| | |
|
เนื่องจากมีเพื่อนหลายคนถามว่า ถ้าต้องการโหวตให้ปอป้าจะโหวตสาขาไหน คำตอบก็คือ ขอเป็นสาขาบล๊อกธรรมะ...นะคะ ขอบพระคุณมาก..ค่ะ
| |
| | |
ธรรมะ กับ อาสนะของหลวงตา
หายหน้าหายตาไปจากบล๊อกหลายวัน เนื่องจากโดนแก๊งกลิ่นสีข้างบ้านผนึกกำลังกับคุณป่วน ร่วมมือกันทำร้ายร่างกายเสียจนสบักสบอม หน้าตาที่ปกติอวบอิ่มอยู่แล้ว เข้าสู่สภาวะบวมอลึ่งฉึ่ง ลูกตาทั้งสองข้างปิดเกือบสนิท ความสวยที่หายากอยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งหาไม่พบเข้าไปใหญ่ ทั่นลุงบอกว่า ความสามารถพิเศษของ
ปอป้า คือ ยังไม่ตายก็ขึ้นอืดได้...(ฮา)
สังขารจะเป็นอย่างไร แต่ปอป้าก็หาได้กังวลไม่ ยังคงปฏิบัติภารกิจเท่าที่จะสามารถทำได้ต่อไป จะให้มานอนร้องโอดโอย เห็นทีจะยาก..นะจ๊ะ คุณป่วน..จ๋า วันนี้นำเรื่องอาสนะของหลวงตามาอัพให้อ่านให้ชมกัน ตามคำเรียกร้องของลูกเตอร์และผองเพื่อนทั้งหลาย ว่าแล้วก็ขอเกริ่นเหมือนลิเกออกโรงสักหน่อย ฮัลเล้ วังกา ตามปอป้ามาเร้วววว...(ฮิ้ว)
ปอป้ามีโปรแกรมจะเดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน วันที่ ๕-๑๕ เมษาฯ นี้ ก็เลยแอบไปซุ่มถักอาสนะ เพื่อเตรียมไปถวายหลวงตาอินคำ ที่วัดไชยสถาน เชียงใหม่..ค่ะ
พูดถึงหลวงตาอินคำ ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่แหวน สุจินโณ หลวงตาเป็นพระที่มีจริยวัตรงดงามมาก และมีเมตตาสูง ได้รู้จักหลวงตาครั้งแรกจากการนำพาของหลานชายสุดหล่อ เจอกันครั้งแรกก็ไม่ได้สนทนาธรรมอะไร แต่จากการแอบสังเกตทั้งภายในและภายนอกตัวท่าน สายตาของท่านที่มองทุกคน สัมผัสได้ถึงความเมตตา อบอุ่นใจ ประกอบกับคำพูดและสำเนียงคำเมืองที่น่ารักของท่านด้วย ปอป้าก็เลยศรัทธาหลวงตาตั้งแต่นั้นมา
เมื่อตั้งใจว่าจะไปกราบเยี่ยมหลวงตา ก็อยากนำสิ่งของติดมือไปฝากหลวงตาด้วย คิดไปคิดมาก็เลยไปลงที่การถักอาสนะหนึ่งเดียวในโลกให้ท่าน ทั้ง ๆ ที่งานการฝีมือกับปอป้านั้น ไม่ค่อยจะถูกโฉลกกันสักเท่าไร ถักไปก็คิดถึงป้าแอ๊ดไปด้วย เพราะป้าแอ๊ดน่ะ มีความสามารถในงานการฝีมือระดับปรมาจารย์ทีเดยว ปอป้ายกตำแหน่งกุลสตรีแห่งชาติให้เลย..ค่ะ
ต้นแบบงานถัก และอุปกรณ์การถักของปอป้า
ทุกครั้งที่จับงานอาสนะขึ้นมาถัก ด้วยฝีมืออันโหลยโถ้ยของตัวเอง ทำให้มองเห็นธรรมข้อหนึ่ง นั่นคือเรื่องสังขาร เพราะดู ๆ ไป อาสนะผืนนี้ก็เปรียบคล้ายกับกายสังขารของเราอยู่เหมือนกัน ที่ว่าเหมือนนั้น เป็นอย่างนี้..ค่ะ
อาสนะ...ผู้รู้หรือนักออกแบบลวดลาย ได้ออกแบบและกำหนดทิศทางในการถักมาให้แล้ว หากมีความสามารถ ทำได้อย่างที่เขากำหนดไว้ ผลงานออกมาก็จะสวยงาม ประณีต ไม่มีที่ติ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของชิ้นงาน
สังขาร...ถ้าเป็นคนที่มีร่างกายสมบูรณ์ จะสวยงามเพียงใด นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าโดยสามัญทั่วไปแล้ว คนที่เกิดมามีอวัยวะครบ ๓๒ ประการ สมบูรณ์ทั้งอวัยวะภายนอกและอวัยวะภายใน นับได้ว่าคนคนนั้นสวยสมบูรณ์ ไร้ข้อบกพร่องในการมีรูปลักษณ์เป็นมนุษย์แล้ว
อาสนะ...พอมีมนุษย์คนหนึ่งที่ชื่อปอป้าพรหมญาณี นำลวดลายที่เขาออกแบบไว้อย่างสวยงาม มาถักโดยขาดทักษะ หรือความชำนาญในงานฝีมือ ลวดลายสวย ๆ นั้นก็เลยมีความขี้เหร่ผสมอยู่ด้วย งานถักมี ๒ ด้าน คือด้านหน้าและด้านหลัง โชคดีที่งานถักที่แลดูพอจะสวยงามนั้นเป็นชิ้นงานด้านหน้า ส่วนชิ้นงานด้านหลังออกจะขี้เหร่ไปมากโข
ด้านหน้าของงานถัก...เปรียบได้กับสังขารหรือรูปลักษณ์ภายนอก ที่ดูสวยงาม น่าใช้สอย เหมือนคนคนหนึ่งที่เกิดมามีอวัยวะภายนอกครบ ๓๒ ประการ มองดูแล้วมั่นคงแข็งแรงดี
ด้านหลังของงานถัก...ผลงานที่ถักออกมา มีลวดลายผิดเพี้ยนไปจากที่เขากำหนดไว้ คือผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงนั่นเอง เปรียบได้กับอวัยวะภายใน หรือเป็นส่วนประกอบของสังขารภายนอกที่ผิดปกติไปจากคนทั่วไป ถ้าพูดถึงตัวเอง ก็ต้องว่า เป็นเพราะมีโรคร้ายแอบซ่อนเร้นอยู่ภายในสังขารของตนนั่นเอง โรคร้ายที่พร้อมจะปรากฏตัว ออกมาอาละวาดให้เราเกิดทุกขเวทนาได้ตลอดเวลา โอ้..คุณป่วนที่น่ารัก
เมื่อนำชิ้นงานทั้งด้านหน้าและด้านหลังมาประกอบเข้าด้วยกัน ก็จะได้อาสนะที่มองดูแล้ว..อืมมม..สวยพอทนได้ (ต้องอดทนมองให้มันสวย..อิ อิ)
พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าให้คนที่ไม่มีความรู้ ไม่มีทักษะในการถักโครเชต์มาดูงานชิ้นนี้ ก็คงจะได้รับคำชมว่า สวยดี ในทางกลับกัน ถ้าให้ผู้มีความรู้ มีทักษะในงานฝีมือมาดูงานชิ้นนี้ (อย่างป้าแอ๊ด เป็นต้น) ท่านก็คงจะร้องว่า ไอ้หยา นี่มันลายอะไร ถึงได้อัปลักษณ์ พิสดารปานนี้..(ฮา)
แต่ถึงอย่างไร อาสนะนี้ก็ใช้งานได้ (ถ้าไม่ติดเรื่องความสวยงาม ประณีต) เปรียบเหมือนสังขารของเรา ที่ยังสามารถดำรงอยู่ได้ แม้มันจะไม่สมบูร์เหมือนคนปกติทั่วไปก็ตาม
เรื่องของอาสนะ...โชคดีที่เราพอมีหัวคิดปรับปรุงแก้ไขงานถักที่ผิดพลาดได้บ้าง ทำให้งานไม่สูญเปล่า คือต้องโยนทิ้งไปทั้งหมด จะพูดว่าทู่ซี้ทำให้เป็นอาสนะจนได้ก็ไม่ผิด ถึงแม้จะไม่สวยงาม ๑๐๐% แต่ก็สามารถนำไปใช้งานได้ (ถ้าไม่มองรูปลักษณ์เป็นสรณะ)
เฉกเช่นเดียวกับชีวิตของเรา ที่โชคดีได้พบ ได้เรียน ได้เข้าใจ ในพระพุทธศาสนา จนเกิดเป็นกำลังสติปัญญาเพียงพอที่จะทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข...ใช่แล้ว...มีความสุขบนกองทุกข์แห่งสังขารที่บิดเบี้ยวไม่สมบูรณ์ของตัวนั่นเอง
การแก้ไขงานถักที่ผิดพลาด ต้องใช้เวลา สติปัญญา คิดหาทางแก้ไขไม่ให้งานเสียหมดทั้งชิ้น ไม่ต่างอะไรกับการดำเนินชีวิตของเรา เมื่อเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใด ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสติ พกปัญญา ให้เวลาในการแก้ไข
ทุกปัญหาในชีวิตของเรา มีไว้ให้แก้ไข ไม่ได้มีไว้ให้สะสม เพราะเมื่อใดที่คิดจะสะสมปัญหา บอกได้เลยว่า ดอกเบี้ยที่เกิดจากการสะสมนั้น มันมากมายสาหัสเหลือเกิน สำหรับบางคน บางทีมันก็มากเกินกว่าจะรับได้ เราจึงมักจะได้ยิน ได้เห็นข่าวคนพ่ายชีวิต ที่ต้องจบชีวิตอย่างอนาจอยู่บ่อย ๆ
อาสนะที่ถักเสร็จแล้ว...ฝีมืออันโหลยโถ้ยของปอป้า
มองเห็นริ้วรอยของความขี้เหร่เป็นระยะ ๆ ...อิ อิ
เรื่องอาสนะของหลวงตา จบลงที่ปอป้าสามารถถักอาสนะผืนแรกในชีวิตได้สำเร็จ รู้สึกมีความสุขที่ได้ถักอาสนะถวายพระสงฆ์ มีความสุขที่แก้ไขงานฝีมือของตัวเอง จนสำเร็จออกมาเป็นอาสนะอย่างที่ใจต้องการ แม้จะไม่สวยงามดั่งใจฝัน แต่ก็ตั้งใจถักด้วยน้ำมือและหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยกตัญญุตาต่อหลวงตา พระสงฆ์แก่ ๆ ที่มีวัตรงดงาม สมควรแก่การสักการะเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องชีวิตของปอป้า ยังไม่จบ มันยังคงดำเนินต่อไปตามกรรม ตามวาระของมัน เพราะเราเกิดมาแต่กรรม อยู่ด้วยกรรม และวันหนึ่งก็จะจากโลกนี้ไปด้วยกรรม ไม่มีสิ่งใดหลีกหนีกฎแห่งกรรมได้ เมื่อใดที่พบอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ก็ใช้พระธรรมเป็นเครื่องนำทาง ช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ลุล่วง ผ่านพ้นไปด้วยดี มีความสุขที่ได้เกิดมาเป็น มนุษย์ แม้จะไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่น ๆ ก็ตาม
บทสรุปจากเรื่องอาสนะของหลวงตา ก็คือ...
๑. ปัญหาทุกอย่าง สามารถแก้ไขได้ ขอเพียงดำรงสติให้มั่น ปัญญาก็จะเกิดตามมา แล้วจึงค่อย ๆ คิดหาทางแก้ไข ช้าหรือเร็ว ปัญหาย่อมผ่านไปได้ในที่สุด
๒. งานใดก็ตาม ถึงแม้เราจะไม่มีทักษะมาก่อน แต่เราก็สามารถเรียนรู้และฝึกฝนให้เกิดความรู้ ความชำนาญได้ อยู่ที่ว่าเราจะยอมอดทน และให้โอกาสตัวเองหรือไม่
ฝากไว้สักนิดว่า... ความสุขในชีวิต หาได้ไม่ยาก หากเรามีความเข้าใจในสัจธรรม และพระสัทธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ไม่ว่าจะดำรงอยู่ในสถานะใด สภาวะใดก็ตาม ทุกข์มิอาจกล้ำกรายเราได้ เพราะเราคือ ลูกหลานของพระตถาคต..ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน...
...เพราะไม่รู้ ไม่เข้าใจ ชีวิตจึงทุกข์...
ขอให้ทุกท่านมีความสุข สนุกสนาน ในเทศกาลวันปีใหม่ไทยนี้ และตลอดไป..นะคะ
พบกันใหม่ หลังเทศกาลสงกรานต์...ค่ะ
เพลง ภาษาใจ
กาลเวลาย่อมกินสรรพสัตว์กับทั้งตัวมันเอง
มีความสุขกับทุกเวลาอันมีค่า ตลอดไป..นะคะ