I'm only the badest female.
|
|||
อสูรเจ้าน้ำตา (วิวาห์อสูร #3) โดย กู่หลิง/ลี่ลี่ ชื่อหนังสือ : อสูรเจ้าน้ำต 爱哭小嫁娘 ชุด วิวาห์อสูร [七修罗] อันดับที่ ๓ ผู้เขียน : กู่หลิง[ 古灵 ] ผู้แปล : ลี่ลี่ พิมพ์ครั้งที่ ๑ และ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ โดย สนพ.แจ่มใส มากกว่ารัก ราคาหน้าปก ๑๗๙ บาท จำนวน ๒๖๕ หน้า ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๐๖-๑๕๔๑-๔ รายละเอียด ใครหนอ ไม่รอคอย วิวาห์หวาน ใครเล่า ไม่เฝ้าฝัน วันชู้ชื่น หากแต่ วาสนา ไม่อาจฝืน เพียงชั่วคืน พันผูก อยู่คู่อสูร เจ็ดพญายม กลุ่มจอมยุทธ์ผู้มีชื่อเสียงไม่ธรรมดาเร้นกายจากยุทธภพมาช้านาน ครั้นเมื่อถึงกาลสมควรก็ให้ทายาทของตนออกตามหา บุพเพสันนิวาส สร้างครอบครัว ทว่า ใครกันจะปรารถนาวิวาห์กับคนผู้ไม่คุ้นหน้ายิ่งถ้าพ่วงท้ายด้วยฉายาว่า อสูร คงไม่อาจจะถามหาชีวิตธรรมดาได้อีกกระมัง เพราะสัญญาที่มีมาแต่เก่าก่อนทำให้ เซียงจุ้ยเอ๋อร์ ต้องยอมแต่งงานเมื่ออายุครบสิบหกปีแม้จะหวาดหวั่นจนอยากร่ำไห้น้ำตาท่วมฟ้านองแผ่นดิน เหตุเพราะนางต้องแต่งกับบุรุษแปลกหน้าต้องไปอาศัยอยู่กับครอบครัวที่ไม่คุ้นเคยยังสถานที่ที่แปลกตา พวกเขาจะทนได้หรือ...กับความขี้ขลาดและขี้แยเป็นที่สุดของนาง! หนำซ้ำสกุลฟางที่นางต้องแต่งเข้า ยังเป็นที่เลื่องลือด้านการศึกและโปรดปรานการต่อสู้กันทุกคนไม่เว้นแม้แต่สตรีเช่นนั้นนางมิต้องออกรบแล้วใช้น้ำตาท่วมศัตรูหรืออย่างไร! แต่เพื่อท่านแม่แล้วนางไม่แต่งมิได้เพราะมีหน้าที่ที่ท่านมอบหมายให้นางทำ มิกล้าออกรบแล้วอย่างไรเล่านางยังมีฝีมือด้านอื่นที่พวกคนสกุลฟางขาดแคลนซ้ำผู้เป็นสามียังดีต่อนางยิ่งนักและเขาก็ไม่คิดจะอยากเป็นแม่ทัพนายกองอันใดความขลาดกลัวตื่นตระหนกที่เคยมีนั้นช่างเป็นไปโดยใช่เหตุเสียแล้วกระมัง!
เนื้อเรื่องย่อ(เอง) เซียงจุ้ยเอ๋อร์ ทายาทพญายมโศก แห่งหุบเขาพญายม เมื่ออายุครบสิบหกปีนางจำเป็นจะต้องแต่งให้กับสกุลฟางตามสัญญาหมั้นหมายแต่ครั้งเก่าก่อน แม้จะอยากปฏิเสธใจจะขาด แต่เพื่อท่านแม่ของนางแล้วนางก็ได้แต่ทำตามอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง หากแต่นางก็อดกังวลมิได้ เพราะสกุลฟางที่นางต้องแต่เข้าไม่เพียงพวกเขาเป็นกลุ่มคนแปลกหน้า ณ สถานที่อันนางมิคุ้นเคย แถมคนสกุลฟางทั้งตระกูลยังขึ้นว่าเป็นนักรบอันห้าวหาญ แม้แต่อิสตรีในตระกูลก็ล้วนเคยออกรบด้วยกันทั้งสิ้นแล้วสตรีที่ทั้งขี้ขลาดและขี้แงเช่นนาง จะไม่ทำให้พวกเขารังเกียจเดียจฉันนางได้กระนั้นหรือ แต่แล้วคืนแรกที่นางได้พบเจ้าบ่าวของนาง 'ฟางอิง' รอยยิ้มขี้เล่นและความเป็นกันเองของเขาก็ทำให้นางต้องอดยิ้มตามและหลงลืมคราบน้ำตาบนใบหน้าของตนไปซะได้ เขาช่างเอาใจใส่เอ็นดูปลอบปละโลมสตรีขี้แงเช่นนางอย่างมิแหนงหน่าย ทั้งยังชมเชยความสามารถของนางที่สตรีในสกุลฟางมิอาจหาญกล้าเทียบเคียงกับนางได้ทั้งทำอาหาร ตัดเย็บเสื้อผ้า หรือดูแลเอาใจใส่ผู้คนในตระกูลนางล้วนกระทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จนเป็นที่รักเอ็นดูของพ่อแม่สามีรวมถึงบรรดาพี่น้องชายหญิงของเขาก็ล้วนเอ็นดูนางมิต่างกัน ความมั่นใจเล็กๆ น้อยๆของนางจึงเริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย จากที่เคยคิดถึงบ้านร้องไห้เป็นเผาเต่าประหนึ่งน้ำตาจักท่วมเมือง ความอ่อนโยนของฟางอิงและครอบครัวก็ทำให้นางเป็นสุขยิ่งนักในฐานะสะใภ้ใหญ่แห่งสกุลฟางแห่งนี้ ฟางอิงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นคนหนุ่มห้าวหาญ เก่งกาจในเพลงทวนอันมากด้วยฤทธานุภาพหากแต่เขาก็หาได้ใยดีในตำแหน่งหน้าที่ในกองทัพซักนิดหรือก็ไม่ เขายินดีรบทัพจับศึกเคียงข้างผู้เป็นบิดาแต่จะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆในกองทัพเป็นอันขาด สร้างความอึดอัดกลัดกลุ้มให้แก่คนในตระกูลยิ่งนัก ทั้งยังฟางอิงยังขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรชายคนโต แต่เจ้าตัวคอยแต่จักผลักใสหน้าที่ผู้นำตระกูลให้แก่น้องชาย ฟางรุ่ย อยู่ตลอดเวลา วันๆก็ได้แต่เที่ยวเล่นลอยชายหาได้ใส่ใจต่องานราชสำนักไม่ทุกครั้งที่เอ่ยปากถาม สามีนางก็จักเอ่ยเพียงว่า การจะรับราชการนั้น 'ไม่คุ้มค่า' แม้เพียงซักนิดเดียวเท่านั้น หากแต่แท้ที่จริงภายใต้รอยยิ้มขี้เล่นอารมณ์ดีของเฟิงอิง เขากลับเบื่อหน่ายระบบขุนนางในราชสำนักยิ่งนัก คนดีถูกให้ร้าย คนชั่วได้ชูคอ ดังตัวอย่างบ้านสกุลเซี่ยงของภรรยาที่แม้ทำคุณค่าเพื่อแผ่นดินซักเท่าไร ก็ยังถูให้ร้ายจนต้องโทษประหารยกตระกูลคนเถรตรงเช่นเขาไหนเลยจะรับได้ สู้ออกห่างจากวังวนนี้ไว้จะดีกว่า หากแต่วันหนึ่ง ความคิดของเฟิงอิงก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อผู้เป็นบิดาของเขาถูกคนชั่ววางแผนจนสิ้นชีพท่ามกลางวงล้อมของเหล่าข้าศึก ทั้งๆที่ผู้เป็นบิดารับรู้ว่าล้วนเป็นแผนลวงให้ร้ายแต่ด้วยน้ำใจหาญกล้าของชายชาติทหาร รู้ว่าสิ่งใดควรกระทำ สิ่งใดไม่ควรกระทำในฐานะชายชาตินักรบ บทเรียนสุดท้ายที่บิดาทิ้งให้แก่บุตร จึงเป็นจุดหักเหให้เฟิงอิงคิดทบทวนถึงหน้าที่ในฐานะบุรุษเช่นเขายอมรับสืบทอดตำแหน่งจอมทัพจากผู้เป็นบิดาอย่างองอาจห้าวหาญ ทั้งยังมีศรีภรรยาอย่างเซี่ยวจุ้ยเอ๋อร์คอยอยู่เคียงข้างยามออกรบหักหาญกับเหล่าข้าศึก วิทยายุทธ์ของนางหาได้สามัญไม่ แม้ภายนอกนางจักดูเจ้าน้ำตาอ่อนแอ หากเมื่อลงมือสังหารศตรูก็กระทำได้อย่างหมดจดงดงามสมดั่งเป็นทายาทของจอมทัพใหญ่แห่งสกุลเซี่ยงมิต่างกัน
เมาท์มอยด์กัน(นะ) วิวาห์อสูร อันดับที่ ๓ มาแล้วจ้า "อสูรเจ้าน้ำตา" เป็นเรื่องราวของทายาทของพญายมโศก ซึ่งก็คือ เซียงจุ้ยเอ๋อร์ เจ้าของฉายา อสูรโศก น้องสาวคนเล็กของ อสูรยิ้มกสิกรแห่งยุทธภพ ของเรานั่นเอง ซึ่งก็นั่นแหละจ้า....ตามนั้น...สมชื่อนางเขาล่ะ ความเพี้ยนประจำตัวก็เห็นจะเป็นนิสัย ขี้ขลาด ขี้กลัว เจ้าน้ำตา แค่สะกิดเพียงปลายนิ้วก้อย she ก็จะเป่าปี่น้ำตาร่วงเผาะๆประหนึ่งท่อประปาแตกทันที เซียงจุ้ยเอ๋อร์จึงค่อนข้างเป็นน้องสาวสุดรักสุดหวงของอสูรยิ้มพอสมควร ทั้ง ๆที่ไม่อยากให้นางแต่งออก แต่เพราะสัญญาหมั้นที่บิดพลิ้วไม่ได้จึงจำใจปล่อยน้องสาวขี้แงของตัวเองแต่งออกไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก สกุลเฟิงของพระเอก เฟิงอิง เป็นตระกูลขุนศึกที่ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณของสกุลเซียงของเซียงจุยเอ๋ออร์ ผู้ชายคนนี้เปิดตัวมาได้ดูปัญญาอ่อนหลอกลวงผู้คนพอสมควร ทีแรกเราก็นึกว่าพระเอกแกจะ วอแว เอาแต่ใจ ไร้น้ำยา ที่ไหนได้ .... อ่านมาเรื่อย ๆจะรู้สึกถึงคิดอ่านอันสุขุมจริงจังของชายคนนี้ทีละนิด ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่ง ทำไมถึงทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพาย ลอยชายไปวันๆอย่างไร้ประโยชน์ บอกได้เลยว่า........เฮ้ย! มันลึกซึ้งยิ่งนัก ! สำหรับ pd บอกตรงๆเลยว่าค่อนข้างจะประทับใจในตัว เฟิงอิง พระเอกของเรื่องอยู่พอสมควร เผลอๆชอบมากกว่าตัวเอกเจ้าของเรื่องอย่าง เซียงชุ่ยเอ๋อร์ เสียอีก ทั้งตอนที่ใช้วิธีปลอบใจเจ้าสาวขี้แยแบบน่ารัก ๆพยายามดึงจุดเด่นของนางออกมาให้ผู้อื่นได้ยอมรับในตัวตนของ she ทั้งสร้างความมั่นใจทั้งยังปลอบใจไปด้วยในเวลาเดียวกัน คือมันน่ารัก มันฟินจนอยากจิกหมอนเหมือนกันนะ แล้วบทพี่จะแมน พี่ก็แมนได้อย่างองอาจ ความสัมพันธ์พ่อลูกสกุลเฟิง คำสั่งสอนของบิดาที่มีต่อบุตรชาย โหยมันซึ้ง! ยิ่งตอนท่านแม่ทัพเฟิงจิ้งกำลังตกอยู่กลางวงล้อมข้าศึก เท่ห์สุด ๆ และก็เศร้าสุดๆ เหมือนกัน ตรงนี้จึงทำให้รู้สึกว่าเรื่องนี้มีจุดที่มี "สาระ" เยอะกว่าสองเรื่องก่อนหน้านี้ที่อ่านผ่านตามาอยู่พอสมควร เหมือนจะมาอุดรูกลวงๆ โบ๋ให้เต็มขึ้นได้เยอะขึ้นเลยทีเดียว OK! มันอาจจะไม่ดราม่าหนักหน่วงมากมายนักแต่การที่มีมันอยู่ก็ทำให้เราได้รับรู้อารมณ์หลากหลายของงานชิ้นนี้ได้ดีเช่นกันนะ pd เห็นว่ามันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเลยทีเดียวละคะ เรื่องนี้อาจจะกล่าวถึงนางเอกน้อยหน่อย บอกแล้วว่าเรื่องนี้ประทับใจพระเอกมากๆ แต่ก็มีจุดที่ปิ้งนางเหมือนกันนะ ตอนที่ she ตามไปสังหารมูเซิ่ง แล้วนางด่ามนุษย์ลุงคนนั้นได้สะใจมาก นางด่าว่า "เจ้าไม่ใช่คนแก่ดั่งไม้ใกล้ฝั่ง....เจ้าคือหายนะพันปี!" ว้ากกกกก ชอบมาก ด่าได้สะใจสุด ๆ ขอลอกเลย อารมณ์แบบว่านอกจากจะแก่กะโหลกกะลา ยังแก่อย่างไร้ประโยชน์ อยู่ไปก็รกโลก อยู่ไปก็มีแต่จะสร้างปัญหาและหาดีไม่ได้ ..... ยิ่งมีอายุยืนยาวเท่าไหร่ก็มีแต่จะสร้างหายนะมากขึ้นเท่านั้น! นี่ก็เม็มเอาไว้ในสมองเลยนะกะว่าจะเอาไว้ด่าอิพวกมนุษย์ป้าทั้งหลาย ๕๕๕๕ ชอบๆ
ปอ.ลิง ๒ อสูรเจ้าน้ำตา กับภารกิจที่ ๖ #ปกมีรูปคน นะจ๊ะพี่น้อง Prophet Doll ๒๕ เมษายนพ.ศ.๒๕๕๘
แสดงว่าอินกับพระเอกมากเลยนะคะ อิอิ
โดย: kunaom วันที่: 1 พฤษภาคม 2558 เวลา:0:59:15 น.
@kunaom - อินทั้งพ่อพระเอก ทั้ง พระเอก เลยค่ะ ... แมนมั๊กๆ
โดย: Prophet_Doll วันที่: 4 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:45:45 น.
|
Prophet_Doll
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [?] เป็นชะนีบ้าเลือด ที่มีเรื่องไร้สาระในชีวิตเต็มไปหมด ชอบดูหนัง อ่านหนังสือ แบกเป้เที่ยว ชอบแต่งตัวแต่ไม่ค่อยรักสวยรักงาม ชอบถ่ายภาพทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เพื่อนชอบด่าว่าฉันติส+อินดี้ แต่....นั่นแหละ มันคือตัวฉัน ^ ^ 2018 Reading Challenge
Prophetdoll has
read 15 books toward
her goal of
100 books.
Group Blog
All Blog
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |