 2553
Last Update : 17 มิถุนายน 2553 14:01:27 น.		1 comments
Counter : 944 Pageviews.
Share Tweet