เมื่อปอป้าไปชมละครเวที “ กินรีสีรุ้ง “

ตามปกติ ปอป้าดูแต่โขน ไม่เคยดูละครเวที แถมวันนั้นเล่นให้ชมเป็นรอบสุดท้ายเสียด้วย ก็เลยได้กระทบไหล่ดาราและบรรดาเซเล็บ...เพียบ กลับถึงบ้านคุณป่วนคงหมั่นไส้ก็เลยเล่นงานเสียสะบักสบอม โทษฐานไม่เจียมบอดี้ ไปตระเวนกรุงตั้งแต่เช้ายันดึกไม่ว่า แต่บังอาจไปกระทบไหล่ไฮโซ งานนี้ต้อง โส น้า หน้า ตะเอง...(ฮา)

ความจริงเรื่องราวของละครเรื่องนี้เป็น talk of the town มานานแล้ว คลิป วีดีโอ ภาพโฆษณาต่าง ๆ มีให้ดูกันแล้วมากมาย แต่ก็นะ..ตามประสาสอวอ...ปอป้าผู้ที่ล่าช้าตามวัยเสมอ ขอนำเสนอตามคำแซวของคุณอรที่ว่า หากปอป้านำมาอัพบล็อกจะต้องอธิบายกับแฟนคลับว่าเกิดอะไรขึ้นกับบล็อกของปอป้าที่ปกติมีแต่เรื่องธรรมะ อ่ะ..ก็ขอบอกคุณอรไว้ตรงนี้ว่า ไม่ต้องอธิบายหรอก..ค่ะ เพราะปอป้าเป็นคนร่วมสมัย ขนาด tag ยังร่วมสนุกกับเขาได้เลย นับประสาอะไรกับเรื่องละครเวทีแค่นี้เอง...พี่ป๋อกะน้องตุ๊กกี้ (จิ๊บ..จิ๊บ)

เท่าที่ทราบละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง ถึงขนาดต้องมีการเพิ่มรอบการแสดงกันหลายรอบทีเดียว บางคนดูแล้วยังกลับมาดูอีก ไป..ค่ะ ไปทัศนาเรื่องราวของ “ กินรีสีรุ้ง “ กันดีกว่า

La Cage aux Folles ละครเวทีที่ว่าด้วยเพศที่ ๓ ซึ่งครองใจผู้คนตลอดกว่า ๓๐ ปีที่ผ่านมา เคยเป็นละครบรอดเวย์ที่สร้างความฮือฮามาแล้วทั่วโลก ด้วยเนื้อหาเรื่องราวที่สนุกสนานและการแสดงตระการตา จากจุดเริ่มต้นในปี ๑๙๗๓ ของผู้กำกับชาวฝรั่งเศสซึ่งเปิดการแสดงกว่า ๑๘๐๐ รอบ สู่การเป็นละครบรอดเวย์ในปี ๑๙๘๓ ว่าด้วยเจ้าของคลับนางโชว์ กับคู่ขาแต่งหญิงสุดเปรี้ยวที่รักกันอย่างมีความสุข จนวันหนึ่งลูกชายของเจ้าของคลับพาพ่อแม่หัวโบราณของคู่หมั้นสาวมาพบ นั่นจึงเป็นบททดสอบความรักและการยอมรับในตัวตนของเขาทั้งคู่ ความสำเร็จของละครเวทีเรื่องนี้การันตีได้จากรางวัล Tony Award (เปรียบได้กับรางวัลออสการ์ สำหรับละครเวที) ถึง ๖ รางวัล ได้แก่ Best Musical, Best Book, Best Original Score, Best Costume Design, Best Direction และ Best Actor in a Musical ทั้งยังเคยถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในชื่อ The Birdcage นำแสดงโดย
โรบิน วิลเลียมส์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากมายเช่นกัน

La Cage aux Folles หรือ “ กินรีสีรุ้ง “ ของคุณบอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ มีสโลแกนว่า สัมผัสพวกเราสิ แล้วคุณจะหลงรักเรา!! เป็นเรื่องราวของ จอร์จ (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) เจ้าของผับนางโชว์ชื่อดังในจังหวัดภูเก็ต กับคู่ใจสุดแจ่มอย่าง อิซซี่ (เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) นางโชว์ดาวเด่นประจำผับ สุดวี๊ดวีนแต่จิตใจดีงาม ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันด้วยดีมานานปี จนกระทั่ง ต้น (เอ-นรินทร์ ภูวนเจริญ) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของจอร์จ กำลังจะแต่งงานกับแอน (สุชารัตน์ มานะยิ่ง) ลูกสาวนักการเมืองหัวอนุรักษ์นิยม ที่แสนจะชิงชังบรรดาเพศที่สาม ถึงขนาดจะนำเรื่องผับ-บาร์ของบรรดาเพศที่สามเข้า ค.ร.ม. กำจัดให้หมดไปจากสังคมเลยทีเดียว เมื่อต้นมาบอกจอร์จผู้เป็นพ่อให้จัดเตรียมตกแต่งบ้านใหม่เพื่อต้อนรับครอบครัวของแอนคนรัก โดยให้พาแม่อิซซี่รวมทั้งข้าวของสมบัติของเธอออกไปจากบ้านชั่วคราว เพราะเกรงว่าพ่อแม่ของแฟนสาวเห็นแล้วจะรังเกียจ นอกจากนี้ยังบอกให้จอร์จผู้เป็นพ่อติดต่อให้แม่แท้ ๆ ของเขามาแสดงบทบาทพ่อแม่ลูก ครอบครัวที่แสนจะอบอุ่นด้วย ทั้ง ๆ ที่ตั้งแต่เขาเกิดมาแม่แท้ ๆ ของเขาไม่เคยดูดำดูดีเขาแม้แต่น้อย ทิ้งเขาไว้กับพ่อและแม่อิซซี่ ทำให้จอร์จรู้สึกเสียใจกับความคิดของลูกเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความรักลูกจึงได้บอกเรื่องราวให้อิซซี่รู้ แรก ๆ อิซซี่เสียใจมาก แต่ด้วยความรักที่มีต่อต้นซึ่งเป็นเสมือนลูกของเธอเช่นกัน อิซซี่จึงยอมทำตามทุกอย่าง ด้วยความสงสารและเห็นใจจากจอร์จ เขาจึงสร้างตัวละครขึ้นมาในครอบครัว โดยให้อิซซี่พยายามทำแอ๊บแมนเป็นลุงของต้น เมื่อถึงเวลาที่ครอบครัวของแอนมาถึง แม่แท้ ๆ ของต้นส่งข่าวปฏิเสธว่าไม่สามารถมาพบได้ ทำให้อิซซี่ยิ่งรู้สึกเศร้าและเสียใจแทนต้นมาก แต่อิซซี่ก็ยังทำหน้าที่ต้อนรับครอบครัวของแอนเป็นอย่างดี ท่ามกลางความอึดอัดใจของทุกคนในครอบครัวจอร์จ ในที่สุดความลับก็ถูกเปิดเผยท่ามกลางความเสียใจของอิซซี่อีกครั้งหนึ่งที่ทำให้ต้นลูกรักผิดหวัง แต่เหตุการณ์กลับเป็นว่า ต้นยอมรับอย่างสง่าว่าเขามีพ่อเป็นเกย์ มีแม่เป็นกระเทย ยังความซาบซึ้งใจให้กับจอร์จและ
แม่อิซซี่เป็นอย่างยิ่ง และเมื่อแอนยืนยันว่าจะอยู่กับครอบครัวของต้น จอร์จและอิซซี่จึงวางแผนทำให้ท่านรัฐมนตรีพ่อของแอนยอมรับปากว่าจะให้แอนและต้นแต่งงานกันโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น

ต้องขอกล่าวชมการแสดงของคุณเจมส์ คุณกบ ตลอดจนผู้แสดงประกอบทั้งหลายที่ตั้งใจแสดงเป็นอย่างมาก แต่ละคนเล่นด้วยความเป็นศิลปิน เรียกว่า born to be the stars จริง ๆ นับได้ว่าเป็นละครเวทีที่ให้ความบันเทิงพร้อมทั้งสอดแทรกความรักในครอบครัว ความรักของเพื่อนที่มีต่อกัน การอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคี ตลอดจนการมีชีวิตอยู่บนความเป็นจริงที่หลายคนตั้งข้อรังเกียจเพศที่สาม จำได้ว่าคุณบอย ถูกหลาย ๆ คนต่อต้านกล่าวหาว่าสร้างละครเพื่อส่งเสริมเกย์ แต่ถ้าหากคุณได้มีโอกาสไปชมละครเรื่องนี้ คุณจะเข้าใจว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น หลาย ๆ ฉากแสดงให้คนดูได้ซึ้งถึงกับน้ำตาไหล ความรักของแม่ที่เป็นกระเทย แต่เลี้ยงดูลูกของคู่ขาตัวเองมาตั้งแต่เกิด เป็นความรักที่บริสุทธิ์ ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน แม้วันหนึ่งลูกเลี้ยงจะตอบแทนความรักของเธออย่างเห็นแก่ตัว แต่เธอก็มิได้โกรธตอบ กลับทำในสิ่งที่หลาย ๆ คนนึกไม่ถึง เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกที่เธอเลี้ยงมามีความสุข แม้ว่าสิ่งนั้นจะทำร้ายจิตใจตัวเองอย่างแสนสาหัส คุณกบ ทรงสิทธิ์ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "อย่าไปมองว่าเป็นละครเกย์ เพราะแก่นจริง ๆ ของเรื่องคือ ความรัก ความเข้าอกเข้าใจของคนในครอบครัว และคุณยังจะได้ดูโชว์คาบาเร่ต์อีกด้วย "

ดูฉากที่คุณเจมส์ซึ่งแสดงเป็นอิซซี่ นางโชว์ตัวแม่ พยายามแอ๊บแมนเพื่อลูกรัก ทั้งตลกทั้งน่าเห็นใจ คุณเจมส์แสดงได้สมบทบาทจนผู้ชมต้องพากันเอาใจช่วย “ กินรีสีรุ้ง “ ละครเวทีสีจัดจ้านพร้อมความบันเทิงรสแซ่บด้วยเรื่องราวสุดฮา เคล้าความซาบซึ้งในรักของพ่อแม่ลูก ผสานไปกับงานโชว์สุดอลังการ ฉาก เสื้อผ้าสุดหวือหวา และท่าเต้นสุดมหัศจรรย์ของเหล่ากินรีที่ปอป้าและผู้ชมคนอื่น ๆ ต่างก็ประทับใจ ที่กล้าพูดอย่างนี้ เพราะเมื่อจบการแสดง ผู้ชมทั้งโรงละครต่างลุกขึ้นปรบมือแล้วปรบมือเล่าแสดงออกถึงความประทับใจที่พวกเขาได้รับ เล่นเอาเหล่านักแสดงบางคนถึงกับน้ำตาไหลไปเลย ปอป้าไม่อยากจะคุยว่าได้ที่นั่งชั้นพิเศษ..ชิดติดขอบเวที..ค่ะ ก็เลยได้ยินแม้กระทั่งเสียงหอบหายใจด้วยความเหนื่อยของเหล่านักแสดงบนเวที (น้องนก..ทำดีมาก..อิ อิ)

ก็ไม่คิดเหมือนกัน..นะคะ ว่าคุณเจมส์ เจ้าของเพลงโดนใจ “ ตัดเลยตัดให้ขาด ชั๊บ ชั๊บ ชั๊บ “ นอกจากเป็นมนุษย์ประหลาดเครื่องบินตกไม่ตายแถมยังชูสองนิ้วยิ้มหรา เธอยังสามารถทำอะไร ๆ ได้อีกตั้งหลายอย่าง
ร้องเพลงก็เก่ง เล่นหนังเล่นละครก็ได้ ขายข้าวมันไก่ก็เอา เปิดโรงเรียนสอนร้องเพลง แล้วนี่..ดู ดู๋ ล่าสุด
เป็นกระเทยก็ได้ เออ..เอากะพ่อดิ....เจมส์ นายแน่มาก

ความจริงอยากนำเพลงในละครมาประกอบบล็อกด้วย..นะคะ แต่จนปัญญาเพราะไม่สามารถหาโหลดได้ ก็เลยนำเพลงเก่าสุดฮิตของคุณเจมส์ มาให้ฟังแทนละกัน และก็เป็นอันว่า ปอป้ากับกินรีสีรุ้ง จบลงแต่เพียงเท่านี้ ขอมอบความสุข ความสนุกสนานที่ได้รับมาทั้งหมดให้กับเพื่อนบล็อกทุกท่าน โชคดี มีความสุขในทุกวันดี ๆ ตลอดไป...นะคะ

ขอบคุณ ภาพประกอบเรื่อง
จาก Rachadalai Magazine and Google




เพลง ชั๊บ ชั๊บ ชั๊บ