และแล้วเวลาแห่งการท่องเที่ยวในทริปนี้ก็จบลงที่บล็อกนี้แล้ว..ค่ะ วัดสุดท้ายที่พวกเราแวะไปเยี่ยมชม คือวัดพระแก้ว ที่ตั้งอยู่ด้านหลังศาลหลักเมือง ไปถึงเห็นผู้คนเดินเข้า-ออก กันให้ขวักไขว่ นึกอยู่ในใจว่า ทำไมคนมากันเยอะอย่างนี้ พอเข้าไปใกล้ถึงได้เห็นว่า ผู้คนที่เดินเข้าเดินออกนั้น เขามาไหว้ สักการบูชาศาลหลักเมืองกัน..ค่ะ จะเข้าไปในศาลกับเขาบ้าง ก็ไม่ไหวเสียแล้ว เพราะควันธูปลอยกระจายอย่างหนาแน่น ปอป้าผู้มีญาติสนิทเป็นคุณป่วน ก็เลยต้องรีบเดินหลบฉากอย่างรวดเร็ว หาไม่แล้ว จะเป็นช่องทางให้คุณป่วนออกมาทักทายได้ อย่ากระนั้นเลย..ตามปอป้าเข้าไปชมโบราณสถานวัดพระแก้วที่ปราศจากควันธูปรบกวนกันดีกว่า..ค่ะ
ศาลหลักเมือง...ซูมมาจากในวัดพระแก้ว
วัดพระแก้ว ตั้งอยู่กลางเมืองกำแพงเพชร เป็นวัดที่สำคัญอยู่ติดกับบริเวณวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ที่จังหวัดอยุธยา หรือวัดมหาธาตุกลางเมืองสุโขทัย กำแพงวัดเป็นศิลาแลงกลมทั้งท่อนสูงประมาณเมตรเศษแผนผังของวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนานไปกับกำแพงเพชร กำแพงวัดขาดเป็นตอน ๆ สิ่งก่อสร้างภายในใช้ศิลาแลงเป็นส่วนใหญ่ ตรงกลางของวัดมีพระเจดีย์กลมแบบลังกาองค์ใหญ่เป็นประธาน ฐานสี่เหลี่ยม ที่ฐานทำเป็นซุ้มคูหาโดยรอบมีสิงห์ยืนอยู่ในคูหาแต่ชำรุดหมด วัดพระแก้วนี้หลังจากขุดแต่งแล้วปรากฏว่า พบฐานเจดีย์แบบต่าง ๆ กัน รวม ๓๕ ฐาน วิหารใหญ่และเล็ก ๘ วิหาร ฐานโบสถ์ ๓ แห่ง ซึ่งแสดงว่าเป็นวัดใหญ่ และสำคัญมากมาก่อน ปัจจุบันงานนบพระเล่นเพลง และงานวันสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชร ก็จัดให้มีขึ้นในบริเวณวัดพระแก้วแห่งนี้ เอกสารตำนานโบราณกล่าวถึงพระแก้วมรกตและพระพุทธสิหิงค์ ได้เคยประดิษฐานที่เมืองกำแพงเพชรซึ่งน่าจะประดิษฐานที่วักพระแก้วแห่งนี้
เป็นอันว่า ทริปตะลุยอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ก็อวสานลงเพียงเท่านี้
แต่ยังมีทริปอื่น ๆ ที่จะนำเสนออีกต่อไป อย่าลืมติดตาม..นะคะ
ขอให้เพื่อนบล๊อกทุกท่าน มีความสุข สนุกสนานกับชีวิตและการงาน ตลอดไป..นะคะ
เพลง ลาวสมเด็จ
คนมีสติ ย่อมได้รับความสุข